โรงงานผลิตสารเคมีอันดับต้นแห่งเมืองหลินไห่เป็โรงงานขนาดใหญ่ซึ่งมีชื่อเสียง มีพนักงานมากกว่า 2,000 คน โรงอาหารกลางสามารถจุคนได้ถึง 600 คนในคราเดียว แต่ในขณะนี้กลับดูแออัดแน่นตาด้วยนักเลงหัวไม้จำนวน 100 กว่าคน
พวกมันถือปืนพก บ้างก็ถือมีดอีโต้ ท่อน้ำ จนกระทั่งไม้กันหมาซึ่งออกแบบเอง ทุกคนหันหน้าไปทางบานประตูไม้แบบเปิดออกทั้งสองด้านราวกับว่ากำลังรอที่จะออกรบ มีแค่หวังจงซึ่งแขวน M60 ไว้ที่ข้อมือ เขายืนอยู่ม้านั่งของโต๊ะอาหารที่ทำจากพลาสติกสำหรับสี่คนพร้อมยกอาวุธสังหารขึ้น
“ตึง! ตึง! ตึง!” รอได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจากด้านนอก หวังจงอดทนรอที่จะเหนี่ยวไกแทบไม่ไหว ปากกระบอกปืนขึ้นสัญญาณไฟเล็งเป้า ะุสาดไปที่ประตูอย่างบ้าคลั่ง ลูกสมุนก็เริ่มยิงตามเขาอย่างเมามัน
ประตูไม้บานใหญ่ถูกกระหน่ำจนเละ กำแพงด้านข้างพรุนไปด้วยรูะุ ตะกรันซีเมนต์ เศษไม้ ะุพุ่งใส่ทุกทิศทุกทาง
หวังจงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและเหนี่ยวไกไม่หยุด ปลอกะุถูกดีดออกจากตัวปืนตกลงที่ข้างเท้าเสียงดังกริ๊ง
หนึ่งนาทีนั้นราวกับภาพ Slow-motion ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ประตูนั้นเละและพรุนเสียยิ่งกว่ารังต่อ แต่ก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ ไม่ได้ล้มลง อยากจะรู้จริงๆ ว่าผลิตขึ้นจากโรงงานไหน?
เหล่ามือปืนเมื่อยิงเสร็จต่างก็พากันหอบหายใจ กลิ่นเขม่าดินปืนคละคลุ้งไปทั่วโรงอาหาร ปากกระบอกปืนของหวังจงแดงเพลิงเหมือนกับหัวแร้ง การที่ยิงออกไปมั่วซั่วแบบนั้น มีแต่จะทำให้ลำกล้องพังยับเยิน
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง...ตึง! ตึง! ตึง! เสียงเคาะดังขึ้นที่ด้านนอกอีกครั้ง?! ทุกคนอกสั่นขวัญแขวน ไอ้หมอนั่นมันเป็ Iron Man ในชุดเกราะหรือยังไง? ทำไมถึงยิงไม่เข้า?!
“เฮ้! แกน่ะ หมายถึงแกนั่นแหละ มองหาอะไร ไปเปิดประตู!” หวังจงเปลี่ยนะุพลางชี้นิ้วไปยังลูกน้องที่สีหัวทองคนหนึ่ง
“ผม?” หมอนั่นขาอ่อนแรง
“กลัวหาอะไร! ถ้ามันยังอยู่ตรงนั้น เราก็ระดมยิงไปอีก! ให้มั่นใจว่ามันตายแบบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด!” หวังจงคำราม
“ถ้าอย่างนั้นผมไม่โดนยิงจนพรุนไปด้วยเลยเหรอ?” หมอนั่นกลัวจนร้องไห้ เขานึกถึงคำสั่งสอนของแม่ขึ้นมา “ตั้งใจเรียนหนังสือ อย่าไปเป็อันธพาล”
หลังจากที่ทั้งแก๊งพากันกระตุ้น เ้าอันธพาลน้อยคนนั้นก็ได้แต่เดินตัวสั่นไปพร้อมกับปืนพก หัวใจของเขาเต้นเสียจนจะขึ้นมาถึงลำคอ เขาสั่นกระตุกไปทั้งตัวในขณะที่เปิดประตูไม้อันผุพังออก มันถือปืนกวัดแกว่งยิงสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ข้างนอกกลับไม่มีแม้แต่ขนสักเส้น
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง เ้าอันธพาลน้อยก้มศีรษะมอง ที่แท้มันก็คือโทรศัพท์มือถือที่เปิด App QQ ค้างอยู่ เสียงเคาะประตูนั่นเป็เสียงแจ้งเตือนว่ามีสมาชิก QQ กำลังออนไลน์อยู่
