ภายในป่าลมหนาวที่ห่างไกลออกไป ผมเห็นพื้นที่อันเต็มไปด้วยหิมะปกคลุมจนขาวโพลน แต่ก็ยังมีแสงสีขาวที่เปล่งประกายให้ได้เห็น ในที่สุดผมก็เจอหญ้าลมหนาวที่เป็สมุนไพรเลเวล 4 สักที เส้นทางสู่ความร่ำรวยมาถึงมือผมแล้ว!
ผมถือดาบหนามไว้ในมือพร้อมก้าวเท้าไปด้านหน้า ทันใดนั้นร่างของผมก็สั่น อุณหภูมิที่น่่หนาวชะมัด อย่างกับอยู่ในโรงน้ำแข็ง ตอนนี้บนตัวผมมีแค่เสื้อคลุมสีขาวบางๆ ตัวเดียว แบบนี้มันจะไปกันหนาวอะไรได้เนี่ย?
ผมใช้เสื้อคลุมห่อตัวเองไว้เพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย ก่อนจะเดินตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า ที่ใต้ต้นไม้มีหญ้าเล็กๆ พลิ้วไหวไปตามลม ดูราวกับกำลังโบกมือทักทาย นี่มันหญ้าสายลมหนาวที่ผม้านี่
……
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ผมก็ได้ยินเสียงบางอย่าง ทันใดนั้นทางขวามือผมก็มีมอนสเตอร์เลเวลสูงกว่าผมปรากฏตัวขึ้น ผมมองแล้วก็อดตะลึงไม่ได้ เท้าก้าวถอยหลังออกมาตามสัญชาตญาณ มันคือทหารอันเดธที่มาพร้อมกับดาบเหล็กผุพังในมือ ร่างกายของมันเป็โครงกระดูกสีเขียว บนหัวสวมหมวกเกราะสนิม พลางเปล่งเสียงโหยหวน ช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ
[โครงกระดูกหินเขียว](มอนสเตอร์ทั่วไป)
เลเวล:29
พลังโจมตี:???
พลังป้องกัน:???
HP:???
สกิล :???
แนะนำมอนสเตอร์ : โครงกระดูกหินเขียว เป็ผู้พิทักษ์ป่าลมหนาว มอนสเตอร์ุ์เหล่านี้เคยเป็ผู้พิทักษ์ให้กับจักรวรรดิมาก่อน แต่เป็เพราะิญญาชั่วร้ายจึงทำให้พวกมันกลายเป็อันเดธกระหายเื โครงกระดูกหินเขียวเหล่านี้ก่อนตายคาดว่าคงจะอยู่บนเขา และเป็เพราะอยู่ใกล้กับบริเวณที่เป็หินซึ่งมีระยะเวลาหลายหมื่นปี ทำให้มันมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง จึงเป็เื่ยากในการจะฆ่ามันให้ตาย ภายในป่าลมหนาวแห่งนี้ตั้งอยู่มานับพันปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถจัดการกับพวกมันได้
……
เ้าพวกนี้คงจะมีพลังป้องกันสูงมากแน่ๆ แต่ผมคิดว่าพลังโจมตีของมันคงจะไม่ได้สูงมากเท่าไร ก็ดีเหมือนกัน เพราะดูจากค่าสถานะของมันแล้ว ถือว่าเป็มอนสเตอร์ที่ผมค่อนข้างปลาบปลื้มเลยทีเดียว ตอนนี้ผมมีเ้าจุกนมที่มีพลังโจมตี 5 ดาว และค่าความเป็เลิศ 97% แถมยังมีสกิลฟื้นฟูเลเวล 3 อย่างไรเสียก็สามารถควบคุมเ้าโครงกระดูกหินเขียวนี่ได้แน่ๆ
“ลุยกันเลย!”
ผมดึงดาบออกมาพร้อมออกคำสั่งเ้าจุกนม ทันทีที่ได้รับคำสั่งมันก็รีบบินไปหาศัตรูก่อนจะโจมตีแบบคอมโบ และการเจาะด้วยเหล็กในของมันจนเกิดเสียง “ปั้กๆ” ราวกับกำลังเจาะชั้นหินอย่างไรอย่างนั้น ให้ตายเถอะ พลังป้องกันของมันสูงเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?
“-110!”
“-74!”
“-69!”
“-71!”
……
เมื่อเห็นค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น 4 ครั้งอย่างต่อเนื่อง ผมก็แทบจะกรีดร้อง เืของโครงกระดูกหินเขียวมีอยู่ราวๆ 1,400 พอยต์ หลังจากโดนเ้าจุกนมจัดการแบบไม่หยุดพัก มันก็ดึงดาบเหล็กออกมาฟาดใส่เ้าจุกนมจนเกิดค่าเสียหายถึง -144 พอยต์ พลังโจมตีของมันถือว่ารุนแรงมาก แต่ยังไม่เท่ากับอันเดธนักล่าเลเวล 27 ก่อนหน้านี้ ผมฮีลเืให้เ้าจุกนมก่อนใช้ดาบหนามในมือโจมตีศัตรูตรงหน้า
ฟึ่บ!
“-21!”
ช่างเป็ค่าความเสียหายที่เ็ปหัวใจเหลือเกิน ตัวเลขตรงหน้าทำผมน้ำตาแทบไหล น่าขายหน้าชะมัดเลย ให้ตายสิ!
หลังจากวุ่นวายอยู่กับการฟันโครงกระดูกหินเขียวสักพักใหญ่ ในที่สุดโครงกระดูกตรงหน้าก็เปล่งเสียงร้องก่อนที่ร่างจะล้มลงพร้อมกับเงิน 45 เหรียญเงินที่ตกลงมาบนพื้น ใจกว้างดีแฮะ แต่น่าเสียดายที่ไม่ดรอปไอเท็มเลยสักชิ้น
ผมหมุนตัวกลับก่อนเก็บหญ้าลมหนาว 3 ชิ้นใส่ลงในช่องเก็บของ ในที่สุดก็ทำสำเร็จ แต่น่าแปลกชะมัดที่ครั้งนี้ไม่ได้รับรางวัลอะไร แถมยังไม่ได้ค่าเสน่ห์เหมือนทุกที
หลังจากได้หญ้าลมหนาวมาแล้ว ผมก็เริ่มออกตามหาในป่าต่อ พร้อมกับฆ่าโครงกระดูกหินเขียวไปเรื่อยๆ ให้ตายเถอะ โชคดีชะมัดที่มีเ้าจุกนมคอยช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่สามารถจัดการกับมันได้แน่ๆ ถ้าลำพังตัวผมคนเดียวคงจะต้องฟาดดาบราวๆ 71 ครั้งจึงจะฆ่ามันได้ และเป็เพราะเ้ามอนสเตอร์ตัวนี้สามารถฟื้นฟูเืเองได้ ก็อาจทำให้ต้องใช้เวลา 3-5 นาทีในการฆ่า ในขณะที่เ้าจุกนมใช้เวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้น เ้าผึ้งแม่ทัพตัวนี้ถือเป็ของขวัญที่์ประทานให้ผมเลยนะเนี่ย!
หลังจากเสียเวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมง ผมก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเย็น แต่ก็ช่างเถอะ ค่อยกินมื้อดึกทีเดียวก็แล้วกัน
ไม่รู้ว่าผมฆ่าโครงกระดูกหินเขียวไปกี่ตัว แต่เ้าจุกนมได้อัปเลเวลสกิลการโจมตีแบบคอมโบจนกลายเป็เลเวล 3 ไปแล้ว หลังจากที่โครงกระดูกหินเขียวตัวล่าสุดล้มลง ผมก็พบกับไอเท็ม 2 ชิ้นที่ปรากฏขึ้น ชิ้นแรกเป็การ์ดสีเขียว 1 ใบ ในขณะที่อีกชิ้นเป็หอกที่มีแสงสว่างเรืองรอง โว้ว! ดูเหมือนจะได้เวลาเปลี่ยนอาวุธแล้ว!
อาการดีใจของผมเกิดขึ้นอย่างฉับพลันขณะที่หยิบการ์ดขึ้นมา ที่แท้มันก็เป็การ์ดของโครงกระดูกหินเขียวนี่เอง
[โครงกระดูกหินเขียว]
พลังโจมตี :★★☆
พลังป้องกัน:★★★★★
HP:★★★★☆
ความว่องไว:☆
MP:★☆
สกิล :[การกะเทาะ] [โล่หิน]
……
สัตว์เลี้ยงป้องกันสินะ การป้องกัน 5 ดาวนี่สุดยอดไปเลย แถมยังมีค่า HP 4.5 ดาวอีก ถ้าเืและการยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นละก็ เ้าโครงกระดูกหินเขียวนี่คงจะเป็ทางเลือกอันดับแรกในการใช้ฆ่าบอสเลยละ หากค่าความเป็เลิศสูงกว่านี้ ก็อาจกลายเป็โล่เนื้อที่สามารถเทียบได้กับอาชีพพระระดับสูงๆ ได้เลยแฮะ
หลังจากได้การ์ดมาผมก็ยังต้องจัดการกับมอนสเตอร์ที่นี่ต่อ เป็เพราะเมื่อกี้พลั้งมือฆ่าโครงกระดูกหินเขียวไป ทำให้ตอนนี้ผมเกิดอาการเสียดายขึ้นมาซะงั้น
ผมหยิบหอกยาวที่มีแสงสีฟ้าสาดส่องขึ้นมา ทันใดนั้นความรู้สึกเย็นวาบก็ถูกส่งมาที่มือ ตอนนี้พลังของผมเพียงพอจะถือของพวกนี้ได้แล้ว อีกอย่างค่าสถานะของอาวุธชิ้นนี้ก็คงจะไม่เลวเลย หึๆ หลังจากที่ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงกับการฆ่าโครงกระดูกหินเขียว ในที่สุดความพยายามของผมก็ไม่สูญเปล่า
[หอกโลหะโบราณ] (อุปกรณ์ระดับทองแดง)
พลังโจมตี:100-125
ค่าโจมตีพื้นฐาน :+14
เพิ่มเติม: ช่วยเพิ่มพลังการโจมตีให้กับผู้ใช้ 0.5%
เลเวลที่สามารถใช้งานได้ :24
……
พลังโจมตีตั้ง 125 พอยต์เลยเหรอ! เท่ะเิไปเลย นี่สิถึงจะเรียกว่าอาวุธที่ผมกำลังตามหา ให้ตายเถอะ ถ้าขืนยังทนใช้ดาบหนามต่อ ก็คงจะสู้ศัตรูไม่ได้แน่ๆ อีกอย่างเ้าหอกโลหะโบราณนี่ก็เป็อาวุธระดับทองแดง หลังจากนี้ถ้าเปลี่ยนอาวุธแล้ว ผมก็ยังสามารถนำมันไปขายเพื่อทำกำไรได้ไม่น้อย
ผมรีบเปลี่ยนอาวุธทันที ใช้หอกนี่ไปก่อนก็แล้วกัน... ถึงแม้จะชินกับการใช้ดาบ แต่เ้าหอกยาวนี่ก็สามารถทำหน้าที่เฉือน ฟาด แทงได้เหมือนกันนั่นแหละ
หลังจากเปลี่ยนเป็หอกโลหะโบราณแล้ว ค่าสถานะของผมก็เพิ่มขึ้น ผมจึงรีบเปิดช่องสถานะฮีลเลอร์อีกครั้ง
[เซียวเหยาจื้อจ้าย] (ฮีลเลอร์)
เลเวล:24
พลังโจมตี:230-255
พลังป้องกัน:80
HP:424
MP:320
ค่าเสน่ห์ :12
……
พลังโจมตีถึงแม้จะเทียบกับเ้าจุกนมไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆ มันก็สามารถทำลายการป้องกันของโครงกระดูกหินเขียว ซึ่งก็เพียงพอแล้ว และมันทำให้ผมพึงพอใจมากด้วย
ผมถือหอกโลหะโบราณกวัดแกว่งจนเกิดม่านแสงขึ้นกลางอากาศ โห! ดูดีชะมัด
เอาละ! ตามหาโครงกระดูกหินเขียวต่อดีกว่า
ใช้เวลาเดินทางจนมาถึง 1 ทุ่มกว่า ในที่สุดผมก็พบกับโครงกระดูกหินเขียวเลเวล 1 ตัวที่สองสักที พอเห็นว่ามันเป็เลเวล 1 ผมก็เกิดดีใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น รีบดึงการ์ดออกมาเพื่อปิดผนึก หลังจากใช้แผ่นปิดผนึกติดต่อกันถึง 9 ครั้ง ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ เ้าโครงกระดูกหินเขียวได้เข้ามาอยู่ในช่องสัตว์เลี้ยงของผม
[โครงกระดูกหินเขียว]
เลเวล:1
พลังโจมตี:★★☆
พลังป้องกัน:★★★★★
HP:★★★★☆
ความว่องไว :☆
MP :★☆
สกิล :[การกะเทาะ] [โล่หิน]
ค่าความเป็เลิศ :75%
……
เยี่ยมไปเลย ค่าความเป็เลิศ 75% ถือว่าเป็สัตว์เลี้ยงระดับกลางเลยนะเนี่ย รวยแล้วสิเรา หึๆ!
เมื่อเก็บสัตว์เลี้ยงแล้ว ผมก็พาเ้าจุกนมไปตีมอนสเตอร์ต่อ หลังจากอัปถึงเลเวล 25 แล้วค่อยว่ากัน ถึงแม้ตอนนี้ผมจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่โดดเด่น แต่ด้วยความช่วยเหลือจากหอกโลหะโบราณและเ้าจุกนม ทำให้ผมสามารถครองบัลลังก์ฮีลเลอร์ยอดเยี่ยมที่สุดภายในเมืองปาหวางได้สำเร็จ
3 ทุ่มกว่า ผมก็พบกับโครงกระดูกหินเขียวตัวที่ 3 สักที!
ผมได้ใช้การ์ดปิดผนึก 11 ใบเพื่อปิดผนึกมัน
นี่เป็สัตว์เลี้ยงตัวที่ 3 ของผมแล้ว และตอนนี้ช่องสัตว์เลี้ยงของผมก็เต็มแล้วด้วย เ้าโครงกระดูกหินเขียวตัวนี้มีค่าความเป็เลิศ 49% ถือเป็สัตว์เลี้ยงระดับกลาง ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะขายออกไปได้ในราคาเท่าไร แต่ก็พอจะเดาได้ว่าราคาของมันคงไม่ได้สูงเท่ากับผึ้งสังหารตัวก่อนหน้านี้
หลังจากมองกระเป๋าใส่ไอเท็ม ก็พบว่าหญ้าลมหนาวที่ผมสะสมนั้นมีจำนวนไม่น้อยเลย และก็ถึงเวลาที่ผมต้องกลับเมืองเสียที
……
ผมหยิบวาร์ปออกมา ขณะที่จะวาร์ปกลับเมือง ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงดังมาจากระยะไกล โดยเฉพาะเสียงโจมตีแบบคอมโบนั้นได้ยินอย่างชัดเจนทีเดียว รู้ตัวอีกทีผมก็เดินมายังจุดที่ลึกที่สุดของป่าลมหนาว ซึ่งภายในแผนที่ระบุไว้ว่า ป่าช้าที่ลาดชัน ที่นี่คงจะมีผู้เล่นมาฆ่ามอนสเตอร์ หรือไม่ก็เกิดการดวลกันขึ้น ไหนขอไปดูหน่อยซิว่าคนพวกนั้นกำลังทำอะไรกัน
ผมถือหอกเดินเข้าไปในป่า ทันใดนั้นภาพตรงหน้าก็ทำให้ผมต้องตกตะลึง ภายในป่าช้าที่ลาดชันมีกลุ่มคนมากกว่าร้อยกำลังต่อสู้กัน หนึ่งในนั้นมีบอสอยู่ด้วย บอสตัวนั้นมีเืเหลืออยู่เพียง 15% ซึ่งดูเหมือนว่าผู้เล่นสองกลุ่มกำลังแย่งบอสตัวนี้กันอยู่ และหนึ่งในผู้เล่นเ่าั้ก็เป็คนที่ผมรู้จัก... มาจากกิลด์ปราก!
……
สวบๆๆ...
เกิดการโจมตีต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง พร้อมกับที่เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงซึ่งต่อต้านการโจมตีของบอสก็เปล่งเสียง “อู๋ซวงสไตร์ก!”
“ฟึ่บ!”
