ครั้งหนึ่งหวาจื่อเฉียงเคยสามารถทำให้กลุ่มแก๊งอันธพาลใต้ฟ้าทั้งเมืองหลินไห่รวมตัวกันเป็บริษัทซินเหลียนเซิ่งได้ เขาก่อตั้งอาณาจักรของอาชญากร กว้านซื้อโรงงานผลิตสารเคมีอันดับหนึ่งซึ่งถือเป็ก้าวสำคัญในแผนการอันยิ่งใหญ่ของเขา เนื่องจากเขาต้องซื้อวัตถุดิบสารเคมีในนามบริษัท ต้องติดตั้งอุปกรณ์นำเข้าเพื่อแปรรูปยา ต้องใช้อุตสาหกรรมบังหน้าเพื่อการปล่อยสินค้า พวกมันจึงนั่งอยู่บนกองเงินกองทองได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
น่าเสียดายที่ “เขื่อนซึ่งสร้างมาเป็พันลี้ กลับต้องพินาศลงด้วยความงี่เง่า” หวาจื่อเฉียงเพียรสร้างรากฐานขึ้นมาด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อตกถึงมามือตงชวนซึ่งเซลล์สมองหายไปอยู่ในกล้ามเนื้อจนหมดจึงมีแต่พังพินาศลง
การลงทุนของฟางซื่อเฉวียน นอกจากจะเป็การรวบถนนสายบาร์ทั้งเส้นแล้ว ยังเป็การฮุบตัวโรงงานผลิตสารเคมีซึ่งเป็ธุรกิจหลักจนต้องเปลี่ยนชื่อเ้าของอีกด้วย และนั่นก็คือเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมตงชวนถึงไม่มีวันยอม
สำหรับโรงงานผลิตยาเสพติดแห่งนี้ หวาจื่อเฉียงทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ ทางใต้ดินทอดยาว 30 เมตร ขนาดเท่ากับสนามบาสเกตบอลสองสนามรวมกัน นอกจากทางเข้าหลักแล้ว ก็ไม่มีทางเข้า-ออกอื่นอีกเลย
ที่นี่ควบคุมการผลิตยาโดยผู้เชี่ยวชาญสองสามคนโดยผลัดเปลี่ยนกะกัน ทุกสัปดาห์พวกเขาจะนำยาเข้ามาหนึ่งล็อต และนำออกไปหนึ่งล็อต ทำวนซ้ำๆ เช่นนี้ไป ไม่มีวันหยุด
แต่เพื่อวันนี้ ตงชวนได้ให้ผู้เชี่ยวชาญเ่าั้หยุดพักร้อน ในขณะที่เสิ่นิเปิดประตูโรงงานใต้ดินออก สิ่งที่เขาเห็นก็คือโต๊ะเหล็กขนาดยาว บนโต๊ะมีบีกเกอร์และหลอดแก้วทดลองซึ่งยังไม่ได้ทำความสะอาดตั้งอยู่ แถวมุมห้องมีเครื่องผสมสารเคมีซึ่งยังไม่หยุดทำงาน ยังมีกลิ่นยาฟุ้งลอยอบอวลอยู่ในอากาศ
แม้ว่าระบบระบายอากาศของที่นี่จะดีกว่าโรงงานผลิตสารเคมีขนาดเล็กหลายร้อยเท่า แต่ในขณะที่ปฏิบัติงาน ผู้เชี่ยวชาญเ่าั้ก็ยังคงต้องสวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันสารพิษอยู่ตลอด
ตงชวนนั่งอยู่บนโซฟาด้านในสุดของโรงงาน ในมือของเขามีบัตรเครดิตสำหรับ “บดผง” และ “ตัดแบ่ง” กรงซึ่งขังฟางหยวนอยู่นั้นตั้งอยู่ข้างๆ โซฟา
“แกนี่มันสุดยอดจริงๆ ต่อให้คนข้างนอกของฉันมันโง่เง่ามากขนาดไหน แต่ก็ยังสามารถเปิดประตูนิรภัยที่ฉันยอมจ่ายไปตั้ง 2 ล้านหยวนได้ ฉันคงต้องไปเรียกค่าเสียหายจากไอ้บริษัทเยอรมันนั่นซะแล้ว” ตงชวนเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นิพร้อมกับหัวเราะฮึๆ เขาลดศีรษะลงไปที่หลอด ก่อนจะ “สูดผง (คีตามีน) ”
