ด้านนอกพรรคเทพหมาป่า์ ภายในป่าทึบ!
หวังเค่อถือลูกปัดโหยหาเอาไว้
เดินบุกป่าฝ่าดงไม่ลดละ
“หวังเค่อ เ้าเดินผิดทางรึเปล่า? ป่าเขาแบบนี้จะหาองค์หญิงโยวเยว่เจอแน่นะ?” จางเจิ้งเต้าบ่นกระปอดกระแปด
“นี่ทางลัดที่สุดแล้ว แค่รู้ทิศทางได้ก็บุญโข
จะไปมีถนนหนทางกว้างขวางโอ่อ่าจากที่ไหนให้เดิน รอพ้นเขตพรรคเทพหมาป่า์ก่อน
เ้าค่อยใช้กระบี่บินตามหา!” หวังเค่อขมวดคิ้วเอ่ยเสียงเคร่ง
“ได้! แต่ข้าสังหรณ์พิกล
รู้สึกเหมือนถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา!” จางเจิ้งเ้าสีหน้าไม่น่าดู
“พวกเราสภาพนี้ยังมีใครจำได้อีก? จะถูกคนจับตาได้ยังไง?” หวังเค่อเอ่ยอย่างไม่พอใจ
หน้าตาของหวังเค่อตอนนี้ตะปุ่มตะป่ำด้วยรอยสิว
ส่วนทักษะการแต่งหน้าอันอุจาดั์ตาของจางเจิ้งเต้ายังจะมีใครจำได้อีก? แม้แต่แม่แท้ๆ ของมันยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ!
“ก็จริงแฮะ เ้าดูข้างหน้านั่น!”
จางเจิ้งเต้าเอ่ยกระซิบ
ที่เห็นกลับเป็บุรุษสองคนถือมีดดาบยืนเหยียบยอดไม้สองต้นอยู่
ทอดสายตาเ็ามองมายังหวังเค่อทั้งสอง
มีคนขวางทางจริงๆ?
“ดูอะไรนักหนา? ไม่รีบแล้วหรือไง?
ข้างหน้ามีอะไรที่ไหน ตาเ้าฟางแล้วล่ะมั้ง? ไปๆ!”
หวังเค่อหันมาตวาด
จางเจิ้งเต้าถอยหลังก้าวหนึ่ง หวังเค่อไอ้ตาบอด? ไม่เห็นคนที่อยู่บนต้นไม้นั่นรึไง?
หวังเค่อไม่สนใจ ยังคงก้มหน้าก้มตาเดินต่อ
ไม่เห็นหรือ? ก็ต้องเห็นอยู่แล้ว!
แต่มองเห็นก็ไม่จำเป็ต้องพูดออกมานี่หว่า ไม่แน่ว่าพวกนั้นไม่ได้มาหาเ้าซะหน่อย?
ทำท่าตื่นตูมเดี๋ยวมันก็มาหาหรอก? พวกเราสองคนตอนนี้ดูมีเกียรติปานไหน
ใครมันจะจำได้?
จางเจิ้งเต้าเข้าใจความนัยอย่างรวดเร็ว
มันผงกศีรษะทันที “ใช่ๆ ไม่เห็นมีอะไรเลย ไม่มีอะไรทั้งนั้น!”
ทั้งสองเร่งฝีเท้าผ่านต้นไม้สองต้นด้านหน้า
ทว่า เพิ่งวิ่งผ่านไปได้ไม่นาน
ที่ด้านหน้าดันมีชายฉกรรจ์อาวุธครบมือโผล่มาห้าคนขวางทางหวังเค่อไว้
“ฮ่าฮ่า หวังเค่อ จางเจิ้งเต้า? ไม่เจอกันนานเลยนะ?” บุรุษที่นำหน้าเอ่ย
มันเรียกชื่อหวังเค่อกับจางเจิ้งเต้าออกมางั้นหรือ? หวังเค่อสีหน้าเปลี่ยนทันควัน
ไม่น่า ทำไมพวกมันถึงมองรูปโฉมแปลงของมันออกล่ะ?
