าาวิหคสีเพลิงเป็เหมือนาาที่พุ่งลงมาจากฟ้าเพื่อทำลายผู้แข็งแกร่งทุกคนบนโลกแม้ว่าการโจมตีแต่ละครั้งจะทำให้ถูกทำร้ายกลับและมีาแเกิดขึ้นมาบ้างแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการโจมตีของมันเลยสักนิดกลับกลายเป็ว่าหยู่เหวินชิงกับมู้หยิงหยิงและคนอื่นๆ มีาแเกิดขึ้นมาเรื่อยๆพร้อมกับเืที่ไหลออกมาไม่หยุด
พลังเพลงกระบี่โลกชิตของฟางชิงยวนถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆซึ่งนอกจากจะทำให้ความเร็วของาาวิหคสีเพลิงลดลงแล้วมันยังสามารถทำให้าาวิหคสีเพลิงเกิดาแลึกจนมองเห็นเืสีทองที่ไหลออกมาได้อีกด้วย
นึกไม่ถึงว่าฟางชิงยวนจะแข็งแกร่งจนสามารถทำร้ายสัตว์ิญญาระดับแปดได้ทั้งที่ตัวเองเป็เพียงจอมยุทธ์ในขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์เท่านั้นแบบนี้ก็แสดงว่าเขาแข็งแกร่งมากๆ เลยสินะ
แต่ถึงจะเป็อย่างนั้นก็ใช่ว่าเขาจะต่อสู้ได้อย่างสบายๆเพราะการใช้พลังของเพลงกระบี่โลกชิตจะทำให้เขาเสียพลังิญญาจำนวนมากนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีของดีอยู่ในร่างกายก็คงจะรับมือกับการสูญเสียพลังิญญามากขนาดนี้ไม่ไหวเป็แน่
แต่ดูเหมือนว่าวิชาตัวเบาของมู้เซวี่ยนจะแข็งแกร่งและว่องไวมากจึงสามารถหลบการโจมตีของาาวิหคสีเพลิงได้อย่างง่ายดาย และยังใช้วิชาดรรชนีทะลวงวายุพุ่งขึ้นไปโจมตีาาวิหคสีเพลิงเป็ระยะด้วยวิชาดรรชนีทะลวงวายุนี้เองที่ทำให้เขากลายเป็หนึ่งในแถวหน้าของศิษย์ในสำนักวรยุทธ์นักปราชญ์ไม่อย่างนั้นคนอย่างฟางชิงยวนไม่มีทางเห็นเขาอยู่ในสายตาเป็แน่
“ไม่ไหว พลังของมันแข็งแกร่งเกินไป ทำแบบนี้ไม่มีทางสู้ไหวแน่!”
ฟางชิงยวนพูดขึ้นก่อนจะะโบอกมู้เซวี่ยนกับหยู่เหวินชิง“มู้เซวี่ยน หยู่เหวินชิง พวกเ้าสองคนถ่วงเวลาก่อนแล้วข้าจะพยายามบรรลุขั้นผู้พิทักษ์ระดับพิภพเดี๋ยวนี้แหละ!”
พวกข้าต่างก็มองเขาอย่างตกตะลึงเข้าจะสามารถบำเพ็ญจนเข้าขั้นผู้พิทักษ์ระดับพิภพได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
ขณะที่พวกเรากำลังตะลึงอยู่นั้นเขาก็หลบออกไปจากระยะการต่อสู้แล้วชูมือทั้งสองขึ้นก่อนจะมีพลังมหาศาลพุ่งออกจากร่างกายจนหินก้อนเล็กก้อนน้อยแถวนั้นลอยขึ้นและไหลเวียนอยู่รอบสนามพลังของเขาขณะกำลังก่อตัวอย่างน่าเกรงขาม
ตูม!
พลังที่รุนแรงะเิออกเสียงดังหลังจากนั้นฟางชิงยวนก็ลืมตาขึ้นด้วยแววตาที่แปลกไปใบหน้าของเขาบ่งบอกถึงความแน่วแน่และแข็งแกร่งและยังมองมาที่พวกข้าแบบเหยียดหยามอีกต่างหากนี่...นี่เขาบำเพ็ญจนเข้าสู่ขั้นผู้พิทักษ์ระดับพิภพแล้วอย่างนั้นเหรอ!
อีกฝั่งหนึ่งคือศิษย์ของสำนักวรยุทธ์นักปราชญ์ที่ถูกาาวิหคสีเพลิงเข้าโจมตีด้วยกรงเล็บที่แข็งแกร่งจนร่างของเขาถูกฉีกออกทำให้หัวใจและเครื่องในไหลออกมากองบนพื้นเขาเป็ถึงจอมยุทธ์ในขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์แต่กลับถูกฆ่าได้ง่ายๆขนาดนี้เนี่ยนะ?
