หลี่ลั่วทำปากจู๋แล้วคิดใคร่ครวญ “ข้ายังคิดไม่ออกขอรับ เป็เงินใช่หรือไม่?”
ไห่กงกงอดไม่ได้จึงจิ้มลงไปที่หัวของเขา “เสี่ยวโหวเหฺยชอบแต่เงินใช่หรือไม่?” เมื่อเห็นว่าบรรดาญาติผู้หญิงและญาติผู้ชายของสกุลหลี่ฝั่งตรงข้ามต่างมารวมตัวพร้อมเพรียงกันแล้ว ไห่กงกงจึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอันแหลมใสว่า “เสี่ยวโหวเหฺยเป็ขุนนางที่ฝ่าาทรงโปรดปรานที่สุด เป็ผู้สืบทอดของเหล่าโหวเหฺย หรือว่าจวนโหวนี้ยังบกพร่องเื่เงินของเสี่ยวโหวเหฺยอยู่อีกหรือ?” ไห่กงกงคิดว่าหลี่ลั่วนั้นเป็เพียงเด็กคนหนึ่ง ทั้งยังไม่มีญาติสนิทอยู่ข้างกายเป็แรงสนับสนุน มาถึงจวนโหวอย่างฉุกละหุกเช่นนี้ มีความเป็ไปได้ว่าจะถูกคนข่มเหงรังแก แค่คิดว่าเด็กน้อยที่ตนชมชอบต้องถูกผู้อื่นรังแก สายตาของไห่กงกงก็คมปลาบขึ้นมาในทันที
แม้ว่าไห่กงกงจะเป็ขันที ทว่าอำนาจของหัวหน้าขันทีแห่งวังหลวง ณ ภายในจวนโหวแห่งนี้เพียงพอที่จะสังหารทุกคนในที่นี้ยกเว้นกู้จวิ้นเฉิน ไห่กงกงเป็คนฉลาด ในพระทัยของฮ่องเต้นั้นฉีอ๋องเป็ดุจของล้ำค่า สูงส่งล้ำค่ายิ่งกว่าผู้ใด
“ท่านหัวหน้าไห่ ท่านมาแล้วหรือ?” หลี่เหล่าไท่เหฺยรีบเร่งออกมาต้อนรับ
“ท่านหัวหน้าไห่โปรดวางใจและขอให้ฝ่าาทรงโปรดวางพระทัย ลั่วเกอเอ๋อร์เป็เสี่ยวโหวเหฺยแห่งจวนโหวของพวกเรา ไม่ว่าจะบกพร่องเื่เงินของผู้ใดก็มิอาจบกพร่องเื่เงินของเขาได้เ้าค่ะ”
เหล่าไท่ไท่ก็ยิ้มอย่างขออภัย ทว่ากลับคิดในใจว่า เ้าบรรพบุรุษน้อยคนนี้ไฉนจึงเข้าไปอยู่ในสายตาของใต้เท้าผู้นี้ได้ ไห่กงกงในสายตาของหลี่เหล่าไท่ไท่นั้นย่อมเป็ผู้ที่อยู่เหนือผู้อื่น นางเข้าวังไปร่วมงานเลี้ยงฉลองทุกปี ได้แต่มองเห็นเพียงไกลๆ ว่าไห่กงกงนั้นยืนอยู่ด้านหลังองค์ฮ่องเต้ ไห่กงกงในยามนั้นดูแล้วอ่อนน้อมถ่อมตนไม่อยู่ในสายตา ทว่าเมื่อไม่ได้อยู่ข้างกายฮ่องเต้แล้วกลับกลายเป็ว่าสูงส่งเสียจนไม่อาจเข้าถึงได้
“ไห่เหฺยเหฺย ท่านย่าของข้าได้มอบของขวัญให้กับข้า ท่านย่าสะใภ้ก็มอบหยกให้ข้า ท่านพี่ฉีอ๋องก็มอบหยกให้กับข้า เหมือนที่ฝ่าาได้พระราชทานหยกให้ข้าเช่นกันขอรับ” พูดแล้วก็ดึงหยกที่ห้อยอยู่ที่คอออกมา “ท่านดูสิขอรับ ท่านพี่ฉีอ๋องบอกว่าหยกนี้ล้ำค่าและมีความสำคัญยิ่ง ต้องใส่อย่างระมัดระวัง” จากนั้นเขาก็ลูบไปที่เอวน้อยๆ ของตน “ท่านดูสิ นี่คือหยกพกที่ท่านพี่ฉีอ๋องประทานให้กับข้า”
เอวของเด็กน้อยตัวเตี้ย ย่อมไม่มีแรงดึงดูดใจอันใด แต่หยกพกที่ประดับอยู่ที่เอวของหลี่ลั่วทำให้ไห่กงกงต้องตาโตเบิกกว้าง หยกพกชิ้นนี้มัน...เขาหันไปมองฉีอ๋องในทันที