“จาง จางเสินซวี?” จางเจิ้งเต้าหน้าเปลี่ยนสี
อ้าปากเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างยากลำบาก
จางเสินซวีที่ถือป้ายประกาศิตเทพอีกาทองคำเมื่อคราก่อน
สุดท้ายถูกทั้งจางเจิ้งเต้าและหวังเค่อใช้อุบายจนพรรคเทพหมาป่า์เรียกสายฟ้ามาเล่นงานมันเสียน่วมที่นอกประตูพรรคเทพหมาป่า์ด้วยความเข้าใจผิด
ยามนี้ อาการาเ็ของมันหายดีแล้ว
จึงพาคนมาขวางทางคนทั้งคู่
ไม่เพียงห้าคนด้านหน้า
ยังมีอีกสิบห้าคนที่ยืนประจำตามต้นไม้ ล้อมหวังเค่อและจางเจิ้งเต้าเอาไว้
“ท่านเซียนทั้งหลาย จำคนผิดไปหรือไม่?” หวังเค่อรีบออกปาก
จางเสินซวีที่ตรงหน้าหรี่ตามองหวังเค่อและจางเจิ้งเต้าที่หน้าตาบาดจิต
ตนเองเคยพลาดท่าให้ไอ้สองวิปริตนี่จริงหรือ? อัปยศที่สุด!
“ศิษย์พี่ พวกมันนี่แหละ
ครั้งก่อนจางเจิ้งเต้าปลอมตัวได้บาดตาข้ามาก ข้ามองปราดเดียวก็ดูออก!”
“หวังเค่อ จางเจิ้งเต้า? ฮ่าฮ่าฮ่า
พวกเราเฝ้ามาสองวัน พวกมันก็เสนอหน้าออกมาจากเขา? แถมยังปลอมตัวเหมือนเดิมเป๊ะ
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“พวกมันออกประตูมา พวกข้าก็จดจำได้ทันที ฮ่าฮ่า
แถมยังหลบเข้ามาในป่านี้อีก จะมีอะไรเลิศไปกว่านี้!”
.........
.........
......
......
...
...
ศิษย์พรรคอีกาทองคำแค่นเสียงเย้ย ชัดเจนว่าครั้งกระโน้นทั้งสามคนถือป้ายประกาศิตอีกาทองคำเบิกทางมาพรรคเทพหมาป่า์
ก็ใช้รูปโฉมนี้ในการเดินทาง ตอนนี้กลายเป็ช่องโหว่รูเบ้อเริ่ม
จางเสินซวีในชุดขาวเอ่ยเสียงเย็น
“เนี่ยเทียนป้ากล่าวไม่ผิด ไม่นานเ้าก็จะออกมาจากพรรคเทพหมาป่า์ เหอะ
ต้องให้ข้ารอ!”
“เนี่ยเทียนป้า? มันยังไม่ตาย?”
หวังเค่อสะดุ้งโหยง
เป็ไปไม่ได้
ไม่ใช่ว่าวัดสะกดมาระเิวันนั้นมันก็ตายไปแล้วหรือ? แถมจางเจิ้งเต้ายังขุดหลุมฝังศพมันกับมืออีกด้วย!
“ใช่ พวกเราเพิ่งมาจากเมืองจูเซียน หึ
ทีแรกคิดว่าพวกเ้าจะซุกหัวอยู่แต่ในพรรค
ดังนั้นแวะไปเก็บดอกเบี้ยที่เนี่ยเทียนป้าก่อน
แต่มันกลับรับประกันด้วยชีวิตของคนทั้งตระกูลว่าพวกเ้ากำลังจะออกมาจากพรรค
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า หวังเค่อ จางเจิ้งเต้า วันนี้เ้าจะหนีไปไหนอีก?” จางเสินซวีอาฆาตเสียงเย็น พัดขาวในมือสะบัดโบก
“ชิ้ง!”
ศิษย์พรรคอีกาทองคำที่ล้อมพวกมันอยู่ชักดาบออกมาโดยพร้อมเพรียง
รังสีฆ่าฟันทรงพลังพุ่งเข้าใส่คนทั้งคู่
“ดวงธาตุทองคำ? แปดคน?”
หวังเค่อหน้าเปลี่ยนสี
“เอื้อก!”
