กึก...กึก...กึก
เสียงเกือกม้าย่ำลงบนพื้นหยกดำอันล้ำค่าดังเป็จังหวะก้องสะท้อนไปทั่วท้องพระโรงอันกว้างใหญ่ เหล่าขุนนางนับร้อยชีวิตต่างหมอบอยู่บนพื้นไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย กระทั่งจังหวะการหายใจก็ล้วนเป็ไปด้วยความระมัดระวัง
ก่อนหน้านี้เสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วพระราชวังอันวิจิตรงดงามแห่งนี้ เสียงเ่าั้ดังติดต่อกันราวหนึ่งชั่วยามถึงเงียบสงบลง เสียงกรีดร้องจางหายทว่ากลับมีกลิ่นคาวเืคละคลุ้งไปในอากาศจนอยากจะอาเจียน เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างก้มหน้ายอมรับชะตาของตนต่อจากนี้โดยไม่คร่ำครวญแม้แต่น้อย
เมื่อมีผู้ปล่อยวาง ก็ย่อมมีผู้ที่มิอาจละวางสิ่งใดลงได้นั่นก็คือผู้ที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ในขณะนี้นั่นเอง ร่างอันแก่ชราและเส้นผมขาวโพลนทำให้ผู้พบเห็นไม่อาจเชื่อได้ว่าชายผู้นี้มีอายุเพียงสี่สิบปลายๆเท่านั้น
"เย่ว์ลู่ อาปาจี้ ดูสภาพเ้ายามนี้สิช่าง...น่าสมเพศ"อาชาศึกเยื้องย่างมาหยุดอยู่หน้าบัลลังก์ัพร้อมกับที่ผู้มาเยือนส่งเสียงทักทายเ้าบ้านด้วยความห่วงใย
"หึ หึ ข้า...ยังจะกล่าว...สิ่งใดกับเ้า ได้ อีก"เสียงอันแหบแห้งถูกเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก ราวกับเ้าตัวได้ใช้พลังชีวิตอย่างมากในการต่อบทสนทนานี้
"เห็นสภาพเ้าแล้วข้าก็เวทนาอยู่หรอก ่นี้ข้าต้องหมั่นสร้างกุศลให้มากหน่อย เอาล่ะข้าจะเป็ผู้บอกว่าเหตุใดเ้าจึงสมควรมีจุดจบเช่นนี้"
"..."
"เย่ว์ลู่ อาปาจี้เ้ายังจำคำสัตย์สาบานเมื่อครั้งที่เ้าจะแต่งจิ้งเหอจ่างกงจู่มาเป็ภรรยาได้หรือไม่ อ้อ...เ้าคงลืมมันไปแล้ว เช่นนั้นข้าแม่ทัพผู้นี้จะเป็ผู้ทบทวนให้เ้าฟังอีกครั้ง"
"..."
"ข้าเย่ว์ลู่ อาปาจี้ขอสาบานต่อหน้าป้ายิญญาขององค์ฮ่องเต้หลี่ไท่ หากข้ากระทำสิ่งใดที่ผิดต่อจิ้งเหอจ่างกงจู่ หลี่เซวียน ขอให้ตระกูลเย่ว์ลู่ล่มสลายไร้ผู้สืบทอด ขอให้ตัวข้าตายตกอย่างทุกข์ทรมานแสนสาหัส ขอให้ต้าเหลียว มิใช่ต้าเหลียวอีกต่อไป"
"อึก..."สิ้นคำกล่าวชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อันสูงส่งก็กระอักโลหิตออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ัจนกลายเป็สีแดงฉาน
ช่าง...เข้ากับบรรยากาศที่อบอวนไปด้วยสีแดงจริงๆ
"จุ จุ จุ...อย่าได้ด่วนสิ้นใจไปก่อนข้ามีของกำนัลสุดพิเศษมามอบให้เ้าโดยเฉพาะ ทหารนำของกำนัลเข้ามา"ซ่างกวนจือหลินจุปากอย่างขบขันเหลือหลาย จะทำสิ่งใดหากไม่เผื่อใจไว้ให้ความผิดพลาดก็จะมีสภาพดังเช่นเ้าแก่นี่ล่ะ รอไม่นานพลทหารก็แบกโลงไม้เข้ามาวางไว้เบื้องหน้าของเย่ว์ลู่ อาปาจี้
"เปิดออก"หญิงสาวสั่งการพลทหารให้เปิดโลงไม้ออกเพื่อให้อีกฝ่ายมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในในอย่างชัดเจน
"นะนั่น นั่น...มัน"เสียงตะกุกตะกักขาดห้วงเป็บางคราดังขึ้นอย่างห้ามตนเองไม่ได้
"ของกำนัลนี้เ้าพอใจหรือไม่ ข้าอุส่าวางเรียงชิ้นส่วนให้ดูสมบูรณ์ที่สุดแล้วนะ...ก็อย่างว่าโดนหั่นเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยเช่นนี้จะให้ดูเหมือนเดิมก็คงจะยากสักหน่อย"น้ำเสียงเรียบเรื่อยที่ฟังดูแล้วมันช่างนิ่งสนิทจนจับคลื่นอารมณ์ไม่ได้แม้เพียงเสียว บ่งบอกได้ว่าเ้าตัวมิได้มีความรู้สึกร่วมใดๆ กับภาพเหตุการณ์เบื้องหน้าแม้เพียงนิด
"ลูก...ลูกชายข้า ลูกชายของข้า!!!!!"เย่ว์ลู่ อาปาจี้กระเสือกกระสนลุกขึ้นมาเกาะขอบโลงไม้เพื่อมองดูสิ่งที่อยู่ด้านในให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้จะเป็ร่างที่ไร้ศีรษะแถมยังถูกหั่นเป็ชิ้นๆ ทว่าผู้เป็บิดาไหนเลยจะจำบุตรชายของตนเองไม่ได้ บุตรชายที่เขาภาคภูมิใจ!!!