“เ้านาย ให้ฉันจัดการเถอะ เพิ่มเงินให้ฉันสักหน่อยก็แล้วกัน” หลินฝานซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะยาวเด้งตัวขึ้นมา เขาสวมเพียงกางเกงยีนตัวเดียว ร่างท่อนบนเปลือยเปล่า อวดมัดกล้ามที่มันเงาภายใต้แสงไฟ
“นาย? ไหวเรอะ?” ตงชวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความรู้สึกล่องลอยเบาสบายเสียจนเขาอยากจะเอนกายลงบนโซฟา
เสิ่นิก้าวออกไปด้านหน้าโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ก่อนจะโดนหลินฝานขวางทางเอาไว้พอดี
“เ้ากระสอบทราย เจอกันอีกแล้วนะ คราวนี้ไม่มีนังขายาวนั่นมาช่วยแกอีกแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นเรามาดวลกันให้ครบยกกันเถอะ!” หลินฝานวอร์มร่างกายรอั้แ่แรกแล้ว เขาอยู่ในท่าเตรียมพร้อม
เขาเห็นว่าเสิ่นิหยิบปืนตะปูออกมาจากด้านหลัง ปุ! หลินฝานโดนยิงเข้าที่หลังฝ่าเท้า ตะปูทะลุลงไปที่รองเท้า ตอกเท้าเขาไว้กับพื้นคอนกรีต
“อ๊าก!!!” หลินฝานเจ็บจนร้องเสียงดังลั่น
“มีปืน ใครเขาใช้กำปั้นกัน? ซื่อบื้อ” เสิ่นิมองเขาอย่างเหยียดหยามก่อนจะยิงตะปูอีกดอกลงไปบนหลังเท้าของอีกข้าง
เห็นชัดๆ ว่านี่เป็การแก้แค้นของเสิ่นิ เพราะเขาปักตะปูอีก 4 ดอกที่เหลือลงหลังเท้าหลินฝานกับพื้นปูน เืสาดกระจาย
เสิ่นิทิ้งปืนตะปูลงข้างๆ ก่อนจะก้าวต่อไป เขาไม่แม้แต่จะมองตงชวน “ฟางหยวน ไม่เป็ไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็ไร” ฟางหยวนร้องไห้ปนหัวเราะ ไม่ใช่เพราะว่ามีคนมาช่วย แต่เป็เพราะเธอเห็นว่าเสิ่นิยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่เธอเห็นเสิ่นิตกลงไปในน้ำทะเล เธอคิดว่ามันเป็เพราะเธอ เขาถึงได้ตาย จิตใต้สำนึกของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“รอผมอีกเดี๋ยวนะ เดี๋ยวผมจะช่วยคุณออกมา” เสิ่นิสงบนิ่งราวกับกำลังคุยกันว่าเย็นนี้จะทานอะไร
“เป็แบบนี้อีกแล้ว โดนเมินอีกแล้ว...” ตงชวนซึ่งเอนกายอยู่บนโซฟากล่าวพลางหัวเราะอย่างเ็า เขาดูเหมือนยังลอยๆ จากฤทธิ์ยาอยู่ “แต่ก่อนจนถึงตอนนี้มันก็เป็แบบนี้แหละ ฉันเกิดมาตัวเล็ก ตอนเด็กเพื่อนก็ไม่เล่นด้วย ตอนเรียนหนังสือเพื่อนร่วมชั้นก็ไม่สนใจ เข้าแก๊งอันธพาลมา พี่น้องก็ไม่เห็นหัว ต่อมาคิดตีพิมพ์หนังสือ ก็ยังถูกพวกนักเขียนเมินอีก
ราวกับว่าผู้คนบนโลกใบนี้มองเห็นในระดับที่สูงกว่า 1 เมตร 58 เซนฯ ผู้ชายตัวเตี้ยอย่างฉันก็เลยทำอะไรไม่เคยเข้าตาใคร”
รอยยิ้มของตงชวนหยุดชะงักลง จู่ๆ ขาข้างหนึ่งก็ลอยขึ้นกลางอากาศ “ต่อมาฉันถึงได้รู้ว่า เป็อย่างนี้ก็ดี และแล้วก็ถึงเวลาที่ฉันจะเตะไข่พวกแก ฉันจะได้เห็นสีหน้าอันประหลาดใจและเ็ปที่สุดของพวกแก!”
