“นี่คือบัญชาจากข้า เ้าไม่อาจปฏิเสธได้ สกุลของนางมีคุณต่อแผ่นดินมากมายนัก เื่นี้เ้าต้องแบกรับไว้ก่อนแล้วโม่โฉว” ฮ่องเต้จำเป็ต้องออกคำสั่ง
“นางฆ่าคนตาย นางจะมิได้รับโทษใดเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ” เขาทวงถามความยุติธรรม
“เช่นนั้น ข้าอนุญาตให้เ้าลดฐานะของนางลง จากภรรยาเอก ให้เหลือเพียงแค่ภรรยาเท่านั้น เ้าอยากยกใครขึ้นสูงกว่านางย่อมได้ เช่นนี้พอจะบรรเทาความเ็ปในใจเ้าได้บ้างหรือไม่” เมื่อไม่มีทางเลือก โม่โฉวจำใจรับความเมตตานั้นไว้
เสี่ยวเฟยเดินชื่นชมบรรยากาศในวังหลวงด้วยความดีใจอย่างถึงที่สุด ชีวิตในยุคนี้แม้ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกแต่ด้วยฐานะของนาง สะดวกสบายยิ่งกว่าชีวิตในยุคปัจจุบันเสียอีก จะหยิบจับสิ่งใด ก็มีคนคอยช่วยเหลือตลอดเวลา ก่อนจะมีใครบางคนเดินเข้ามา สาวใช้อย่างมู่เลี่ยนรีบน้อมกายลงเคารพ
“ฮูหยินเหยาซื่อ” หญิงกลางคนแต่งกายด้วยเครื่องประดับเล็กน้อยพองาม จับจ้องมายังลูกสาวด้วยสายตาแน่นิ่ง
“ก่อเื่จนได้”
“ท่านพูดกับข้าเหรอ” หญิงสาวชี้มือมายังตัวเองด้วยท่าทางไม่เข้าใจ ก่อนมู่เลี่ยนจะกระซิบ
“ฮูหยินเหยาซื่อเป็มารดาของท่านเ้าค่ะ” จื่อหลานในร่างของเสี่ยวเฟยน้อมกายลงเล็กน้อย ก่อนมารดาจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“พวกเ้าออกไปก่อน ข้าจะคุยกับบุตรสาวของข้า”
“เ้าค่ะ” สาวใช้ที่ติดตามฮูหยินเหยาซื่อมาสองสามคนน้อมรับ แล้วเดินจากไป ท่ามกลางสายตาเฉียบแหลม จับจ้องมายังเสี่ยวเฟยตาไม่กะพริบ
“ครั้งนี้ เ้าถึงกับวางยาพิษสังหารเซียนเยว่ ก็ไหนเ้ารับปากฮ่องเต้แล้วไง ว่าเ้าจะไม่วุ่นวายกับนาง ขอเพียงแค่ให้เ้าได้ตบแต่งกับโม่โฉวก็พอใจแล้วมิใช่เหรอ เ้าตอบข้ามาให้หายข้องใจหน่อย ว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้น” สายตาผิดหวังมารดาคาดคั้นเอาคำตอบ ก่อนเสี่ยวเฟยจะอึกอักแล้วหันไปยังมู่เลี่ยนให้นางช่วยตอบ
“เรียนฮูหยิน” มู่เลี่ยนกำลังจะเอ่ยปาก
“หุบปากซะ เ้าก็อีกคน ตามใจนางจนเสียผู้เสียคน ตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเสี่ยวเฟยเป็หญิงจิตใจต่ำทราม แม้จะไม่พูดต่อหน้า แต่สิ่งที่นางทำก็เสื่อมเสียถึงสกุลที่สร้างคุณงามความดีมาหลายชั่วอายุคน”
“ท่านแม่เ้าคะ” เสี่ยวเฟยพยายามตั้งสติ แล้วคิดหาทางรอด
“พูดได้แล้วรึ งั้นแก้ตัวมา ข้าอยากรู้ว่าเ้าจะแก้ตัวยังไง”
“ข้าจะไม่ปฏิเสธว่าข้าทำเช่นนั้นจริง เพราะข้าหึงหวง ในโลกนี้มีภรรยาคนไหนบ้างที่จะไม่หึงหวงสามี ยิ่งภรรยาน้อยมีครรภ์ ข้าก็ยิ่งไม่สบายใจ ก็เลยขาดการตรึกตรอง คิดชั่วทำร้ายเซียนเยว่ แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากย้อนเวลากลับไปได้ ข้าจะไม่มีวันทำอะไรเช่นนั้นเลย”
“หึ มาสำนึกได้ตอนที่ทุกอย่างสายเกินไปน่ะสิ” ฮูหยินเหยาซื่อเบี่ยงหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนมู่เลี่ยนจะให้สัญญาณ ทำให้เสี่ยวเฟยตัดสินใจเดินเข้าไปหามารดาแล้วส่งยิ้มหวาน
