เมื่อเยว่เฟิงเกอออกมาที่หน้าประตูเรือนก็เห็นว่าใบหน้าของฉินหว่านที่ถูกโจ๊กร้อนๆ ลวกไปก่อนหน้านี้ยังคงไม่หายดี
เมื่อครู่คนไปหาหมอประจำจวนมาแล้ว จึงได้ทายาลดอาการปวดลงหลายจุดบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าของฉินหว่านกระดำกระด่างเป็ดวงๆ ที่ชวนให้นางนึกไปถึงจิ๋วปิ่งทันที
เยว่เฟิงเกอชี้ที่หน้าฉินหว่าน อดหัวเราะฮ่าฮ่าออกมาไม่ได้
“เ้าหัวเราะอะไร ที่ข้าต้องกลายมาเป็เช่นนี้ล้วนเป็เพราะเ้า วันนี้ข้ามาทวงคืนความยุติธรรม หากเ้ายอมขอโทษข้า ข้าก็จะใจกว้างให้อภัยเ้า แต่หากไม่ยอมขอโทษข้าแต่โดยดี วันนี้ข้าไม่ยอมจบกับเ้าแน่” ฉินหว่านเห็นว่าเยว่เฟิงเกอหัวเราะอย่างมีความสุขเพียงนี้ ก็ยิ่งคับข้องใจ
เยว่เฟิงเกอน่าตายนัก ทำลายใบหน้านางแต่เช้าเพื่อแมวตัวเดียว
โชคดีที่หมอประจำจวนอยู่ ช่วยทายาให้นางได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นใบหน้าของนางคงจะถูกทำลายไปจริงๆ ก็คราวนี้
หากว่าใบหน้านางถูกทำลายไปจริงๆ นางไม่มีทางอภัยให้เยว่เฟิงเกอแน่ นางต้องให้เยว่เฟิงเกอชดใช้คืนเป็ร้อยเท่าพันเท่า
ในใจคิดเช่นนี้ สายตาที่มองเยว่เฟิงเกอจึงยิ่งดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดเยว่เฟิงเกอก็หัวเราะจนเหนื่อยล้า ถึงได้กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเข้มงวด “ชายารองฉินอยากให้เปิ่นกงขอโทษ? เช่นนั้นชายารองฉินก็ต้องขอโทษสัตว์เลี้ยงของเปิ่นกงก่อน”
เยว่เฟิงเกอพูดจบ จิ๋วปิ่งก็ะโยกหางมาปรากฏตัวตรงหน้าพวกนางได้อย่างถูกจังหวะพอดี
จิ๋วปิ่งแยกเขี้ยวส่งเสียงขู่ใส่ฉินหว่าน
เมื่อฉินหว่านเห็นจิ๋วปิ่งอีกครั้งก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม
“เ้าแมวน่าตายนี่กล้าแยกเขี้ยวใส่ข้า ไม่อยากอยู่แล้วหรือ” ฉินหว่านพูด ก่อนจะหันศีรษะไปออกปากสั่งเฉี่ยวอวี้ “ไปจับเ้าแมวสมควรตายนั่นมา แล้วโยนมันลงสระบัวให้จมน้ำตาย”
เฉี่ยวอวี้รับคำสั่ง คิดจะเข้าไปจับจิ๋วปิ่งมา กลับได้ยินเสียงเ็าของเยว่เฟิงเกอ “เปิ่นกงก็อยากรู้นัก ใครจะกล้าแตะแมวของเปิ่นกง”
เฉี่ยวอวี้รู้ว่าแมวตัวนี้เป็สัตว์เลี้ยงของเยว่เฟิงเกอ และเพราะรู้จักความร้ายกาจของเยว่เฟิงเกอดี จึงรีบก้มศีรษะลง หยุดฝีเท้าแล้วก้าวไปหลบอีกด้าน
ฉินหว่านเห็นว่าเฉี่ยวอวี้ไม่ฟังคำสั่งนาง ก็ระบายความโกรธความอัดอั้นตันใจใส่เฉี่ยวอวี้
“นังชั้นต่ำนี่ ให้เ้าไปจับแมวแค่ตัวเดียวก็ยังไม่กล้า คนรับใช้ชั้นล่างเยี่ยงนี้จะเหลือไว้ทำอันใด พรุ่งนี้เ้าก็ไสหัวออกไปจากจวนอ๋องได้เลย ข้าไม่อยากเห็นเ้าอีก”
เมื่อเฉี่ยวอวี้ได้ยินว่าฉินหว่านจะไล่นางออกจากจวน นางก็ได้แต่มองฉินหว่านด้วยสายตาโศกเศร้า ก่อนจะเบือนหน้าไปมองเยว่เฟิงเกอ นางหวังเป็อย่างยิ่งว่ายามนี้เยว่เฟิงเกอจะช่วยพูดแทนนาง ไม่ให้ฉินหว่านไล่นางออกจากจวน
เยว่เฟิงเกอหัวเราะเ็า กล่าวกับฉินหว่านว่า “ต่างก็กล่าวกันว่าเ้านายเป็เช่นไร ย่อมเลี้ยงลูกน้องออกมาเป็เช่นนั้น ตนเองไร้ความสามารถก็ไม่ต้องไปโทษคนอื่น เฉี่ยวอวี้นั้น เป็เ้าที่สอนมาเองกับมือ เ้าด่าเฉี่ยวอวี้เช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการด่าตนเองโดยอ้อม”