“ไอ้เ้าสัตว์หน้าขน!”
ฟางชิงยวนตวาดขึ้นเสียงดังจากนั้นพลังิญญาในมือก็กลายเป็กระบี่น้ำแข็งสลาตันแล้วฟันไปยังาาวิหคสีเพลิงด้วยพลังอันมหาศาลราวกับพายุสลาตันม้วนตัวเป็เกลียวและพุ่งเข้าไปบนฟ้าซึ่งพลังที่แข็งแกร่งนั้นทำให้าาวิหคสีเพลิงถูกกลืนเข้าไปในพลังลมแล้วหมุนตัวไปตามแรงจนสูญเสียการเคลื่อนไหว
“สุดยอด!”
หยู่เหวินชิงถึงกับตะลึงกับภาพที่ได้เห็นจนพูดไม่ออก
มู้หยิงหยิงเม้มปากเล็กน้อยเมื่อรับรู้ได้ถึงพลังที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนของฝ่ายอัจฉริยะซึ่งก็คือผู้ที่เก่งกาจและสามารถทำให้สิ่งที่คนคิดไม่ถึงจึงได้รับฉายานี้มาและฟางชิงยวนก็คือคนคนนั้น...
อ๊าก!อ๊าก!
ถึงแม้ว่าาาวิหคสีเพลิงจะได้รับาเ็สาหัสทว่าสัญชาตญาณการเป็สัตว์ิญญาระดับแปดขั้นจักรพรรดิของมันก็ทำให้มันดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อขนของมันถูกพลังของเพลงกระบี่โลกชิตทำลายจนเสียหายไปมากมันจึงเลือกที่จะเข้าโจมตีแบบประชิดตัวโดยการพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและตรงดิ่งเข้าไปหาฟางชิงยวนอย่างรวดเร็ว!
จะงอยปากที่ทรงพลังและกรงเล็บที่แข็งแกร่งของมันพุ่งลงมาดุจดาบที่คมกริบก่อนจะเข้าจู่โจมด้วยการจิกและฉีกเพื่อหวังจะสังหารฟางชิงยวนให้ตายด้วยความโกรธแม้ว่าตอนนี้ฟางชิงยวนจะกลายเป็จอมยุทธ์ในขั้นผู้พิทักษ์ระดับพิภพแล้วก็ยังยากจะต่อต้านพลังของมันได้อยู่ดี
เอื้อออ!
เมื่อถูกาาวิหคสีเพลิงที่มีพลังไสยศาสตร์อันทรงพลังเข้าจู่โจมก็ทำให้เขาถึงกับกระอักเืออกมาและนั่นก็เป็ผลมาจากที่เขาดูถูกาาวิหคสีเพลิงเอาไว้มากเพราะเชื่อมั่นในตัวเองเกินไป ซึ่งเขามั่นใจว่าพลังของเขาแข็งแกร่งมากพอที่จะใช้ร่างกายเข้าจู่โจมกับาาวิหคสีเพลิงซึ่งเป็ถึงสัตว์ิญญาระดับแปดขั้นจักรพรรดิได้แต่ผลสุดท้ายกลับเป็อย่างที่เห็น...
“ฟางชิงยวน เ้าถอยไป!”
มู้เซวี่ยนะโขึ้นเสียงดังและพุ่งเข้ามาพาตัวฟางชิงยวนออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะชูนิ้วขึ้นแล้วปล่อยพลังดรรชนีทะลวงวายุพุ่งเข้าใส่าาวิหคสีเพลิงอย่างรวดเร็วถึงสิบกว่าครั้งในเวลาไม่กี่วินาทีแต่ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะฝึกฝนได้ไม่นานทำให้พลังที่เพิ่งจะอยู่ในขั้นต้นของมันถูกเอาออกมาใช้ในสถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้
ถึงแม้ว่าหยู่เหวินชิงกับมู้หยิงหยิงจะร่วมมือกันโดยใช้เพลงกระบี่ของตัวเองมาผสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็ค่ายกลกระบี่เพื่อผลักให้าาวิหคสีเพลิงถอยออกห่างทว่าเ้าาาวิหคสีเพลิงที่กำลังเืขึ้นหน้าก็กางปีกอันทรงพลังออกแล้วสะบัดเข้าใส่ทั้งสองคนจนลอยปลิวออกไปและกระอักเืจากนั้นกรงเล็บที่แข็งแกร่งของาาวิหคสีเพลิงก็พุ่งเข้าหาฟางชิงยวนเหมือนเดิม
“ป้องกันฟางชิงยวนเอาไว้ เร็วเข้า!”