"อย่าได้มองข้าด้วยสายตาราวกับจะดื่มเืกินเนื้อข้าเช่นนั้น เ้ายังโชคดีนักที่ได้ร่างของบุตรชายอันเป็ที่รักกลับมา ทว่านั่นไม่ใช่กับบิดามารดาของหลี่เซวียน!สิ่งที่พวกเขาจะได้เห็นมีเพียงเถ้ากระดูก เถ้า กระ ดูก ที่แหลกสลายเป็ผุยผง!!"
"ทหาร! นำตัวมันไปขังไว้รอการลงทัณฑ์ ส่วนพวกเ้าเหล่าขุนนางทั้งหลายรอให้ข้าเสร็จเื่ทางวังหลังก่อนถึงจะมาสะสางระบบอันเน่าเฟะนี่ให้สะอาดเสียที หากอยากมีชีวิตรอดจงเขียนมาว่าความชั่วตลอดชีวิตของเ้ามีอะไรบ้าง จำไว้ว่าข้าเกลียดที่สุดคือคนที่ไม่ซื่อสัตย์ โกหกหนึ่งเื่แล่เนื้อหนึ่งชิ้น ไตร่ตรองให้ดี"
ณ ลานกว้างหน้าตำหนักอันวิจิตรงดงาม
เตาหลายสิบเตาถูกก่อขึ้นอย่างลวกๆ แต่ก็สามารถใช้จุดไฟตั้งกระทะได้ กระทะใบใหญ่ยามนี้กำลังต้มน้ำจนเดือดพล่าน ซ่างกวนจือหลินบัดนี้กำลังนอนเอนกายอยู่บนตั่งคนงามที่ปูขนสุนัขจิ้งจอกเอาไว้จนหนานุ่ม บนตัวของนางถูกเ้าเสืออ้วนนอนทับเอาไว้อีกทียามนี้มันกำลังนอนกกเตาพกที่สตรีชาววังชอบใช้อยู่อย่างมีความสุข หญิงสาวเลิกให้ความสนใจเ้าเสือน้อยแล้วหันไปสนใจบรรดาสตรีที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นหินอ่อนที่เคลือบเอาไว้ด้วยชั้นน้ำแข็งอันเย็นเฉียบแทน
สตรีที่อยู่ด้านหน้าสุดคงจะเป็มารดาของเย่ว์ลู่ ทัวปาจี๋ ส่วนคนที่เหลือก็คงจะเป็บรรดาสนมและคนรับใช้ ที่คนเหลานี้ยังมีชีวิตรอดเพราะเหตุผลเพียงหนึ่งเดียว เพราะว่าผู้ที่มีส่วนในการสิ้นพระชนของหลี่เซวียนจะตายง่ายๆได้เช่นไร
"ท่านต้มน้ำ"เสียงเล็กๆ ของเด็กดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ
"ใช่ข้าต้ม"ซ่างกวนจือหลินตอบไปแบบส่งๆ
"ทำไม"
"ข้าจะทำตุ้งติ้งน้ำแข็ง"
"ทำเยอะมาเลยหรือ ท่านต้มน้ำเยอะมาก"
ไอ้เด็กนี่ถามมากจริง ถ้าเป็สองแสบที่บ้านข้าคงจับตีก้นไปนานแล้วโทษฐานถามในสิ่งโง่ๆออกมา เอาล่ะไอ้เด็กนี่มันน่าสงสารต้องอดกลั้นเข้าไว้
"ทำตุ้งติ้งน้ำแข็ง [1] คนงาม จะมิให้ใช้น้ำร้อนเยอะได้เช่นไร...จริงหรือไม่ฮองเฮา"
"..."ไร้เสียงตอบจากสตรีผู้สูงศักดิ์
"..."ส่วนเ้าเด็กช่างจ้อก็คล้ายกลับว่าจะใจนโง่ไปแล้ว
เอ๋...
"ทำตุ้งติ้งน้ำแข็งคนงามสักหลายๆ ชิ้นแขวนไว้รอบพระราชวังคงจะสร้างสีสันให้ปีใหม่ไม่น้อยเลยว่าหรือไม่"
ปีใหม่ช่างมีแต่สิ่งที่บันเทิงใจจริงๆ
[1] ตุ้งติ้งน้ำแข็ง คือการนำน้ำร้อนมาเทใส่พิมพ์รูปร่างต่างๆ แล้วนำไปวางในอุณหภูมิที่เย็นจัดจะทำให้เกิดเป็ผลึกน้ำแข็งโดยใช้เวลาไม่นาน สำหรับตุ้งติ้งน้ำแข็งคนงามนี้...ใช่ค่ะเรียกอีกอย่างหนึ่งคือตุ้งติ้งน้ำแข็งมนุษย์