“อืม” คนขับรถหมดหนทาง ได้แต่ขับรถจากไปคาดว่านักข่าวพวกนั้นตาไวมือไว ต้องเกิดเื่ใหญ่อะไรขึ้นแน่
หลังหนีออกจากกลุ่มที่ห้อมล้อม ความหงุดหงิดในใจฟู่ซีก็ลดลงมาเล็กน้อยความรู้สึกโกรธกลับเพิ่มมากขึ้น ด่าออกไปคำหนึ่ง มารดาเขาเถอะ เอ่ยถามผู้ช่วย “หลี่เค่อล่ะ? ”
“พี่หลี่ไปจัดการเื่นี้แล้วครับ” ผู้ช่วยตอบเสียงเบาด้วยความกลัวและใจเต้นรัว
“จัดการ? จัดการยังไง? จัดการแล้วจะมีประโยชน์อะไร” ฟู่ซีตวาดโยนเสื้อนอกใส่ตัวผู้ช่วย ฟาดโดนตาของเธอ แต่ก็ไม่ได้หันมาสนใจแม้แต่แวบเดียวล้วงมือถือออกมาแล้วโทรหาหวังโหย่วเฉียน
อีกฟากรับสายก็แทบไม่เรียกคุณอาด้วยซ้ำ เอ่ยปากสอบถามโดยตรง “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หลี่จาก็รับเงินไปแล้วกระทู้ยอดฮิตก็ลบไปแล้ว เวยป๋อ [1] เขาก็ลบไปแล้ว ทำไมถึงเกิดเื่พวกนี้ขึ้นมาได้อีก? ไอ้หลี่จานี่มันอยากตายใช่ไหม? แล้วพวกคุณมัวทำห่าอะไรกันอยู่?”
“ฟู่ซี หลานอย่าพึ่งใจร้อนอาเองก็ยังแปลกใจว่าเกิดเื่พวกนี้ขึ้นได้อย่างไร อาเห็น่กลางวันยังดี ๆอยู่เลย อายังตั้งใจจะซื้อกระทู้ยอดฮิตคลิปวิดีโอตอนที่หลานร้องเพลงสมัยเด็กลบล้างให้หลานสะอาด ทั้ง ๆ ที่ทิศทางของกระแสวิพากษ์วิจารณ์มันเทมาทางนี้แล้วชัด ๆถามหลี่จา เขาก็บอกว่าครั้งหน้าจะตอบคอมเมนต์ตรงกันข้ามในช่องโต้ตอบของเวยป๋อให้ใครจะรู้ว่าเขามาไม้นี้ เล่นเอาฉันก็ตั้งตัวไม่ทันอยู่พอสมควร” หวังโหย่วเฉียนปัดความผิดออกจากตัวก่อน จากนั้นเอ่ยรับประกัน “แต่หลานวางใจได้ อาจะไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมาทำเื่ที่ส่งผลเสียกับหลานอีกกระทู้ยอดฮิตของเวยป๋ออาโทรหาคนให้จัดการแล้ว หลี่จาฉันก็ไล่เขาออกทันทีให้เขาอยู่ในวงการไม่ได้อีกต่อไป”
ให้เขาอยู่ในวงการไม่ได้ก็พอแล้วงั้นเหรอ? หาคนไปจัดการมันให้อ่วมตีจนพิการถึงให้หยุด คนที่กล้าเป็ปฏิปักษ์กับฟู่ซีจะยอมให้มันมีชีวิตสมบูรณ์ต่อไปไม่ได้เด็ดขาด” ฟู่ซีพูดคำนี้อย่างโเี้แล้ววางสายโทรศัพท์
หวังโหย่วเฉียนจ้องหน้าจอโทรศัพท์แล้วกระแทกลงพื้นอย่างแรง “เป็แค่ตัวอะไรกล้ามาพูดแบบนี้กับฉันหากไม่ใช่เพราะเห็นว่าเป็หลายชายของฉัน คงปล่อยแกให้ตายไปนานแล้ว” พอพูดระบายความโกรธจนหมด นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วพูดกับเลขาฯ ที่ยืนนิ่ง ๆ อยู่อีกด้าน “เรียกหลี่จาเข้ามา”
“อืม คุณอย่าอารมณ์เสียไปเลย เดี๋ยวส่งผลเสียกับร่างกายจะไม่ดีเปล่า ๆ “ เลขาฯ ปลอบเขาแล้วไปหาหลี่จา
ตอนที่หลี่จาเข้ามาเห็นท่าทางหวังโหย่วเฉียนโกรธ แต่ก็ยังทำท่าหยิ่งผยอง มีตระกูลกู้ให้ท้ายเขาก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