“ท่านแม่ ตอนนี้ข้าหมดรักโม่โฉวแล้ว” หญิงกลางคนได้ยินดังนั้นจึงขมวดคิ้ว
“ข้าตกลงกับโม่โฉวไว้แล้ว ว่าข้าจะไม่กลับไปเป็ภรรยาเขาอีก ข้าและเขาจะตัดขาดการเป็สามีภรรยากันนับจากบัดนี้ ท่านว่าดีหรือไม่” ฮูหยินเหยาซื่อทอดสายตามองบุตรสาวด้วยความแปลกใจ ก่อนหน้านางปรารถนาอยากเป็ภรรยาเอกของโม่โฉวใครทัดทานก็ไม่ฟัง แต่มาวันนี้นางกลับยอมแพ้ง่ายดายราวกับไม่ใช่เสี่ยวเฟยคนเดิมที่รู้จัก
“ท่านคิดสิ่งใดหรือเ้าคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนเหยาซื่อจะส่ายหน้า พลันเอ่ยขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ
“ตอนอยากได้ เ้าทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา แต่ตอนนี้เ้าหมดรักแล้ว เื่ราวไม่ได้ง่ายดายปานนั้น”
“ท่านแม่หมายความว่าอย่างไร”
“เ้าอยากเป็หม้ายรึ” หญิงสาวแน่นิ่ง แม้รู้สึกว่าการเป็หม้ายไม่ได้ผิดอะไร แต่ไม่รู้ว่าการเป็หม้ายในยุคสมัยนี้จะเลวร้ายเพียงใด จื่อหลานในร่างเสี่ยวเฟยนิ่งเงียบ ฟังมารดาอธิบายด้วยน้ำเสียงเมตตา
“การเป็หม้ายไร้ผู้ชายปกป้อง นอกจากจะถูกดูิ่แล้ว เ้าก็จะมีตำหนิ หาคนที่คู่ควรอย่างโม่โฉวไม่ได้อีก คนอย่างเ้าหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีปานนั้น จะทนสายตาดูิ่ของผู้อื่นได้รึ อีกอย่างในเวลานี้ฮ่องเต้ไม่มีวันยอมให้สองตระกูลเราแตกแยกกัน อย่างไรเ้าก็ต้องกลับไปพร้อมกับโม่โฉว”
“กลับไปให้เขาฆ่าตาย เขาชังหน้าข้ายิ่งกว่าสิ่งใด” เสี่ยวเฟยยู่หน้าแล้วพึมพำ
“เขาชังเ้า ก่อนยกเ้าขึ้นเป็ภรรยาเอก เป็เ้าเองมิใช่รึที่อยากแต่งกับเขา ใครเตือน ใครห้ามก็มิฟัง ตอนนี้เ้าสำนึกได้ มันก็สายไปแล้วล่ะ” เหยาซื่อย้อนกลับ เพราะความถือดีของนางก่อนหน้า พูดจบมารดาก็เดินจากไป ปล่อยให้เสี่ยวเฟยยืนถอนหายใจตามลำพัง
“เมื่อก่อน ข้าดื้อดึงปานนั้นรึ” นางหันมาถามมู่เลี่ยน ก่อนหญิงสาวจะพยักหน้า
“ข้าไม่อยากกลับไปที่จวนโม่โฉวอีกแล้ว เ้าช่วยข้าได้หรือไม่” นางจับมือมู่เลี่ยนแล้วขอร้อง ท่ามกลางสายตาของโม่โฉวที่ยืนมองกิริยานางอยู่ห่าง ๆ ก่อนหญิงสาวจะหันมาเห็นเขา สองสายตาประสานสบกันครู่หนึ่ง
“เ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปหาโม่โฉว” ว่าแล้วเสี่ยวเฟยก็เดินไปหาชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม หวังว่าจะฟังข่าวดีจากเขา ฝีเท้าของนางมาหยุดตรงหน้า เอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วมองเขาด้วยสายตาเดียงสา ปราศจากแววตาขุ่นมัวในใจ
“ฮ่องเต้ทรงว่าอย่างไร อนุญาตให้ท่านทิ้งข้าไว้ที่วังหลวงหรือไม่” เขามองหญิงสาวตรงหน้าแล้วเอ่ยถาม
“ดูท่าแล้ว เ้าคงอยากอยู่วังหลวงมาก” น้ำคำราบเรียบทำให้หญิงสาวรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ก่อนนางจะเม้มปากแล้วย้อนเขา
