ก่อนที่หม่าเมี่ยนจะจากไปเคยมอบยันต์ให้เขาหนึ่งแผ่น บอกไว้ว่าหากต้องเผชิญกับความยากลำบากสามารถใช้ยันต์นี้เรียกหม่าเมี่ยนมาได้
ก่อนหน้านี้เสิ่นเสวียนไม่เคยใส่ใจ เขาละเลยมันไปจนเกือบลืมไปแล้ว
ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะเอามันออกมาใช้
เพียงแต่ว่าเขาเก็บมันไว้ที่ไหนกันล่ะ
ในแหวนไม่มี
ในมิติของเขาก็ไม่มี
ในผังเมืองซานเหอก็หาแล้วแต่ไม่เจอ
“ไม่ผิด ข้าเคยให้โอกาสเ้าไปแล้ว น่าเสียดายที่เ้าไม่้ามัน และยังสมรู้ร่วมคิดกับตาแก่นั่นอีก หลังจากที่เ้าได้เจอกับตาแก่นั่น เ้าก็ไร้ค่าไปแล้วสำหรับข้า นี่คือเหตุผลที่ข้าจะสังหารเ้า”
ชายชราจื่อกวงมองเสิ่นเสวียน เหมือนกับเป็สหายเก่าที่รำลึกเื่ในวันวาน
“เหตุผลของเ้ายากที่จะโต้แย้งได้ แต่ข้ามีคำถามหนึ่งที่อยากถามเ้ามาตลอด”
เสิ่นเสวียนตามหายันต์นั้นอยู่ พลางยื้อเวลาไปด้วย
อย่าทำให้ชีวิตต้องเสี่ยงเพียงเพราะทำของหายเลย แบบนั้นคงจะไม่ยุติธรรมเกินไป
เขายังพอเชื่อใจหม่าเมี่ยนอยู่บ้าง ในเมื่ออีกฝ่ายให้ของมาแล้วแสดงว่าต้องใช้ประโยชน์ได้ จะบอกว่าคำของิญญาเชื่อถือไม่ได้ แต่หม่าเมี่ยนที่เป็ถึงเซียนิญญาแล้ว คำของเขาค่อนข้างน่าเชื่อถือ ไม่ได้หลอกลวงแต่อย่างใด
เพียงแต่เขาเอายันต์แผ่นนั้นไปไว้ที่ไหน เขาค้นหาทุกที่ที่น่าจะเก็บไว้แล้วแต่ก็ยังหาไม่เจอ
“ว่ามา”
“เ้ากับผู้เฒ่าจี๋เล่อมีความแค้นอะไรต่อกัน”
เสิ่นเสวียนอยากรู้จริงๆ ว่าสองคนนี้แค้นอะไรกันนัก ผ่านไปพันปีแล้วก็ยังมิอาจปล่อยผ่านไปได้
“ความแค้นระหว่างข้ากับเขา ใช่เื่ที่เ้าจะรู้ได้ที่ไหนกัน”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงมองเสิ่นเสวียน ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่อยากคุยกับเขาแล้ว หรืออาจรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังยื้อเวลาอยู่
แม้อีกฝ่ายจะเป็เพียงปลาบนเขียงในสายตาของเขา แต่ไม่รู้เพราะอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าเสิ่นเสวียน เขากลับกระวนกระวายใจอยู่ตลอดเวลา
เหมือนกับว่าแม้จะมาถึงขั้นนี้แล้ว อีกฝ่ายก็ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้อีก
หลังจากเกิดความคิดเช่นนี้แล้ว ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงคิดเอาเองว่าช่างน่าขันยิ่งนัก พลังยุทธ์ของเขาต่างกับอีกฝ่ายราวฟ้ากับเหว กลยุทธ์ทั้งหลายไม่มีประโยชน์อะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังที่แข็งแกร่ง
เขาเป็คนระมัดระวังตัว ไม่มีทางยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอย่างเด็ดขาด
เขาต้องจบเื่นี้ให้เร็วที่สุด มีเพียงสังหารเสิ่นเสวียนเท่านั้น เขาจึงจะวางใจได้
“แต่ผู้เฒ่าจี๋เล่อเล่าบางอย่างให้ข้าฟังด้วย เ้าอยากฟังไหม”
เสิ่นเสวียนรู้สึกว่าอีกฝ่ายปะทุเจตจำนงสังหารออกมาอีกแล้ว จึงกล่าวสิ่งที่อีกฝ่ายน่าจะอยากฟังออกไปอีก พลังยุทธ์ของเขาในตอนนี้ยังต้านทานลำแสงจากดวงตาของอีกฝ่ายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ หากอีกฝ่ายคิดลงมือกับเขาจริงๆ เขาคงตายในลมหายใจเดียว
“อ้อ? ไหนลองว่ามา”
เขาค่อนข้างชอบฟังเื่ของผู้เฒ่าจี๋เล่อ และเขารู้ด้วยว่าเสิ่นเสวียนอยู่กับผู้เฒ่าจี๋เล่อมานานกว่าครึ่งปี ไม่แน่ว่าอาจรู้บางอย่างมาจริงๆ ก็ได้