หวังโหย่วเฉียนเห็นท่าทีเขาเช่นนั้นยิ่งทวีความโกรธแต่ก็ขี้คร้านจะพูดไร้สาระกับเขาหยิบเงินออกมาจากลิ้นชักแล้วฟาดไปด้านหน้าหลี่เจีย “นี่เป็เงินเดือนเดือนนี้ของนายรีบเก็บไว้แล้วไสหัวออกไป”
“ไสหัวไป? เ้านายคุณพูดแบบนี้ไม่กลัวมีเื่กับตระกูลกู้หรือไง? เื่พวกนี้กู้หลานอันเป็คนสั่งให้ผมทำอีกอย่างเขาบอกว่าเขาจะปกป้องผมเอง” หลี่จาไม่ปรายตามองเงินพวกนั้นแม้แต่นิดเดียวเอ่ยอย่างดูแคลน
“กู้หลานอันบอกว่าจะปกป้องนาย? หลี่จาฉันจะว่านายโง่เขลาหรือจะด่านายว่าไร้เดียงสาดี” หวังโหย่วเฉียนพูดราวกับว่าได้ยินเื่ตลกขำขัน “ก่อนหน้านี้รู้สึกว่านายเป็คนที่ฉลาดเฉลียวเวลาทำอะไรทำไมตอนนี้กลับโง่เช่นนี้ กู้หลานอันบอกว่าจะปกป้อง เขาก็จะปกป้องนายอย่างงั้นเหรอ? ไม่สิ เขาปกป้องนายจริงแต่ว่าเขากลับบอกกับฉันว่าจะปกป้องนายจนถึงแค่ตอนที่กระทู้ยอดฮิตสองเื่นั้นของเขาถูกจัดการ”
“อะไรนะ? ” หลี่จาใจนอึ้งไปส่ายหัวพูดอย่างไม่เชื่อ “ไม่มีทาง ทำไมถึงเป็แบบนั้นเื่หลังจากนั้นเขาก็เป็คนทำเอง แล้วเขาจะปล่อยมือไม่สนใจได้อย่างไรเป็ไปได้อย่างไร? ”
“แล้วทำไมจะเป็ไปไม่ได้? เดิมทีนายก็เป็แค่หมากตัวเดียวของเขาอยู่แล้วเขาจะใช้หรือจะเขี่ยทิ้งก็แค่พูดคำเดียว” หวังโหย่วเฉียนหัวเราะเ็ามองหลี่จาด้วยสายตาเหมือนมองขยะแล้วเอ่ย “รีบเอาเงินแล้วไสหัวออกไปได้แล้ว อย่าอยู่ให้รกหูรกตาฉัน มีเื่อะไรก็ไปถามกู้หลานอันโน่น”
“ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อ” หลี่จาตวาดใส่หวังโหย่วเฉียนแล้วเดินออกไปทางประตูตัวโซเซ ล้วงมือถือออกมาโทรหากู้หลานอัน
เมื่อเห็นหลี่จาออกไปแล้ว หวังโหย่วเฉียนโบกมือเรียกเลขาฯเห็นเลขาเข้ามาใกล้แล้วสั่งกำชับ “โทรหาหัวหน้ารปภ.ข้างล่าง ให้เขาหาคนมาจัดการหักท่อนขาหลี่จาซะ”
“ค่ะ”
ไม่นานนักกู้หลานอันก็รับสายโทรศัพท์ หลี่จาสูดลมหายใจลึกแล้วเอ่ย “คุณชายกู้ ผมถูกหวังโหย่วเฉียนไล่ออกเพราะว่าเื่ที่ช่วยคุณคุณรับปากว่าจะปกป้องผม ผมหวังว่าคุณจะพูดกับเขาให้ผมหน่อย แล้วฝากฝังผมกลับเข้าไป”
“ฉันรับปากนายว่าจะปกป้องนาย แต่ไม่ได้รับปากว่าปกป้องนายนานแค่ไหน” กู้หลานอันบ่นขณะนอนราบอยู่บนโซฟามองดูไปทางด้านนอกประตูท่าทีสบาย ๆแล้วเอ่ย “หลี่จา ถูกไล่ออกก็ดีแล้วเอาเงินที่ฟู่ซีให้นายไปทำเื่อื่นเถอะ เปิดร้าน ทำธุรกิจ หรือไม่ก็หางานใหม่โลกนี้มีงานตั้งเยอะแยะ งานไหนสักงานก็คงดีกว่างานที่พูดให้ร้ายคนอื่นแล้วได้เงินมาหรือบางทีนายอาจจะอยากเป็นักข่าวต่อก็ได้ แต่อย่าเป็นักข่าวลูกไม้แบบนี้อีกเลย……”
