หลินกู๋หยู่มองดูหญิงสาวคนนั้นจากไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่ใบหูได้ยินเสียงหัวเราะดังก้องอย่างมีความสุข
แปลกจริงๆ คนอย่างโจวซื่อก็สามารถหัวเราะออกมาดังๆ ได้เช่นกัน
หลินกู๋หยู่ลดศีรษะลง เดินกลับเข้าไปข้างในบ้าน
ใน่สองวันนี้ หลินกู๋หยู่ได้ยินเสียงหัวเราะที่ดังมาจากบ้านสกุลฉืออย่างคลุมเครือ ราวกับว่ามีเหตุการณ์สำคัญที่น่ายินดีบางอย่าง
วันนี้ดวงอาทิตย์สาดแสงไม่ร้อนมาก หลินกู๋หยู่ช่วยประคองฉือหางเดินออกจากห้อง นางได้เตรียมเก้าอี้วางไว้ที่มุมผนังก่อน แล้วช่วยประคองให้ฉือหางนั่งลง
“ตอนนี้ข้าเดินเองได้แล้ว” ฉือหางมองไปที่หลินกู๋หยู่ซึ่งเตี้ยกว่าเขาราวมากกว่าหนึ่งศีรษะ [1] และพูดเบาๆ อย่างอ่อนโยนว่า “เ้าก็อย่าได้กังวลอีกเลย”
รอให้ฉือหางนั่งลง หลินกู๋หยู่ถึงได้ปล่อยมือแล้วพูดอย่างเนิบช้า "ยาสมุนไพรที่บ้านเหลือไม่มากแล้ว ข้าคิดที่จะขึ้นไปบนูเาเพื่อเก็บยาสมุนไพร"
“เก็บสมุนไพรหรือ?” เมื่อนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเขา ฉือหางขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพูดอย่างเป็กังวลว่า “บ้านเรามียังมีเงินอยู่ไม่ใช่หรือ เ้าอย่าไปเก็บสมุนไพรเลยจะดีกว่า”
บนูเามีสัตว์ป่ามากมาย และเส้นทางบนูเาก็คดเคี้ยวลาดชัน หากเกิดอะไรขึ้นอีก ฉือหางไม่กล้าคิดถึงเื่นี้ต่อไป เขาขมวดคิ้วและมองไปที่หลินกู๋หยู่
หลินกู๋หยู่เม้มริมฝีปากเล็กน้อย ในดวงตาปรากฏรอยยิ้มจางๆ เสียงของนางก็แ่เบาและอ่อนโยน "ไม่เป็ไร ข้าจะระวังตัว"
ในบ้านเหลือยาไม่มากนัก นางไม่้าใช้ยาจากโรงหมอสกุลลู่อีกต่อไป นางมักจะรู้สึกว่านางเป็หนี้บุญคุณลู่จื่อยู่มากแล้ว
“อาการป่วยของข้าก็จะดีขึ้นในเร็วๆ นี้เหมือนกัน” ฉือหางพูดอย่างเป็กังวล “ตอนนี้ไม่กินยาก็ไม่เป็ไร”
“แค่ขึ้นเขาเพื่อเก็บสมุนไพรก็เท่านั้น ไม่ได้ไปล่าสัตว์ในูเาลึกเสียหน่อย อย่ากังวลเลย” หลินกู๋หยู่กล่าว จัดตะกร้าไม้ไผ่ที่เต็มไปด้วยฟืนด้วยการเอาฟืนออกแล้วทำความสะอาด จากนั้นมัดด้วยสายคาด แล้วแบกไว้ด้านหลัง
โต้ซาที่เดิมทีกำลังนั่งยองๆ นับมดอยู่ข้างๆ แต่เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของหลินกู๋หยู่ เขาก็รีบเดินไปหาหลินกู๋หยู่ด้วยความว่องไว
“ท่านแม่” โต้ซายกมือขึ้นดึงแขนเสื้อของหลินกู๋หยู่เบาๆ ดวงตาจ้องมองที่เด็กสาวอย่างใจจดใจจ่อ