ทันใดนั้น
กระบี่ยาวเล่มหนึ่งก็พาดบนลำคอของหวังเค่อ
จางเสินซวีและหวังเค่อต่างสะดุ้งโหยง
กระบี่ยาวเล่มนั้นเป็ของจางเจิ้งเต้า
“พี่เสินซวี ข้าเคยปลอมเป็ท่าน
แถมยังใส่ความท่าน ทั้งหมดเป็แผนการของตัวบัดซบหวัง ไม่เกี่ยวกับข้าทั้งสิ้น
ข้าเดาไว้แล้วว่าหวังเค่อตัวบัดซบก่อกรรมทำเข็ญฟ้าพิโรธมนุษย์โกรธกริ้ว
สักวันต้องโดนกรรมสนอง ข้าพาตัวมันออกมาเอง ตอนนี้ข้าช่วยจับตัวมันมาให้ท่านแล้ว
อยากฆ่าก็ฆ่า ทั้งหมดแล้วแต่ท่านตัดสินใจ” จางเจิ้งเต้าะโออกมาทันควัน
จางเสินซวี “…!”
ศิษย์พรรคอีกาทองคำ “…!”
พวกมันไหนเลยจะคาดอีกฝ่ายจะพลิกหน้าลงมือก่อนพวกมันอีก? สรุปสองตัวนี้มันเป็สหายหรือศัตรูกันแน่?
“จางเจิ้งเต้า เ้าขายสหายเพื่อลาภยศ
สับปลับไร้คุณธรรม!” หวังเค่อถลึงตา
“ไม่ พี่หวัง ท่านตายคนเดียว
ยังไงก็ดีกว่าพวกเราตายด้วยกันทั้งคู่ไม่ใช่หรอ!?” จางเจิ้งเต้าโต้
“พี่เสินซวี แค้นมีเป้า หนี้มีเ้าของ
ท่าน้าหวังเค่อ ข้าก็ช่วยท่านจับมันไว้แล้ว!”
จางเจิ้งเต้าพาร่างหวังเค่อไปด้านหน้า
บรรดาศิษย์พรรคอีกาทองคำต่างมองหน้ากันไปมา
ไม่ทราบสมควรทำอย่างไรไปชั่วขณะ ก่อนจะเบนสายตาไปหาจางเสินซวีโดยพร้อมเพรียง
จางเสินซวีก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง
กระทั่งจางเจิ้งเต้าพาตัวหวังเค่อมาถึงด้านหน้า
“ลงมือ!” จางเจิ้งเต้าตวาด
ทันทีที่กล่าว มันก็ถลันเข้าหาจางเสินซวี
จางเสินซวีแค่นเสียงเย็นคำหนึ่ง โบกพัดในมือออก
“ตูมมม!”
เสียงดังกึกก้อง
การลอบโจมตีกะทันหันของจางเจิ้งเต้าถูกปัดออกโดยทันที
คนปลิวลิ่วกระอักเืกลางอากาศ
“พี่หวัง ไอ้ตอแหล ไหนว่าจะช่วยกันไง
เ้าทำไมไม่ลงมือ? พรวด!” จางเจิ้งเต้าร่วงลงพื้น
“ชิ้ง!”
กระบี่ยาวสารพัดพาดบนลำคอของจางเจิ้งเต้าทันที
จางเจิ้งเต้าถูกจับแล้ว
“ใช้สมองหน่อยสิ จางเจิ้งเต้า ลูกไม้ตื้นๆ
ของเ้า พี่เสินซวีมีหรือจะมองไม่ออกน่ะ? สมน้ำหน้า!” หวังเค่อเยาะเย้ย
จางเสินซวีที่ห่างออกไปหน้าแข็งค้าง
เมื่อกี้ตนเองมองไม่ออกโดยแท้ มันคิดว่าจางเจิ้งเต้าผู้นี้ขายสหายหวังลาภยศจริง
หากมิใช่ว่าตนเองมีพลังฝึกปรือแก่กล้า เมื่อครู่คงถูกจัดการไปแล้ว
“เฮอะ จางเจิ้งเต้า
รับบทเรียนที่กล้าตบตาข้าซะเถอะ!” จางเสินซวีคาดโทษเสียงเยียบเย็น
“พี่เสินซวี ช่างมันเถอะ
ลูกไม้หลอกเด็กเช่นนี้ท่านมองออกแต่แรก อย่าได้คิดบัญชีกับมันเลย
ถือว่าเห็นแก่หน้าข้าเถอะ!” หวังเค่อสืบเท้าไปเบื้องหน้าพลางกล่าว
“เห็นแก่หน้าเ้า? เ้าถือเป็ตัวอะไร?
