วางแผนประทุษร้ายสามีของตนเอง?
ซ่างกวนฟูเหรินกลอกตามองกูเฟยเยี่ยนก่อนจะกระซิบที่ใบหูของนางอีกครั้ง
กูเฟยเยี่ยนถึงได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ที่แท้เถ้าแก่เฉิงก็มีอุปนิสัยที่เมินเฉย ไม่มีความสนใจในเื่นั้นกับหญิงสาว ซ่างกวนฟูเหริน้ามีบุตรสาวทว่ามักจะหาโอกาสไม่ได้ ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ นางจึงทำได้เพียงวางแผนเช่นนี้ นาง้าใช้ยาเพื่อให้เถ้าแก่เฉิงให้ความร่วมมือ แต่ไม่ว่านางจะใช้ยาชนิดใด เถ้าแก่เฉิงก็รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมได้อย่างรวดเร็ว
“นังหนู ข้าเชื่อในยาของเ้า เ้ามียาที่ไร้สีไร้กลิ่นหรือไม่? ”
กูเฟยเยี่นนมองไปที่เถ้าแก่เฉิงอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ซ่างกวนฟูเหรินเดินมาอยู่ข้างหน้าของกูเฟยเยี่ยนเพื่อบดบังสายตาของนาง "นังหนู เ้าอย่ากลัวเขาเลย เปิ่นฟูเหรินไม่มีทางหักหลังเ้าแน่! "
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ฟูเหริน ท่านไม่กลัวว่าจะทำให้เขาโกรธหรือ? ”
ซ่างกวนฟูเหรินยิ้มแย้ม “เปิ่นฟูเหรินอยู่กับเขามาเกือบยี่สิบปีแล้ว ถ้าวันใดข้าไม่ยั่วอารมณ์เขา ร่างกายข้าก็จะรู้สึกอึดอัดไปหมด! ”
กูเฟยเยี่ยนลอบคิดว่านี่ใช่สามีภรรยาเสียที่ไหน นี่มันศัตรูคู่แค้นกันชัดๆ ทว่าสิ่งที่ทำให้นางสงสัยยิ่งกว่าเดิมก็คือภูมิหลังของเถ้าแก่เฉิง บุรุษที่ทำให้คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลป้อมปราการซ่างกวนยินยอมพร้อมใจติดหนึบเช่นนี้ได้ ฐานะเดิมของเขาคืออะไรกันแน่ เขามีภูมิหลังแบบใดกัน!
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกสงสัย ซ่างกวนฟูเหรินคิดว่านางจะไม่เห็นด้วยจึงกล่าวว่า “นังหนู แค่คิดว่าเปิ่นฟูเหรินเป็หนี้บุญคุณเ้าหนึ่งครั้ง ในอนาคตหากเ้ามีปัญหา ถ้าใช้นามของเปิ่นฟูเหรินกับหอการค้าเสวียนคงได้ เ้าเอ่ยออกมาได้เลย! ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนก็เปล่งประกายขึ้น หญิงสาวจึงเอ่ยถามตามตรง "ยาหนึ่งเม็ดเท่ากับหนี้บุญคุณหนึ่งครั้ง? "
ซ่างกวนฟูเหรินรู้สึกประหลาดใจมาก "เ้ามียากี่เม็ด? "
กูเฟยเยี่ยนหยิบขวดออกมาจากแขนเสื้อทันที “พิษนี้ไร้สีไร้กลิ่น ละลายในน้ำ ความเป็พิษอยู่ในระดับปานกลาง พิษจะออกฤทธิ์หลังจากที่ทานยาไปหนึ่งชั่วยาม ขวดนี้มียี่สิบสามเม็ด”
หญิงสาวหยิบขวดถัดไปออกมา “พิษนี้ไร้สีไร้กลิ่นเช่นกัน แต่ว่าความเป็พิษรุนแรงมาก ต้องระวังไว้ให้ดี! ขวดนี้มีสิบเม็ด”
นางหยิบขวดอื่นออกมาอีกครั้ง “พิษนี้รุนแรงที่สุด ถ้าไม่ระวังจะอันตรายถึงชีวิต จะใช้หรือไม่ท่านไปคิดเอาเอง ขวดนี้มีสิบเม็ดเช่นกัน”
ซ่างกวนฟูเหรินตะลึงงันแล้ว นางนึกว่ากูเฟยเยี่ยนจะมียาเช่นนี้เพียงแค่สองถึงสามเม็ดเท่านั้น นางคิดไม่ถึงว่าจะมีมากมายถึงเพียงนี้! การที่นังหนูตัวน้อยผู้นี้พิษเช่นนี้ถือเป็เื่ที่น่าเหลือเชื่อแล้ว ทว่านังหนูผู้นี้กลับมีเยอะมาก! นางพกยาเหล่านี้ทำไมกัน?
