บทที่ 144 หน้าแตกไปเลย
ผู้จัดการที่ได้ยินประโยคนี้ก็เบิกตาโพลงทันที
เื่นี้ท่าจะประนีประนอมกันไม่ได้แล้ว
ฉู่เหยาหยางเลียริมฝีปาก กวาดตามองเรือนร่างอรชรของหวงเซิงเหม่ยด้วยสายตาแทะโลม
หวงอี้ฉุนขาด ก้าวเข้าไปหาทันที
"พูดถึงพี่สาวผมให้มันดีๆ หน่อย"
"โอ๊ะ! น้องเขย"
ฉู่เหยาหยางยิ้มขบขัน หวงอี้ทำท่าจะเงื้อหมัดต่อย แต่ก็โดนเย่จื่อเฉินรั้งมือเอาไว้ก่อน
เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วมองฉู่เหยาหยางเล็กน้อย
"ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว"
"หืม?" ฉู่เหยาหยางเอียง แล้วหลุดขำพรืด "จะยกผู้หญิง..."
เพียะ!
ฝ่ามือหนาตบเข้าที่ปากของฉู่เหยาหยาง เย่จื่อเฉินลูบมือแล้วพูดขึ้น
"ตอนแรกฉันคิดว่าจะรีบกินแล้วจะได้ยกห้องนี้ให้นาย แต่นายมาหาเื่ฉันก่อน ฉันเลยไม่พอใจมาก"
"แก ไอ้เวร..."
ตุบ!
ยกเท้าขึ้นเตะตัวฉู่เหยาหยาง เย่จื่อเฉินชี้นิ้วไปทางผู้จัดการร้าน แล้วพูดขึ้น
"จับเขาเอาไว้เดี๋ยวนี้ ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องเป็ผู้จัดการร้านที่นี่แล้ว"
"คุณชายเย่ คุณทำผมลำบากใจนะครับแบบนี้"
ผู้จัดการร้านจะร้องไห้แล้วจริงๆ เขาไม่กล้ามีปัญหากับคุณชายเย่ แต่เขาก็ไม่กล้ามีปัญหากับฉู่เหยาหยางเหมือนกัน
"งั้นคุณก็อยากให้ผมลำบากใจงั้นสิ?"
เกิดอาการลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ผู้จัดการร้านจะขบกัดฟันแล้วหันไปสั่งพนักงานที่อยู่ด้านข้าง
"จับคุณฉู่เอาไว้"
แต่ละคนกรูกันเข้าไปจับ
ในเมื่อคุณชายเย่ตรงหน้าสร้างความกดดันให้เขา เขาก็จะสร้างความกดดันให้กับพนักงานเหมือนกัน
เพราะยังไงเขาก็ไม่สามารถแบกความผิดนี้ไว้ได้
"ฉันจะดูสิว่าใครมันจะกล้าแตะต้องฉัน ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องฉันละก็ ฉันจะทำให้พวกแกมีชีวิตอยู่ในปิงเฉิงต่อไปไม่ได้เลย"
อิทธิพลของฉู่เหยาหยางนั้น พนักงานทุกคนล้วนแต่ได้ยินกันมาหมด คำพูดนี้ไม่ใช่แค่ข่มขู่พวกเขาแน่นอน เขาสามารถทำมันได้จริงๆ
พนักงานหยุดชะงักทันที
เย่จื่อเฉินถอนหายใจเบาๆ ดูเหมือนการให้พนักงานทำงานนี้จะเป็การสร้างความลำบากใจให้กับพวกเขาจริงๆ
ดูท่าว่าจะต้องออกแรงเองเสียแล้ว
เดินย่างสามขุมเข้าไปหยุดอยู่ข้างกายฉู่เหยาหยาง แล้วเหลือบมองเขาเล็กน้อย
ก่อนที่เท้าข้างหนึ่งจะเหยียบลงบนหลังของเขา แล้วกดลงกับพื้นเต็มแรง
"เด็กเปรต ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่"
ฉู่เหยาหยางสบถด่าอยู่ที่พื้น เขาอยากลุกขึ้น แต่กลับรู้สึกว่า้าราวกับมีน้ำหนักเป็พันกิโลทับเอาไว้ จนเขาไม่สามารถขยับตัวได้เลย
เย่จื่อเฉินกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาเซียวไห่
เซียวไห่นั่งอยู่บนโซฟาภายในห้องทำงาน เลขาได้นำแผนงานอันล่าสุดมาให้เขา เขารับมาถือไว้แล้วส่งสายตากลับไปให้ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้น
"จื่อเฉิน คิดยังไงถึงได้โทรหาพี่ไห่คนนี้ขึ้นมาล่ะ"
‘พี่ไห่ ถ้าผมไม่มีเื่อะไรผมก็ไม่โทรไปหรอก’ เย่จื่อเฉินหรี่ตาลง กวาดตามองทุกคนในห้องแล้วพูด ‘ตอนนี้ผมกินข้าวอยู่ที่ภัตตาคารในเครือของพี่ แล้วมีอันธพาลที่ชื่อฉู่เหยาหยางมาหาเื่ผม ผมไม่ค่อยโอเคเลย’
"ฉู่เหยาหยางคือใคร?"
เซียวไห่ชะงักไปนิด คนระดับเขาไม่รู้จักเด็กน้อยอย่างฉู่เหยาหยางอยู่แล้ว
"แต่ถ้ามาหาเื่นาย ก็นับว่าเ้าเด็กนั่นมันซวยไปนะ ฉันไปด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ฮวางิเที่ยวกับเด็กพวกนั้นอยู่บ่อยๆ ฉันจะให้เขาไปก็แล้วกัน"
‘รบกวนพี่ไห่ด้วยนะครับ’
เพียงแค่โทรศัพท์ ผู้จัดการร้านที่อยู่ด้านข้างก็เริ่มเช็ดเหงื่อไม่หยุด เขารู้ว่าคุณชายเย่คนนี้ได้โทรศัพท์ไปหาเ้านายใหญ่ของพวกเขาแล้ว
ฉู่เหยาหยางที่โดนเย่จื่อเฉินเหยียบไว้แทบเท้าก็ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนหนักเหมือนเมื่อครู่นี้แล้ว แต่กลับถามขึ้นด้วยความกังวลแทน
"เมื่อกี้นายโทรหาใครนะ"
"เดาดูสิ?"
เย่จื่อเฉินหัวเราะ ก่อนจะส่งสัญญาณเป็เชิงบอกให้ผู้จัดการร้านเลื่อนเก้าอี้มาให้ตน
แล้วเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ โดยที่เท้าซ้ายยังคงเหยียบตัวฉู่เหยาหยางเอาไว้
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
ปัง!
ประตูห้องวีไอพีถูกผลักอย่างแรง ฮวางิปรี่เข้ามาอย่างเร่งรีบ พอฉู่เหยาหยางที่นอนอยู่บนพื้นเห็นเขาก็รีบะโขึ้น
"คุณชายฮวาง คุณมาได้สักที..."
ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเขาก็รอให้ฮวางิมาเหมือนกัน
"เ้าบ้าเอ๊ย!"
ฮวางิยกเท้าเตะเข้าที่ใบหน้าของฉู่เหยาหยาง หน้าของฉู่เหยาหยางซีดไปทันตา เืที่ผสมกับฟันไหลออกมาจากปาก
ฉู่เหยาหยางกระอักเืรุนแรง ฮวางิถึงได้ปัดมือแล้วโค้งตัวพูดขึ้น
"พี่เย่ครับ"
พยักหน้ารับ แล้วจึงยกเท้าออกจากตัวของฉู่เหยาหยาง
เย่จื่อเฉินบิดี้เีอย่างเมื่อยขบ แล้วขมวดคิ้วมุ่นพูดขึ้น
"มากินข้าวร้านพวกนายนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ"
"พี่เย่ครับ พี่เย่จะจัดการเ้านี่ยังไงครับ" เท้าของฮวางิเตะเข้าที่ตัวของฉู่เหยาหยาง เย่จื่อเฉินเลียริมฝีปากเล็กน้อยแล้วไหวไหล่พูด "แล้วแต่นาย นายอยากจัดการยังไงก็เอาแบบนั้นแหละ ที่ฉันโทรไปหาพี่ไห่แล้วให้นายมาก็เพราะอยากจะกินข้าวอย่างสงบ เข้าใจไหม?"