“กู้หลานอัน นายมันไม่ใช่คน เอาฉันเป็หมาก ฉันนี่มันตาบอดไปจริง ๆ...” หลี่จาไม่ได้ฟังสิ่งที่กู้หลานอันพูดออกมาประโยคแม้แต่คำเดียวขัดเขาขึ้นแล้วเริ่มด่าทอเขาต่างๆ นานา กู้หลานอันระอาได้แต่ยักไหล่แล้ววางสายหลี่จาโมโหจนกระแทกมือถือ ขึ้นลิฟต์ ตอนที่เดินออกจากบริษัทก็ถ่มน้ำลายลงพื้น “ถุย ที่นี่ไม่เก็บฉันไว้ ที่อื่นก็เก็บ ใครจะแยแสอยากอยู่ที่นี่” หลังด่าจบ ยังไม่คลายความโกรธ ก็ถ่มน้ำลายอีก ถึงหันหลังจากไปทางประตูไม่รู้ไปไหน หลี่จายืนที่เดิมมองดูเวยป๋อ [1] ของตัวเองถูกบล็อคเขาทำอะไรไม่ได้อีก โกรธจนกระแทกมือถือ ใช้เท้ากระทืบแรง ๆ สองที กำลังเตรียมตัวจากไปก็มีคนถือกระบองไม้มาล้อมเขาไว้ ถามเขาว่า “แกคือหลี่จาเหรอ? ”
“ไม่ ไม่ใช่” หลี่จาใจนกลืนน้ำลายหลายเอือกเตรียมตัวออกวิ่ง แต่กลับถูกคว้าคอเสื้อกลับไป ได้ยินแค่คำพูดเดียว “ยังกล้าปฏิเสธ พี่น้องรุมมันให้ยับ” กระบองไม้ก็อัดเข้ากับตัวเขา
กระหน่ำตีกันอยู่สิบกว่านาทีคนพวกนั้นถึงหยุดแล้วเดินจากไป หลี่จาเจ็บจนลุกไม่ขึ้นะโเสียงดังแหงนหน้าตวาดขึ้นฟ้า “กู้หลานอันเป็เพราะนายทำลายฉันทั้งหมดนี้เป็เพราะนาย ต้องมีสักวัน ฉันจะทำให้นายไม่ได้ตายดีแน่ กู้หลานอัน! ”
หลังจากวางสายหลี่จา กู้หลานอันส่ายหัวถอนหายใจแล้วเอ่ยคำพูดหนึ่ง “ชาตินี้ลองเป็คนดีบ้างสักครั้งเถอะ” แล้ววางมือถือไว้อีกทางเดินไปหยิบนมหนึ่งกล่องในตู้เย็นออกมาดื่ม ดื่มได้ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเงาเจาเยี่ยตอนนี้อยู่หน้าประตูรีบโยนกล่องนม แล้วรีบรุดไปหาเจาเยียที่กำลังยื่นมือกดรหัส เอ่ยเสียงอ่อนเริงร่า “เจาเยี่ย นายกลับมาแล้วเหรอ? เมื่อครู่นายไปไหนมา? ”
“ซุปเปอร์มาเก็ต มีเื่อะไรเหรอ?” เจาเยี่ยหยุดมือแล้วหันมาเอ่ยถาม
“ทำไมไปซุปเปอร์มาเก็ตนานขนาดนี้? ” กู้หลานอันแกล้งเมินเฉยต่อคำถามของเจาเยี่ยมองดูเขาถือของถุงใหญ่แล้วเอ่ยถาม
“ถูกแฟนคลับเห็นเข้า เลยเสียเวลาไปหน่อย” เจาเยี่ยตอบเสร็จชะงักไปเสี้ยววินาที แล้วเอ่ยถาม “มีเื่อะไรเหรอ? ”
“ฉันอยากชวนนายออกไปทานข้าว” กู้หลานอันเอ่ยแล้วมองเจาเยี่ยด้วยสายตาเปี่ยมความหวัง (กู้หลานอัน: ถามว่าทำไมฉันไม่ทำตัวน่ารักเพื่ออ้อนให้เจาเยี่ยมา? ฉันทำเื่พวกนั้นอยู่แค่ไม่กี่เื่ฉันกลัวว่าเขาจะเบื่อความจำเจแล้วรู้สึกว่าฉันไม่สดใหม่น่ะสิ)
เชิงอรรถ
[1] เวยป๋อ เป็เว็บไซต์ทำนองลูกผสมระหว่างทวิตเตอร์กับเฟซบุ๊กมีอิทธิพลทางการตลาดคล้ายคลึงกับทวิตเตอร์เป็หนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน