เมื่อออกมาจากสถานีตำรวจแล้ว ฉินหลางเห็นเฉาซุ่นปินกับเฉินกวงหยีถูกนำตัวขึ้นรถตำรวจ ปกติแล้วทั้งคู่นั่งรถตำรวจแทบจะทุกวันอยู่แล้ว แต่วันนี้กลับต่างจากทุกวัน เพราะวันนี้ทั้งคู่นั่งรถตำรวจที่มีลูกกรง เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งคู่หลบหนี
และเฉาหงเหมยที่เดิมทีหยิ่งผยองมากนั้น เวลานี้กำลังโทรศัพท์กับใครบางคนด้วยท่าทีร้อนรนกระวนกระวาย
เริ่มมีเม็ดฝนร่วงลงมาจากท้องฟ้า
ตอนแรกเฉินจิ้นหยงตั้งใจว่าจะขับรถไปส่งฉินหลางที่โรงเรียน แต่เมื่อเห็นฉินหลางกับรั่วปินวิ่งคู่กันท่ามกลางสายฝน เฉินจิ้นหยงจึงเลิกล้มความตั้งใจนี้ เนื่องจากเขาอำนวยความสะดวกให้ผู้นำอยู่เป็ประจำ ทำให้เขามีความประณีตและละเอียดอ่อนทางความรู้สึกมาก เขารู้ดีว่าเวลาแบบนี้ฉินหลางคงไม่อยากนั่งรถแน่ๆ
“เ้าเฉิน นายว่าฉินหลางเป็อะไรกับนายกเทศมนตรีหวูกัน? ท่านหวูจะปกป้องเขามากเกินไปรึเปล่า” จ้าวจื้อเหว่ยถามโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะต่อให้เป็ญาติกันจริงๆ ก็ยังไม่เห็นหวูเหวินเซี่ยงจะดีกับใครมากขนาดนี้
เฉินจิ้นหยงส่ายหน้า “ท่านผบ. จ้าวครับ เอ๊ยไม่สิ ท่านเลขาธิการจ้าวครับ ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันครับ ท่านไปถามท่านหวูเองจะดีกว่า”
“ฮึ...เ้าเฉิน นายนี่เก็บความลับดีจริงๆ เลยนะ” เฉินจื้อเหว่ยหัวเราะร่า ก่อนจะมุดเข้าไปในรถยนต์
เมื่อฉินหลางกับรั่วปินจะวิ่งกลับไปถึงโรงเรียน ฝนก็ค่อยๆ ตกหนักมากขึ้นแล้ว
ตอนทั้งคู่วิ่งเข้าไปในอาคารเรียน ทั้งคู่ต่างก็สะบัดน้ำฝนที่ติดอยู่บนผมของตนเอง จากนั้นสายตาของทั้งคู่บังเอิญประสานกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ทั้งคู่หัวเราะออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะว่าในเสี้ยววินาทีนั้น เหมือนความทรงจำในวัยเด็กของทั้งคู่นั้นได้ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง
ขณะนั้นจู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น!
ฉินหลางเห็นเบอร์ที่โทรเข้านั้นเป็ของเถารั่วเซียง เขาก็รีบรับสายทันที “ครับอาจารย์เถา คุณวางใจได้ ผมไม่ได้เป็อะไร... อืม ตำรวจพวกนี้ไม่ใช่คนเลว ท่าทีก็ดีใช้ได้เลย สอบถามเื่ราวความเป็มาเสร็จเขาก็ให้ผมกลับมาแล้ว...”
“ฉินหลาง อาจารย์เถาเป็ ‘น้าสาว’ นายจริงๆ เหรอ?” หลังจากฉินหลางวางสายแล้ว รั่วปินก็ถามขึ้นทีเล่นทีจริง
“อืม” ฉินหลางทำได้เพียงพยักหน้าแกล้งโกหกหน้าตาย ถ้าหากรั่วปินรู้ว่าเขาแอบชอบอาจารย์ คาดว่าภาพลักษณ์ที่ดีของฉินหลางในใจรั่วปิน คงได้มลายหายไปในทันทีแน่
เปรี้ยง!
บนท้องฟ้ามีเสียงฟ้าร้องดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง
ฉินหลางขนลุกซู่อีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ พูดในใจ จริงอย่างที่เขาว่าโกหกมากๆ ระวังจะโดนฟ้าฝ่าจริงๆ ด้วย
แต่ถ้าเขาไม่โกหก คาดว่าคงต้องอนาถมากกว่าโดนฟ้าผ่าแน่ๆ เลย
ฉินหลางมองว่า การย้ายโรงเรียนของตัวเองครั้งนี้ ยังนำดวงชะตาของตัวเองให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะด้านความรัก แต่คิดไม่ถึงว่าดวงเื่ความรักยามไม่มาก็ไม่มีมาเลย ยามมีก็มีมาเป็คู่ มาพร้อมกันถึงสองคน แบบนี้ทำให้ฉินหลางรู้สึกหนักใจไม่น้อยเลย
คนหนึ่งก็พี่สาวสุดสวยที่ทำให้รู้สึกรักแรกพบ อีกคนก็สนิทั้แ่ยังเด็ก กลับมาพบกันอีกครั้งก็กลายเป็สาวสวยแล้ว แล้วแบบนี้ฉินหลางจะเลือกใครแค่คนเดียวได้อย่างไร?