“เ้า...” ฉินหว่านโกรธจนชี้หน้าเยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอปัดออกด้วยมือเดียว
“เ้าเป็แค่ชายารอง ริอาจมาชี้นิ้วใส่เปิ่นกง ระวังเปิ่นกงจะตัดนิ้วเ้ามาเลี้ยงสุนัข” เยว่เฟิงเกอพูดอย่างโเี้ทำเอาฉินหว่านถึงกับใจสั่น
ฉินหว่านเคยพลาดท่าให้เยว่เฟิงเกอมาแล้ว นางรู้ดีว่าเยว่เฟิงเกอในตอนนี้ไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
คำพูดข่มขู่นี้ของอีกฝ่ายจึงทำให้ฉินหว่านใได้เช่นกัน
เยว่เฟิงเกออุ้มจิ๋วปิ่งไว้ในอ้อมแขน นางกล่าวกับฉินหว่านว่า “ขอโทษเขา”
ฉินหว่านแค่นเสียงเ็าหันศีรษะไปอีกทาง ไม่มองจิ๋วปิ่ง
จิ๋วปิ่งเห็นฉินหว่านมีท่าทียโสเช่นนี้จึงกางเล็บทำท่าจะไปตะกุยฉินหว่านเสียให้ได้
เพียงแต่เยว่เฟิงเกอหยุดมันไว้ กระซิบที่ข้างหูมันว่า “เล็บของท่านเก้าสะอาดมาก หากไปกรีดโดนหนังหน้านางเข้า จะทำให้เล็บท่านเก้าสกปรกเปล่าๆ ”
เมื่อจิ๋วปิ่งได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตามองฉินหว่านอย่างอวดดี ก่อนจะส่งเสียงเมี๊ยวออกมา
แม้ฉินหว่านและคนอื่นๆ จะฟังไม่ออกว่าจิ๋วปิ่งพูดอะไร แต่เยว่เฟิงเกอฟังเข้าใจอย่างชัดเจน
“หึ พระชายากล่าวได้ถูกต้อง ตะกุยหน้าสตรีนางนี้มีแต่จะทำให้เล็บของท่านเก้าสกปรก ท่านเก้าไม่อยากให้เล็บสกปรก”
เยว่เฟิงเกอลูบศีรษะจิ๋วปิ่งเบาๆ มองฉินหว่านอีกครั้ง “ข้าจะนับถึงสาม เ้าต้องขอโทษเขา หนึ่ง สอง...”
ตอนที่เยว่เฟิงเกอกำลังจะพูดคำว่าสาม ในที่สุดฉินหว่านก็พูดออกมาอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ “ขอโทษ”
“ท่านเก้าไม่ได้ยิน” จิ๋วปิ่งร้องเมี๊ยวอีกครั้ง
ฉินหว่านนึกว่าเสียงร้องเมี๊ยวนี้ของจิ๋วปิ่งจะเป็การตอบรับคำขอโทษของนาง ตอนที่นางกำลังแอบได้ใจอยู่นั้น เยว่เฟิงเกอกลับกล่าวว่า “เขาบอกว่าเขาไม่ได้ยิน”
“เยว่เฟิงเกอ เ้าจะรังแกกันมากเกินไปแล้ว” ฉินหว่านโกรธมากจริงๆ
ให้นางขอโทษแมวตัวหนึ่ง นางก็พูดในสิ่งที่ควรพูดไปแล้ว แต่เยว่เฟิงเกอน่าตายนี่ยังไม่ยอมจบอีก
เยว่เฟิงเกอหัวเราะเ็า “วันนี้เปิ่นกงแน่วแน่แล้วว่าจะรังแกเ้า แล้วเ้าจะทำอะไรเปิ่นกงได้ ขอโทษเขา!”
ครั้งนี้ฉินหว่านไม่ได้กล่าวคำขอโทษต่อจิ๋วปิ่ง นางถลึงตามองแมวน้อยในอ้อมแขนของเยว่เฟิงเกออย่างดุร้าย จากนั้นจึงหมุนกายจะจากไป
“ชิงจื่อ เมื่อครู่นางตบหน้าเ้าไปทีหนึ่งใช่หรือไม่? ” ตอนที่ฉินหว่านเพิ่งก้าวออกไปได้หนึ่งก้าวก็ได้ยินเสียงเยว่เฟิงเกอดังขึ้นด้านหลัง
ชิงจื่อกุมแก้มข้างที่ถูกตบจนเจ็บไว้ กล่าวอย่างเกรงๆ “เมื่อครู่ชายารองตบบ่าวจริงๆ เพคะ”
“เช่นนั้นก็ดี ตบนางกลับเดี๋ยวนี้” คำพูดของเยว่เฟิงเกอทำให้ชิงจื่อใเบิกตาโต
ฉินหว่านหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมามองเยว่เฟิงเกอด้วยสีหน้าตกตะลึงเช่นกัน
เมื่อครู่เยว่เฟิงเกอพูดว่าอะไรนะ คนกำลังถือหางให้สาวใช้คนหนึ่งมาตบนาง?
