ม่อหลิงหานรู้ว่าเยว่เฟิงเกอกำลังเข้าใจเขาผิดก็แย้มยิ้มให้ ก่อนจะยื่นมือไปยังมือของเยว่เฟิงเกอที่ยังคงปกปิดส่วนนั้นไว้
เยว่เฟิงเกอปัดมือม่อหลิงหานออกในทันที มิคาดอีกฝ่ายจะยังกล้ายื่นมือมาอีก
คนทั้งสองปัดมือกันไปมาเป็ระวิงราวกับกำลังรำไทเก๊กอย่างไม่มีใครยอมใคร
“เฮ้อ วันนี้ท่านอ๋องอยากจะรำไทเก๊กกับหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ? ได้ พอดีเลย หม่อมฉันไม่ได้ฝึกมาหลายวันแล้ว เช่นนั้นต้องรบกวนท่านอ๋องเป็คู่ฝึกแล้ว”
เยว่เฟิงเกอมองมือม่อหลิงหานที่ปัดไม่พ้นเสียที นางไม่เขินอายอีกต่อไป และเริ่มแทนที่ด้วยอารมณ์โกรธที่ค่อยๆ ปะทุขึ้น
นางพูดจบก็ยืนขึ้นแล้วยื่นมืออีกข้างไปหาม่อหลิงหาน
ม่อหลิงหานยื่นมือออกไปคว้ามือเยว่เฟิงเกอไว้ แต่คิดไม่ถึงว่ามือนางจะลื่นไหลยิ่ง มือนางเลื้อยผ่านการเกาะกุมของม่อหลิงหานไปได้
เยว่เฟิงเกอกระชากคอเสื้อม่อหลิงหานเข้ามา ทำให้ร่างเขาโอนอ่อนไปตามแรง โน้มตัวเข้าหานาง
ทว่า ใบหน้าม่อหลิงหานยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่ เขาอยากรู้ว่าเยว่เฟิงเกอจะทำอะไรต่อจากนี้
ทางด้านเยว่เฟิงเกอ นางจับแขนข้างหนึ่งของเขาไว้ ออกแรงว่องไวหมายจะจับเขามาแล้วใช้ท่าโอบไหล่ทุ่ม
เพียงแต่ม่อหลิงหานกลับสามารถยึดแรงหมุนนั้นของเยว่เฟิงเกอมาได้ ก่อนจะพลิกตัวนางมากกกอดไว้ในอ้อมแขน
“ที่จริงแล้วชายารักคงอยากให้เปิ่นหวางกอดเ้ากระมัง บอกมาตรงๆ ก็ได้ เหตุใดต้องทำให้ยุ่งยากเพียงนี้ด้วย” ม่อหลิงหานพูด ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูเยว่เฟิงเกอ ก่อนจะเป่าลมอุ่นร้อนเบาๆ ที่ข้างหูนาง
เยว่เฟิงเกอขนลุกชัน นางอยากจะออกแรงดิ้นรน แต่ม่อหลิงหานกลับกอดรัดนางแน่นมาก
“เมื่อครู่เปิ่นหวางเพียงเห็นว่าบนเสื้อของชายารักมีขนแมวติดอยู่ จึงมีน้ำใจเตือนให้ชายารักถอดเสื้อออกก็เท่านั้น มิคาดชายารักจะร้อนใจ อยากให้เปิ่นหวางช่วยถอดเสื้อให้เ้าจนทนไม่ไหวเพียงนี้เลยหรือ” ม่อหลิงหานหัวเราะเบาๆ อย่างชั่วร้ายที่ข้างหูเยว่เฟิงเกอ “ชายารักพูดมาตรงๆ เลยก็ได้ เปิ่นหวางยินดีเหน็ดเหนื่อยเพื่อเ้าอยู่แล้ว”
ม่อหลิงหานพูดขณะที่มือค่อยๆ เลื่อนลงไปช่วยเยว่เฟิงเกอคลายผ้าผูกเอว
“ม่อหลิงหาน! ” ยามนี้เยว่เฟิงเกอรู้สึกโกรธขึ้นมาแล้ว นางจึงไม่คิดเรียกขานเขาว่าท่านอ๋องแล้ว
เ้าบ้านี่เป็โจรราคะชัดๆ คิดจะเอาเปรียบนาง แต่ทำอ้างว่ามีขนแมวติดเสื้อ
นางมีขนแมวติดที่ตรงไหน?
