หลิวยวนใไม่น้อยเมื่อได้ฟังคำพูดของต้วนชิงิ คิดไม่ถึงว่านางจะอิจฉาเขาแต่เมื่อคิดดูแล้วนางสูญเสียแม่ไปั้แ่อายุยังน้อยทั้งยังถูกอี๋เหนียงคอยกดไว้ตลอด การที่นางอิจฉาเขาที่มีท่านแม่คอยดูแลก็คงไม่แปลก
เด็กหนุ่มมองไปที่ต้วนชิงิแววตาคล้ายมีคำถามหนึ่งที่เก็บไว้ในใจอยากจะถามมานานแล้ว ‘เหตุใดนางถึงช่วยเขา... ช่วยเพื่อวันนี้ใช่หรือไม่? เพียงเพราะท่านพ่อของเขาเป็เสนาบดีที่สูงศักดิ์สามารถช่วยนางได้หรือว่าเพื่อเป้าหมายอื่น’
“ต้วนชิงิ ข้าเพียงอยากรู้ว่าเหตุใดเ้าถึงช่วยข้าทั้งยังเชื่อใจข้าเช่นนี้” ทำไมนางต้องช่วยเขาพาเขาไปอยู่ในจวน ไว้ใจเขาเช่นนี้ ทำไมกัน?
ถ้าจะบอกว่าจู่ๆคิดขึ้นมาได้เขาจะต้องไม่เชื่อเป็แน่ ถ้าอย่างนั้นสรุปแล้วเพื่ออะไร? หรือว่าคนคนหนึ่งเกิดความประทับใจต่อกันเพียงแค่เสี้ยววินาที?
ครั้นถามจบก็กระวนกระวายระคนรู้สึกตื่นเต้น...ผ่านไปชั่วครู่พลันรู้สึกกลัวขึ้นมาว่าสิ่งที่นางตอบออกมาจะมิใช่สิ่งที่เขาวาดหวังไว้
อีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆพลางหัวเราะออกมาเบาๆ คล้ายอารมณ์ดี
“ถ้าข้าบอกว่าเป็เพราะพรหมลิขิตเล่า พี่จะเชื่อหรือไม่?...” นางตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย คำตอบทำให้เขาชะงักใเล็กน้อยนางหยุดเว้นจังหวัดไม่สนใจแล้วพูดต่อ “วันนั้นข้าผ่านไปที่ประตูเมือง เห็นพี่นอนจมกองเือยู่ที่พื้น ตอนนั้นข้ารู้สึกเหมือนเห็นตัวเองในอดีต เสียอย่างไรอย่างนั้น”
น้ำเสียงของนางเปลี่ยนเป็ชัดเจนขึ้นมาราวดำดิ่งลึกลงไปในห้วงความทรงจำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนของนางฟังคล้ายสายพิณในสมัยโบราณที่ดีดดังเสียงไพเราะจับใจ ว่า
“ตอนนั้นข้าคิดว่าพวกเราเป็คนประเภทเดียวกัน...ร่างของพี่เต็มไปด้วยาแ นอนอยู่ข้างถนนไร้คนสนใจไยดีแม้ข้าจะเกิดมาในชาติตระกูลที่ดี ทว่ากลับอยู่จวนข้างหลังที่มีอันตรายทุกย่างก้าวหากเดินพลาดอาจถึงตาย ทั้งยังถูกคนที่ไว้ใจทรยศ ใส่ร้ายป้ายสี...ฉะนั้นเมื่อข้าเห็นพี่มีสายตาที่ไม่ยอมแพ้...ถึงแม้พวกเราจะเจอผู้คนและเื่ราวที่ต่างกัน แต่มีเพียงแต่สองมือเราเองเท่านั้นที่จะยืนหยัดลุกขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง”
ต้วนชิงิพูดยิ้มๆแต่สายตากลับแฝงไว้ด้วยความเ็า
“ดังนั้นข้าจึงช่วยพี่!”
