“คืนนี้เ้าพักที่จวนตระกูลหลิวดีไหม? บ้านไม้ที่อยู่บนเขาเสียหายหมดแล้ว ปล่อยให้เ้านอนข้างถนนคงไม่ดี”
เมื่อได้ยินหลิวหรูเยียนเอ่ยประโยคนี้ เจียงเฮ่อกลอกตาไปมา อยากนำคำพูดเมื่อครู่มาเคี้ยวเสียให้สิ้น
และประโยคต่อไปก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะฆ่าคน แม้เจียงเฮ่อจะไม่รู้ว่าพวกเขากำลังกล่าวถึงสิ่งใด แต่เขาก็สามารถบอกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหยวนจุนกับหลิวหรูเยียนนั้นไม่ธรรมดา
ที่น่าโมโหที่สุดคือ ไม่ว่าหลิวหรูเยียนจะใช้ท่าทีแบบใดสนทนากับหยวนจุน เขามักจะตอบกลับอย่างเ็าเสมอ ไม่ต้องบ้างล่ะ ไม่จำเป็บ้างล่ะ
อย่างที่รู้ หลิวหรูเยียนเป็ผู้ที่เจียงเฮ่อชื่นชมมานาน เป็สตรีที่เขาเฝ้าใฝ่หา เพื่อจะได้คู่ควรกับหลิวหรูเยียน หรือกล่าวอีกนัยคือได้รับการยอมรับจากหลิวหรูเยียน เขาอุตส่าห์ยอมเก็บตัวหนึ่งปีเพื่อเข้าสู่วงแหวนใหญ่ขั้นห้า
แม้ตอนนี้เขาจะตามหลิวหรูเยียนทันแล้ว แต่กลับมีใครหน้าไหนก็มิรู้มากวนใจอีก!
“เ้าหน้าขาวนี่ก็น่าสนใจอยู่นะ! แต่โลกนี้มีดีแค่เพียงหน้าตามิได้ ผู้ใดหมัดใหญ่กว่าถึงมีสิทธิ์พูดมากกว่าเท่านั้น! ไอ้เด็กบ้านนอกนั่น แม้แต่กระแสปราณสักนิดยังไม่มี แล้วมีหน้ามาเทียบขั้นกับข้า อยู่ข้างหรูเยียนได้อย่างไร?”
เจียงเฮ่อพยายามควบคุมสองมือที่สั่นเทา ในใจเต็มไปด้วยคำเหยียดหยามและความคิดชั่วร้าย เขาหันไปทางหยวนจุนที่นั่งเอนกายอยู่บนเก้าอี้ไม้ แล้วส่งเสียงแหบแห้งที่เต็มไปด้วยการดูถูกออกมา
แค่เขาไม่พบการเคลื่อนไหวของพลังปราณดาราบนตัวหยวนจุน ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า หยวนจุนเป็แค่ไอ้หน้าขาวไม่มีอะไรดีสักอย่าง!
“ปัง”
บรรยากาศที่คึกคักในโรงประมูลเริ่มเงียบลง ผู้คนจับจ้องไปที่แท่นประมูลอย่างอดรนทนไม่ไหว
ผู้ดำเนินการประมูลเป็ชายชราอายุมากกว่าห้าสิบ กล่าวเสียงดังฟังชัด เห็นแล้วคล้ายกับผู้าุโทั้งสามของสำนักิเจี้ยน
รายการของสิบสามชิ้นที่เสนอในการประมูลครั้งนี้ ส่วนใหญ่ไม่ดึงดูดความสนใจของหยวนจุน กระทั่งนักยุทธ์พลังแข็งแกร่งถือกล่องไม้ยาวประมาณสองเมตรออกมา ทำให้เขารู้สึกสนใจอยู่ไม่น้อย
ซึ่งจุดประสงค์ที่หลิวหรูเยียนมางานประมูลในครั้งนี้ อาจเป็เพราะสิ่งนี้ด้วย
กล่องไม้ยาวสองเมตรนี้ ต้องใช้ปราณดาราระดับนักยุทธ์วงแหวนใหญ่ขั้นห้ายกจึงจะขยับ ซึ่งทำให้ผู้คนถึงกับตกตะลึง
ทุกคนโน้มตัวไปข้างหน้า พยายามมองอย่างตั้งใจ อยากรู้ว่าของที่อยู่ในกล่องไม้นั้นคือสิ่งใด
แม้หยวนจุนจะรู้ว่าของในกล่องไม้เป็กระบี่เล่มหนึ่ง แต่้าที่เขานั่งอยู่นั้นกลับไม่รู้สึกถึงปราณกระบี่เลย หากกล่าวตามตรง กระบี่เล่มนี้อาจมีพลังไม่ถึงอาวุธระดับิญญาขั้นต่ำสุดด้วยซ้ำ
ยกเว้นเื่น้ำหนักแล้วก็ไม่มีอะไรดีสักอย่าง
ขณะที่หยวนจุนกำลังเบนสายตา จู่ๆ นิ้วก็เกิดอาการสั่น เืในร่างกายรู้สึกราวกับถูกของบางอย่างที่อยู่ข้างในกล่องไม้ส่งเสียงกังวานดึงดูดอยู่
“โหยวหลง!?”
