ตอนที่ 3:หยาดน้ำตาของน้องชาย
เสียงหัวเราะอันแหลมสูงของแม่บ้านจ้าวค่อยๆ จางหายไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบอันหนักอึ้งที่กดทับบ้านตระกูลหลิน สวี่เหมยส่งเสียง "ชิ!" อย่างหัวเสีย ก่อนจะกระทืบเท้าปึงปังกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง หลินเยว่ถอนหายใจยาว ทำทีเป็ผิดหวัง ก่อนจะเดินตามแม่ของตนไปอย่างเงียบเชียบ ประตูบานหนึ่งถูกปิดลงอย่างกระแทกกระทั้น
ส่วนหลินเจี้ยนกั๋ว เขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมตรงลานบ้าน สายตาจับจ้องไปที่กะหล่ำปลีเน่าๆ หัวนั้น สิ่งที่ถูกโยนมาให้ราวกับเศษทานสำหรับสุกร ความอัปยศฉายชัดบนใบหน้าที่โรยราของเขา แต่เพียงครู่เดียว เขาก็เตะกะหล่ำปลีหัวนั้นให้กลิ้งไปมุมหนึ่งอย่างแรง ก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง คว้าจอบและเสียม มุ่งหน้าออกไปทุ่งนา หนีจากความจริงอันน่าอับอายในบ้านไม่มีใครสนใจหลินเวยอีก
เธอยังคงยืนพิงผนังดินอยู่ในห้องเล็กๆ ที่มืดสลัวตามลำพังความโกรธแค้นจากการถูกเหยียบย่ำเมื่อครู่ยังคงลุกโชน แต่บัดนี้ สิ่งที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรงยิ่งกว่าคือความเป็จริงทางกายภาพ
ความหิวมันไม่ใช่ความหิวแบบ "อยากกินของอร่อย" ของคนในยุคศตวรรษที่ 21 แต่มันคือความหิวโหยแบบที่กระเพาะอาหารถูกบีบรัดจนปวดแสบ ของเหลวในท้องกำลังกัดกร่อนผนังกระเพาะ เสียงท้องร้องดังโครกครากจนน่าสมเพช พลังงานจากข้าวต้มเหลวๆ เมื่อเช้าได้มอดดับไปนานแล้ว
ความหนาวแม้จะเป็่ที่อากาศยังไม่เข้าหน้าหนาวเต็มตัว แต่บ้านดินที่ไร้การป้องกันก็เก็บความเย็นชื้นจากพื้นดินไว้เต็มเปี่ยม ลมเย็นๆ ลอดผ่านช่องประตูที่ปิดไม่สนิทเข้ามาปะทะผิวกายที่บอบบาง เสื้อผ้าฝ้ายเก่าๆ ที่เธอสวมอยู่แทบไม่ให้ความอบอุ่นใดๆ
และความอ่อนแอ ร่างกายนี้อ่อนแอเกินไป แค่ยืนพิงผนัง ขาของเธอก็สั่นเทาราวกับจะพับลงได้ทุกเมื่อหลินเวยกำหมัดแน่น เล็บที่ยาวเล็กน้อยจิกลงไปในฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บ ความเ็ปช่วยกระตุ้นให้สติของเธอแจ่มชัดขึ้น
จะยอมแพ้แบบนี้ไม่ได้!เธอตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ได้โอกาสมีชีวิตใหม่ในโลกที่คุ้นเคยจากในนิยาย แม้ว่าจุดเริ่มต้นนี้จะเลวร้ายจนแทบติดลบ แต่เธอก็ยัง "มีชีวิต"
โรงงานทอผ้า? ไปเป็ทาสให้พวกเขากดขี่ขูดรีด แลกกับเงินเดือนน้อยนิดที่สวี่เหมยจะฮุบไปทั้งหมด? ทำงานหนักจนร่างกายนี้พังทลาย และหมดสิ้นอนาคตในการสอบเกาเข่า?
ไม่มีทาง!