มู้เซวี่ยนะโขึ้นเสียงดังทว่าศิษย์ของสำนักวรยุทธ์นักปราชญ์อีกสองคนก็เลือกที่จะเหาะหนีเพื่อถอยห่างจากการต่อสู้ในครั้งนี้เพราะพวกเขาต่างก็ได้รับาเ็สาหัส และไม่มีทางสู้กับาาวิหคสีเพลิงที่กำลังเดือดดาลตัวนี้ได้อย่างแน่นอน
มู้เซวี่ยนขมวดคิ้วเข้มก่อนจะตวาดขึ้นเสียงดัง“พวกเ้ามัวรออะไรอยู่ ซูเหยียน ถังเชวียหรานพวกเ้าจะยืนมองาาวิหคสีเพลิงมันฆ่าพวกเราจนหมดโดยไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”
“ฮึ...” ซูเหยียนส่งเสียงฮึออกมาเมื่อได้ยิน
แต่ถังเชวียหรานกลับพูดขึ้น“พวกเราลุยกันเถอะ!”
พอนางพูดจบก็ใช้ธนูคลื่นมรกตของตัวเองยิงเข้าไปยังาแของาาวิหคสีเพลิงถึงเจ็ดครั้งก่อนจะะเิเข้าที่ร่างของมันเพราะแบบนี้จึงทำให้าาวิหคสีเพลิงหันมาโจมตีพวกข้าแทน
ข้ามองการเคลื่อนไหวของมันอย่างฉับไวก่อนจะพูดขึ้น“เสี่ยวเหยียน ข้าจะโจมตีข้างล่าง เ้าโจมตี้าและสลับการโจมตีแบบนี้ไปเรื่อยๆ!”
ซูเหยียนได้ยินก็เข้าใจจากนั้นนางจึงแผ่ซ่านพลังของเมฆาเพลิงัอย่างรวดเร็ว
ส่วนข้าเองก็เลือกใช้พลังทั้งหมดในร่างกายด้วยพลังของวิชาลมหายใจัขั้นที่สิบอย่างัสลายิญญาออกมาจนแสงสีทองออกมาปกคลุมไปทั่วร่างกายไม่นานพลังสีเืของเทพัก็ก่อตัวเป็กลุ่มก้อนพลังราวกับมีชีวิตและพร้อมจะจุติลงมาบนโลกมนุษย์อย่างไรอย่างนั้นขาทั้งสองข้างอัดแน่นไปด้วยการผสานห้าพลังรวมเป็หนึ่งขณะกำลังลุกโชนอยู่ใต้ขาทั้งสองข้างจนกลายเป็แสงสีครามสว่างเจิดจรัส
และตอนนี้เองทั้งหยู่เหวินชิงและมู้หยิงหยิงต่างก็สีหน้าและแววตาที่บ่งบอกถึงความตกตะลึงออกมาซึ่งตอนนี้พลังของข้าเปลี่ยนไปมากและมากกว่าขั้นการบำเพ็ญของเขาทั้งสองคนด้วยซ้ำทว่าพวกนั้นกลับไม่ยอมรับว่าข้ามีพลังมากกว่าดังนั้นสายตาที่ตกตะลึงเมื่อครู่จึงหายไปและกลายเป็แววตาที่อิจฉาและเดือดดาลแทน
ฟางชิงยวนที่ใช้ก้อนหินเพื่อเอนตัวนั่งพักหันมามองพวกข้าก่อนจะตวาดขึ้นเสียงดัง
“ลุย!”
เมื่อเห็นว่าาาวิหคสีเพลิงกำลังจับจ้องไปหาถังเชวียหรานก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็โอกาสเหมาะเมื่อคิดได้แบบนี้ข้าก็พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า และใช้พลังของวิชาลมหายใจัขั้นที่สิบอย่างัสลายิญญาบวกกับห้าพลังรวมเป็หนึ่งอัดแน่นไปยังขาทั้งสองข้างแล้วเตะเข้าที่ขาขวาของมันด้วยกระบวนท่าเอกากัลป์เบิกขุนเขาทันทีและก็เป็ไปตามคาดเมื่อพลังของข้ายังไม่มากพอจึงทำให้ขาของมันขยับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทว่าเมื่อซูเหยียนะโเข้าไปโจมตีตรงท้ายทอยของมันด้วยกระบี่เพลิงกัลป์ที่อัดแน่นไปด้วยพลังอันมหาศาลก็ทำให้การโจมตีของพวกข้าซึ่งคนหนึ่งมีพลังเหมือนดิ่งมาจากฟ้า ส่วนอีกคนหนึ่งมีพลังที่พุ่งขึ้นจากพสุธาทำให้าาวิหคสีเพลิงเสียการทรงตัวจนเซถลาและหัวไปฟาดลงบนก้อนหินขนาดั์ที่อยู่ไม่ไกล
ตูม!
