พายุสวาทที่พัดผ่านไปทิ้งไว้เพียงความเงียบสงัดและเสียงหอบหายใจที่สอดประสานกันในความมืด ลิด้าค่อยๆ พยุงกายลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าด้วยมือที่ยังสั่นเทา ทันใดนั้นเธออุทานออกมาเบาๆ "อุ้ย!! เจ็บจัง" ความระบมจากบทรักที่ดุดันทำให้เธอต้องนิ่วหน้า เธอมองสบตาชายหนุ่มด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนเกินบรรยาย ภาพจำที่เธอครางเรียกเขาว่า "ผัวจ๋า" ย้อนกลับมาทำให้ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวจนต้องเบือนหนี
แสงสลัวรำไรเผยให้เห็นเส้นผมยาวสลวยที่ปรกไหล่เปลือยเปล่าและปลีน่องขาอ่อนที่ขาวนวลตาจนพายุแทบจะตบะแตกอีกรอบ แต่เสียงหวานของเธอก็ขัดจังหวะขึ้นก่อน "เราควรที่จะออกไปจากที่นี่ก่อนนะค่ะ" เธอพูดโดยไม่หันมามองเขา ราวกับพยายามปกปิดความหวั่นไหว พายุได้สติรีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่ "ใช่... เราต้องรีบออกไปก่อนที่พวกนั้นจะย้อนกลับมา" เขาจูงมือพาเธอฝ่าความมืดไปทางทางออกลับด้านหลัง ทิ้งร่องรอยแห่งความลับและความหอมละมุนไว้เื้ักองภาพวาดในคืนที่ฝนกระหน่ำนั้น
จิ๊บๆ จิ๊บ...
เสียงนกร้องประกอบกับแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างปลุกพายุให้ตื่นขึ้นจากพฤกษาภิรมย์ แรงสั่นะเืจากขบวนรถไฟที่วิ่งผ่านข้างบ้านเช่าไม้เก่าๆ ทำให้เขาสะดุ้งตื่นเต็มตา นาฬิกาบอกเวลา 07.30 น. เขานั่งเหม่ออยู่บนเตียง พยายามนึกทบทวนว่าเื่เมื่อคืนคือความฝันหรือไม่ แต่กลิ่นกายหอมกรุ่นที่ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกและร่างกายเป็เครื่องยืนยันอย่างดีว่ามันคือเื่จริง
เขานึกถึงตอนที่ไปส่งเธอขึ้นรถ BMW คันหรูที่จอดอยู่หลังหอศิลปะ เธอจากไปโดยไร้คำล่ำลา ทิ้งไว้เพียงเสียงเร่งเครื่องยนต์และความทรงจำที่เขาต้องฝังมันไว้ในใจ "ผม... ลืมคุณไม่ได้จริงๆ แต่ผมเข้าใจ เรามันอยู่คนละโลกกัน ลาก่อนนะลิด้า" เขาตบหน้าตัวเองเรียกสติ ก่อนจะลุกไปจัดการตัวเองและออกไปซื้ออาหารสำเร็จรูปที่มินิมาร์ทใกล้บ้าน
ระหว่างทางเดินกลับ สายตาของเขาสะดุดเข้ากับจอทีวีหน้าร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังเปิดโฆษณาเครื่องสำอางแบรนด์ดัง ภาพของลิด้าปรากฏขึ้นในชุดหรูหรา ใบหน้าสวยบาดตา ปากรูปกระจับสีระเรื่อ และผิวพรรณที่ขาวเนียนไร้ที่ติ ยิ่งเห็นเธอดูสูงส่งเพียงใด หัวใจของเขาก็ยิ่งเจ็บแปลบ "นี่หรือคือคำว่ารัก... มันช่างรวดร้าวเหลือเกิน" เขายิ้มขมขื่นเมื่อนึกถึงท่าทีอันเ็าตอนที่เธอจากไป
พายุพยายามสะบัดความคิดเ่าั้ทิ้ง เขาต้องกลับสู่โลกความเป็จริงในฐานะนักศึกษาปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ ที่ต้องทำงานเสริมดูแลร้านในหอศิลปะเพื่อส่งตัวเองเรียน วันนี้เขามีนัดบรีฟงานถ่ายโฆษณาครั้งสำคัญที่มหาวิทยาลัยใน่เช้า ก่อนจะลงมือปฏิบัติจริงใน่บ่าย
ขณะก้าวขึ้นรถไฟฟ้า พายุถึงกับชะงักกึก เมื่อผนังรถไฟฟ้าคันนั้นถูกติดด้วยภาพโฆษณาน้ำอัดลมขนาดใหญ่ เป็รูปของลิด้าในชุดซีทรูบางเบาเย้ายวนใจ เธอกำลังส่งยิ้มละลายใจและกระพริบตาให้กล้อง เขาพยายามหลบไปยืนที่มุมอับสายตา พลางคิดในใจ "บอกฉันที ฉันควรทำอย่างไรให้ลืมเธอ ลิด้า"