หยวนจุนตัวสั่นเล็กน้อย หากไม่ใช่เพราะกำลังควบคุมความรู้สึก ตอนนี้เขาคงลงไปทุบกล่องไม้นั้นเพื่อหาคำตอบแล้ว
ด้านหลิวหรูเยียนก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เมื่อนางเหลือบไปเห็นท่าทางแปลกๆ ของหยวนจุนจึงกล่าวว่า “ทำไม เ้าเคยเห็นของที่อยู่ในกล่องไม้นี้หรือ?”
หยวนจุนส่ายหัว เหงื่อเย็นเยียบไหลลงหน้าผากของเขา
ตอนนี้เขายังไม่แน่ใจว่าของในกล่องไม้นั้นเป็กระบี่โหยวหลงจริงหรือไม่ ลางสังหรณ์เขาอาจผิดก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากเป็กระบี่โหยวหลงจริงๆ เขาจะให้หลิวหรูเยียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกระบี่โหยวหลงไม่ได้!
“หึหึ คนที่ไม่เคยััพลังพลังยุทธ์ จะเคยเห็นของที่อยู่ในกล่องไม้นั่นได้อย่างไร? ข้าว่าคงใเพราะของมีน้ำหนักมากกว่า”
เจียงเฮ่อมองหยวนจุนด้วยสายตาเหยียดหยาม เมื่อกล่าวจบเขาก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก แม้หยวนจุนกับหลิวหรูเยียนจะมิได้สนใจเขา แต่ก็ทำให้เขาได้ระบายอารมณ์อยู่ดี
หลังจากโรงประมูลสงบเงียบไปได้ครู่หนึ่ง ชายชราจึงนำของประมูลชิ้นพิเศษออกมาแล้วกล่าวเสียงเรียบว่า “วันนี้สิ่งสุดท้ายที่นำมาประมูล คือ กระบี่ั์มหัศจรรย์เล่มหนึ่ง!”
“แม้กระบี่ยาวเล่มนี้จะมีพลังไม่ถึงอาวุธระดับิญญา แต่วัสดุของมันแข็งแรงมาก อาวุธระดับิญญาทั่วไปอาจทำอะไรมันไม่ได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญการประเมินราคายังไม่สามารถบอกได้ว่ากระบี่เล่มนี้ใช้วัสดุใดในการกลั่น”
“แน่นอน กระบี่เล่มนี้ยังมีข้อเสียไม่น้อย หนึ่ง ตัวกระบี่ไม่รู้ว่าทำมาจากสิ่งใด สอง ลายเส้นที่เห็นไม่ค่อยชัดเจน และสาม กระบี่หนักประมาณสามพันชั่ง[1]!”
เมื่อชายชรากล่าวจบ ผู้คนด้านล่างแสดงความคิดเห็นกันอย่างอื้ออึง ซึ่งหัวข้อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ น้ำหนักกระบี่ที่มีมากถึงสามพันชั่ง
กล่องไม้นี้มีความยาวเพียงสองเมตร ดังนั้นความยาวของกระบี่คงไม่น่าจะเกินนี้ อย่างที่รู้ แม้ทำด้วยวัตถุแร่ผลึกที่มีชื่อเสียงในมหาภพหลิงเทียน น้ำหนักก็ยังไม่มากถึงเพียงนี้!