“ที่ไหน อยู่ไหนนะ”
ในใจของเสิ่นเสวียนตอนนี้แทบจะลุกเป็ไฟอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่มีล่ะ! ของที่ขั้นเซียนิญญาคนหนึ่งให้มากลับเอาไปทิ้งไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ ในโลกนี้คงมีเพียงเสิ่นเสวียนคนเดียวที่กล้าทำ
“ความจริงแล้วก็ไม่มีอะไรหรอก เขาบอกว่าเ้าไม่ใช่คนดี หัวรั้น ยังบอกให้ข้าออกห่างจากเ้าด้วย แต่ข้าคิดว่าเ้าไม่ได้เป็อย่างที่เขาบอกมาเลย”
เสิ่นเสวียนครุ่นคิดพลางกล่าว พิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว สิ่งที่เขากล่าวมาน่าจะไม่มีอะไรผิดปกติ
“เหลวไหล! เขาไม่มีทางกล่าวเช่นนี้ เ้าคิดยื้อเวลาอยู่หรือไร”
ใครจะไปคาดคิดว่าผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงจะมองออกถึงคำโกหกของเสิ่นเสวียน เจตจำนงสังหารในแววตาของเขาพลันพลุ่งขึ้นมาทันที
“เขากล่าวเช่นนี้จริงๆ หากไม่เชื่อไปถามเขาดูก็ได้”
เสิ่นเสวียนไม่มีทางกลับคำเด็ดขาด ์เท่านั้นที่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังข่มขู่เขาอยู่หรือเปล่า
“สังหารเ้าแล้วข้าค่อยไปถามเขาอีกที”
ความอดทนของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงได้หมดสิ้นลงแล้ว เขานั่งอยู่บนบัลลังก์สีม่วง ค่อยๆ เข้าใกล้เสิ่นเสวียนทีละน้อย
ทำลายร่างของเขาไป ทำให้แผนการที่เขาวางไว้เกือบสามสิบปีต้องพินาศลง เสิ่นเสวียนโดนฆ่าตายไปสิบครั้งก็ยังไม่พอ
ส่วนเสิ่นเสวียนยังคงค้นหายันต์แผ่นนั้นไม่หยุด แต่ก็ยังหาไม่เจอสักที
“พี่เสวียน ให้ข้าออกไปเถอะ!”
เสียงของเสิ่นเสี่ยวเม่ยดังขึ้น แต่เสียงของนางค่อนข้างอ่อนแรง เห็นได้ชัดว่าพลังที่เสิ่นเสวียนส่งเข้าไปก่อนหน้านี้ทำให้นางยังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ แต่พลังยุทธ์ของนางกลับก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิมมาก ตอนนี้ถึงขั้นราชันระดับกลางแล้ว
พลังยุทธ์เช่นนี้แข็งแกร่งกว่าเสิ่นเลี่ยนอยู่เล็กน้อย
“เ้ายังอ่อนแรงมาก อย่าออกมา”
“แต่เขาอันตรายมาก” เสิ่นเสี่ยวเม่ยที่อยู่ในมิติหน้าซีดเผือดแต่กลับมีสีหน้าเป็กังวล นางไม่เคยเห็นสีหน้าเคร่งเครียดขนาดนี้ของเสิ่นเสวียนมาก่อน ั้แ่ที่ได้เจอกับเสิ่นเสวียนมา เสิ่นเสวียนทำให้นางรู้สึกถึงใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความเชื่อมั่นตลอดกาล
ทว่าตอนนี้สีหน้าของเขากลับเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็
“เ้าอยู่ในนั้น พี่จะได้ไม่ต้องเป็ห่วงมาก”
เสิ่นเสวียนรู้สึกเ็ปใจต่อเสิ่นเสี่ยวเม่ยมาก ในโลกนี้เขามีน้องสาวแท้ๆ แล้ว เขาจะปกป้องครอบครัวเพียงคนเดียวของตนเองจนสุดความสามารถ
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ พี่ไม่อนุญาตให้เ้าออกมา”
เสิ่นเสวียนมองบัลลังก์สีม่วงที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พลางออกคำสั่งเสิ่นเสี่ยวเม่ยอย่างเด็ดขาด
นี่คือครั้งแรกที่เสิ่นเสวียนใส่อารมณ์ในน้ำเสียงกับเสิ่นเสี่ยวเม่ย
“อืม”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยก้มหน้าลงทันทีและไม่กล่าวอะไรอีก แต่แววตาของนางยังมีความคับข้องใจปรากฏขึ้นเล็กน้อย นางเพียงแค่อยากแบกรับแรงกดดันแทนพี่ชายของนางเท่านั้น
สิบห้าจั้ง
เก้าจั้ง