กู้จวิ้นเฉินยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าเรียบเฉย ราวกับว่าที่ไห่กงกงจ้องมองอยู่นั้นไม่ใช่เขา ไห่กงกงรีบดึงสายตากลับมาพร้อมกับเก็บงำสีหน้าของตนอย่างรวดเร็ว “หยกพกที่ฝ่าาพระราชทานให้นั้นสำคัญยิ่งนัก หยกพกชิ้นนี้ที่ท่านอ๋องประทานให้ก็สำคัญยิ่งเช่นกันขอรับ” จากนั้น หัวหน้าไห่ก็เปลี่ยนเป็ท่าทีสุขุมเอาการเอางานขึ้นมา “ฮ่องเต้มีราชโองการ จงหย่งโหวหลี่ลั่วรับราชโองการ”
“ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี” คนทั้งหมดคุกเข่าลง
“ฝ่าาพระราชทาน...” ที่จริงแล้วสิ่งที่จ้าวหนิงฮ่องเต้พระราชทานมานั้นล้วนเป็อาหารว่างจากห้องเครื่องในวังหลวง มิใช่สิ่งของมีค่าอันใด เมื่อวานหลี่ลั่วเข้าวังถวายอาหารว่างแก่ฝ่าา ทำให้จ้าวหนิงฮ่องเต้ทรงคิดว่าเด็กน้อยทั้งหลายต่างล้วนชอบกินของว่างกันทั้งนั้น ดังนั้นวันนี้จึงพระราชทานอาหารว่างมาให้ หลี่ลั่วอายุยังน้อย สำหรับเด็กอายุห้าขวบแล้วนั้น สิ่งของเหล่านี้สิจึงจะเป็สิ่งของที่เขาอยากได้
แต่ว่า...หลี่ลั่วนั้นชอบเงินมากกว่า
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างก็ประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าฝ่าาส่งไห่กงกงมาเพื่อที่จะพระราชทานอาหารว่างเหล่านี้เพียงเท่านั้น
“ขอบคุณเ้าค่ะท่านหัวหน้าไห่ เชิญท่านหัวหน้าไห่เข้าไปดื่มน้ำชาสักถ้วยเถิดเ้าค่ะ” หลี่หยางซื่อมอบอั่งเปามูลค่าสูงให้แก่ไห่กงกง
ไห่กงกงรับอั่งเปาไว้ รับรู้ได้ว่าเงินในนั้นมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว “ในวังหลวงยังมีงานอีกมาก ข้าไม่อาจรั้งอยู่ที่นี่ได้นาน ต้องขอตัวก่อน” พูดแล้วก็หันไปถวายบังคมทูลลากู้จวิ้นเฉิน
“คุณชาย...” ซินเป่าวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา “คุณชาย สิ่งของที่ท่าน้าได้ตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วขอรับ” ซินเป่าถือตะกร้าใบใหญ่มาหนึ่งใบ
หลี่ลั่วหิ้วตะกร้าขึ้นมา ด้วยอายุขนาดเขาจึงออกจะกินแรงอยู่สักหน่อย “ไห่เหฺยเหฺย ของเหล่านี้มอบให้ท่านนำกลับไปขอรับ”
“เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว” ไห่กงกงกลับไปสู่สีหน้าท่าทางที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
“ข้าไปส่งไห่เหฺยเหฺยนะขอรับ” หลี่ลั่วดึงแขนเสื้อของไห่กงกงอย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว
เดิมทีไห่กงกงคิดจะปฏิเสธ ทว่าเมื่อได้สบกับประกายตาสดใสของเด็กน้อยแล้ว ในใจเขาก็ชอบใจที่หลี่ลั่วจะออกไปส่งตนเอง หลี่ลั่วถามขึ้นเมื่อไปส่งไห่กงกงถึงหน้าประตู “ไห่เหฺยเหฺยขอรับ หยกพกที่ท่านพี่ฉีอ๋องประทานให้ข้ามีความหมายไม่ธรรมดาใช่หรือไม่?”