หวังเค่อ วันนี้ข้ามาล้างแค้น!” จางเสินซวีเค้นเสียง
ขณะเดียวกัน จางเสินซวีเองก็ระแวดระวังตัว
เพราะเ้าคนทั้งสองตรงหน้ามันนี้ดูท่าทางพิลึกพิลั่นมีอาถรรพ์
เมื่อครู่จางเจิ้งเต้าก็ลอบลงมือ ตอนนี้เ้าก็จะลอบโจมตีข้าอีกงั้นหรือ?
“ข้าเป็ตัวอะไร? อาจารย์ของข้าคือเฉินเทียนหยวน
ท่านคิดฆ่าข้าจริงๆ? มา มาฆ่าข้าเลยสิ ฆ่าศิษย์ของเฉินเทียนหยวนเลย
นี่ไม่ต่างจากเขียนจดหมายท้ารบกับพรรคเทพหมาป่า์
พวกเ้าคิดสุมหัวรวมกับพวกพรรคมารงั้นหรือ?” หวังเค่อพ่นวาจา
สีหน้าของจางเจิ้งเต้าบนพื้นแปรเปลี่ยนกลับกลาย
ด่าทอออกมาทันที “เมื่อก่อนร่วมมือกันเป็ปี่เป็ขลุ่ย จับโจรต้องจับหัวหน้า
ข้าว่าแล้วว่าทำไมวันนี้เ้าไม่ทำเหมือนเคย ที่แท้ก็มีคนหนุนหลังสินะ
เ้ารู้แต่แรกว่าพวกมันไม่กล้าฆ่าเ้า ถึงได้ไม่ยอมร่วมมือกับข้า? เ้า เ้า
เ้าไม่บอกข้าซักคำ เ้าหลอกข้ามาตายแทน!”
จางเจิ้งเต้ายามนี้หน้าดำดุจก้นหม้อ
เ้าหวังเค่อผู้นี้เลวร้ายเกินเยียวยาแล้ว
“ศิษย์เฉินเทียนหยวน? เ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่า?”
จางเสินซวีเอ่ยเสียงเย็น สืบเท้าไปก้าวหนึ่ง
“บนโลกนี้ไม่มีกำแพงไร้รอยต่อ
อาจารย์ของข้าไม่ว่าอย่างไรต้องตรวจสอบจนรู้ความจริงจนได้ เอาง่ายๆ
พวกศิษย์พรรคเ้าพวกนี้ เ้ากล้ารับประกันไหมว่าพวกมันปากไม่รั่ว? กล้าประกันไหมว่าในวันหน้าพวกมันไม่มีทางพูดออกมา? นอกจากเ้าจะฆ่าปิดปากคนทั้งหมด!”
หวังเค่อชี้กวาดไปยังศิษย์พรรคอีกาทองคำที่รายล้อมอยู่
สีหน้าของบรรดาศิษย์อีกาทองคำกลายเป็แข็งค้าง
เ้ากำลังคิดโยกคลอนความสัมพันธ์ของเรากับจางเสินซวี?
แน่นอน สีหน้าจางเสินซวีเองก็เปลี่ยนเป็หม่นทะมึน
เพราะแม้ว่าศิษย์กลุ่มนี้จะซื่อสัตย์ต่อมัน แต่ก็ไม่ใช่สหายร่วมเป็ร่วมตาย
ในวันหน้าไม่แน่ว่าอาจทรยศก็ได้?
“ข้าไม่ฆ่าเ้า
ข้าจะให้เ้าได้ลิ้มรสความอัปยศขมขื่นในวันนั้นเช่นเดียวกับข้า เอาสายฟ้าฟาดข้า?
ข้าจะให้พวกเ้าได้ลองดูบ้างสักรอบ ขอเพียงยังมีลมหายใจ
ต่อให้เฉินเทียนหยวนรู้ก็ไม่อาจทำอย่างไรข้าได้! เฮอะ
ข้าจะให้พวกเ้ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตกตาย !” จางเสินซวีเอ่ย
“พี่เสินซวี
วันนั้นที่เรียกฟ้ามาผ่าท่านไม่ใช่พวกเราซะหน่อย ท่านจะมาหาเื่พวกเราได้ยังไง?