“เ้าอยู่บ้านกับท่านพ่อ ดีไหม?” หลินกู๋หยู่ก้มลงต่อหน้าโต้ซาและพูดเบาๆ ว่า “แม่จะออกไปทำธุระเล็กน้อย”
“ไป ไป!” มือเล็กๆ ของโต้ซาจับเสื้อผ้าของหลินกู๋หยู่ไว้แน่นอย่างไม่เต็มใจ
“ลูกไม่อยากให้เ้าไป เ้าก็อย่าไปเลย” ฉือหางนั่งอยู่ที่เดิม แสงอาทิตย์ที่ตกกระทบลงมาทำให้เขารู้สึกอบอุ่น
ทว่าเมื่อคำพูดเหล่านี้หลุดออกจากปาก หัวใจของฉือหางก็สั่นเล็กน้อย พวกเขาเช่นนี้ดูเหมือนเป็ครอบครัวเดียวกัน
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาไม่้าแยกจากนาง
“อีกสักพักแม่ก็จะกลับมาแล้ว” หลินกู๋หยู่้าจะแกะมือเล็กๆ ของโต้ซาออก แต่โต้ซาจับแขนเสื้อของนางไว้แน่น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ยอมปล่อย
หลินกู๋หยู่ยังกังวลว่าแรงของนางจะมากไปจนทำให้มือของโต้ซาเจ็บ นางจึงทำได้เพียงจับมือของโต้ซาออกอย่างระมัดระวัง
"เ้ากำลังจะไปไหน?" เมื่อลู่จื่อยู่เข้ามาจากด้านนอก เขาก็เห็นหลินกู๋หยู่และโต้ซาจึงก้าวเท้าเดินเข้าไปหา
ทันทีที่หลินกู๋หยู่หันศีรษะ โต้ซาก็พลันกอดคอของหลินกู๋หยู่แน่นทันที
เด็กน้อยน่ารักมาก แต่ติดแจเกินไป
โต้ซาที่เกาะนางแจเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกปวดศีรษะไม่น้อย
หลินกู๋หยู่อุ้มโต้ซาขึ้นมาก่อนจะหันไปมองลู่จื่อยู่ ก่อนที่นางจะพูด สายตาของนางก็จับจ้องไปที่กระเป๋าใบใหญ่สองใบในมือของเขา
"ยาของเขากำลังจะหมด ข้าจึงนำยามาเพิ่มตามคำสั่งยาเดิมของเ้า" ลู่จื่อยู่เดินช้าๆ ไปหาหลินกู๋หยู เสียงของเขาอ่อนโยนราวกับแสงอาทิตย์สาดส่องในฤดูใบไม้ผลิ "ข้าวางมันไว้ตรงนี้”
ลู่จื่อยู่จะมาที่นี่เกือบวันเว้นวัน ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องมีงานที่จำเป็ต้องทำมากกว่านี้
“เท่าไรหรือ?” หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเอ่ยถามอย่างสับสน
มุมปากที่โค้งขึ้นของลู่จื่อยู่ดูเหมือนจะถูกแช่แข็งด้วยน้ำแข็ง ทว่าเมื่อเขามองกลับไปที่หลินกู๋หยู่ ใบหน้าของเขากลับมีเพียงความอ่อนโยน "ข้าไม่คิดเงิน"
วางยาลงบนกองฟืนข้างนอก ลู่จื่อยู่เดินอย่างสง่างามมาหยุดตรงหน้าหลินกู๋หยู่ "ไม่จำเป็ต้องขึ้นูเาเพื่อเก็บยาแล้ว ที่นั่นอันตรายเกินไป"
หลินกู๋หยู่เดินไปหาฉือหางและวางโต้ซาลง "กล่าวกันว่า เป็พี่น้องกันก็ต้องคิดและชำระบัญชีให้ชัดเจน ท่านหมอลู่ ท่านให้ยาและรักษาโดยไม่คิดเงิน เช่นนี้ร้านขายยาของท่านจะได้กำไรหรือไม่?"