หลิวยวนคิดอยู่นานสองนานเมื่อได้ยินคำพูดต้วนชิงิ
เขาไม่สงสัยคำพูดของนางแม้แต่น้อย ั้แ่ที่เขาเข้ามาอยู่ที่จวนต้วนแห่งนี้นางก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาโดยตลอด เื่นี้เขารู้ดียังเคยคิดว่ายอมเป็คนาเ็ที่อยู่ข้างทางเสียยังดีกว่าอย่างน้อยเมื่อแผลภายนอกหายก็คงไม่เจ็บอีก ทว่าต้วนชิงินั้นแตกต่างนางใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ทั้งต้องระวังภัยจากรอบด้านและเตรียมตัวไม่ให้ตกไปอยู่ในกองไฟนั้นเพราะถ้านางพลาดจุดจบคงเป็ความตาย
เด็กสาวตรงหน้าจะต้องใช้สติปัญญาเท่าไรถึงจะปกป้องตัวเองและน้องชายที่ยังเล็กอยู่ได้
นางค่อยๆหลับตาลงในเมื่อมีคำพูดบางคำที่ต้องพูดออกมาเช่นนั้นนางยอมเอาความในใจบอกกับเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ตอนแรกนางมองแต่ผลประโยชน์ในตัวเขาแต่เมื่อได้รู้จักเรียนรู้กลับพบว่าการใช้ประโยชน์กลายเป็เื่รองเพราะถูกความจริงใจเข้ามาแทนที่ ความรู้สึกกลับแปรเปลี่ยนเป็ ‘พี่ชาย น้องสาว’ ั้แ่เมื่อไรก็สุดรู้
ในใจต้วนชิงิหลิวยวนเปรียบดั่งพี่ชาย ที่นางสามารถแสดงความเหนื่อยล้าและอ่อนแอออกมาได้
นางเปิดเผยเสียจนหมดสิ้นจนเขารู้สึกละอายใจเป็อย่างมาก แรกเริ่มเขาปกปิดความจริงเื่บิดาแต่เมื่อลองไตร่ตรองเพียงชั่วครู่กลับคิดว่าถ้าบอกความจริงไปอย่างน้อยก็มีคนที่รู้เพิ่มขึ้นอีกคนอาจจะช่วยเขาออกความคิดเห็นได้
ทว่าเพียงอ้าปากจะเอื้อนเอ่ยกลับหยุดชะงักลงเพราะคำพูดกำชับที่ดังขึ้นมาคล้ายกระซิบอยู่ข้างหูของเขา
‘หลิวยวน เื่พ่อกับเ้าที่ยอมรับเป็พ่อลูกกันนั้นอย่าไปบอกกับใครเด็ดขาด เ้าต้องรู้ว่าในราชสำนักแก่งแย่งชิงดีมีมากมายถ้าใครรู้ฐานะที่แท้จริงของเ้า จุดจบของเ้าอาจตกอยู่ในสภาพอเนจอนาถ...’
เมื่อไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งจึงพูดในสิ่งที่ใจนึก
“ชิงิ เ้ารู้หรือไม่ ข้าหาท่านพ่อเจอแล้ว แต่ว่าท่านพ่อมีภรรยาใหม่และลูกสาวอีกหนึ่งคน...ข้าให้อภัยเขาไม่ได้!”
พูดไปพลางกำสองมือเป็หมัดแน่นจนเส้นเอ็นที่แตกแขนงคล้ายร่างแหหลังฝ่ามือปูดโปนเขาหวังว่าจะได้พบท่านพ่อและมีบ้านที่เป็ของเขา แต่เื่กลับมันไม่เป็เช่นนั้นเขาไม่อยากอยู่ในฐานะที่ต้องยอมรับแม่เลี้ยงและทอดทิ้งผู้เป็มารดาให้โดดเดี่ยวผู้เดียว!
ฟังคำพูดหลิวยวนนางจึงก้มหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามว่า
“พี่หลิวพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่า เื่ราวเป็มาอย่างไร?”
หลิวยวนพยักหน้า
“ปีนั้นท่านพ่อเข้าเมืองหลวงไปรายงานราชการ ระหว่างทางพบกับโจรทางน้ำท่านพ่อและท่านแม่ตกน้ำ ท่านพ่อถูกคนช่วยไว้ได้ ตอนนั้นท่านแม่กำลังตั้งท้องเมื่อตกน้ำจึงลอยตามน้ำไปไกลมากถึงได้รับการช่วยเหลือท่านพ่อพยายามตามหาท่านแม่แต่เมื่อไม่มีข่าวคราวกลับมาจึงตัดสินใจแต่งงานใหม่”
ต้วนชิงิพยักหน้าพลางถามต่อ “เดิมทีพี่มาตามหาท่านพ่อเพื่อจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาใช่หรือไม่?”