ขณะที่าาวิหคสีเพลิงไถลไปตามการเซถลาปีกของมันก็ปล่อยพลังไฟที่รุนแรงและร้ายกาจออกมาจนพวกข้าไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้แม้แต่น้อย
ซูเหยียนถึงกับร้องเสียงแ่เบาเมื่อถูกพลังไฟไสยศาสตร์ของมันเข้ากระทบจนปลิวออกไป
ส่วนข้าก็ใช้ความแข็งแกร่งของพลังกายาทองคำที่ทนต่อความร้อนะโขึ้นไปด้านหลังของมันจากนั้นก็ดึงขนที่แข็งแกร่งขึ้นก่อนจะล้วงเอากริชปลิดชีพที่เหน็บไว้ข้างขาออกมาอย่างรวดเร็วและแทงลงตรงหลังคอของมันแล้วลากลงมาเป็รอยยาวจนเห็นกระดูกและเืสีทองของมันกระเซ็นเข้าสู่ตัวของข้าซึ่งทำให้ข้ารู้สึกเหมือนกับพลังของกระดูกลายเวทกำลังจะถูกปลุกขึ้นมา
ไม่ได้ข้าจะให้คนอื่นรู้ว่าข้ามีพลังกระดูกลายเวทตอนนี้ไม่ได้!
ข้ารีบกดพลังของกระดูกลายเวทไม่ให้แสดงออกมาก่อนที่หางตาทั้งสองข้างจะลุกเป็ไฟตามพลังที่เพิ่มขึ้นเป็เท่าตัวและดุร้ายจากเืของฉุงฉีที่อยู่ในตัวเมื่อพลังเพิ่มขึ้นเท่าตัวข้าก็ถือโอกาสซัดหมัดหนักๆเข้าไปที่าแของาาวิหคสีเพลิงอย่างจัง
ปั้ง!
เืสีทองของมันกระจายไปทั่วสารทิศเพราะหมัดที่ข้าซัดลงไปครั้งนี้มันมีพลังถึงหนึ่งพันห้าร้อยชั่งซึ่งความรุนแรงทำให้าาวิหคสีเพลิงร้องโหยหวนพร้อมกับพลังไสยศาสตร์ในตัวที่ลดน้อยลงไปมาก
“พระเ้า...”
ถงจั๋วที่ถือขวานลาวาเพลิงอยู่ในมือและกำลังจะเข้ามาช่วยถึงกับชะงักไปเหมือนกลัวว่าตัวเองจะเข้ามาแย่งคะแนนจากการสังหาราาวิหคสีเพลิงก่อนจะพูดขึ้น“แข็งแกร่งชะมัด! สหายปู้ ข้าว่าหมัดของเ้ามีพลังไม่น้อยไปกว่าพลังวัวดินพฤกษาของข้าเลยนะ!”
ข้าได้ยินแล้วก็ซัดหมัดหนักๆเข้าใส่าาวิหคสีเพลิงอีกสองครั้งก่อนจะพูดขึ้น“ข้ามีสหายคนหนึ่งที่มีพลังดุจเทพั้แ่เกิดและพลังของเขาก็มากกว่าข้าตั้งเยอะ!”
“ “ฮะ! ...ถ้ามีเวลาเ้าต้องพาข้าไปรู้จักสักหน่อยแล้วล่ะ!”
“อืม”
ข้าซัดหมัดหนักๆลงไปอีกครั้งก่อนจะมีเสียงดัง ‘แกร๊ก’นึกไม่ถึงว่ากระดูกสันหลังของาาวิหคสีเพลิงจะหักและแตกออกจนไขกระดูกกระเด็นใส่ข้าและถูกลายสักเทพราชันัดูดซับเข้าไปอย่างรวดเร็วส่วนเ้าสัตว์ิญญาระดับแปดที่บอกว่าเป็ถึงขั้นจักรพรรดิก็สิ้นลมหายใจแล้วตายลงไปในที่สุด
...
ฟู่...