สกุลลู่มีเงินจำนวนมาก เขาไม่เคยให้ความสนใจกับเงินจำนวนเล็กน้อยเท่านี้
เพียงแต่ลู่จื่อยู่รู้สึกประหลาดใจก็คือ หากเขาให้ยาแก่ผู้คนโดยไม่้าเงิน ผู้คนทั่วไปย่อม้า เขาไม่เคยเจอคนที่จะจ่ายเงินเช่นหลินกู๋หยู่
ยิ่งเขาเข้าใกล้หลินกู๋หยู่มากเท่าไร ลู่จื่อยู่ก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ยังมีอะไรที่เขายังไม่รู้อีกมากมาย
ในโลกที่บุรุษเป็ฝ่ายปกครอง สตรีคนหนึ่งที่มาจากครอบครัวที่ยากจน แต่นางยังมีความสามารถในการรักษาคน ทักษะทางการแพทย์ของนางย่อมไม่ด้อยกว่าเขาอย่างแน่นอน และดูเหมือนว่ายังมีเื่ลึกลับที่เขายังไม่รู้เกี่ยวกับตัวนางเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“เงินค่ายาเพียงเล็กน้อย ไม่จำเป็ต้องพูดถึง ข้ายังคงหวังอยากให้แม่นางหลินไปช่วยงานในโรงหมอของข้าในอนาคต” ลู่จื่อยู่ตอบอย่างใจดี
ก่อนหน้านี้ เขาได้ส่งคนมาสอบถามแล้ว
เดิมทีคนที่แต่งงานกับฉือหางควรจะเป็พี่สาวของนาง แต่พี่สาวของนางหนีไป นางจึงถูกบังคับให้แต่งงานแทน
นางควรจะเกลียดฉือหางถึงจะถูก แต่เมื่อเห็นการแสดงออกทางสีหน้ายามนางมองฉือหาง นางดูเหมือนไม่ได้เกลียดเขา
"ถ้าข้ามีเวลาว่างในอนาคต แน่นอนว่าข้ายินดีที่จะไปช่วยงานที่โรงหมอสกุลลู่ แต่ตอนนี้…" นางหยุดชะงักชั่วครู่ หว่างคิ้วและดวงตาของนางแสดงออกถึงความลำบากใจเล็กน้อย "จะเป็การดีกว่าที่จะคิดบัญชีนี้อย่างชัดเจน”
ฉือหางเงยหน้าขึ้นมองลู่จื่อยู่ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "กู๋หยู่พูดถูก ถึงอย่างไรครอบครัวของเราสองคนก็ไม่ได้สนิทกันมาก"
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือหางพูด ใบหน้าของลู่จื่อยู่ก็ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งหนึ่งชั้น "ห้าร้อยอีแปะ"
“มันจะน้อยไปหรือไม่?” หลินกู๋หยูเอ่ยถามอย่างเป็กังวล
"ไม่ มันไม่ใช่ยาล้ำค่าอะไร" ลู่จื่อยู่พูดอย่างไม่เต็มใจ
หลินกู๋หยู่ยิ้มและเข้าไปในห้องเพื่อเอาเงินออกมา ก่อนจะมอบให้ลู่จื่อยู่
“ข้าจะขึ้นไปบนูเาเพื่อเก็บสมุนไพร ไม่รู้ว่าข้าจะกลับมาเมื่อไร ดังนั้นข้าเชิญท่านทานมื้อเย็นที่นี่ไม่ได้แล้ว” หลินกู๋หยู่คิดว่าลู่จื่อยู่เป็คนดีและน่ารักมาก ทุกครั้งที่ลู่จื่อยู่รักษาฉือหางโดยไม่คิดเงิน นางจะเชิญลู่จื่อยู่ทานข้าวที่บ้าน
"ประจวบเหมาะกับยาสมุนไพรในร้านของข้าก็เหลือไม่มากแล้วเช่นกัน" ลู่จื่อยู่พูดอย่างสุขุม "ข้าก็จะไปเก็บสมุนไพรด้วย!"
