พรรคเทพหมาป่า์ ด้านนอกประตูขึ้นเขา
มารอริยะที่วางแผนทำลายพรรคเทพหมาป่า์ย่อมเตรียมการทุกอย่างไว้พรักพร้อม มันยอมใช้ตัวเองเป็เหยื่อล่อยอดฝีมือขั้นทารกแกนิญญาออกไปนอกพรรค วางแผนให้ซุนซงหลอกล่อมู่หรงลวี่กวงวางกับดักใส่ตัวเอง ก่อนจะวางกองกำลังซุ่มโจมตีดักอยู่หน้าประตูทางขึ้นูเา มารจำนวนมากกำลังรอให้รากฐานของพรรคเทพหมาป่า์พังทลาย รอให้ข่ายปราณคุ้มภัยประจำพรรคปิดตัวลง
แต่ใครเล่าจะคาด แผนการอันสมบูรณ์แบบที่พวกมันวางไว้กลับถูกหวังเค่อและพวกพ้องทำพังเสียฉิบ
เสียงกังวานของระฆังล่มสลายบ่งบอกให้มารที่ดักซุ่มอยู่ด้านนอกรับรู้ว่าภารกิจนี้ล้มเหลวแล้ว
“ไอ้โง่ซุนซง มันทำบ้าอะไรของมัน?”
“ไหนบอกว่าถ้าปิดประตูพรรคแล้วด้านในจะไม่มีใครเคลื่อนไหวได้ไง? แล้วระฆังล่มสลายดันดังขึ้นมา? มันกินอะไรผิดสำแดงเข้าไปหรือเปล่า?”
“ด้านในต้องมีเื่ผิดพลาดแน่!”
“ท่านมารอริยะสั่งการมาแล้วว่าพวกเราต้องทำให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นกลับไปโดนทัณฑ์ทรมานแน่!”
“รีบพังประตูทางขึ้นเขาเถอะ ต่อให้ถล่มพรรคเทพหมาป่า์ไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็ต้องคลายข่ายปราณคุ้มภัยให้ได้!”
“จริงด้วย เร็วเข้า รีบเถอะ!”
.........
.........
......
......
...
...
ด้านนอกประตูมีเสียงคำรามลั่น ห่างออกไปไม่ไกล ชาวเมืองหลางเซียนต่างพากันมองอย่างแปลกใจ
“อะไรกันวะ ใครมันเป็คนออกความคิดให้ปิดประตูขึ้นเขา? ตอนนี้จะพังประตูกันยังไงก่อน?” เสียงคำรามหนึ่งดังขึ้นกลางดงมาร
“ลูกพี่ แผนสุดท้ายก็เป็ท่านกับซุนซงวางด้วยกันไง!” เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างงุนงง
“บัดซบ เ้าพูดดีไปเถอะ! โจมตีต่อไป ถ้าหากพังข่ายปราณคุ้มภัยพรรคเทพหมาป่า์ไม่ได้ พวกเราซวยแน่!” เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง
“ตูมมมม!”
ด้านนอกประตูทางขึ้นเขาพรรคเทพหมาป่า์เต็มไปด้วยเสียงคำรามก้อง
ผ่านไปสองชั่วยาม ในที่สุดบรรดาศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ที่ออกไปด้านนอกก็เร่งรุดกลับมาถึง พวกมันเห็นประตูขึ้นเขาปิดอยู่พร้อมมารฝูงหนึ่งพยายามจู่โจมเข้าใส่ข่ายปราณคุ้มภัยของประตู
“ไม่ได้การ ต้องมีเื่บางอย่างเกิดขึ้นในพรรคแน่! มารฝูงนี้กล้าเหิมเกริมแหย่พรรคเทพหมาป่า์ข้าเชียวรึ? หาที่ตาย!”
“มาร? กุศล? วิเศษนัก ข้าตามหาพวกเ้าไปทั่วสิบหมื่นมหาบรรพตไม่เคยเจอ วันนี้กลับเสนอหน้ามาหาถึงบ้าน? วิเศษไปเลย ไม่สิ ข้าหมายถึงพวกเ้าบังอาจมาก เตรียมตัวตายเสียเถอะ!”
“ศิษย์พี่ทั้งหลาย พวกมารร้ายกล้าหมายตาพรรคเทพหมาป่า์เรา ไปเข่นฆ่าพวกมันกับข้าเถอะ!”
“ฆ่า!”
.........
.........
......
......
...
...