หลังจากกลับห้องเรียนแล้ว ฉินหลางก็รู้สึกหัวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทว่ารั่วปินได้กลับไปนั่งที่เดิมของเธอแล้ว เพราะถึงยังไงเธอก็ยังตั้งใจเรียน และเน้นการเรียนเป็สำคัญอยู่ และไม่ได้เรียนไปด้วยเล่นไปด้วยแบบฉินหลาง
แต่ก้อนหินหนึ่งก้อนสามารถทำให้เกิดคลื่นได้เป็ร้อยเป็พัน ความจริงที่รั่วปินเห็นฉินหลางเป็คนพิเศษ ก็มากเกินพอที่จะเป็หัวข้อสนทนาของใครหลายๆ คนในวันนี้แล้ว
หลังจากที่จ้าวเหว่ยกลับมานั่งข้างฉินหลางแล้ว ก็เริ่มเม้าท์มอยเื่นี้ขึ้นทันที เขาถามฉินหลางว่า “นี่ นายกับรั่วปินเป็อะไรกันแน่?”
“เป็อะไรกัน? ก็เป็เพื่อนร่วมห้องกันไง” ฉินหลางทำตาขวางใส่จ้าวเหว่ย
“เป็ไปไม่ได้!” จ้าวเหว่ยสบถ “รั่วปินเป็คนที่มีอีโก้ในตัวเองสูงมาก เป็ไปไม่ได้ที่เธอจะมาเป็เพื่อนกับนักเรียนที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่อย่างนายโดยไม่มีสาเหตุได้ยังไง? นายดูในห้อง 11 ของเรา คนเหล่านี้เรียนอยู่ห้องเดียวกับเธอมา 3 ปี เธอยังไม่เคยเห็นใครเป็เพื่อนที่แท้จริงเลย”
“เว่อร์เกินไปรึเปล่า?” ฉินหลางประชด ในสายตาฉินหลาง รั่วปินเป็คนที่อัธยาศัยดี และเข้ากับคนง่ายมาก
“ไม่เว่อร์เลยสักนิด!” จ้าวเหว่ยสบถ “ นายยังจำหนังสือรวบรวมข้อมูลสาวงามที่ฉันเคยเตรียมจะตีพิมพ์ได้มั้ย? รั่วปินเป็หนึ่งในสาวสวยที่ฮอตที่สุดในนั้น ต่อให้ปกติแล้วเธอจะทำตัวติดดินมาก แต่ความสวยของเธอเป็ระดับดาวโรงเรียนของชีจงแน่นอน จากการคาดการณ์ของฉัน นอกจากเจียงเสี่ยวฉิงแล้ว แทบจะไม่มีใครสามารถประชันความสวยกับเธอได้แล้ว—”
“เดี๋ยวนะ—นายบอกว่าเจียงเสี่ยวฉิงเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ เจียงเสี่ยวฉิง สาวสวยห้อง 5 เธอเป็ระดับดาวโรงเรียนชีจง ชำนาญการเต้นมาก โดยเฉพาะการเรียนพื้นถิ่นของชนเผ่าต่างๆ เพราะเธอเองก็เป็ลูกครึ่งชนเผ่าน้อยกับคนจีน... นี่ นายอย่าบอกนะว่านายรู้จักเจียงเสี่ยวฉิงนะ” พูดถึงเื่สาวสวยทีไร จ้าวเหว่ยพูดได้มีหลักมีการสุดๆ
“คือ...ฉันรู้จักกับเธอจริงๆ” ฉินหลางหัวเราะเจื่อนๆ เจียงเสี่ยวฉิง ก็คือคนเดียวกับนักเรียนหญิงที่เกือบจะตกเป็เหยื่อที่ร้านชวนชวนน้ำปั่น ถ้าไม่ใช่เพราะฉินหลาง ป่านนี้คงจะตกเป็เหยื่อของคนพวกนั้นไปแล้ว
สำหรับฉินหลาง เื่นี้เป็เื่ที่ได้บุญกุศลมาก ดังนั้นในเื่จัดการอันเต๋อเซิ่ง ถึงแม้จะโดนตาเฒ่าพิษหลอกใช้ เขาเองก็ยังคงเต็มใจอยู่ดี เพราะจัดการอันเต๋อเซิ่ง ทำให้อิทธิพลมืดเมืองเซี่ยหยางสกปรกน้อยลง ซึ่งถือว่าเป็เื่ดีเื่หนึ่ง
“โม้เข้าไปเถอะ!” จ้าวเหว่ยไม่เชื่อหรอกว่าในเวลาสั้นๆ แค่นี้ฉินหลางจะรู้จักสาวสวยระดับดาวโรงเรียนอย่างเจียงเสี่ยวฉิงอีก ต่อให้เจียงเสี่ยวฉิงไม่ได้เย็นเยือกเหมือนรั่วปินจนผู้คนไม่กล้าเข้าหา แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะคุยกับคนอื่นมั่วซั่วสักหน่อย อีกอย่างจ้าวเหว่ยได้ยินมาว่า เจียงเสี่ยวฉิงเตรียมจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในสาขาดนตรี ระยะนี้เธอเตรียมตัวสอบอย่างเดียว ไม่ค่อยมีเวลาให้เพื่อนด้วยซ้ำ
