ภายในคุกใหญ่เกาะเทพั!
“ศิษย์พี่รอง ที่ท่านพูดมาเป็ความจริงหรือไม่? หวังเค่อนั่น หวังเค่อที่เล่นไพ่นกกระจอกนั่นเป็ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์เราจริงๆ?”
“ศิษย์พี่รอง ท่านอย่าหลอกพวกเรานะ ศิษย์ฝ่ายธรรมะเราจะปะปนเข้าลัทธิมารได้อย่างไร?”
“นั่นสิ ข้ายังเห็นมันลงไปช่วยเซิ่งจื่อนั่นอยู่เลย!”
.........
......
...
หวังเค่อให้ศิษย์พี่รองช่วยเก็บความลับเื่ฐานะไว้ก่อน ศิษย์พี่รองเองก็รับปาก แต่ทว่า ศิษย์พี่รองเป็พวกปากเบา แค่หันหน้าก็ลืมสิ่งที่ตนรับปากไว้จนหมดสิ้น
ดังนั้น่หลายวันมานี้ศิษย์พี่รองจึงหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังให้ทุกคนในห้องขัง เล่าถึงความตรากตรำลำเค็ญที่หวังเค่อต้องประสบพบเจอมา
เมื่อเห็นว่ามีคนกังขา ศิษย์พี่รองก็พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็แข็งกระด้าง
“พวกเ้าพูดวาจาพรรค์นี้ออกมาได้อย่างไร? ศิษย์น้องหวังเอาตัวถลำสู่ดงมารเพื่อช่วยชีวิตพวกเราโดยไม่สนว่าตัวเองจะอยู่หรือตาย เพื่อพวกเ้า ทุกวันทุกลมหายใจล้วนต้องฝ่าฟันเสี่ยงชีวิตอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะช่วยชีวิตพวกเราเขาไม่สนแม้แต่ชีวิตของตัวเองเลยด้วยซ้ำ แล้วพวกเ้ายังมีหน้ามาสงสัยพี่หวังอีกรึ?” ศิษย์พี่รองเผยสีหน้าชิงชังใส่พวกที่พูดจาสบประมาทเมื่อครู่
“พวกเรา พวกเรา...!” พวกที่แสดงความกังขาออกมาเมื่อครู่พากันลดหน้าลงต่ำด้วยความละอายใจ
“ศิษย์พี่รองพูดถูกแล้ว พวกเ้านี่นะ! ข้ารู้สึกละอายใจแทนพวกเ้าเหลือเกิน! แม้แต่คำพูดพรรค์นี้ก็ยังจะพ่นกันออกมาได้!”
“น้องหวังต้องประสบความยากลำบากเพียงไรพวกเ้ารู้หรือไม่? เขาไม่สนแม้แต่ชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ! เขาแค่้าช่วยชีวิตพวกเรา แต่พวกเ้าก็จะยังไปสงสัยเขา?”
“ถลำตัวเข้าลัทธิมาร? ใครมันจะกล้า!? ศิษย์ฝ่ายธรรมะคนใดกล้าทำบ้าง? แต่น้องหวังนั้นกล้า แกะตัวน้อยๆ บุกเข้าฝูงหมาป่าเพื่อช่วยชีวิตเ้า! แต่เ้ากลับใจจืดใจดำ? ถึงกับสงสัยเขา?”
“น้องหวังช่วยชีวิตเซิ่งจื่อลัทธิมารเอาไว้? เ้าจะบอกว่าเขา้าทำคะแนนประจบเอาใจ? เ้ามันหน้าไม่อายสิ้นดี! เ้ากำลังเอามีดแทงใจของน้องหวังอยู่รู้บ้างหรือไม่!”
“หัวใจคนเราล้วนเป็ก้อนเนื้อเหมือนๆ กัน[1] น้องหวังควักปอดควักหัวใจออกมาเพื่อเ้า[2] ไม่สนแม้แต่ชีวิตของเขาเองเพื่อช่วยเ้า แต่เ้ากลับเอาแต่สาดน้ำครำใส่น้องหวังไม่ยอมเลิกรา ถุย เ้าทำแบบนี้ได้อย่างไร!?”
“เ้ารู้บ้างไหมว่าทุกวันนี้น้องหวังต้องเสี่ยงชีวิตแค่ไหน? เลวร้ายสุดตัวเ้าก็แค่เสียเืนิดๆ หน่อยๆ แต่ทันทีที่เขาถูกจับได้นั่นหมายถึงชีวิต!”