ตงชวนยกขาขึ้นสูง เขาเตะผ่าโต๊ะกาแฟซึ่งทำมาจากไม้เนื้อแข็ง มันถูกแบ่งออกเป็สองส่วน ผงของยาเสพติดจำนวนมากลอยฟุ้งขึ้นไปในอากาศ ผงขาวมูลค่านับหมื่นหยวน ตงชวนแสยะยิ้มชั่วร้ายและลุกขึ้นยืน
“แกเชื่อว่าแกคนเดียวสามารถช่วยหล่อนได้อย่างนั้นเหรอ แต่ฉันเชื่อว่าในโลก 1.58 เมตรของฉัน ฉันสามารถฆ่าแกได้ มาเล่นเกมกันหน่อยไหมล่ะ? แกกับฉัน คนดีกับคนเลว สูงกับเตี้ย มาวัดกันดูว่าใครจะอยู่ ใครจะไป” ตงชวนกางแขนออกทั้งสองข้าง
“โทษที ฉันรีบ ไม่ว่างเล่นด้วย” เสิ่นิพูดพลางดึงมีดสองเล่มออกจากด้านหลัง ใบมีดสะท้อนแวววับ
“จริงเรอะ? น่าเสียดายนะ ยังคิดว่าน่าจะได้สนุก กันเสียอีก...” ตงชวนถอนหายใจพลางดึงรีโมตรถเก๋งขึ้นมา ก่อนจะกดมันเบาๆ
“อ๊าก!!!” ร่างของฟางหยวนชักกระตุกลงไปกองอยู่ในกรง
“เห็นปลอกคอสีดำบนคอของคุณหนูใหญ่นั้นไหม? ฉันให้ มันเป็ปลอกคอช็อตสุนัขที่ผลิตขึ้นในสหรัฐอเมริกา เดิมทีใช้เพื่อฝึกสุนัขไม่ให้เห่ามั่วซั่ว มนุษย์ช่างโเี้นัก ฉันก็เลยดัดแปลงมันเล็กน้อย เพิ่มแรงกำลังไฟฟ้าเข้าไปอีกนิด แกลองดูสิ!” ตงชวนกดปุ่มอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น ฟางหยวนถูกช็อตจนตาเหลือก
ในขณะนั้นเอง มีดทำครัวก็ฟันลงที่บริเวณข้อมือของตงชวน ชั่วพริบตาเดียวที่กำลังจะตัดลง ตงชวนกลับดึงมือกลับ ทำให้มีดทำครัวฟันลงกับด้านหลังของโซฟาพอดี
“เฉียดฉิว เกือบมือขาดซะแล้ว” ตงชวนทุบหน้าอกพลางกล่าว “ตอนนี้แกเข้าใจหรือยัง? ถ้าแกไม่เล่นกับฉัน ฉันเล่นเองก็ได้”
“เข้าใจแล้ว ในเมื่อแกอยากตายซะเหลือเกิน...” เสิ่นิยืนประจันหน้ากับตงชวนในระยะห่าง 5 เมตร เขาปลดชุดกันะุซึ่งทำขึ้นมาเอง กองอุปกรณ์กระจัดกระจายไปทั่วพื้น เสิ่นิสวมเพียงเสื้อกล้ามพอดีตัวเท่านั้น และมันยังเป็สินค้าลดราคาที่ถูกที่สุดใน Walmart อีกด้วย
“จริงเรอะ อย่างนั้นก็ดีสิ” ตงชวนยิ้มพลางถอดชุดสูทลายทาง เขาถอดถุงเท้า รองเท้าและกางเกงขายาว เขาปลดนาฬิกาเรือนทองและสร้อยงโยนไปที่ด้านข้าง แต่ยังคงเก็บแหวนทอง 8 วงไว้บนนิ้ว นอกนั้นก็มีกางเกงบ็อกเซอร์ของ CK แบบรัดรูป เผยให้เห็นร่างกายอันแข็งแกร่งผิดมนุษย์มนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่อนแขนทั้งสองข้างของเขานั้น ราวกับต้นขาของนักเพาะกาย