ตอนนั้นเอง ฮวางิถึงได้สังเกตเห็นหวงเซิงเหม่ยที่อยู่ด้านข้าง หลังจากที่ก้มหัวเล็กน้อยให้เธอ เขาก็กระชากคอเสื้อฉู่เหยาหยางไปด่า
"กล้ารบกวนเวลากินข้าวของพี่เย่ นายคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วสินะ"
ฮวางิพยักหน้าให้เย่จื่อเฉินพอก้าวเท้ากำลังจะออกไปจากห้อง ก็ได้ยินเย่จื่อเฉินพูดขึ้นอีกครั้ง
"จริงสิ เ้านั่นที่นายหิ้วอยู่น่ะ เมื่อกี้เพิ่งจะด่าพวกฉันมา แล้วก็ยังพูดจาลามปามใส่ผู้หญิงที่อยู่ข้างตัวฉันด้วย"
"ผมจะจัดการให้เรียบร้อยเลยครับ พี่เย่"
จากนั้นฮวางิจึงปิดประตูห้องให้ด้วยความเคารพ เย่จื่อเฉินถึงได้หันกลับไปยิ้มให้กับสองพี่น้อง
"ทีนี้ก็กินข้าวกันได้อย่างสงบแล้ว"
แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ทำให้การทานข้าวมื้อนี้รู้สึกอึดอัดอย่างมาก
ในที่สุดอาหารมื้อนี้ก็ได้สิ้นสุดลง เย่จื่อเฉินเอ่ยขอโทษ
"ครั้งหน้าผมขอเป็เ้าภาพเลี้ยงข้าวพวกคุณอีกครั้งนะ"
"ก็ได้ แต่ครั้งหน้าอย่าเลี้ยงเลย ถ้าครั้งหน้าจะกินก็กินอยู่ที่บ้านเถอะ"
เหตุการณ์เมื่อครู่นี้ยังติดตาอยู่เลย หวงเซิงเหม่ยไม่อยากให้การทานข้าวครั้งหน้าเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีก
"ก็ได้"
นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่แล้วก็ไม่ได้มีอะไรน่าพูด การไปกินข้าวแล้วเจอกับเื่แบบนี้ ถือว่าซวยมากจริงๆ
เย่จื่อเฉินถอนหายใจเบาๆ แล้วจึงหันไปมองหวงอี้
"พี่พานายไปดูทีมแข่งทีมนั้นเอาไหม ว่ายังไง?"
"เร็วขนาดนี้เลยเหรอครับ?" หวงอี้ขมวดคิ้วเกาแก้ม "พี่จื่อเฉิน ขาผมเพิ่งจะหาย ผมไม่อยากเข้าร่วมทีมเร็วขนาดนั้น ถ้าทำแบบนั้นก็จะต้องนั่งอยู่ทั้งวันอีก"
"โอเค งั้นถ้านายอยากไปเมื่อไรก็ติดต่อฉันได้เลยนะ"
เย่จื่อเฉินตบบ่าหวงอี้ ก่อนจะยักคิ้วให้พวกเขาแล้วพาเดินออกจากร้านไป
เพียงเปิดประตูออกมา พวกเขาก็เห็นฮวางิคาบบุหรี่ไว้ในปากยืนอยู่หน้าห้องวีไอพี เมื่อเย่จื่อเฉินเดินออกมา เขาก็ปรี่เข้าไปหาทันทีราวกับอยากจะพูดอะไร
"พวกคุณไปก่อนเลย ผมขอคุยกับเขาสักครู่"
เมื่อหวงเซิงเหม่ยกับหวงอี้เดินออกไปแล้ว เย่จื่อเฉินถึงได้มองฮวางิแล้วพูด
"ว่ามา จะพูดอะไรกับฉัน?"
"พี่เย่ ผมจัดการเ้าฉู่เหยาหยางเรียบร้อยแล้วนะครับ"
"อืม อะไรอีก..."
เย่จื่อเฉินพยักหน้ารับ แต่เขารู้ดีว่าสิ่งที่ฮวางิอยากจะพูดไม่ได้มีแค่นี้แน่นอน
"ปิดบังพี่เย่ไม่ได้จริงๆ ด้วย"
ฮวางิเกาหัวยิ้มแห้ง ยากที่จะทำให้คนเชื่อ หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้เ้าเด็กนี่แค่เห็นเย่จื่อเฉินยังทำท่าโหดใส่เขาอย่างกับอะไรอยู่เลย
"เอาล่ะ มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เถอะ"
เย่จื่อเฉินเลิกคิ้ว ฮวางิลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกัดฟันพูด
"ผมอยากขอซื้อยาวิเศษกับพี่เย่ครับ หรือลูกท้อลูกนั้นก็ได้!"