ทันใดนั้น เสียงนักศึกษาสาวสองสามคนที่จับกลุ่มกำลังพูดคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่งของรถไฟก็ลอยมา "พวกเธอรู้หรือเปล่า ว่าลิด้ากำลังจะแสดงละครซีรีย์ ฉันตั้งตารอดูผลงานการแสดงของเธอมากๆเลย" นักศึกษาอีกคนกล่าว "ฉันเป็แฟนตัวยงของเธอเลย ตอนนี้ เธอดังสุดๆ" นักศึกษาชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พูดแทรกขึ้น "เธอทั้งสวย เซ็กซี่ ขาว โดยเฉพาะ เออ ใจฉันแทบขาด แม่เ้าปะคุณ" นักศึกษาสาวอีกคนพูด "เชอะ อย่างแกน่ะนะ หางตาเธออย่าหวังจะแล หัดมองตัวเองซะบ้าง" ทั้งหมดพากันหัวเราะ พายุหันกลับมาพลางกล่าวกับตัวเอง "นั้นซิ หางตาเธอยังไม่แลเลย โง่จริงๆว่ะไอ้พายุ" รถไฟฟ้าค่อยๆพาเขาเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง
พายุพยายามก้าวเดินออกจากสถานีรถไฟฟ้าด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ทุกย่างก้าวเหมือนเขากำลังแบกโลกทั้งใบเอาไว้เพียงลำพัง ความทรงจำเกี่ยวกับลิด้านั้นแจ่มชัดและรุนแรงเกินกว่าที่เขาจะสลัดมันทิ้งไปได้ง่ายๆ
พายุเดินเข้าสู่คณะนิเทศศาสตร์ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความคึกคักของเหล่านักศึกษาที่เตรียมตัวสำหรับคาบปฏิบัติการใน่บ่าย ชายหนุ่มพยายามทำตัวให้เป็ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาเข้าห้องประชุมเพื่อรอฟังการบรีฟงานจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์และโฆษณา
อาจารย์เดินเข้ามาพร้อมกับเปิดสไลด์บนจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ "วันนี้เราได้รับโอกาสพิเศษมาก บริษัทเอเจนซี่โฆษณาระดับประเทศได้ให้เกียรติส่งโปรเจกต์งานชิ้นใหม่มาให้พวกคุณได้ศึกษาและทดลองปฏิบัติจริง ซึ่งโฆษณาตัวนี้มีพรีเซนเตอร์เป็นางแบบเบอร์หนึ่งของวงการในตอนนี้..."
พายุรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นเมื่อหน้าจอค่อยๆ ปรากฏภาพนิ่งจากการถ่ายทำเื้ั เป็ภาพของลิด้าในชุดซีทรูบางเบาที่เน้นส่วนเว้าส่วนโค้งอันสมบูรณ์แบบ ผิวขาวเนียนละเอียดและริมฝีปากรูปกระจับที่ดูเย้ายวนนั้นทำให้เพื่อนนักศึกษาชายในห้องต่างส่งเสียงฮือฮาด้วยความตื่นเต้น
"โอ้โห สวยบาดใจจริงๆ" เพื่อนคนข้างๆ สะกิดพายุ "เฮ้ย พายุ แกดูสิ ผู้หญิงคนนี้แหละลิด้าที่เขาว่าฮอตที่สุด ตอนนี้ใครๆ ก็อยากร่วมงานกับเธอทั้งนั้น"
พายุได้แต่ยิ้มขมขื่น เขาจำทุกััของเธอได้ดี จำเสียงหอบพร่าในความมืด และคำว่า "ผัวจ๋า" ที่ยังคงดังสะท้อนอยู่ในหัว แต่ในความเป็จริง ลิด้าที่อยู่บนหน้าจอนั้นคือดาราผู้สูงส่ง ส่วนเขาเป็เพียงนักศึกษาที่ต้องทำงานพาร์ทไทม์เพื่อส่งตัวเองเรียน
หางตาเธอก็คงไม่แล... เหมือนที่เธอกลับไปเมื่อคืนโดยไม่ลาแม้แต่คำเดียว พายุคิดในใจพลางกำมือแน่น ความเศร้าเสียดแทงหัวใจจนเขาต้องก้มหน้าหลบสายตาจากหน้าจอ
เมื่อถึง่บ่าย การลงมือปฏิบัติจริงเริ่มขึ้น อาจารย์ประกาศเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีใครคาดคิด "และเพื่อเป็การฝึกฝนที่สมจริงที่สุด ทางแบรนด์ได้ส่งทีมงานและ 'นางแบบ' มาให้พวกคุณได้ลองจัดแสงและซ้อมคิวงานในวันนี้ด้วย"
ประตูห้องสตูดิโอเปิดออก กลิ่นหอมจางๆ ที่คุ้นเคยลอยมาปะทะจมูกของพายุก่อนที่เ้าตัวจะปรากฏกายเสียอีก... ลิด้าเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าที่สง่างามในชุดเดรสสั้นสีเพลิงที่รับกับรูปร่างราวกับเทพบรรจงสร้าง ทุกสายตาในห้องจับจ้องไปที่เธอเพียงจุดเดียว