“เฮ้อ ทำไมสมัยนี้พูดความจริงถึงไม่มีคนเชื่อนะ” ฉินหลางถอนหายใจยาวๆ
“ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อ แต่ละเมอเพ้อพกกลางวันอย่างนี้ เป็ใครก็ไม่เชื่อ—”
พูดถึงตรงนี้ จู่ๆ จ้าวเหว่ยก็ปิดปากลง ราวกับฝันเป็จริงยังไงยังงั้น เพราะพูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา ตอนนี้ข้างๆ จ้าวเหว่ยมีสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่ และสาวสวยคนนี้ก็คือเจียงเสี่ยวฉิงนั่นเอง ในมือของเธอตอนนี้ ยังมีผ้าขนหนูสีขาวราวหิมะอยู่ด้วย เธอยื่นให้ฉินหลางด้วยท่าทีเขินอาย “เมื่อกี้ฉันเห็นนายตากฝน ฉันมีผ้าขนหนูที่เตรียมไว้ซับเหงื่อตอนซ้อมเต้น นายเอาไปเช็ดน้ำฝนก่อนเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบาย—เอ๊ย นายไม่ต้องห่วงนะ ฉันยังไม่เคยใช้!”
“ฉันไปก่อนนะ” เจียงเสี่ยวฉิงทนเห็นสายตาลามกของจ้าวเหว่ยไม่ได้จริงๆ จึงรีบหนีไปก่อน
ฉินหลางมองผ้าขนหนูสีขาวราวหิมะในมือตัวเอง ยังมีกลิ่นหอมจางๆ ของใครบางคนอยู่ แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงรู้สึกเหมือนผ้าขนหนูที่เบาหวิวในมือตัวเองเหมือนจะหนักเป็พันชั่ง เพราะเขารู้สึกได้ถึงความกดดันจากอะไรบางอย่างที่กดทับอยู่บนผ้าขนหนูผืนนี้ แรงกดดันที่หนักอึ้งนี้มาจากรั่วปินที่นั่งอยู่แถวหน้านั่นเอง แม้เธอจะไม่ได้หันกลับมามองก็ตาม
จ้าวเหว่ยขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีก เหมือนว่าเขาจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าผ้าขนหนูในมือฉินหลางมีอยู่จริง จ้าวเหว่ยจึงพูดประชดประชันว่า “เ้าหนู นายสารภาพมาซะดีๆ นายมีเวทมนตร์หรือคาถาอะไรกันแน่ ทำไมคนสวยต่างก็พากันเข้าหานาย? เรียก ‘เด็กขี้มูกโป่ง’ แค่คำเดียว ก็ล่อลวงดาวโรงเรียนไปได้คนหนึ่งแล้ว ตากฝนอีกหนึ่งครั้ง ก็มีดาวโรงเรียนอีกคนมาส่งผ้าขนหนูให้ ทำไมฉันถึงไม่เจอเื่ดีๆ แบบนี้บ้างล่ะ!”
“เพราะว่านายหล่อไม่เท่าฉัน” ฉินหลางพูดด้วยท่าทีจริงจัง
“อย่าโกหก หนุ่มหล่อในชีจงมีตั้งเยอะตั้งแยะ ก็ยังไม่เห็นพวกเธอจะดีกับใครเลย” จ้าวเหว่ยกล่าว พร้อมกับฉกเอาผ้าขนหนูในมือของฉินหลาง ก่อนจะเอามันขึ้นมาดม “หอมจริงๆ เลย! อีกอย่าง ฉันดูหน่อยว่าบนนี้มีปักดอกไม้ หรือเป็ดแมนดารินรึเปล่า ถ้ามีนั่นก็แสดงว่าเธอชอบนาย!”
“เบาๆ หน่อย!” ฉินหลางกล่าวเตือนจ้าวเหว่ย เขารู้สึกได้ว่าไอเย็นที่แผ่ออกมาจากตัวรั่วปินเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
“เปรี้ยง!”
ในเวลานี้เอง บนท้องฟ้านอกห้องเรียนก็สว่างวาบ พร้อมกับเกิดเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นอีกครั้ง!
เหมือนว่า์กำลังใช้วิธีนี้ในการเตือนสติฉินหลาง บุญคุณของสาวสวยรับยากที่สุด โดยเฉพาะบุญคุณจากสาวสวยถึงสามคน!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้