“หากยังมีใครกล้าให้ร้ายน้องหวังอีกละก็ เ้ากับข้าไม่จบกันง่ายๆ แน่!”
.........
......
...
กลุ่มนักโทษผู้ยึดมั่นในคุณความดีสุมหัวกระซิบกระซาบ ภายใต้การนำของศิษย์พี่รอง ทุกคนล้วนถูกล้างสมองจนรู้สึกละอายที่ไปสงสัยว่าหวังเค่อมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ พวกมันคิดตรงกันว่าหวังเค่อกล้ำกลืนความอัปยศอดสูลงนรกมาเพื่อช่วยชีวิตพวกตน! จิติญญาการอุทิศตนและนิสัยใจคอแบบนี้ไม่อาจให้มีรอยด่างพร้อยอยู่สักเสี้ยวเศษ
และนั่นก็คือตอนที่จูเยี่ยนถูกจับเข้าคุก
“หวังเค่อเป็ศิษย์ของพรรคเทพหมาป่า์! พวกเ้าต้องเชื่อข้า มันคือศิษย์ของเฉินเทียนหยวน มันเป็ศิษย์ของฝ่ายธรรมะ พวกเ้าต้องเชื่อข้า! ข้าพูดเื่จริง! รีบไปตามฆ่ามันเร็วเข้า!” จูเยี่ยนกรีดร้องทุรนทุราย
เมื่อได้ยินเสียงคำรามนี้ เหล่านักโทษก็พากันหน้าเปลี่ยนสี
จบกัน น้องหวังถูกเปิดโปงแล้วหรือนี่? ไอ้มารบัดซบน่าตายนี่ ไอ้มารบัดซบน่าตายนี่ มันกำลังจะฆ่าน้องหวัง!
“กระทืบมัน” ศิษย์พี่รองตวาดกร้าว
“กระทืบ!” กลุ่มนักโทษโผตัวเข้าหาเป้าหมาย
ไหนเลยจะไปสนใจเื่อื่นอีก เ้าลูกตัวบัดซบนี้ทุบทำลายความหวังของพวกเราจนไม่เหลือชิ้นดี แม้แต่ความหวังก็ยังหลุดลอยไปจากมือพวกเรา แล้วพวกเรายังต้องกลัวตายกันอีกหรือ? ทันใดนั้น จูเยี่ยนที่กำลังบอบช้ำรวยรินพลันตกเป็เป้าความแค้นของเหล่านักโทษ ไม่นานก็ต้องััประสบการณ์ตกนรกท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน
จวบกระทั่งเกิดเสียงดังมาจากทางสระหมื่นอสรพิษ
ตูม!
หวังเค่อและองค์หญิงโยวเยว่ถูกกระแทกออกมา
พลังโจมตีของาาอสรพิษน่าหวาดหวั่นเพียงไหน แรงะเิของก้อนน้ำแข็งน่าสะพรึงยิ่งกว่าหมัดที่ใช้ออกด้วยกำลังทั้งหมดของถงอันอันเสียอีก หากพลังระดับนี้กระแทกถูกร่างของหวังเค่อ ระดับฝีมือของมันก็จะทะลวงสู่ขั้นต่อไปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง สัจปราณขุ่นไม่พ้นต้องเปลี่ยนสีอีกครั้ง จากนั้นก็จะเกิดปรากฏการณ์คนไฟลุกล่องลอยสู่สรวง์!
ใน่เวลาคับขันเป็ตายนี้ องค์หญิงโยวเยว่ไม่ลังเลที่จะเอาตัวเข้ามาบังขวางหน้าหวังเค่อ ต่อให้กางม่านคุ้มกายไว้แล้วหากก็ยังโดนแรงปะทะจนต้องกระอักเืออกมาเป็ลำยาว คนปลิวสูงขึ้นฟ้าไป
หวังเค่อรอดจากแรงปะทะก็จริง แต่พอเห็นสตรีของตนยอมาเ็แทนก็รุ่มร้อนใจสุดเปรียบ
“โยวเยว่!” หวังเค่ออุทาน
“แค่กแค่ก ข้าไม่เป็อะไร!” องค์หญิงโยวเยว่ยิ้มเจื่อนอย่างโรยแรงขณะร่วงลงมา
ไม่เป็ไรที่ไหนกัน! นางแค่ไม่อยากให้หวังเค่อต้องเป็ห่วงเท่านั้น แรงปะทะเมื่อครู่หวังเค่อแค่มองก็เจ็บแทน ขณะเดียวกันก็รู้สึกตื้นตันที่องค์หญิงโยวเยว่ช่วยมันโดยไม่มีการลังเลใดๆ ทั้งสิ้น
“ข้ารับตัวเ้าไว้เอง!” หวังเค่อปรี่เข้าไปรับตัวองค์หญิงโยวเยว่โดยพลัน
“น้องหวัง?” พวกถงอันอันฝูงมารต่างมองมาทางหวังเค่อด้วยสีหน้าว่างเปล่า
หวังเค่อไฉนจึงกลับมา? มันไม่ใช่ไส้ศึกระดับเหรียญทอง ั์ใหญ่ทารกแกนิญญาหรอกหรือ?