ซ่างกวนฟูเหรินมองกูเฟยเยี่ยนด้วยความชื่นชมอีกครั้ง นางพบว่าตนเองประเมินนังหนูผู้นี้ต่ำไป นังหนูผู้นี้ร้ายกว่านางในวัยสาวหลายเท่า!
ทว่านางชอบมาก! ชอบมากเหลือเกิน!
ซ่างกวนฟูเหรินยิ้มอย่างคลุมเครือ “นังหนู ไม่นึกเลยว่าเ้าจะพกยาติดกายไว้มากถึงเพียงนี้ ไม่ธรรมดาเลย! ฮ่าๆ ในวันข้างหน้าผู้ที่ได้แต่งงานกับเ้าถือเป็ความโชคดีของคนผู้นั้น!”
แน่นอนว่ากูเฟยเยี่ยนเข้าใจในคำพูดคลุมเครือของซ่างกวนฟูเหริน ใบหูของนางแดงมากเหลือเกิน อันที่จริงนางยังพกพิษชนิดอื่นติดกายไว้อีกมากมาย ซ่างกวนฟูเหริน้าเพียงแค่สิ่งนี้ นางจึงนำออกมาแค่ชนิดนี้
ซ่างกวนฟูเหรินรับยามาทั้งหมดสามขวดพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นังหนู ถ้านับตัวยาเป็เม็ดๆ เช่นนั้นหนี้บุญคุณเกรงว่าจะนับไม่หมดแล้ว! ถ้าเ้ายินยอม คราวหน้าก็เรียกข้าว่าน้าเฉิง ถ้ามีอะไรก็สามารถพูดมาได้เต็มที่เลย! ”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนคิดว่าการเดินทางในครั้งนี้สมบูรณ์แบบแล้ว ทว่าบัดนี้มีความสนิทสนมส่วนตัว ถึงแม้ว่าจะเป็ความสนิทสนมที่ไม่อาจบอกกล่าวแก่ผู้อื่นได้ แต่นางก็พอใจเป็อย่างยิ่งแล้ว
หลังจากที่กล่าวอำลาเถ้าแก่เฉิงกับซ่างกวนฟูเหรินเรียบร้อย พวกเขาก็ก้าวขึ้นรถม้าไป กูเฟยเยี่ยนมีความสุขมาก ครั้นคิดว่าเถ้าแก่เฉิงที่สุขุมและเยือกเย็นเช่นนี้จะถูกซ่างกวนฟูเหรินรังแก นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
จวินจิ่วเฉินกับเหมยกงกงมองกูเฟยเยี่ยนด้วยความประหลาดใจ โดยเฉพาะจวินจิ่วเฉินที่อารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก เมื่อเห็นว่านางอารมณ์ดีถึงเพียงนี้ อารมณ์ของเขาจึงไม่ดีมากขึ้นไปอีก
รถม้าเคลื่อนตัวไปไกลแล้ว แต่เถ้าแก่เฉิงกับซ่างกวนฟูเหรินยังคงยืนส่งอยู่หน้าประตู
ซ่างกวนฟูเหรินกล่าวอย่างจริงจังว่า “ภูมิหลังของผู้คุ้มกันคนนั้นน่าจะยิ่งใหญ่กว่านังหนูคนนั้น หมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์...เกรงว่าน่าจะเป็คนในราชวงศ์แห่งอาณาจักรเทียนเหยียน ทว่านังหนูคนนั้น...เป็ใครกัน? นางไม่เหมือนคนรับใช้”
เถ้าแก่เฉิงไม่พูดอะไร ซ่างกวนฟูเหรินคล้องแขนเขาพลางหัวเราะออกมา “ไม่ว่าพวกเขาจะเป็ใคร การค้าขายในครั้งนี้พวกเราก็ทำกำไรได้แน่ๆ อีกทั้งการคบค้าสมาคมกับคนหนุ่มสาวมีความน่าสนใจมาก! ข้าชอบนังหนูคนนั้นมาก! เ้ากลับไปกำชับสยงเฟยด้วยนะ ให้เขาพยายามให้ดีที่สุด ทางด้านของหัวหน้าผู้ดูแลนั้น ไม่จำเป็ต้องรักษาหน้าตระกูลซ่างกวน ไม่ต้องเกรงใจ! ”