ในใจคิดเช่นนี้ เยว่เฟิงเกอก็ก้มหน้าลงไปมองอาภรณ์ตนทีหนึ่ง
นางเห็นว่าผ้าผูกเอวของนางในยามนี้ได้ร่วงลงพื้นไปแล้ว ส่วนมือที่อยู่ไม่สุขของม่อหลิงหานก็กำลังเริ่มเลื้อยเข้าไปภายใน
และตอนที่เยว่เฟิงเกอคิดจะยื่นมือออกไปปัดมือม่อหลิงหานนั้น ในที่สุดนางก็พบว่าบนอาภรณ์ตนมีขนแมวติดอยู่จริงๆ
คราวนี้เยว่เฟิงเกอรู้สึกอับอายแล้ว หากนางเห็นขนแมวกระจุกนี้เสียแต่ทีแรก ก็คงไม่ปล่อยให้ม่อหลิงหานมีโอกาสได้เอาเปรียบนางแน่
ความโกรธในจิตใจราวกับถูกน้ำเย็นหนึ่งกะละมังสาดใส่จนมอดดับ
ม่อหลิงหานรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของสตรีในอ้อมแขน รอยยิ้มของเขายิ่งกดลึกมากขึ้น
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก ขณะที่มือที่แสนว่องไวของเขากำลังคิดจะเปิดเสื้อเยว่เฟิงเกอออก
เยว่เฟิงเกอรีบร้อนจับมือม่อหลิงหานไว้ หน้านางแดงก่ำ กล่าวว่า “ท่านอ๋อง หม่อมฉันจะพักผ่อนแล้วเพคะ รีบกลับไปเรือนิโยวเถิด”
ม่อหลิงหานหัวเราะเบาๆ “คืนนี้เปิ่นหวางจะพักผ่อนกับชายารักที่นี่”
เยว่เฟิงเกอหน้าแดงแปร๊ด เพียงแต่ตอนที่กำลังจะพูดอะไรออกมา เสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
นั่นเป็เสียงแจ้งเตือนของวีแชท
การกระทำของม่อหลิงหานหยุดลงเพราะเสียงนี้ เขามองโทรศัพท์ข้างเตียง กล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจนัก “เหตุใดเ้าสิ่งนี้ถึงได้ชอบส่งเสียงขึ้นมาในเวลาสำคัญๆ ”
เยว่เฟิงเกออาศัยโอกาสนี้ผลักม่อหลิงหานออกไปแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู นางพบว่าเป็การแจ้งเตือนข้อความจากอย่าถามว่าข้าคือใคร ยิ่งกว่านั้น เขายังส่งมาเป็ข้อความเสียงอีกด้วย
เยว่เฟิงเกอไม่กล้าให้ม่อหลิงหานได้ยินเสียงของอีกฝ่ายด้วยกลัวว่าเขาจะกินน้ำส้มสายชูอีก จึงกล่าวกับเขาว่า “ท่านอ๋อง ทางนี้หม่อมฉันยังมีธุระให้ต้องทำ ทรงกลับเรือนิโยวไปก่อนจะได้หรือไม่เพคะ? ”
ม่อหลิงหานขมวดคิ้วเข้าหากัน เขามองเยว่เฟิงเกอนิ่ง ตอนนี้นางหลบตาเขาราวกับกำลังปิดบังอะไรอยู่
ม่อหลิงหานนั่งลงบนเตียง ไม่มีท่าทีจะจากไปแม้แต่น้อย
เยว่เฟิงเกอเห็นว่าม่อหลิงหานไม่คิดจะไป จึงทำได้เพียงปิดวีแชท ทำเป็ไม่สนใจอีกฝ่ายอีก
แต่ตอนที่นางโยนโทรศัพท์ลงบนเตียง โทรศัพท์กลับส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ม่อหลิงหานขมวดคิ้วมุ่นแล้ว “ตกลงมันเื่อะไรกัน ชายารักควรจะอธิบายสักหน่อยหรือไม่? ”
เื่ดีๆ เมื่อครู่ถูกเ้าสิ่งนี้ทำลายไป แค่เื่นี้ม่อหลิงหานก็หงุดหงิดมากอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ต้องมาเห็นท่าทีคล้ายกำลังตั้งใจปิดบังอะไรอยู่ของเยว่เฟิงเกอ ก็ยิ่งอยากถามให้รู้ชัด
เยว่เฟิงเกอแอบด่าอย่าถามว่าข้าคือใครอยู่ในใจ ทำไมคนต้องมาส่งวีแชทหานางเอาตอนนี้ด้วย