“ฟ่อ~~~~~~~~~~!”
ตอนนั้นเองงูั์ตัวหนึ่งก็พุ่งตัวออกมาจากสระหมื่นอสรพิษ แรงปะทะเขย่าสั่นคุกใหญ่จนะเืเลื่อนลั่น
“าาอสรพิษ เป็าาอสรพิษ!” ฝูงมารอุทานอย่างตื่นตระหนก
“ขวางไอ้เดรัจฉานนั่นไว้ก่อน! ข้าจะไปช่วยเดี๋ยวนี้!” หวังเค่อะโบอกทุกคน
“ได้!” ถงอันอันรับคำตามสัญชาตญาณ
บางทีพวกมันคงจะรำลึกถึงฐานะั์ใหญ่ทารกแกนิญญา ไส้ศึกระดับเหรียญทองของหวังเค่อขึ้นมา! ดังนั้นเมื่อมีคำสั่งจากั์ใหญ่ทารกแกนิญญาก็เลยรับปากไปตามสัญชาตญาณ
ฝูงมารผนึกกำลังเข้ารับมือาาอสรพิษ
“ฟ่อ~~~~~~~~!”
“ตูม!”
ท่ามกลางเสียงร้องของาาอสรพิษ คุกใหญ่พลันเกิดเสียงดังก้องสะท้อนไปทั่ว ศึกใหญ่ปะทุขึ้นเฉียบพลัน ดึงสายตาใคร่รู้ของศิษย์ลัทธิมารนับไม่ถ้วนบนเกาะเทพัมาที่นี่
ส่วนหวังเค่อนั้นกอดองค์หญิงโยวเยว่มุ่งหน้าไปทางใจกลางเกาะเทพัแล้ว
“เ้าตำหนัก ช่วยด้วย! าาอสรพิษก่อฏ มันตั้งใจจะจับศิษย์ลัทธิมารทุกคนกิน! เ้าตำหนัก ช่วยด้วย!” หวังเค่อวิ่งไปพลางะโไปพลาง
ถงอันอันที่อยู่ในวงต่อสู้ถูกกระแทกจนตัวลอยเหม่อมองตามร่างหวังเค่อที่เผ่นแน่บไปไกลด้วยสีหน้าตกตะลึง
ไม่ควรเป็แบบนี้ซี! น้องหวังไม่ใช่ั์ใหญ่ทารกแกนิญญาหรือไง? ั์ใหญ่ทารกแกนิญญาจะมากลัวาาอสรพิษอยู่ได้ยังไง! การที่อีกฝ่ายวิ่งหนีตาลีตาเหลือกแบบนี้แปลว่าอะไร?
อย่าบอกนะ? อย่าบอกนะว่าหวังเค่อไม่ใช่ทารกแกนิญญา?
ทันใดนั้นคำพูดของจูเยี่ยนก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้นในห้วงคำนึงของถงอันอัน
อย่าบอก อย่าบอกนะว่าหวังเค่อคือพวกลวงโลก? มันไม่ใช่ทารกแกนิญญามาแต่แรก สาเหตุที่วันนั้นมันไม่เป็อะไรเป็เพราะว่ามีของวิเศษคุ้มกายอยู่จริงๆ?
“ฟ่อ!”