การศึกหน้าประตูพรรคเทพหมาป่า์ดำเนินอยู่ครู่ใหญ่
แต่อนิจจา ยังมีศิษย์พรรคเทพหมาป่า์อีกมากที่เร่งรุดกลับมาไม่ถึง ศิษย์ส่วนน้อยที่เร่งเดินทางกลับมาก่อนสุดท้ายก็ถูกฝูงมารที่มีจำนวนมากกว่าล้อมเอาไว้
“ศิษย์พี่ ไม่ได้การแล้ว พวกมันมีเยอะเกินไป! พวกเราต้านไว้ไม่ไหวแล้ว!”
“ข้าประมาทไป ไม่นึกเลยว่าจะมีมารเยอะถึงเพียงนี้!”
“งั้นพวกเราควรทำยังไงดี?”
“ระฆังล่มสลายดังขึ้นมาแล้ว พวกศิษย์พี่ ท่านประมุขและเหล่าเ้าตำหนักคงกำลังเดินทางมา ยันไว้ก่อน!”
“ฆ่า!”
กลุ่มศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ตกอยู่ในอันตรายทันทีเนื่องจากจำนวนที่น้อยกว่า
ขณะที่พวกมารต่างพยายามสังหารและจับศิษย์พรรคเทพหมาป่า์กิน สายลมแรงหอบหนึ่งก็โถมลงมาจากฟ้าจนทุกคนขนหัวลุกซู่
ทั้งฝูงมารและกลุ่มศิษย์พรรคเทพหมาป่า์พากันเงยหน้าขึ้นมอง บนฟากฟ้ามีบุรุษในชุดขาวยืนเหยียบกระบี่บินโดยมีแสงเรืองรองอยู่ด้านหลัง ประดุจเทพเซียนจุติจาก์ รัศมีพลังองอาจน่าหวาดหวั่นแผ่ออกมาจากชายผู้นี้
“ท่านประมุข ท่านประมุขกลับมาแล้ว!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์คนหนึ่งกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ประมุขพรรคเทพหมาป่า์? ไม่จริง ทำไมมันถึงกลับมาเร็วปานนี้?” มารตนหนึ่งอุทาน
ชายชุดขาวส่งสายตาเ็ามองฝูงมาร ก่อนจิตสังหารจะแล่นผ่านสองตา มันสะบัดมือออก
“คมวายุหมื่นกระบี่!” ชายชุดขาวะโเสียงเย็น
“เปรี้ยง!”
ด้านหลังชายชุดขาวปรากฏปราณกระบี่นับพันขึ้นกะทันหัน ก่อนจะขยับตามนิ้วของผู้เป็นายพุ่งเข้าใส่ฝูงมารในพริบตา
“ระวัง!” “หนีเร็ว!”
“เปรี้ยงง~~~~~~~~~~~~!”
บังเกิดเสียงอึงอล มารบางส่วนถูกปราณกระบี่สังหารคาที่ ส่วนใหญ่ที่เหลือต่างาเ็สาหัส ดวงแสงสีทองจำนวนมากพุ่งเข้าสู่ร่างชายชุดขาว
เศษดินหินนับไม่ถ้วนปลิวว่อน กลุ่มควันลอยโขมงขึ้นฟ้า ชายชุดขาวคลี่คลายวิกฤตของศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ได้ด้วยนิ้วมือเดียว
“ขอบคุณท่านประมุขที่ช่วยเหลือ!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ที่เพิ่งรอดพ้นวิกฤตต่างพากันคุกเข่าลง
มารส่วนใหญ่รอบด้านล้วนาเ็สาหัส ส่วนที่เหลือต่างพากันรีบหลบหนี
ชายชุดขาวไม่สนใจพวกมารร้ายด้านนอกอีก แต่เดินเข้าสู่ข่ายปราณคุ้มภัยประจำพรรค
ข่ายปราณคุ้มภัยประจำพรรคเทพหมาป่า์ขวางกั้นภายในและภายนอก ทำให้พวกมารไม่อาจผ่าน แต่ในฐานะประมุขพรรคที่คุ้นเคยกับข่ายปราณเป็อย่างดี ไหนเลยจะขวางมันไว้ได้?
“จงมา!”