และเมื่อคนกลุ่มหนึ่งรู้ตัว ทว่าหลังคาโรงอาหารก็ได้ถูกเปิดโล่ง เงาทะมึนเคลื่อนตัวลงมาที่ด้านหลังของหวังจง ด้วยความเร็วเหนือเมฆ ขนาดโต๊ะพลาสติกที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าก็ยังสั่นะเืจนแตกเป็เสี่ยง
ในขณะที่ทุกคนเพิ่งจะได้สติ เสิ่นิก็มายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว ด้านหลังของหวังจงเอนพิงเขา โดยมีศีรษะหนุนอยู่ที่ไหล่ ต่างฝ่ายต่างก็เอาหลังพิงหนุนกันอยู่
ใช่ว่าพยัคฆ์เช่นหวังจงจะยอมโค้งให้กับเสิ่นิ แต่เป็เพราะมีดหั่นขนมปังที่ยาว 35 เิเ กำลังจ่อคอของเขาอยู่
รอยหยักของมีดหั่นขนมปังไม่แข็งเท่าไร เหมือนกับไม้บรรทัดอันบอบบาง แต่ใบมีดหยักนี้แหละที่คมอย่างลึกลับ ไม่ว่าจะหั่นขนมปังหรือว่าลำคอ รับรองได้เลยว่าาแไม่มีทางประสานกันได้แน่
“น้องชาย มีอะไรพูดจากันดีๆ ทำไมถึงต้องใช้มีดใช้ปืนด้วย?” หวังจงพิงอยู่ที่บ่าของเสิ่นิ จู่ๆ ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็หลังมือ
“ให้พวกมันวางปืนลง” เสิ่นิถือมีดด้วยหลังมือ เขากดมันลงไปที่ลำคอหวังจง เืค่อยๆ ไหลซิบออกมา
หวังจงแตกตื่นพร้อมทั้งะโร้อง “ทั้งหมดวางปืนลง!”
“ใครจะกล้าวาง? เ้านายตงชวนสั่งว่าไม่ให้ไว้ชีวิตหมอนี่ จัดการมันเดี๋ยวนี้!” เ้าโล้นซ่าคำรามด้วยความโมโห
“ข้าจะดูสิว่าใครกล้ายิง! ไอ้โล้น แกอยากได้ตำแหน่งอันดับหนึ่งของข้ามากสินะ ถึงขั้นจะลงมือกับข้าเชียวหรือ?!” หวังจงรู้จักกลอุบายของพวกนักเลงดี ตอนนั้นตัวเขาเองก็ใช้วิธีนี้กำจัดนักเลงมือหนึ่งทิ้งไปเหมือนกัน
“พี่จงพูดอย่างนั้นได้ยังไง เราเป็พี่น้องร่วมอุดมการณ์กัน และยังเป็ตัวแทนของเ้านายตงชวนอีกด้วยไม่ใช่หรือ? พวกเราก็แค่ทำตามคำสั่ง ถึงแม้ว่าพี่จะตาย แต่มันก็เป็การเสียสละเพื่อแก๊งเรา ฉันจะขอให้เ้านายจัดงานศพให้อย่างสมเกียรติ” โล้นซ่ากล่าวพร้อมกับเล็งปืนไปที่ศีรษะของเสิ่นิ มุมนี้สามารถเก็บได้สองศพภายในนัดเดียว
“อาเมน นี่แกลืม ‘ตัวหนังสือสองตัว’ บนหน้าผากเร็วเกินไปหน่อยไหม? จะให้ฉันบอกทุกคนที่นี่ไหมว่าฉันส่งของขวัญอะไรให้แก?” เสิ่นิยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางเคาะไปที่หน้าผากของตัวเอง
“แกคือ?!” โล้นซ่ากุมผ้าพันแผลที่หัว มันใจนพูดเสียงสั่น
“แกคิดว่าฉันหาที่นี่เจอได้ยังไงล่ะ?” เสิ่นิพูดพลางหยิบหน้ากากหุ่นตุ๊กตาไม้ขึ้นมาสวม ก่อนจะโยนมันทิ้งไปด้านข้าง
“แกนั่นเอง?!” โล้นซ่าพูดได้เพียงเท่านั้น มือที่ถือปืนอยู่สั่นเทา
“วันนั้นฉันถ่ายภาพสวยๆ เก๋ๆ ของแกเอาไว้เยอะมาก มันอยู่ในอีเมลฉัน มาๆๆ ยิงหัวฉันเลยสิ อีกสองวันอีเมลจะได้ถูกส่งไปที่สำนักข่าวบันเทิงรายสัปดาห์โดยอัตโนมัติ แกจะได้กลายเป็คนดังบนโลกอินเทอร์เน็ตแล้วนะ” เสิ่นิกล่าวพร้อมกับยิ้มแฉ่ง
“อย่ายิง! พวกแกบ้าไปแล้วหรือไง? มันมีตัวประกันอยู่!” จู่ๆ โล้นซ่าก็ระลึกถึงความเป็พี่เป็น้องขึ้นมาได้
แก๊งอันธพาลที่เตรียมจะสังหารยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความประหลาดใจ นี่เป็ครั้งแรกที่ได้รู้ว่าสามารถขู่คนต่ำช้าด้วยการใช้ตัวประกันได้?