เธอจะต้องสอบเกาเข่า! เธอจะต้องออกไปจากสถานที่เน่าเฟะนี่!แต่ก่อนอื่น เธอต้องรอดจากความหิวและความหนาวในวันนี้ให้ได้ก่อน"แค่ก แค่ก" ความคิดที่ดุดันสวนทางกับร่างกายที่อ่อนแอ เธองอตัวลงไออีกครั้ง รู้สึกขมไปทั่วทั้งคอในขณะที่เธอกำลังจมดิ่งอยู่ในความสิ้นหวังและพยายามหาทางออก
เสียงสวบสาบเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าประตูหลินเวยหูผึ่งขึ้นทันที แววตาแข็งกร้าวขึ้น ใครมา? สวี่เหมยจะกลับมาหาเื่อีกงั้นเหรอ? เงาเล็กๆ ตะคุ่มๆ ปรากฏขึ้นที่ขอบประตู ร่างนั้นผอมบางยิ่งกว่าเธอเสียอีก เงาเล็กๆ นั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ชะโงกซ้ายขวาอย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าในห้องมีเพียงหลินเวย ร่างนั้นก็มุดเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
เป็เด็กผู้ชายอายุราว 10 ขวบ ผิวคล้ำจากแดด แต่ใบหน้ากลับซีดเซียวเพราะขาดสารอาหาร ผมเผ้ารกรุงรัง สวมเสื้อผ้าเก่าๆ ที่มีรอยปะชุนเต็มไปหมด
นี่คือ "หลินตง" น้องชายแท้ๆ ของ "หลินเวย" คนเดิม เด็กน้อยที่เป็สิ่งมีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในบ้านหลังนี้ที่ห่วงใยเธอจริงๆ"พี่" เสียงของหลินตงเบาหวิว เขาเดินย่องเท้าเข้ามาใกล้เตียงฟาง ดวงตาคู่โตที่ดูไม่สมส่วนกับใบหน้าที่ผอมตอบนั้นแดงก่ำ จ้องมองพี่สาวด้วยความหวาดกลัวและเป็ห่วง
"มีอะไรรึเปล่า?" หลินเวยพยายามเค้นเสียงให้ดูปกติที่สุด แต่เสียงที่ออกมาก็ยังแหบแห้งจนน่ากลัวหลินตงไม่ตอบ เขาก้มหน้าลง มือเล็กๆ ที่เปื้อนดินของเขาล้วงเข้าไปในอกเสื้อที่หลวมโพรกอย่างระมัดระวังและหยิบเอา "มันเทศย่าง" หัวหนึ่งออกมา
มันเป็เพียงมันเทศหัวเล็กๆ ที่ถูกย่างจนไหม้เกรียมไปครึ่งหัว เปลือกด้านนอกดำเป็ถ่าน แต่กลิ่นหอมหวานจางๆ ของเนื้อมันที่สุกแล้วก็ยังลอยมาแตะจมูกของหลินเวย กระตุ้นความหิวโหยในท้องให้บ้าคลั่งยิ่งขึ้น นี่คืออาหารมื้อเย็นของเขา เขากินไปครึ่งหนึ่ง และแอบซ่อนอีกครึ่งหนึ่งไว้ เด็กน้อยยื่นมันเทศหัวนั้นมาตรงหน้าหลินเวยด้วยมือที่สั่นเทา
"พี่ กินซะ" เขาพยายามกลั้นเสียงสะอื้น "ผม ผมได้ยินที่แม่จ้าวพูด แม่จะให้พี่ไปทำงานโรงงาน"
น้ำเสียงของหลินตงสั่นเครือยิ่งขึ้น "ผมไปได้ยินพวกน้าจางเขาคุยกัน โรงงานทอผ้านั่นน่ะ มันไม่ใช่ที่ที่ดีเลย พวกเขาใช้งานคนเหมือนวัวเหมือนควาย เมื่อเดือนก่อนคนงานคนหนึ่งแขนของเขาเข้าไปติดในเครื่องจักร กว่าจะชาวยออกมาได้เห็นบอกว่าต้องตัดแขนเลยนะ"เด็กน้อยเงยหน้าขึ้น น้ำตาเม็ดโตไหลอาบแก้มที่ซูบตอบ
"พี่ อย่าไปนะถ้าพี่ไปก็เหมือนกับถูกขายให้เป็คนของพวกเขา แล้วผมก็จะไม่เหลือใครแล้ว"
คำว่า "ถูกขาย" จากปากเด็ก 10 ขวบ ช่างหนักหน่วงและเสียดแทงหัวใจหลินเวยจ้องมองมันเทศย่างที่ไหม้เกรียมในมือเล็กๆ นั้น น้ำลายสอขึ้นมาในปากอย่างห้ามไม่อยู่
เมื่อครู่ แม่บ้านจ้าวโยนกะหล่ำปลีเน่าๆ มาให้พวกเขาเหมือนโยนให้หมู นั่นคือการเหยียดหยามที่มาในรูปของ "ความเมตตา"แต่ตอนนี้ น้องชายของเธอ เด็กที่ผอมแห้งไม่ต่างจากเธอ กำลังยื่นอาหารที่มีค่าที่สุดของเขามาให้ นี่คือการเสียสละที่แท้จริง มันคือความอบอุ่นเพียงหนึ่งเดียวในนรกขุมนี้
หลินเวยที่มาจากศตวรรษที่ 21 ผู้ซึ่งจิตใจแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า ผู้ซึ่งสาบานว่าจะไม่เสียน้ำตาให้กับความอัปยศใดๆ กลับรู้สึกถึงบางอย่างที่ร้อนผ่าวในดวงตาเธอยื่นมือที่สั่นเทาไม่ต่างกันออกไป ไม่ได้เพื่อรับมันเทศ แต่เพื่อลูบหัวที่เต็มไปด้วยฝุ่นของน้องชาย
"หลินตง"
วินาทีที่ปลายนิ้วของเธอััได้ถึงความอบอุ่นจากร่างของเด็กน้อยน้ำตาหยดหนึ่ง ที่ไม่ได้มาจากความเ็ปหรือความอัปยศ แต่มาจากความตื้นตันที่แท้จริง ก็ไหลรินลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
น้ำตาหยดนั้นร่วงหล่นจากหางตาและในวินาทีนั้นเอง!