พายุยืนนิ่งเหมือนถูกสาป หัวใจเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมาข้างนอก ขณะที่ลิด้ากวาดสายตามองไปรอบห้องสตูดิโออย่างความเป็มืออาชีพ
พายุพยายามควบคุมลมหายใจที่หอบถี่ เขาถอยร่นเข้าไปในมุมมืดที่สุดของสตูดิโอ มือสั่นเทาขณะรื้อกล่องอุปกรณ์เก็บสายไฟทำทีเป็วุ่นอยู่กับการตรวจเช็คของ หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ในชุดเดรสสีเพลิงกวาดสายตาผ่านกลุ่มนักศึกษาไปอย่างเฉยเมย ราวกับว่าสายตาของเธอไม่เคยหยุดพักที่ใครคนใดคนหนึ่งเป็พิเศษ
ความเงียบเชียบในใจของพายุกลับกึกก้องไปด้วยเสียงหัวใจที่เต้นรัวแรงจนเจ็บหน้าอก ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแผ่ซ่านไปทั่วขั้วหัวใจ เมื่อเห็นว่าเ้าของััอันเร่าร้อนเมื่อคืนนี้ดูสง่าและห่างไกลเกินเอื้อมถึงเพียงใดในแสงไฟสตูดิโอ เขาตัดสินใจดึงฮู้ดขึ้นมาคลุมศีรษะและหยิบหน้ากากอนามัยมาสวมปิดบังใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง หวังเพียงว่าเงาของหมวกจะช่วยบดบังแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนของเขาได้
"เอ้า! คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปรอข้างนอกก่อนนะครับ ทีมพร็อพกับช่างไฟจัดตำแหน่งด่วน!" เสียงทีมงานะโเคลียร์พื้นที่ท่ามกลางความวุ่นวาย
ขณะที่พายุพยายามทำตัวให้ลีบเล็กที่สุด ลิด้าก็นั่งลงบนเก้าอี้หลุยส์ตัวยาว ปล่อยให้ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมรุมล้อมดูแลความเรียบร้อย เธอวางท่าทางเป็นางพญา ผิวพรรณขาวผ่องที่เขาเคยััด้วยริมฝีปากบัดนี้สะท้อนแสงไฟสตูดิโอจนดูราวกับรูปปั้นหินอ่อน
อาจารย์ประจำวิชาเดินเข้าไปสมทบกับผู้จัดการส่วนตัวของลิด้าที่ยืนคุมอยู่ไม่ห่าง "สวัสดีครับคุณบีดี้ วันนี้ต้องขอบคุณมากที่พาลิด้ามาช่วยบรีฟงานให้นักศึกษาป้ายแดงพวกนี้"
"ไม่เป็ไรค่ะอาจารย์ ลิด้าเองเธอก็อยากเห็นฝีมือน้องๆ รุ่นใหม่เหมือนกันฮ่า" ผู้จัดการตอบด้วยรอยยิ้มหยาดเยิ้ม
ลิด้าเหลือบมองผ่านกระจกแต่งหน้าจังหวะหนึ่ง แววตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ในชุดฮู้ดสีเข้มที่มุมห้อง แต่เธอก็รีบเบือนหน้ากลับไปนิ่งเฉยตามเดิม พายุเห็นท่าทางนั้นก็ยิ่งตอกย้ำความขมขื่นในใจ "เธอจำเราไม่ได้จริงๆ หรือแค่ไม่อยากจำ..." เขาพึมพำเบาๆ ภายใต้หน้ากาก
ทันใดนั้น อาจารย์ก็หันมาทางกลุ่มนักศึกษา สะดุดตาเข้ากับร่างชายหนุ่มพอดี "ธาวิน (ชื่อจริงของพายุ) มานี่หน่อย เธอเป็คนคุมไฟหลักของเซตนี้ไม่ใช่หรอ มาฟังบรีฟจากคุณบีดี้ และคุณลิด้าสิว่าเขา้าโทนแบบไหน
พายุชะงักกึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้าวขาที่หนักอึ้งเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับเธอในระยะประชิดอีกครั้ง
โดยไม่คาดคิดเขารีบทำน้ำเสียงให้ดูแหบๆ พูดกับอาจารย์ "อาจารย์ครับวันนี้ผมไม่สบาย เมื่อคืนฝนตกหนักผมกลับจากทำงานพาร์ทไทม์ดึกไปหน่อย ผมตากฝนเลยไม่สบายน่ะครับ ขอเปลี่ยนเป็เ้าโย่งเถอะครับมันทำงานแทนผมได้"
อาจารย์ไม่ติดใจอะไรมากนักสั่งให้พายุไปยืนคอยคุมไฟอยู่ที่มุมสตูดิโอ และให้เ้าโย่งที่พายุแนะนำทำหน้าที่แทน ชายหนุ่มเดินออกมาจากสถานการณ์ที่อึดอัดนี้ เขาไปยืนคุมไฟด้วยความเจียมตัวและเจียมใจ พลางคิดในใจ "อย่าพบเจอกันอีกเลยจะดีกว่า เรามันอยู่กันคนละโลก ความรักหนอความรัก พายุน้ำตาซึม"