“สหายตัวจ้อย เอาโทรศัพท์คืนมาซะ” เสิ่นิอมยิ้มพลางหันไปหาเ้าหัวทองที่ยืนอยู่หน้าประตู
เ้าหมอนั่นรอดพ้นจากชะตากรรมของการถูกยิงไปได้ มันกุลีกุจอยื่นให้ ตอนนี้เสิ่นิกลายเป็ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตมันไปแล้ว
“ตอนนี้ คุณหนูใหญ่ของฉันอยู่ที่ไหน?” เสิ่นิออกแรงกดมีดลงบนคอของหวังจง
“ฉันรู้! ฉันจะพาไป! ไปทางด้านหลัง! ไม่ใช่ๆ! ฉันหมายถึงไปข้างหน้าแก!” หวังจงทรยศองค์กรในแค่ไม่กี่นาที
ตลอดทางเดิน ภายใต้การจับตาดูจากอันธพาลทั้งฝูง เสิ่นิเดินไปยังตู้แช่แข็งใหญ่ภายในครัว
“แกเข้าไปไม่ได้ ประตูนี่เป็สมบัติสุดหวงที่เ้านายนำเข้ามาจากเมืองนอก ถ้าไม่มีรีโมตของเขา ใครก็เปิดมันไม่ได้” โล้นซ่าซึ่งยืนห่างออกไป 3 เมตรทางด้านหลังกล่าวเตือน
“เขาพูดถูก ด้านล่างคือโรงงานผลิตยาของพวกเรา นอกจากรีโมตของเ้านายแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ แล้วคนในนั้นก็ออกมาไม่ได้เหมือนกัน” หวังจงผู้ทรยศช่วยอธิบายโดยละเอียด
“จริงเหรอ?” เสิ่นิต่อสายหาเมาส์
เสียงตู้ดดังอยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะรับสาย “พี่ใหญ่ เวลาที่นั่นกับที่นี่ต่างกันนะ ผมหลับอยู่โอเคไหม”
“ช่วยฉันเปิดประตูหน่อย เดี๋ยวส่งรูปให้” เสิ่นิถ่ายรูปส่งไปให้
“ประตูนิรภัยแบบซ่อนเร้นรุ่น A86 ของบริษัทคีย์ประเทศเยอรมัน นี่มันคือรุ่นเก่าั้แ่เมื่อ 12 ปีที่แล้ว เปิดได้ด้วยรีโมตคอนโทรลเท่านั้น รุ่นใหม่ๆ ถึงจะมีฟังก์ชันเยอะหน่อย รองรับการสแกนม่านตา พี่อยู่ที่ไหนกันแน่ ไปเจอประตูแบบนี้ได้ยังไง?” เมาส์มองแค่เพียง 2 วินาทีก็ดูออก
“นายไม่ต้องสนใจหรอก มีวิธีเปิดที่ไม่ต้องใช้รีโมตไหม?”
“บริษัทคีย์มักจะมีรหัสลับๆ อยู่ มันเป็สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ เป็การป้องกันไม่ให้ลูกค้าเผลอล็อกตัวเองด้านใน หรือเกิดกรณีที่รีโมตเจ๊ง
แต่ว่าเ้ารหัสนี่อยู่ในระบบส่วนกลาง บริษัทเองก็ไม่เคยจะยอมรับว่ามีเื่ดังกล่าว
ผมต้องเจาะเข้าไปในระบบของพวกมันเพื่อเอารหัสออกมา น่าจะใช้เวลาสัก 2 นาทีได้” เมาส์เริ่มบรรเลงคีย์บอร์ดอย่างเมามัน “ใช่แล้ว ค่าบริการ 3 แสนหยวน ให้ส่วนลดในฐานะที่เป็คนคุ้นเคยกัน เหลือ 298,000 หยวน พี่จะโอนเข้าบัญชีหรือชำระเป็เงินสด?”