ถ้อยคำนี้ฟังดูแล้วไม่ชอบมาพากล
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาของนางจับจ้องที่ใบหน้าของลู่จื่อยู่อย่างสงบ นางพยายามมองอะไรบางอย่างจากใบหน้าของเขา แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะนางไม่เห็นอะไรเลย
หลินกู๋หยู่คิดว่าอีกสักพักนางก็จะกลับมาแล้ว จึงขอให้ฉือหางเฝ้าดูโต้ซาที่บ้าน นางเดินขึ้นูเาไปพร้อมกับลู่จื่อยู่
หลินกู๋หยู่แบกตะกร้าไม้ไผ่ใบเล็กไว้บนแผ่นหลัง ลู่จื่อยู่ไม่ได้เก็บอะไรเลย เขาเดินเคียงข้างหลินกู๋หยู่อย่างสงบ
ระหว่างทางมีแต่ความเงียบ ทั้งคู่ไม่ได้สนทนาอะไรกัน
หลังจากเดินไปสักพัก แดดก็แผดเผาแผ่นดินราวกับว่าแผ่นดินถูกเผาจนสุกแล้ว
หลินกู๋หยู่หันศีรษะไปมองลู่จื่อยู่ พลางเม้มริมฝีปากเล็กน้อย "ถ้าไม่มีธุระอะไร ท่านกลับไปเถอะ ที่นี่ร้อนเกินไปแล้วจริงๆ"
ลู่จื่อยู่ถือพัดกระดาษสีขาว เขาพัดมันอย่างสง่างามและสุขุม ทั้งยังพัดให้หลินกู๋หยู่ราวกับไม่ตั้งใจ
"ไม่เป็ไร" ลู่จื่อยู่พูดอย่างสบายๆ
หลินกู๋หยู่ไม่พูดและเดินไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ จากมุมมองของนาง เห็นชัดว่าลู่จื่อยู่สามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตที่สะดวกสบายอย่างมีความสุข แต่เขากลับตามนางออกไปข้างนอกเพื่อตากแดด
ลู่จื่อยู่มองกลับไปที่หลินกู๋หยู่ ใบหน้าของนางมีเหงื่อซึมออกมาทั้งยังแดงเล็กน้อย จึงถามอย่างเป็ห่วงว่า "พวกเราพักผ่อนก่อนสักพักดีหรือไม่?"
หลินกู๋หยู่ส่ายศีรษะเบาๆ และพูดออกมาขณะหายใจหอบ "ข้าไม่เป็ไร จะเก็บยาให้มากอีกสักหน่อย จะได้กลับเร็วขึ้น อีกสักพักข้าจะต้องทำอาหารกลางวันด้วย"
ลู่จื่อยู่ขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในใจ แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่มองหลินกู๋หยู่อย่างเงียบๆ "แม่ของเขาอยู่บ้านไม่ใช่หรือ?"
โจวซื่อ?
รอยยิ้มของหลินกู๋หยู่ดูเหมือนกำลังสมเพชตัวเอง "พวกเราแยกครอบครัวกันนานแล้ว ดังนั้นนางย่อมไม่ช่วยอะไร"
เมื่อฉือหางป่วยหนัก โจวซื่อแยกครอบครัวอย่างใจดำ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ร่องรอยของความไม่พอใจก็ปรากฏบนใบหน้าของหลินกู๋หยู่
หลังจากเดินเป็เวลานานก็เห็นเพียงสมุนไพรประปราย ที่นี่มีน้อยมากจริงๆ
ลู่จื่อยู่ดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของหลินกู๋หยู่ เขายืนอยู่ข้างๆ นาง มองลงไปที่หลินกู๋หยู่ที่กำลังเก็บสมุนไพร "มีหลายคนรู้จักสมุนไพรพื้นฐานทั่วไป สมุนไพรเ่าั้ถูกเก็บไปขายแล้ว"
หลินกู๋หยู่โยนยาลงในตะกร้าไม้ไผ่ มองไปรอบๆ แล้วพูดว่า "ดูเหมือนว่าถ้า้าเก็บยาสมุนไพรในอนาคต จะต้องเข้าไปในูเาถึงจะดีกว่า"
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด ลู่จื่อยู่ก็ไม่เห็นด้วยและพูดว่า "บนูเามีสัตว์ป่ามากมาย ไม่ไปย่อมดีกว่า ว่ากันว่าเขาถูกสัตว์ป่าไล่ล่าและตกลงมาจากูเาไม่ใช่หรือ?"