ในเมื่อโรงประมูลเปิดเผยข้อบกพร่องของกระบี่เล่มนี้ แน่นอนว่าคงไม่อยากให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กระบี่ เขาจึงนำเื่วัตถุของตัวกระบี่มาเบี่ยงเบนความสนใจ
กล่าวโดยสรุปคือ วัตถุที่ใช้กลั่นกระบี่เล่มนี้มีความพิเศษ ดังนั้นการได้กระบี่เล่มนี้ไป แม้จะไม่ได้พลังยุทธ์ที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังได้รับวัตถุแร่ผลึกปริศนา!
ผู้ดำเนินการประมูลส่งสัญญาณให้นักยุทธ์ของโรงประมูลเปิดกล่องไม้ และยกฐานของกล่องไม้ขึ้น เพื่อให้ผู้คนเห็นกระบี่ยาวที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน “กระบี่เล่มนี้ ยาวประมาณหกฉื่อ[2] ความกว้างห้าชุ่น[3] ตัวกระบี่สีขาวหยก เส้นลายัสีม่วงทองพันอยู่รอบกระบี่ กลางกระบี่เลือนราง แต่ยังพอเห็นอักษรสองตัวที่แกะสลักคำว่าโหยวหลง!”
“หวี่”
ทันทีที่ชายชราเอื้อมมือไปัักระบี่สีขาวหยก เสียงหึ่งก็ดังออกมาทันที แต่หากตั้งใจฟังดีๆ จะได้ยินเหมือนเสียงักำลังคร่ำครวญ
“ในเมื่อกระบี่เล่มนี้ไม่มีชื่อเรียกที่แน่นอน เช่นนั้นจะเรียกว่าโหยวหลง ชั่วคราว! เนื่องจากโรงประมูลไม่สามารถระบุวัตถุที่ใช้ในการหลอมกระบี่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีราคาขั้นต่ำสำหรับการประมูลกระบี่โหยวหลง!”
เมื่อชายชรากล่าวออกไป มีคนเสนอราคาสูงถึงเก้าแสนเหรียญทอง ซึ่งเก้าแสนเหรียญทองนี้สามารถเลี้ยงดูครอบครัวเล็กๆ ในเมืองเทียนอวิ่นได้หนึ่งปีเลย!
ระยะเวลาผ่านไป กระบี่โหยวหลงมีราคาอยู่ที่สามล้าน
หยวนจุนมองไปที่กระบี่โหยวหลงด้วยแววตาเศร้าสร้อย ราวกับเขาได้เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แต่กลับต้องกลายเป็คนแปลกหน้า
ครั้งหนึ่งกระบี่โหยวหลงเคยเป็กระบี่เคียงคู่อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของเขา อาวุธอื่นที่อยู่ข้างมันไม่สามารถเทียบได้ นึกไม่ถึงว่าจะถูกทำลายจนมีสภาพเช่นนี้
จากอาวุธระดับมหาปราชญ์ขั้นแปดกลายเป็อาวุธที่ธรรมดาที่สุด ไม่เหลือศักดิ์ศรีของมันเลย!
“นึกไม่ถึงว่าข้าจะอยู่ในสถานที่แบบนี้ แล้วพบเ้าด้วยวิธีเช่นนี้”
หยวนจุนกำมือแน่น เหตุการณ์หนึ่งแวบเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว เป็่สุดท้ายก่อนที่เขาจะเกิดใหม่ ัขาวตัวหนึ่งบินออกมาจากกระบี่เพื่อปกป้องเขาในชาติก่อน มันส่งเสียงคำราม ก่อนจะถูกคุยจีกับหลี่จั้นอ๋าวร่วมมือกันแยกออกเป็เสี่ยงๆ
เมื่อแผ่นกระดาษปริศนาในตัวเขาปรากฏขึ้น กระบี่โหยวหลงก็หายไปพร้อมกับเขา ไม่มีแม้แต่ร่องรอย
และการที่กระดาษปริศนานำเขาเข้าสู่สำนักิเจี้ยนจนมาถึงเมืองเทียนอวิ่น เกรงว่าจะไม่ใช่เื่บังเอิญ
[1] 1 ชั่ง (จีน) เท่ากับ ครึ่งกิโลกรัม หรือ 500 กรัม
[2] หน่วยวัดของจีน 1 ฉื่อ เท่ากับ 22.7 - 23.1 เิเ
[3] หน่วยวัดของจีน 1 ชุ่น ประมาณ 3.33 เิเ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้