ไม่มีกติกา ไม่มีผู้ตัดสิน ไม่มีกระดิ่ง ไม่มีกำหนดเวลา การแข่งขันชกมวยได้เริ่มขึ้นแล้ว
ตงชวนเดินเข้าหาเสิ่นิอย่างเย็นใจ เขายืนห่างจากเสิ่นิในระยะสองฝ่ามือ สามารถรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของกันและกัน
“ใครก่อน?” เสิ่นิลดศีรษะลงถาม
“แกเป็ผู้มาเยือน ให้แกเริ่มก่อน” ตงชวนกล่าวยิ้มๆ
ดัชนีพิฆาต! ที่เสิ่นิเคยใช้จัดการกับเ้าหมีไกว้ ด้วยระยะห่างหนึ่งฝ่ามือก็เพียงพอที่จะใช้กำลัง 10 ส่วน เสิ่นิไม่เกรงอกเกรงใจ เขาพุ่งดัชนีพิฆาตไปที่หัวใจของตงชวน หากหมัดนี้เข้าเป้า ถ้าหัวใจไม่ะเิก็คงจะหยุดเต้น และจบเกมทันที
แต่ที่เสิ่นิใก็คือ หมัดนี้ทะลุทะลวงไปในอากาศแต่กลับไปไม่ถึงตัวเ้าเตี้ย
ตงชวนเหมือนผีขี้ขลาด เขาหมอบลงกับพื้น ขาข้างหนึ่งของเขาเตะไปที่เข่าของเสิ่นิ นั่นทำให้เสิ่นิล่าถอยไป 2 ก้าว
เ้าหมอนั่นไม่ยอมลุกขึ้น เขาโค้งเอียงลงกับพื้นโดยอาศัยข้อศอก สะโพก และขาด้านข้างรองรับน้ำหนักตัวไว้
“Brazilian Jiujitsu?” เสิ่นิหายใจเข้าลึกๆ เพื่อฟื้นฟูความเ็ปที่บริเวณหัวเข่า
“ความรู้ดีนี่ ยินดีต้อนรับสู่การต่อสู้” ตงชวนนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นพร้อมกับกวักมือเรียก รอยแผลเป็บนสันจมูกของเขาขยับขึ้นตามรอยยิ้ม อย่างกับว่าเขามีปากกว้างอีกปากหนึ่งซึ่งกำลังยิ้มอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“มา” เสิ่นิกวาดขาออกสู้ เขาวาดขาเหมือนกับการเตะลูกฟุตบอลอันอัปลักษณ์บนพื้น การเคลื่อนไหวบนพื้นของตงชวนนั้นยืดหยุ่นมาก เขาหลบซ้ายไปขวา หลีกเลี่ยงการโจมตีอันทรงพลัง ร่างกายพลิกหนีได้อย่างคล่องแคล่ว มีชีวิตชีวา
“เข้ามา! เร็วเข้าสิ! เร็วหน่อย!” ตงชวนกระตุ้น ทันใดนั้นเอง เสิ่นิที่กำลังกวาดขาไป กลับถูกตงชวนรวบข้อเท้าไว้แน่น