การแสดงออกบนใบหน้าของหลินกู๋หยู่หยุดชะงักชั่วคราว "ข้ารู้"
แม้แต่นักล่าอย่างฉือหางก็ไม่สามารถหลบหนีได้ ถ้านางเข้าไปเช่นนี้ บางทีนางอาจจะกลับออกไปไม่ได้
หลินกู๋หยู่ถอนหายใจเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะคิดว่า การแสวงหาความมั่งคั่งจะต้องทุ่มเทและเสี่ยงอันตรายมากจริงๆ
ข้างหน้ามีสมุนไพรชนิดหนึ่งขึ้นที่ขอบหน้าผา หลินกู๋หยู่ก้าวเท้าไปข้างหน้าสองสามก้าวอย่างรวดเร็ว มุมปากของนางก็โค้งด้วยความพึงพอใจ
สมุนไพรนั้นสูงจากพื้นดินประมาณต้นไม้หนึ่งต้น ถ้าปีนต้นไม้ หลินกู๋หยู่คิดว่ามันง่ายมาก แต่หน้าผานี้ทำให้หลินกู๋หยู่ถึงกับขมวดคิ้ว
ลู่จื่อยู่ก็เห็นเช่นกัน เขาขมวดคิ้ว ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง หลินกู๋หยู่ก็ถอดตะกร้าไม้ไผ่วางลงบนพื้น แล้วเดินไปที่ด้านล่างของหน้าผา
“เ้าอย่าไปที่นั่น” ลู่จื่อยู่รีบก้าวเท้าไปขวางด้านหน้าหลินกู๋หยูอย่างรวดเร็ว คว้าแขนของนางพลางส่ายศีรษะ “มันอันตรายเกินไป เ้าอย่าไปที่นั่นเลย”
หลินกู๋หยู่มองไปที่ดวงตาที่เป็กังวลของลู่จื่อยู่ จากนั้นเงยหน้ามองสมุนไพร้า
ถ้าใช้สมุนไพรชนิดนี้กับฉือหาง เขาจะต้องหายเร็วขึ้นอย่างแน่นอน สมุนไพรชนิดนี้หายากมาก ถ้านางยอมแพ้ตอนนี้ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะได้พบอีก
“นี่เป็สิ่งสำคัญมากสำหรับข้า” หลินกู๋หยู่พึมพำพลางมองไปที่พืชสมุนไพร้า “เ้าก็รู้นี่ สมุนไพรบางชนิดมีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด ลู่จื่อยู่ก็ขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาก็ไม่น่ามอง "ต่อให้เป็เช่นนั้นก็ไปไม่ได้ เ้าปีนขึ้นไป แล้วเกิดพลัดตกลงมาจะทำอย่างไร?"
เมื่อนึกถึงสถานการณ์นั้น การแสดงออกทางสีหน้าของลู่จื่อยู่ก็ยิ่งน่าเกลียด
"ไม่เป็ไร" หลินกู๋หยู่มองลู่จื่อยู่ด้วยรอยยิ้ม นางเอ่ยช้าๆ "ข้าจะระวัง"
หลินกู๋หยู่ตัดสินใจแล้ว นางเงยหน้าขึ้นคำนวณเส้นทางที่จะปีนขึ้นไปอย่างรอบคอบ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้