บุรุษชุดขาวก้าวเข้าสู่ภายในพรรคเทพหมาป่า์ ก่อนจะเหยียบบนกระบี่บินพลางกวาดตาดูทุกสิ่งภายในพรรค โดยเฉพาะตรงลานของตำหนักหมาป่าบูรพาที่พายุสายฟ้ากำลังสาดแสงเรืองรอง
หวังเค่อยังคงใช้กลอสนี์ปะามารเข่นฆ่าเหล่ามารอยู่
บุรุษชุดขาวเลิกคิ้วสูงพลางเผยสีหน้าสงสัย แต่ในเมื่อพรรคเทพหมาป่า์ปลอดภัย ตัวชายชุดขาวก็วางใจลงอักโข
มันมองไปยังกระจกสะกดแสงบนฟากฟ้า
ชายชุดขาวลงมือทันที
“หึ่ง!”
กระจกสะกดแสงสั่นไหวก่อนจะลอยกลับสู่มือของชายชุดขาว มันใช้กระจกสาดแสงทั่วลานกว้างของตำหนักหมาป่าบูรพา ก่อนที่ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ทั้งหมดจะกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง
“น้อมรับท่านประมุข!” เสียงตื่นเต้นยินดีของศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ดังกระหึ่มจากทั่วขุนเขารอบด้าน
ตลอดเวลาสองชั่วยามที่ถูกสะกดการเคลื่อนไหว พวกมันทุกคนล้วนแต่หวาดหวั่นขวัญผวา
“ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ฟังคำสั่ง!” ชายชุดขาวแค่นเสียงเ็า
“ทราบ!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ต่างขานรับ
“ด้านนอกประตูขึ้นเขามีพวกมารมาชุมนุมกัน ศิษย์ทุกคนที่ไม่มีหน้าที่จงไปยังหน้าประตูทางขึ้น กวาดล้างสังหารมารให้หมด! อย่าให้พวกมันหนีรอดไปได้!” ชายชุดขาวเปล่งเสียงสั่งการ
“รับบัญชา!” เสียงขานรับกึกก้องดังมาจากทุกสารทิศทั่วพรรคเทพหมาป่า์
หลังถ่ายทอดคำสั่ง ชายชุดขาวก็เหยียบกระบี่บินเหินลงมายังลานกว้างตำหนักหมาป่าบูรพาในพริบตา
ถึงตอนนี้หวังเค่อและคนที่เหลือต่างค่อยรู้สึกตัวถึงความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกระจกสะกดแสงที่หายไป ทำให้ทุกคนรู้ว่าเื่ทั้งหมดสงบลงแล้ว
“น้อมรับท่านประมุข!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ภายในลานต่างส่งเสียงกันอย่างยินดี
มู่หรงลวี่กวงสีหน้ากลายเป็อัปลักษณ์ ครั้งนี้มันปิดเื่ไม่ให้ท่านประมุขรู้ วางแผนหวังกวาดล้างมารที่พรรคเทพหมาป่า์จับตาดูอยู่เพื่อบำเพ็ญกุศลตัวเองเพียงลำพัง ผลลัพธ์คือมันไม่เพียงถูกมารซ้อนแผนเล่นงาน แต่ยังไม่ได้ปราบมารแม้แต่ตนเดียว แล้วมันจะอธิบายเื่นี้แก่ท่านประมุขอย่างไร?
เพราะหวังเค่อมัวแต่ค้นตัวเหล่ามาร ตลอดสองชั่วยามนี้ชายหนุ่มยังเพิ่งสังหารมารไปเพียงครึ่งเท่านั้น แต่ต่อให้สังหารไปเพียงครึ่ง หวังเค่อก็พึงพอใจเป็อย่างยิ่ง เพราะใน่สองชั่วยามนี้ตัวหวังเค่อนับว่าร่ำรวยอ้วนพีขึ้นอักโข
เพียงแต่ หลังจากค้นตัวมารเสร็จ หวังเค่อจะปล่อยให้มันพูดความจริงไม่ได้ จึงลงมือสังหารอีกฝ่ายปิดปากทันที
“ตายเสีย เ้ามารร้าย!” หวังเค่อกระตุ้นกลอสนี์ปะามาร
“ตูมมมม!”