“ชายารักไม่ดูสักหน่อยหรือ? ” ม่อหลิงหานเลิกคิ้ว ก่อนจะหรี่ตามองโทรศัพท์เครื่องนั้น
เยว่เฟิงเกอเห็นว่าทำอย่างไรก็หลบไม่พ้นแน่แล้ว จึงได้แต่ต้องปลดล็อกโทรศัพท์แล้วเปิดข้อความเสียงของอย่าถามว่าคือใครขึ้นมา
เสียงของอย่าถามว่าข้าคือใครดังขึ้น “พระชายา ขอถามสักหน่อย เื่นั้นของท่านอ๋องใช้ได้หรือไม่? หากใช้ไม่ค่อยได้ ข้าเพิ่งนำของดีชุดใหม่เข้ามา ท่านสามารถซื้อหาไปใช้ได้อย่างสบายใจ”
“ข้าขอรับประกันว่า เมื่อท่านอ๋องของท่านใช้แล้ว เื่นั้นจะราวกับอินทรีสยายปีก โผนทะยานไปได้นานสามวันสามคืน”
“พระชายาอย่าได้เขินอายเป็เด็ดขาด รีบบอกข้ามา ข้าจะได้เตรียมชุดที่เหมาะสมเอาไว้ให้”
ข้อความเสียงนั้นพูดถึงตรงนี้ก็หยุดลง
เมื่ออย่าถามว่าข้าคือใครเห็นว่าเยว่เฟิงเกอยังไม่ตอบก็รีบส่งข้อความมาอีก “พระชายาทรงเขินอายอยู่หรือ? ท่านอย่าลืมสิ ความสัมพันธ์ของข้ากับท่านอยู่ในระดับใดกันแล้ว ยังจะมัวเขินอายอันใดอยู่อีกเล่า”
คราวนี้เยว่เฟิงเกอทั้งอายทั้งโกรธ นางรู้สึกเสียใจภายหลังแล้วที่เปิดข้อความเสียงนี้ต่อหน้าม่อหลิงหาน
นางแอบเหล่ตามองม่อหลิงหาน เห็นว่าสีหน้าของเขาในยามนี้ดำเหมือนก้นกระทะ
“ชายคนนี้คือใคร เ้าเป็อันใดกับเขากันแน่? ” ม่อหลิงหานโกรธจนปอดจะทะลุแล้ว
เ้าโทรศัพท์นี่ส่งเสียงบุรุษออกมาได้อย่างไร มิหนำซ้ำใจความที่อีกฝ่ายพูดกับเยว่เฟิงเกอ...เื่เช่นนี้ยังสามารถพูดกับเยว่เฟิงเกอได้?
ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนคนนี้กับเยว่เฟิงเกอจะไม่ธรรมดา แม้แต่เื่เช่นนี้ก็ยังพูดกับนางได้
เยว่เฟิงเกอก้มหน้าลงไป ลอบด่าบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรของอย่าถามว่าข้าคือใครไปรอบหนึ่ง
เ้าบ้านี่ตั้งใจให้นางกับม่อหลิงหานตีกันใช่หรือไม่?
ตอนนี้เยว่เฟิงเกอโกรธจนอยากจะกัดคน
แต่เมื่อถูกม่อหลิงหานซักไซ้เช่นนี้ นางก็ไม่รู้แล้วว่าควรจะตอบกลับไปเช่นไร
“ชายารักไม่พูด เพราะกำลังละอายแก่ใจ? ” ยิ่งม่อหลิงหานเห็นว่าเยว่เฟิงเกอเอาแต่ก้มหน้าไม่เอ่ยวาจา สีหน้าเขาก็ยิ่งดำคล้ำกว่าเดิม
ตอนที่เยว่เฟิงเกอกำลังคิดหาข้ออ้างมาอธิบายให้ม่อหลิงหาน จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้เยว่เฟิงเกอไม่หลบเลี่ยงอีกแล้ว นางกดเปิดข้อความเสียงของอย่าถามว่าข้าคือใครด้วยความหงุดหงิดใจขั้นสุด
เสียงอย่าถามว่าข้าคือใครดังขึ้นอีกครั้ง “พระชายา ท่านคงไม่ได้กำลังทำเื่เช่นนั้นกับท่านอ๋องอยู่กระมัง เื่นั้นของเขาไม่มีปัญหาจริงหรือ? ของชุดนี้ของข้าใช้ดีจริงๆ นะ ไม่สู้ท่านซื้อไปให้ท่านอ๋องของท่านลองใช้เสียสักหน่อยเล่า”
ครั้งนี้เยว่เฟิงเกอเองก็มีสีหน้าดำคล้ำเหมือนก้นกระทะเช่นกัน
นางกดปุ่มบันทึกข้อความเสียง กล่าวขึ้นด้วยความโมโห “อย่าถามว่าข้าคือใคร ข้าจะฆ่าเ้า! ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้