แต่ละคนต่างก็ถอนหายใจออกมายาวๆเพราะเมื่อาาวิหคสีเพลิงตายแล้วก็แสดงว่าพวกเราสามารถเข้าไปในชั้นการประลองที่สี่ได้แล้วและไม่ต้องหยุดที่ชั้นที่สามอีกต่อไป
เป็เพราะกระดูกของาาวิหคสีเพลิงมีทั้งพลังลมและไฟอันน่ามหัศจรรย์ซึ่งสามารถเพิ่มพลังให้อาวุธิญญาธาตุไฟได้ข้าก็เลยหักมันออกอย่างรวดเร็วถึงสี่ชิ้นแล้วโยนเข้าไปเก็บไว้ในแหวนกระดูกจักรภพก่อนจะหันไปพูดกับซูเหยียน“เสี่ยวเหยียน ไว้กลับออกไปข้าค่อยเอากระดูกนี่ให้เ้าก็แล้วกัน”
ซูเหยียนหัวเราะออกมาเล็กน้อยขณะพยุงแขนที่บวมเป่งของตัวเองก่อนจะพูดอย่างเป็ห่วง“เ้าคนกินจุ เ้ามันทึ่มจริงๆ เลยไม่กลัวตายหรือไงถึงได้โจมตีาาวิหคสีเพลิงระยะประชิดแบบนั้น”
“ใช่ว่าข้าไม่กลัวตาย แต่ข้าเชื่อว่าตัวเองสามารถจัดการมันได้ต่างหาก”
“อย่างนั้นเหรอ?”
“แน่นอนสิ!”
ขณะนั้นเองคนของสำนักยาตรา์สำนักวรยุทธ์นักปราชญ์และคนอื่นๆ ต่างก็เดินเข้ามา จากนั้นหยู่เหวินชิงจึงพูดขึ้น“ปู้อี้เชวียนเ้าคิดว่าพวกข้าไม่เห็นตอนที่เ้าเอากระดูกของาาวิหคสีเพลิงนี้ออกไปหรือไง? เ้าาาวิหคสีเพลิงตัวนี้พวกเราทุกคนมีส่วนร่วมในการสังหารทั้งนั้นไม่ใช่เ้าที่จัดการมันแค่คนเดียวและถ้ายังฉลาดอยู่บ้างเ้าก็รีบเอากระดูกนั่นมาเดี๋ยวนี้!”
ข้าบอกตรงๆเลยว่าไม่ค่อยชอบใจกับคำพูดนั้นของเขาสักเท่าไร
ข้าขมวดคิ้วเข้มก่อนจะถาม“เ้านี่นะมีส่วนร่วม คนที่ถูกาาวิหคสีเพลิงโจมตีจนไม่มีแรงจะยืนแบบเ้าเรียกว่ามีส่วนร่วมได้ด้วยเหรอ?”
พักเดียวคนที่อยู่ข้างๆก็พากันหัวเราะเหมือนกับเห็นด้วยกับสิ่งที่ข้าพูดถ้าว่ากันตามตรงการมีส่วนร่วมของหยู่เหวินชิงนั้นหาได้ยากแม้แต่จะบอกว่าเขาช่วยหลอกล่อาาวิหคสีเพลิงยังยากเลยแต่กลับเป็ฝั่งของฟางชิงยวนและมู้เซวี่ยนมากกว่าที่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
มู้หยิงหยิงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น“ปู้อี้เชวียน เ้าอย่ามาทำเป็อวดดีหน่อยเลยอย่าลืมสิว่าาาวิหคสีเพลิงมันถูกพวกข้าทำร้ายจนาเ็เสียก่อนไม่อย่างนั้นเ้าคิดว่าน้ำหน้าอย่างเ้าจะสามารถสังหารมันได้ง่ายๆ แบบนี้เหรอ?”
“อย่างนั้นเหรอ?”
ถังเชวียหรานได้ยินแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง“ปู้อี้เชวียนสังหาราาวิหคสีเพลิงด้วยมือเปล่ายังแข็งแกร่งกว่าคนที่ไม่ทันได้ััตัวของาาวิหคสีเพลิงตั้งหลายเท่าแต่นึกไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะหน้าด้านหน้าทนมาแย่งผลงานไปข้าว่าเกิดเป็คนทั้งทีอย่าหน้าด้านหน้าทนจนเกินไปดีกว่านะ”
มู้หยิงหยิงถึงกับหน้าถอดสีก่อนจะพูดขึ้น“ไม่ว่ายังไงเ้าก็เอากระดูกของาาวิหคสีเพลิงตัวนี้ไปคนเดียวไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้