เฉี่ยวอวี้ที่ติดตามฉินหว่านมาก็ใจนสีหน้าอึ้งค้างเช่นกัน
เยว่เฟิงเกอหรี่ตามองชิงจื่อที่กำลังตื่นใไปทีหนึ่ง “ยังมัวอึ้งอะไรอยู่อีก ไปตบนางสิ”
“บ่าว บ่าวไม่กล้าเพคะ” ชิงจื่อกุมหน้าตนเองไว้ ไม่กล้าเข้าไปตบฉินหว่านจริงๆ
อีกฝ่ายเป็ถึงชายารอง ส่วนตัวนางเป็แค่สาวใช้คนหนึ่งในจวนนี้เท่านั้น หากนางตบฉินหว่านจริงๆ ชีวิตนางก็คงอยู่ห่างจากความตายไม่ไกลแล้ว
อันที่จริงเยว่เฟิงเกอไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ชิงจื่อลำบากใจ เมื่อครู่ที่นางพูดคำนั้นออกไปก็เพราะอยากจะยั่วโมโหฉินหว่านเท่านั้น
ในเมื่อตอนนี้สามารถยั่วโมโหคนได้สำเร็จแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือแล้ว
เยว่เฟิงเกอกอดจิ๋วปิ่งไว้ในอ้อมแขน เดินขึ้นหน้าไปตบหน้าฉินหว่านโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
“เพี๊ยะ” เสียงฟาดกระทบใบหน้าดังขึ้น จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของฉินหว่าน
เดิมทีใบหน้าของฉินหว่านก็มีแผลอยู่แล้ว ตอนนี้ถูกเยว่เฟิงเกอตบอย่างแรงซ้ำ ใบหน้าส่วนที่เริ่มดีขึ้นก็กลับมาเจ็บอีกครั้ง
ฉินหว่านเจ็บจนน้ำตาร่วงนางกุมใบหน้าข้างที่ถูกตบไว้ จ้องมองเยว่เฟิงเกอด้วยสายตาดุร้าย “เ้าตบข้า” ฉินหว่านกล่าวด้วยสีหน้าเฉกเช่นผู้ถูกกระทำ
เดิมทีนางมาที่นี่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตน ให้เยว่เฟิงเกอกล่าวคำขอโทษสำหรับเื่เมื่อเช้า
ตอนนี้เป็อย่างไร ไม่เพียงไม่ได้รับคำขอโทษจากอีกฝ่าย ซ้ำยังต้องมาขอโทษแมวตัวหนึ่ง กระนั้นนี่ก็ยังไม่เท่าไร สุดท้ายยังโดนเยว่เฟิงเกอตบอีก
โลกนี้ยังมีกฎมีเกณฑ์กันอยู่อีกหรือไม่
จะอย่างไรนางก็เป็บุตรสาวคนโตสายตรงของเสนาบดี ั้แ่แต่งเข้ามาจวนอ๋อง ท่านอ๋องยังไม่เคยแตะนางแม้แต่ปลายนิ้ว แต่วันนี้นางกลับถูกเยว่เฟิงเกอทำร้ายถึงสองหน
เื่ที่ก่อนนี้ถูกเยว่เฟิงเกอบีบคอ นางก็อดทนแล้ว
แต่เื่ในวันนี้นางไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป
“เยว่เฟิงเกอ อย่าคิดว่าเ้าเป็ชายาจั้นอ๋องแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรเ้า วันนี้ข้าจะชี้เป็ชี้ตายกับเ้า” ฉินหว่านพูดจบก็แยกเขี้ยว กางกรงเล็บแล้วพุ่งมาทางเยว่เฟิงเกอ
มุมปากเยว่เฟิงเกอโค้งขึ้นน้อยๆ นางแค่เอียงตัวหลบนิดเดียว ฉินหว่านก็ซวนเซเสียหลัก
ตอนนี้เองเยว่เฟิงเกอยกขาขึ้นแล้วยื่นไปขวางเท้าของฉินหว่านไว้ ทำให้อีกฝ่ายสะดุดล้มหน้าคะมำ
“นายหญิง” เฉี่ยวอวี้เห็นฉากนี้ก็รีบเข้าไปหมายจะช่วยพยุงฉินหว่าน นางคิดเพียงว่าอย่าให้คนล้มลงบนพื้นเลย
น่าเสียดาย เฉี่ยวอวี้ที่กำลังจะเข้าไปกลับถูกเยว่เฟิงเกอขวางไว้
ส่วนฉินหว่าน ในตอนนี้นางได้ล้มคะมำลงไปบนพื้นจนเกิดเสียงดัง