ทันใดนั้นก็เกิดแสงขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเยี่ยนจ้าวอู๋ซวง ซึ่งมันน่าประทับใจมาก ดาบในมือของเขาเกิดม่านแสงก่อนจะโจมตีไปด้านหน้า ภายในเวลา 1.3 วินาทีเขาก็โจมตีติดต่อกันถึง 5 ครั้ง ทั้งแทง ฟาด เฉือน ถีบ และสับร่างของบอส ให้ตายเถอะพระเ้า นี่มันการโจมตีแบบต่อเนื่องนี่ ดูเหมือนว่าเขาได้สร้างสกิลของตัวเองขึ้นมาแล้วสินะ!
ผมตกตะลึงขึ้นมา จากภาพตรงหน้าดูเหมือนว่าเยี่ยนจ้าวอู๋ซวงไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
ระหว่างที่วาดดาบในมือพร้อมกับก้าวเท้าไปด้านหน้าและถอยหลังอย่างเป็จังหวะ เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “หยุดโจมตีพวกมัน มาฆ่าราชันอันเดธนี่ก่อน ถ้าได้ของจากราชันอันเดธก็ถือว่าเราชนะแล้ว ชิงเฉี่ยน เวยเหลียง พวกเธอไปฆ่ากำลังหลักของกลุ่มพวกนายพลนั่น อย่าให้คนพวกนั้นจัดการกับบอสได้”
ทันใดนั้นร่างของผู้เล่นที่อยู่ภายในกิลด์ปรากสองคนก็หายไป ซึ่งพวกเขาคือแอสซาซิน แม้ว่าผมจะไม่เห็นพวกเขา แต่ก็มั่นใจว่าหนึ่งในนั้นจะต้องเป็เยว่ชิงเฉี่ยนที่ผมรู้จักแน่ๆ และเธอก็คือผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของผมด้วย!
……
ในเวลาเดียวกัน อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดยนักดาบเลเวล 27 ที่ใช้ชื่อ ID ว่า นายพลหลี่มู่ เป็ผู้เล่นที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของผู้ที่มีเลเวลสูงสุด ด้านหลังของนายพลหลี่หมู่เป็เบอร์เซิร์กเกอร์เลเวล 26 ที่ใช้ชื่อ ID ว่า นายพลป๋ายฉี่ และนักธนูเลเวล 25 ที่ใช้ชื่อ ID ว่า นายพลเหลียนโป่ ให้ตายเถอะ นี่มันผู้เล่นของเมืองปาหวางที่อยู่อันดับต้นๆ ทั้งนั้นเลยนี่!
สวบ สวบ!
ท่ามกลางการโจมตีแบบต่อเนื่องทำให้นายพลหลี่มู่สามารถฆ่าฮีลเลอร์ของกิลด์ปรากไปได้อีก 1 คน ในเวลาเดียวกันก็จัดการกับการป้องกันของอัศวินอีก 2 คน เขายกดาบขึ้นแทงกลางอกของนักเวทตรงหน้าจนเกิดดาเมจถึง -442 พอยต์
“ทุกคน! ราชันอันเดธเลเวล 30 เป็ของพวกเรา อย่าให้กิลด์ปรากแย่งไปได้!” นายพลหลี่มู่ะโด้วยความโกรธ
นายพลเหลียนโป่ดึงคันธนูในมือก่อนจะะโหลบเข้าพุ่มไม้ข้างๆ พร้อมกับซุ่มสังหารฮีลเลอร์ของกิลด์ปราก ดูเหมือนว่ากลยุทธ์โจมตีของทั้งสองฝ่ายจะคล้ายคลึงกัน นั่นคือกำจัดผู้ที่สามารถฮีลเืได้เพื่อทำให้อีกฝ่ายขาดกำลังเสริม ก่อนจะจัดการกับศัตรูที่เหลือ
……
“ฟู่...”
ผมพ่นลมหายใจเบาๆ ก่อนจะนั่งบนยอดเขาเพื่อดูการต่อสู้ ยังไงซะตอนนี้ผมก็ไม่ได้รีบร้อนกลับไปสักเท่าไร นั่งดูและเรียนรู้การต่อสู้จากเยี่ยนจ้าวอู๋ซวงและนายพลที่มีฝีมือพวกนี้ก่อนดีกว่า เพราะนี่เป็โอกาสดีที่จะได้เห็นความสามารถของพวกเขา…