ก่อนที่ชายชุดขาวจะมาถึง หวังเค่อก็ส่งอสนีบาตฟาดใส่มารร้ายเพื่อทำลายหลักฐานแล้ว
“น้อมรับท่านประมุข!” ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ทุกคนในลานกว้างเอ่ยอย่างนอบน้อม
“น้อมรับประมุขเทพหมาป่า์!” บรรดาแเื่เองก็กล่าวด้วยความเคารพ
“ประมุขเทพหมาป่า์ พวกเราเป็ศิษย์ของพรรคอีกาทองคำ ในเมื่อท่านรับกระจกสะกดแสงกลับมาแล้ว ช่วยคลายผนึกให้พวกเราได้หรือไม่?” จางหลี่เอ๋อร์เอ่ยอย่างกังวล
ถูกตรึงอยู่กับที่นานสองชั่วยาม ยิ่งถูกภาพบาดตาเสพสุขก่อนฆ่าทีหลังของหวังเค่อทำตามืดบอดไปครึ่งค่อนวัน โทสะในใจจางหลี่เอ๋อร์ก็มอดดับไปหมดแล้ว
ชายชุดขาวร่อนลงสู่ลานกว้างพลางกวาดตาดูทุกคน หวังเค่อย่อมไม่กล้ากระทำการตามอำเภอใจอีก
“พรรคเทพหมาป่า์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ชายชุดขาวถามเสียงเข้ม
ชายชุดขาวมองดูมู่หรงลวี่กวง ใบหน้ามู่หรงลวี่กวงกลายเป็แข็งทื่อ ไม่ทราบควรเริ่มต้นอย่างไร ศิษย์พรรคข้างกายมันคนหนึ่งจึงเอ่ยปากเล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นออกมา
ทั้งงานแต่งงานใหญ่โตนี้ที่พลิกแล้วพลิกอีกจนชายชุดขาวต้องทำหน้าพิลึก ก่อนสุดท้ายมันจะเบนสายตาหันไปมององค์หญิงโยวเยว่ที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
“หึ่ง!”
องค์หญิงโยวเยว่เป็คนแรกที่ชายชุดขาวช่วยปลดผนึกให้ นางสามารถขยับตัวได้ทันที
“ราชวงศ์ชือกุ่ย กุ่ยโยวเยว่ น้อมรับประมุขพรรคเทพหมาป่า์!” องค์หญิงโยวเยว่คารวะให้อีกฝ่ายอย่างจริงจัง
ชายชุดขาวรีบถอยให้การคารวะนี้ทันที มันเอ่ยด้วยสีหน้าซับซ้อน “ที่แท้เป็องค์หญิงโยวเยว่ ครั้งนี้พรรคเทพหมาป่า์ก่อเื่ล่วงเกินองค์หญิงไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย!”
ท่าทีของชายชุดขาวสุภาพนอบน้อมเป็อย่างยิ่ง สุภาพจนมู่หรงลวี่กวงกับจางหลี่เอ๋อร์ยังแปลกใจ กับองค์หญิงของราชวงศ์ที่ล่มสลายไปแล้วยังต้องสุภาพขนาดนี้อีกหรือ? แต่หวังเค่อกลับตาลุกวาว ดูจากท่าทีของชายชุดขาวที่มีต่อองค์หญิงโยวเยว่ วันนี้ข้ารอดแล้ว!
ชายชุดขาวหันหน้ากลับมามองมู่หรงลวี่กวง
“ท่านประมุข ศิษย์รีบร้อนอยากสังหารมาร ครั้งนี้เลยลงมือโดยไม่บอกกล่าว…!” มู่หรงลวี่กวงก้มหน้าต่ำ
ชายชุดขาวเอ่ยเสียงเย็น “มู่หรงลวี่กวง มารเหล่านี้เ้ารู้หรือไม่ว่าพรรคเทพหมาป่า์เราใช้เวลานานขนาดไหนกว่าจะระบุตัวได้? ลงมือโดยไม่บอกกล่าวรึ? เ้ารู้หรือไม่ว่าการลงมือโดยไม่บอกกล่าวของเ้าก่อเื่ใหญ่เอาไว้ขนาดไหน! ข้าอยากฉวยโอกาสจากการที่มารเหล่านี้ไม่รู้ตัวว่าถูกเปิดโปงแล้วเพื่อเตรียมขุดรากถอนโคนเหล่ามารจากสิบหมื่นมหาบรรพต แต่ความรีบร้อนของเ้ากลับทำแผนของข้าพินาศหมด!”
มู่หรงลวี่กวงหน้าเปลี่ยนสี ที่แท้ท่านประมุขจงใจไม่หมายหัวมารพวกนี้เพราะเตรียมแผนการอื่นเอาไว้แล้ว
“ศิษย์สำนึกผิดแล้ว ได้โปรดลงโทษด้วย!” มู่หรงลวี่กวงเอ่ยอย่างเศร้าโศก
“เหอะ!” ชายชุดขาวแค่นเสียงเย็น แน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาสำหรับการลงทัณฑ์
“ประมุขเทพหมาป่า์ ท่านจะผนึกพวกเราไว้อีกนานแค่ไหน?” จางหลี่เอ๋อร์อีกด้านหนึ่งถามอย่างโมโห
ชายชุดขาวมองดูแเื่ที่มีสีหน้ากังวลก่อนจะโบกมือ
สายฟ้านับไม่ถ้วนฟาดผ่าลงมาจากท้องนภา แม้ไม่มีป้ายสั่งการในมือเหมือนหวังเค่อ บุรุษชุดขาวกลับสามารถสั่งการกลอสนี์ปะามารได้ตามใจ อสนีบาตนับไม่ถ้วนไหลบ่าถาโถมลงมาดุจน้ำตก แขกทุกคนล้วนแต่หน้าเปลี่ยนสี นี่ใช่การฆ่าปิดปากหรือไม่?