เถ้าแก่เฉิงพยักหน้าก่อนจะเอ่ยว่า "นิสัยของนังหนูคนนั้น...คล้ายกับคนผู้หนึ่ง"
ซ่างกวนฟูเหรินอารมณ์ดีมาก นางยิ้มแย้มโดยไม่ได้สนใจมากนัก "ใครกัน? "
เถ้าแก่เฉิงไม่ได้ตอบในทันทีราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็พึมพำออกมา “คล้ายเ้านายของข้า…”
ซ่างกวนฟูเหรินตื่นใพลางรีบร้อนเอ่ยถาม “นางจะใช่คนที่อวิ๋นเสียนเก๋อกำลังตามหาหรือไม่? ”
เถ้าแก่เฉิงไม่ได้ตอบแต่กล่าวเสริมว่า “นิสัยคล้ายกันมาก คิ้ว...ก็ค่อนข้างคล้ายกันด้วย”
ซ่างกวนฟูเหรินเริ่มจริงจัง “ข้าจะรีบส่งคนไปตรวจสอบพวกเขาทันที! ”
เถ้าแก่เฉิงยกมือขึ้นมาขวางเอาไว้ “อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ในเมื่อพวกเขาเป็คนของหมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์ ให้สายสืบในเมืองจิ้นหยางไปสืบความก็พอแล้ว ในเมื่อพวกเขาไม่ใช่คนที่ข้าตามหา ข้าก็หวังว่าพวกเขาจะไม่ใช่ศัตรู”
ซ่างกวนฟูเหรินสงบสติอารมณ์ลงพลางถามว่า "ถังจิ้งตามสืบคุณหนูใหญ่ของตระกูลกู นางค้นพบหรือไม่? "
เถ้าแก่เฉิงถอนหายใจเบาๆ "นางไม่มีปาน ถูกตัดรายชื่อออกแล้ว"
เถ้าแก่เฉิงเป็สมาชิกขององค์กรลึกลับอย่างอวิ๋นเสียนเก๋อเช่นเดียวกับถังจิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าหอการค้าเสวียนคงจงรักภักดีต่ออวิ๋นเสียนเก๋อ สำหรับพวกเราแล้วการค้าขายเป็เื่รอง การตามหาคนเพื่อมาล้างแค้นถึงจะเป็เื่หลัก ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของปิงไห่ในครั้งนั้น
มีเพียงแค่กลุ่มภายในของพวกเขาที่ทราบว่าพวกเขากำลังตามหาผู้ใดและ้าล้างแค้นในเื่ใด แม้แต่บิดาของซ่างกวนฟูเหรินที่เป็หัวหน้าตระกูลป้อมปราการซ่างกวนยังไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของอวิ๋นเสียนเก๋อ ทว่าซ่างกวนฟูเหรินทราบดี และทราบว่าในเื่นี้สามีของตนเชื่อใจคนของอวิ๋นเสียนเก๋อเท่านั้น เขาไม่เชื่อใจผู้ใดนอกเหนือจากคนในกลุ่มนี้ ใจของนางอยู่ข้างสามี นางจึงไม่กล้าเปิดเผยให้คนในตระกูลมารดารับรู้
เนื่องจากผู้คนในดินแดนแห่งนี้ต่างก็หวาดกลัวปิงไห่ ทว่าผู้คนก็้าสืบค้นความลับของปิงไห่!