[ติ๊ง!]
เสียงสังเคราะห์ที่เ็าและไร้ความรู้สึก ราวกับเสียงนาฬิกาดิจิทัล ก็ดังขึ้นในหัวของเธออย่างชัดเจน!
หลินเวยสะดุ้งเฮือก เธอมองซ้ายขวาอย่างตื่นตระหนก "หลินตง! ได้ยินเสียงอะไรมั้ย?"
หลินตงมองเธออย่างงุนงง น้ำตายังคลอเบ้า "เสียงอะไรเหรอพี่? ผม ผมไม่ได้ยิน"ไม่ได้ยินงั้นเหรอ? หลินเวยตัวแข็งทื่อ เพราะเสียงนั้นมันไม่ได้มาจากข้างนอก มันดังอยู่ "ข้างใน" หัวของเธอ!และแล้ว ภาพที่เธอคุ้นเคยเป็อย่างดีในนิยายทะลุมิติ ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า!มันคือหน้าจอโฮโลแกรมโปร่งแสงสีฟ้าอ่อนๆ ที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่เห็น
[ตรวจพบเจตจำนงในการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมที่รุนแรง] [ตรวจพบปัจจัยกระตุ้นทางอารมณ์: ความรักจากสายเื] [ระบบคลังความรู้ กำลังเชื่อมต่อ] [เชื่อมต่อสำเร็จ!]
[โฮสต์: หลินเวย] [สถานะ: อ่อนแออย่างยิ่ง (้าสารอาหารและพลังงานเร่งด่วน!) ] [ความแข็งแกร่งทางจิติญญา: 8/100 (ต่ำ) ] [ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 3/100 (ใกล้ตาย) ]
[ภารกิจเริ่มต้น (เงื่อนไขพิเศษ) : อ่านตำราเรียนมัธยมปลาย 1 บท (0/1) ] [รางวัล: 1 แต้ม (สำหรับอัปเกรดสถานะ) ] [บทลงโทษหากล้มเหลว: ไม่มี (ภารกิจเริ่มต้น) ]
หัวใจของหลินเวยเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก!นี่มัน นี่มัน ระบบ! "นิ้วทองคำ" (Golden Finger) ในตำนาน!ความตื่นเต้นพุ่งพล่านจนอะดรีนาลีนหลั่งออกมา ทำให้เธอมีเรี่ยวแรงขึ้นมาชั่วขณะระบบคลังความรู้! มันมาเพื่อช่วยเธอสอบเกาเข่าจริงๆ ด้วย!
"พี่ พี่เป็อะไรรึเปล่า? ทำไมหน้าซีด" หลินตงถามอย่างเป็ห่วงเมื่อเห็นพี่สาวนิ่งไปหลินเวยหันขวับกลับมา มองไปที่มันเทศในมือของน้องชาย
[สถานะ: อ่อนแออย่างยิ่ง (้าสารอาหารเร่งด่วน!) ]
เธอ้าพลังงาน ไม่ใช่แค่เพื่อมีชีวิตรอด แต่เพื่อ "อ่านหนังสือ"!เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความรู้สึกตื่นเต้นทั้งหมดเอาไว้ แล้วยิ้มออกมา เป็รอยยิ้มที่แท้จริงครั้งแรกนับั้แ่เธอมาถึงโลกนี้เธอดึงมือของหลินตงเข้ามา รับมันเทศย่างหัวนั้นมาไว้ในมือ
"ขอบคุณนะ อาตง พี่จะกิน"
เธอไม่ลังเลอีกต่อไป กัดมันเทศที่ยังอุ่นๆ นั้นเข้าไปคำใหญ่!
เปลือกที่ไหม้เกรียมมีความขมเล็กน้อย แต่เนื้อในที่หวานฉ่ำและนุ่มลิ้น กลับเป็สิ่งที่อร่อยที่สุดเท่าที่เธอเคยกินมาในชาติภพนี้!พลังงาน แม้จะน้อยนิด ก็เริ่มไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายที่โรยแรงหลินเวยมองน้องชายของเธอ แววตาที่เคยเย็นเยียบ บัดนี้กลับฉายแววความมุ่งมั่นที่ลุกโชนยิ่งกว่าไฟใดๆ
"อาตง ฟังพี่นะ" เธอกลืนมันเทศคำนั้นลงท้อง "พี่ จะไม่ไปโรงงานทอผ้า"
"พี่ จะสอบเกาเข่า!"