แม้แต่จางหลี่เอ๋อร์ยังหน้าซีดไปครู่หนึ่ง
“ตูมมมม~~~~~~~~~~~~~~!”
ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง เหล่ามารที่เหลือล้วนถูกสายฟ้ากระหน่ำฟาด ดวงแสงสีทองลอยเข้าหาชายชุดขาวก่อนจะตกผลึกกลายเป็ลูกแก้วทองคำอยู่ในฝ่ามือมัน
แเื่รอบด้านเองต่างก็เป็อิสระเช่นกัน
หลังเสียงะเิก้องกึก แขกรอบด้านหลังมั่นใจว่าพวกมันไม่ได้รับาเ็ก็พากันถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกพร้อมเหงื่อท่วมกาย
“ทุกท่าน ครั้งนี้พรรคเทพหมาป่า์เราเสียมารยาทไป ทำให้ทุกท่านต้องหวาดกลัวแล้ว!” ชายชุดขาวประสานมือคารวะให้แขกทั้งหลาย
“ท่านประมุขเทพหมาป่า์สุภาพเกินไปแล้ว ไม่เป็ไร ไม่เป็ไร!” ทุกคนที่รอดชีวิตกลับมาจากหายนะได้ย่อมไม่ติดใจเอาความ
“มารพวกนี้ ทางพรรคเทพหมาป่า์เราเพิ่งค้นพบได้ไม่นานจึงยังไม่ทันได้ติดต่อแจ้งข่าวแก่สำนักเซียนของพวกท่าน ผลลัพธ์กลับก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ข้าหวังว่าทุกท่านจะไม่ถือสา!” ชายชุดขาวถอนหายใจ
“ไม่ถือ ไม่ถือ!” บรรดาแขกต่างโบกมือไม้ไปมา
ท่านเป็ถึงขาใหญ่ขั้นทารกแกนิญญา ออกหน้าขอโทษพวกเราแบบนี้ พวกเราจะกล้าว่าอะไรได้ยังไง? พวกมันทำได้เพียงจดจำความขุ่นข้องเอาไว้ในเสี้ยวหนึ่งของหัวใจ
“ในเมื่อพวกท่านไม่ถือสา เช่นนั้นกุศลที่ได้จากมารเหล่านี้ขอมอบแก่พวกท่านแทนคำขอขมาจากพรรคเทพหมาป่า์!” ชายชุดขาวหัวเราะ
ชายชุดขาวโบกมือ ลูกแก้วทองคำในมือมันพลันแตกสลาย กลายเป็แสงสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาทุกคนรอบด้าน แน่นอนว่าทุกคนยกเว้นหวังเค่อต่างได้รับดวงแสงทองไปคนละสาย
เมื่อได้เห็นกุศลบ่มเพาะเข้าสู่ร่าง แขกทุกคนล้วนต่างตื่นเต้นยินดี “ขอบคุณท่านประมุข!”
ความบาดหมางอันใด? ในเมื่อได้ของดีตอบแทนมาแล้วจะยังถือโทษโกรธอะไรได้อีก?
แม้จางหลี่เอ๋อร์จะได้รับกุศลมาสายหนึ่งเช่นกัน แต่ในใจนางก็ไม่ได้ยินดี เพราะนางสมควรได้รับมากกว่านี้เป็เท่าตัว
หลังจากชายชุดขาวคลี่คลายความบาดหมางในใจแขกทั้งหลายแล้ว มันค่อยหันกลับมาหาหวังเค่ออีกครั้ง
“ข้าคือประมุขพรรคเทพหมาป่า์ เฉินเทียนหยวน ครั้งนี้พรรคเทพหมาป่า์ถูกปล้นชิง ต้องขอบคุณท่านที่ช่วยเหลือ!” ชายชุดขาวคารวะให้หวังเค่อ
ประมุขเทพหมาป่า์ เฉินเทียนหยวน!