“ชำระบ้านป้าแกสิ อยากตายหรือไง?” เสิ่นิข่มขู่
“พี่ใหญ่ คนกันเองก็ส่วนคนกันเอง พี่ขู่ฉันแบบนี้ตลอดได้ที่ไหน? ตอนนี้ฉันกำลังช่วยพี่ทำความเดือดร้อนให้คนอื่นอยู่นะ ต่อให้พี่ไม่ฆ่าผม พอบริษัทคีย์รู้เข้าว่าผมไปขโมยรหัสของพวกเขามา เกิดเขาจ่ายเงินให้นักฆ่าเพื่อมาเก็บผมล่ะ นี่ผมก็เสี่ยงที่ช่วยพี่นะ จะให้ทำให้ฟรีๆ ตลอดเลยหรือไง?” เมาส์ถกด้วยเหตุผล
“ได้ ไว้ให้ทีหลัง เปิดประตูให้ก่อน” เสิ่นิหมดทางเลือก เขาได้แต่กัดฟันรับปาก
“ขอบคุณที่อุดหนุน” เมาส์ยิ้มพลางกดปุ่ม Enter “เรียบร้อย คราวนี้ก็ลง App ในมือถือ แล้วก็กดเปิดได้เลย”
สักพัก มือถือของเสิ่นิก็มีซอฟต์แวร์ปรากฏขึ้น Appถูกตั้งชื่อตั้งว่า “ในที่สุดพี่ก็จ่าย ฮ่าๆๆ” ...
ช่างเป็ชื่อที่แสนจะอัปลักษณ์ แต่เสิ่นิก็กดมัน
ตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ตรงหน้าเปิดออกจริงๆ นักเลงทั้งฝูงพากันตกอกใ
“รอฉันอยู่ข้างนอก อีกเดี๋ยวจะออกมาจัดการกับพวกแก” เสิ่นิเดินเข้าไปตามแสงสว่าง ในขณะที่ประตูกำลังจะปิด เขาก็ผลักหวังจงออก
มือปืนที่ตั้งท่ารอโอกาสรีบยิงสวนไปอย่างรวดเร็ว แต่ะุก็ยิงไม่เข้า กลับชิ่งไปทำคนของตัวเองาเ็แทน
“พี่เสร็จแน่ ทรยศองค์กร เ้านายเอาพี่ตายแน่” โล้นซ่าคว้าหวังจงไว้พร้อมกับกล่าวเตือน
“เอ็งสิเสร็จ อย่าคิดว่าข้าไม่ได้ยินนะ เ้าหมอนั่นกับเอ็งมีความหลังกัน ที่มันหาที่นี่เจอก็เพราะเอ็ง เราสองคนพี่น้อง เอ็งไม่พูด ข้าไม่พูด เื่นี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้น” หวังจงยิ้มเยาะ
“เอ๊ะ? ทำไมพี่เืออก พี่ทำกางเกงฉันเปียกไปหมดแล้ว!” โล้นซ่ากล่าวด้วยความใ
หวังจงยกมือซ้ายที่เหลือเพียงข้างเดียวของเขาขึ้นมา ก่อนจะพบว่าฝ่ามือของเขาได้หายไปแล้ว เืนั้นไหลพุ่งเป็สาย
“อ้า!!! ตายแน่ ตายแน่ๆ!” หวังจงร้องโหยหวนพลางกลิ้งตัวลงกับพื้น
“ก็บอกแล้วว่าจะเด็ดมืออีกข้างของแก จะให้ผิดคำพูดได้ยังไง?” หลังจากประตูปิดลง เสิ่นิก็โยนฝ่ามือที่เปื้อนเืข้างนั้นทิ้งไป ก่อนจะวิ่งตามทางยาวเข้าสู่ด้านใน
ที่ไม่มีใครสังเกตเห็นก็คือ เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งกำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือโรงงานผลิตสารเคมี บนนั้นมีชายวัยกลางคนสามคนซึ่งชุดในสมัยราชวงศ์ถังสีแดงเื พร้อมด้วยหญิงสาวอีกหนึ่งคน ด้านข้างของทุกคนล้วนมีกระเป๋าผ้าสักหลาดรูปร่างประหลาดๆ อยู่ ที่นั่งของนักบินก็มีชายหนุ่มอีกคนที่สวมชุดราชวงศ์ถัง เขากำลังเล่นเปียซึ่งเปียจนถึงเอวในขณะที่คุยโทรศัพท์ “พ่อเลี้ยง ผมกำลังไปที่นั่น วางใจเถอะ ซินเหลียนเซิ่งไม่ไว้หน้าตาเฒ่าเฝิง วันนี้ผมจะทำให้มันได้เห็นดี”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้