เขาพยักหน้าพลางพูดด้วยสีหน้าและแววตาเ็ปเท่าไรก็สุดรู้ “ใช่... แต่ตอนนี้...” แต่ตอนนี้ความฝันของเขาพังทลายไปหมดแล้ว!
“เช่นนั้น พี่หลิวยินดีจะฟังความคิดเห็นของข้าหรือไม่?”
เขาพยักหน้าตอบรับพลางเอ่ย “ชิงิ... ช่วยอธิบายให้ข้าฟังที!”
“พี่หลิวครั้งแรกที่พบพี่นั้น ร่างกายเต็มไปด้วยเืพี่ยังอดทนไม่ร้องขอความช่วยเหลือและไม่ต่อว่าใดๆ ทว่าแววตาของพี่นั้นกลับดึงดูดข้าไว้ เช่นนั้นเราจึงได้รู้จักกัน...”
เมื่อเห็นหลิวยวนเผยอปากอยากพูดอะไรบางอย่างต้วนชิงิจึงยกมือขึ้นห้าม เอ่ยต่อ
“รอฟังให้จบก่อน... ท่านแม่ของพี่อบรมพี่มาได้ดีมาก พี่ยังรู้หนังสือและมารยาทต่างๆซึ่งไม่น้อยหน้าไปกว่าคุณชายสูงศักดิ์ท่านอื่น! พี่เป็คนตรงไปตรงมาแยกแยะความแค้นชัดเจน สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ท่านแม่มอบให้และเป็อีกวิธีหนึ่งที่ใช้บอกพี่ นางหวังว่าพี่จะมีอนาคตที่ดีและเหนือกว่าคนอื่นๆ ทว่าตอนนี้พี่คิดถึงแต่อดีตที่ผ่านไปแล้วเช่นนั้นจะทำให้ท่านแม่พี่ผิดหวังหรือไม่เล่า...... ”
หลิวยวนย่นหัวคิ้วเข้าหากันน้อยๆคล้ายระคนสงสัย
“พี่มีสองทางเลือก หนึ่งคือ กลับไปอยู่ข้างกายท่านแม่ให้ท่านลำบากเป็ห่วงเป็ใยต่อไป ส่วนพี่จะมีชีวิตที่ยากลำบากไม่ก็ทำอะไรไม่สำเร็จ เพราะจมอยู่กับความโกรธและเคียดแค้น! แน่นอนว่าพี่อาจจะเลือกทางเดินที่สองคือ ทำงานที่ท่านพ่อมอบให้มีชีวิตที่ดีและใช้วิธีนี้สานความฝันของท่านแม่ให้สำเร็จ”
เด็กสาวยังเอื้อนเอ่ยต่อไป
“ข้ารู้ว่าเื่นี้ไม่ง่ายสำหรับพี่ถึงตอนนี้อาจจะเรียกร้องอะไรให้ท่านแม่มากไม่ได้แต่ว่าถ้าพี่สอบจอหงวนได้ระดับที่สูงขึ้น... คนที่ภูมิใจก็มีเพียงท่านแม่ถึงตอนนั้นอยากจะเรียกร้องสิ่งใด อะไรๆ จะง่ายกว่าตอนนี้หลายเท่านัก”
แม้คำพูดของนางจะไม่ชัดเจนแต่หลิวยวนก็เข้าใจนางกำลังบอกเขาว่าถ้าอยากให้ท่านแม่มีชีวิตที่ดี ตอนนี้ทำได้แค่อดทนต่อความอับอาย เพื่อวันข้างหน้าจะสามารถเรียกร้องอะไรให้ท่านแม่ได้มากกว่านี้ !
ไม่มีเหตุผลใดที่จะปลดภรรยาใหม่ของท่านพ่อต่อให้เขากลับไปอยู่กับท่านแม่ที่บ้านเกิด แต่นั่นก็เป็เพียงมีชีวิตธรรมดาสามัญส่วนทางออกที่ดีที่สุดคงเป็การยอมรับท่านพ่ออย่างอดทนสักระยะหนึ่งเมื่อเขามีอนาคตแล้วถึงจะสามารถทำให้ท่านแม่ลืมตาอ้าปากได้