เงาด้านหลังของรถม้าหายไปในระยะไกล เถ้าแก่เฉิงจึงหันกลับเข้าไปในห้อง ทว่าซ่างกวนฟูเหรินกลับลูบยาพิษที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อพลางบ่นพึมพำ “นังหนู ไม่ว่าเ้าจะเป็ใคร เ้าก็อย่าได้เป็ศัตรูของอวิ๋นเสียนเก๋อเลย ไม่เช่นนั้น ยาที่เ้าให้น้าเฉิงมาทั้งหมดนั้น จะต้องถูกส่งคืนกลับไปให้เ้า!
ทันทีที่กลุ่มของกูเฟยเยี่ยนกลับมาถึงโรงเตี้ยม พวกเขาก็เห็นหัวหน้าผู้ดูแลซ่างกวนคอยอยู่หน้าประตู เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าผู้ดูแลยังไม่ทราบว่าตนเองกำลังถูกตรวจสอบ
การที่หัวหน้าผู้ดูแลมาในครั้งนี้ยังคงเป็เพราะ้าประสานงานการค้าขายสุราสมุนไพรตัวนั้น กูเฟยเยี่ยนไม่ได้แหวกหญ้าให้งูตื่น นางยังคงผัดวันประกันพรุ่งเรื่อยๆ และบังเอิญเหลือเกินที่หัวหน้าผู้ดูแลออกไปได้ไม่นาน สยงเฟยที่เป็ผู้รับผิดชอบการตรวจสอบก็มาถึง
หลังจากที่สยงเฟยสอบถามชัดเจนแล้ว เขาจึงเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เถ้าแก่กู้ หากท่านมีเวลาว่าง ท่านน่าจะอยู่ในเมืองลั่วเสียอีกสักหน่อย รอให้ตรวจสอบหัวหน้าผู้ดูแลเรียบร้อยเเล้วและคืนสามแสนเหรียญทองให้ท่าน ท่านค่อยกลับไปก็ไม่สาย เมื่อสักครู่นี้ข้าน้อยสั่งการลงไปตามที่เถ้าแก่เฉิงกำชับเอาไว้แล้ว วัตถุดิบที่ท่าน้าไม่ว่าจะมากน้อยเพียงใด กรรมการบริหารทั้งสองท่านที่คอยดูแลสมุนไพรกับเสบียงอาหารจะพยายามให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่! ”
แน่นอนว่ากูเฟยเยี่ยนจะรอ นางเปิดใบสั่งซื้อทันที โดยที่ขอข้าวฟ่างกับกรรมการบริหารร้านเสบียงอาหาร และขอสมุนไพรกับเวินจื่อเจี๋ยของร้านสมุนไพร กูเฟยเยี่ยนนำใบสั่งซื้อมอบให้สยงเฟยเพื่อให้เขาช่วยส่งมอบไปให้กับกรรมการบริหารทั้งสอง
ทันทีที่สยงเฟยจากไป กูเฟยเยี่ยนกับเหมยกงกงมีความปีติยินดีมาก หญิงสาวหันไปมองจวินจิ่วเฉินพลางหัวเราะออกมา ทว่าจวินจิ่วเฉินดูเหมือนว่าจะไม่ดีใจเลย ชายหนุ่มเอ่ยด้วยใบหน้าที่เ็า “ศาสตราจารย์แพทย์กู เหมยกงกง เื่ต่อจากนี้จะต้องฝากพวกเ้าแล้ว เปิ่นหวางมีเื่ส่วนตัว ดังนั้นจะต้องแยกไปก่อน”
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจมาก ทว่าเหมยกงกงนั้นทราบดี การเดินทางในครั้งนี้เตี้ยนเซี่ยจะเสด็จลงสู่ปิงไห่ทางใต้ ก่อนที่จะออกจากพระราชวัง ฝ่าาตรัสเอาไว้แล้ว