“เครื่องบดเนื้อ เริ่มปฏิบัติการ!” แววตาของตงชวนเป็ประกาย มุ่งหมายที่จะสังหาร ร่างของเขารัดขาของเสิ่นิไว้แน่นเหมือนกับงูเหลือม เขาถึงขั้นเกี่ยวขาขวาของเสิ่นิเอาไว้แน่น เหมือนกับหมีแพนด้าในท่ากลับหัว หากเขาใช้เวลาแค่เพียง 2 วินาที ก็จะสามารถหักขาขวาของเขาได้
แต่ปฏิกิริยาของเสิ่นินั้นว่องไวกว่า เขาหันไปทางด้านข้างโดยใช้ขาอีกข้างหนึ่งเหยียบลงบนโต๊ะเหล็กข้างกาย เขายืมแรงเหวี่ยงจากตงชวนและขาของตนเองยกตัวให้ลอยสูงขึ้นกลางอากาศประมาณ 2 เมตร เขางอเข่าข้างที่ถูกล็อกไว้และใช้เนื้อหนังของตงชวนเป็เสื่อ หมายจะกระแทกเขาลงกับพื้นคอนกรีตอย่างเต็มแรง
ตงชวนมีเวลาเพียง 0.4 วินาทีเพื่อที่จะเปลี่ยนท่า เ้าสัตว์ประหลาด Brazilian Jiujitsu กลับใช้พละกำลังจากขาทั้งสองข้างหนีบเอวของเสิ่นิเอาไว้ เปลี่ยนท่าทางของเสิ่นิ แล้วทั้งสองก็ล้มลงกับพื้นด้วยท่าทางที่แปลกประหลาด
ตงชวนคลายขาออกทำให้เท้าของเสิ่นิขยับถอยออกไปได้ 2 เมตร ก่อนที่เขาจะเริ่มขดตัวลงบนพื้นต่อ เสิ่นิซึ่งเืดำเกาไหลหยัดตัวขึ้น
นับว่าเสมอกันทั้งสองฝ่าย เสิ่นิรักษาขาขวาเอาไว้ได้ ส่วนตงชวนก็ไม่ถูกจับกระแทกพื้นจนตับไตไส้พุงทะลักออกมา
“ไอ้ตัวแสบ โหดใช้ได้นะ ใช้เทคนิคสังหาร แกเรียนวิชาต่อสู้มาจากสำนักไหน?” ตงชวนหอบอยู่บนพื้น
“ขุมนรก” เสิ่นิเช็ดเืกำเดาออกจากใบหน้า
“อย่างนั้นเรอะ? ถ้างั้นก็ให้ฉันได้ัักับรสชาติจากขุมนรกอีกสักครั้งหนึ่งเถอะ!” ตงชวนกวักมือเรียกเสิ่นิอีกครั้ง
เสิ่นิโน้มตัวไปข้างหน้า แต่ชายหนุ่มไม่ได้จู่โจม เขากลับวนรอบตัวตงชวน
ตงชวนซึ่งคอยระแวดระวังอยู่บนพื้นคล้ายกับงูก็ทำได้เพียงแต่เลื้อยตามร่างของเสิ่นิไป เขาหมุนรอบไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่สามารถรักษาท่าอันทรงมีประสิทธิผลต่อการต่อสู้โดยใช้เท้าเอาไว้ได้
เสิ่นิหยุดลงที่ด้านข้างของตงชวนอย่างกะทันหัน ก่อนจะพุ่งศอกใส่ศีรษะคู่ต่อสู้ ตงชวนไม่ได้ตามติดเสิ่นิอีกต่อไป เขาออกแรงยันตัวขึ้น 30 เิเ เสิ่นิหวังศอกเข้าไปที่หน้าอกของตงชวน แต่กลับถูกแขนทั้งสองของเ้าสัตว์ประหลาดตงชวนจับไว้ได้
“จับได้แล้ว” ตงชวนแย้มยิ้มกว้างอันชั่วร้ายขึ้นอีกครั้ง