บัลลังก์สีม่วงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว แต่เสิ่นเสวียนยังคงหายันต์แผ่นนั้นไม่เจอ
“สหายเสิ่น ข้ามาแล้ว”
ทันใดนั้น เสียงของาามารตะวันตกพลันดังขึ้น แล้วร่างของเขาก็มาหยุดลงตรงหน้าเสิ่นเสวียน
“ผู้าุโาามาร”
“ไม่ต้องพูดแล้ว มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน อย่างมากก็แค่ตาย”
าามารตะวันตกกล่าวออกมาด้วยเสียงดังก้อง เขาไม่เห็นถึงความสำคัญของความเป็ความตายสักเท่าไร ในสายตาของเขาความสัมพันธ์ต่างหากที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิต เพียงแต่น่าเสียดายที่เขายังไม่ได้เจอร่างของเด็กสาวคนนั้น เขาไม่ยอมหากต้องตายไปตอนนี้
“ข้าด้วย”
เริ่นเสี้ยวเทียนเหาะเข้ามาหาเช่นกัน เขายืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเสวียน ข้างๆ าามารตะวันตก
“ข้าเห็นเ้าเป็สหายกันมาั้แ่แรก แน่นอนว่าเป็สหายกันต้องร่วมเป็ร่วมตาย ร่วมสู้ร่วมถอย”
เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวพลางยิ้ม ในตอนนี้มีสายลมพัดผ่านเบาๆ ทำให้เขารู้สึกได้ถึงอิสระและความสง่างาม
“ข้าก็ด้วย”
ร่างของาามารทิศเหนือปรากฏขึ้นตรงหน้าเสิ่นเสวียนเช่นกัน ผู้แข็งแกร่งขั้นจักรพรรดิเพียงคนเดียวในหุบเขาสุขาวดี แม้จะเปราะบางมากในสายตาของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวง แต่เขายังอยากลอง
ส่วนอำนาจอื่นๆ ในหุบเขาสุขาวดี ยังคงอยู่ในฐานที่มั่นของตนเอง ความจริงแล้วพวกเขาฉลาดกว่าพวกเสิ่นเสวียนมาก พวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าปะทะกับผู้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดนั้น
โทสะของผู้ศักดิ์สิทธิ์สามารถคร่าชีวิตได้นับร้อยนับหมื่น
ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะรับมือได้เลย
“ยังมีอีกไหม”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงในตอนนี้ไม่ได้เร่งรีบแล้ว เขามองทุกคนตรงหน้าราวกับฝูงมด เขาชื่นชอบความรู้สึกเช่นนี้มาก การที่ได้กุมชะตาชีวิตของผู้อื่นเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกประสบความสำเร็จ
คนอื่นๆ ในบริเวณนั้นไม่มีใครเคลื่อนไหวอีก
ขณะนี้ คนที่ยืนอยู่กับเสิ่นเสวียนมีเพียงสามคน คือาามารตะวันตก เริ่นเสี้ยวเทียน และาามารทิศเหนือ
“ข้า้าเพียงชีวิตของพวกเขาสี่คน แล้วพวกเ้าจะไม่ต้องตาย”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงปรายตามองไปรอบๆ พลางกล่าวเสียงเรียบ
หลังจากได้ยินคำของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวง หลายๆ คนที่อยู่ด้านล่างต่างแววตาเป็ประกาย การเลือกข้างยังเป็ประโยชน์อยู่จริงๆ เพียงแค่ยกมือเล็กน้อยก็รักษาชีวิตตนเองไว้ได้แล้ว
“ตอนนี้พวกเราควรจบเื่นี้ได้แล้ว”
ผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงหรี่ตามอง พลันมีลำแสงสองสายพุ่งออกมาจากดวงตาตรงเข้าใส่เสิ่นเสวียนที่อยู่ด้านหลัง
ลำแสงนั้นรวดเร็วมาก มันพุ่งออกไปเพียงชั่วพริบตา
ทว่าในขณะนั้น แหวนบนนิ้วของเริ่นเสี้ยวเทียนกลับสว่างวาบขึ้นมา พร้อมกับไข่มุกเม็ดหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าลำแสงสายนั้น
ตูม!!!
เสียงะเิดังก้องไปทั่วบริเวณ
“หาเจอแล้ว”
เสิ่นเสวียนที่ยืนอยู่ด้านหลังกล่าวออกมาด้วยความดีใจ