ถึงพวกเราจะทำให้ท่านไม่พอใจ แต่เื่ราวสามารถเจรจาผ่อนผันได้มิใช่หรือ
พวกเราจะชดใช้ให้ ดีหรือไม่?” หวังเค่อออกปาก
“ชดใช้? จะชดใช้ยังไง?
เ้าคิดว่าข้าขาดแคลนเงินทองจากผีอดอยากอย่างพวกเ้าหรือไง?”
จางเสินซวีเหยียดหยาม
“ไม่ขาด เงินไม่พอจ่ายหรอก! ท่านวางใจเถอะ
ครั้งนี้ข้ามีความจริงใจจริงๆ!” หวังเค่อรีบเอ่ย
“อ้อ?” จางเสินซวีมองด้วยสายตาเ็า
“ครั้งที่แล้วที่ท่านสูญเสียอย่างร้ายแรงที่สุด
สมควรเป็กุศลที่ได้จากการปะามารใช่หรือไม่? เอาอย่างนี้
ข้าจะชดใช้ให้ ท่านว่าอย่างไร?” หวังเค่อเสนอ
“กุศลปะามาร?” ศิษย์พรรคอีกาทองคำต่างมองหน้ากันและกัน
“ใช่แล้ว กุศลปะามาร!
อาจารย์ข้าจับมารมาได้และให้ข้าช่วยเฝ้าพวกมัน ข้าจะมอบมันให้กับท่าน!
ถือเป็ของกำนัล เป็อย่างไร พวกมันมีตั้งหลายตน!” หวังเค่อรีบเสริม
“มีหลายตนด้วย?” ศิษย์พรรคอีกาทองคำถามย้ำ
กุศล? มีใครบ้างไม่้า? นี่ยังล้ำค่ายิ่งกว่าศิลาิญญาอีก
ต่อให้จางเสินซวีอยากล้างแค้นหวังเค่อแค่ไหน
แต่เมื่อเห็นสายตาของศิษย์น้องทั้งหลายที่มองมาอย่างมีความหวังแล้ว
มันเป็ต้องลังเลอยู่ชั่วขณะ
“เ้าคิดหลอกให้ข้าปล่อยเ้าไปงั้นหรือ
จะกลับไปเรียกกำลังเสริมในพรรคมาช่วยล่ะสิ?” จางเสินซวีหัวเราะเย็น
“ผิดแล้ว มารเ่าั้ไม่ได้อยู่ในพรรค
แต่เป็ที่เมืองหลางเซียนต่างหาก ข้าจะนำทางไปเอง!
ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ไม่รู้เื่มารพวกนี้! ไม่ต้องห่วง!
จางเจิ้งเต้าและข้าจะนำทางไปเอง ยังต้องกังวลอะไรอีก?” หวังเค่อรีบอธิบาย
จางเสินซวีมองประเมินหวังเค่อ คล้ายคิดมองให้ทะลุถึงความจริงใจของมัน
“ศิษย์พี่ ให้พวกมันนำทางไปก่อน
หากไม่มีกุศลปะามารจริงก็ไม่สายที่จะสำเร็จโทษพวกมัน!
หรือต่อให้มีกุศลปะามารจริง ท่านจะแก้แค้นพวกมันก็ทำได้เช่นกัน!”
ศิษย์พรรคอีกาทองคำกระซิบกระซาบ โน้มน้าวจางเสินซวี
จางเสินซวีครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนผงกศีรษะ “นำทาง!”
“ตกลง พวกท่านตามข้ามา วางใจเถอะ ข้าสัญญาว่าพวกท่านจะเจอฝูงมารแน่นอน กุศลปะามารทั้งหมดเป็ของพวกท่าน! เชิญ!” หวังเค่อเอ่ยอย่างกระตือรือร้น
กลุ่มศิษย์อีกาทองคำพากันคุมตัวหวังเค่อและจางเจิ้งเต้า มุ่งหน้าสู่เมืองหลางเซียน
จางเจิ้งเต้าที่เป็ตัวประกัน ยามนี้มองดูหวังเค่อด้วยสายตาประหลาด “หวังเค่อ เ้าเล่นอะไร! ข้ายังไม่อยากตายนะ! ศิษย์พรรคมารพวกนั้น เ้าก็กล้าเอามาขายแบบนี้?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้