าาอสรพิษขู่ฟ่อคราหนึ่งส่งคนรอบด้านปลิวลิ่วไปคนละทิศคนละทางก่อนพุ่งตัวตามไปเอาชีวิตหวังเค่อ
ข่ายอาคมบนสระหมื่นอสรพิษดูจะถูกาาอสรพิษทำลาย ฝูงอสรพิษที่ตามมาด้านหลังโผล่มาสมทบกับาาอสรพิษ ล้อมกรอบศิษย์ลัทธิมารไว้ทั่วทุกด้าน
“หยุดเดี๋ยวนี้ ฟ่อ ข้าจะต้องจับเ้ากินให้ได้ ฟ่อ~~~~~~!” าาอสรพิษแผดเสียงอย่างดุร้ายขณะไล่ตามหวังเค่อไป
หวังเค่อกอดร่างองค์หญิงโยวเยว่หนีข้ามระยะทางอันยาวไกล ยิ่งมายิ่งเข้าใกล้เขตพำนักชั่วคราวของจูหงอีในที่สุด
ครั้นแล้วจูหงอีและเนี่ยชิงชิงที่อยู่นอกเขตพำนักชั่วคราวก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวดังมาจากด้านนอก พวกมันจึงออกมาดู
“เ้าตำหนัก ช่วยด้วย! าาอสรพิษก่อฏ!” หวังเค่อหนีตายมาอย่างเร็วรี่
สัจปราณขุ่นของหวังเค่อกำลังจะถึงจุดวิกฤต ทันทีที่เปลี่ยนเป็สีดำ ชายหนุ่มก็จะลุกไหม้ลอยขึ้นสรวง์ไป เพราะฉะนั้นหวังเค่อในตอนนี้มีหรือจะยอมออกหมัดวาดเท้ากับใคร?
รอกระบี่เทพมหาสุริยันมิดับสูญออกมาปกป้องผู้เป็นายโดยอัตโนมัติ ถ้าเกิดกระบี่เทพมหาสุริยันมิดับสูญตัดสินใจว่าการโจมตีของาาอสรพิษไม่ถึงชีวิตจึงไม่ออกมาปกป้องนายของตนขึ้นมาเล่า? ให้ข้าเบิ่งตามองระดับฝีมือพุ่งทะยาน จากนั้นก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการฌาปนกิจประนมมือขึ้น์ไปรึ?
ไอ้วิชาเทพมหาสุริยันมิดับสูญเส็งเคร็งเอ๊ย!
หวังเค่อกอดองค์หญิงโยวเยว่หนีตายโดยมีาาอสรพิษไล่มาติดๆ
“ฟุ่บ!”
สัจปราณขุ่นสีเทาลูกหนึ่งพุ่งฉิวไปทางาาอสรพิษ าาอสรพิษเห็นดังนั้นก็รีบมุดหลบในบัดดล แต่ถึงแม้จะเป็แค่ละอองของกลิ่นตกค้างก็ยังลอยเข้าโพรงจมูกของาาอสรพิษไป
ทว่าแค่ละอองตกค้างก็มากเกินพอ กลิ่นเหม็นครอบงำิญญาเยี่ยงนี้าาอสรพิษชั่วชีวิตไม่มีวันลืม
เพลิงโทสะมีอยู่เป็ทุนเดิมของาาอสรพิษพลันเปลี่ยนลุกโชติ่ถึงสรวง์
“ไอ้เด็กหน้าเหม็น เป็เ้า ที่แท้ก็เป็เ้ามาตลอด? ตัวบัดซบ ตัวบัดซบ ฟ่อ!” าาอสรพิษสติแตก
“บ้าจริง ะุควงสว่านก็ไม่ได้ผล มันดันหลบได้อีกหรือนี่?” หวังเค่อตีหน้านิ่ง
ในจังหวะที่าาอสรพิษกำลังจะแยกเขี้ยวกัดหวังเค่อนั้นเอง
“ชิงเอ๋อร์ตัวเ้ากำลังเจ็บหนัก อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวเลย ให้ข้าเอง!” เสียงของจูหงอีดังขึ้น
“ตูม!”
โซ่ตรวนเส้นหนึ่งพุ่งเข้าหาาาอสรพิษในทันใด าาอสรพิษชะงักกึกเงยหน้ามองจูหงอี
“าาอสรพิษ ที่นี่คือเกาะเทพั ไม่ใช่ที่ที่เ้าจะมาแผลงฤทธิ์อยู่ได้!” จูหงอีถีบโซ่ตรวนขึ้นฟ้าขณะเอ่ยเสียงเย็น
หากเป็ก่อนหน้านี้ าาอสรพิษอาจจะยังกลัวจูหงอีอยู่บ้าง แต่เมื่อแน่ใจว่าหวังเค่อก็คือตัวต้นเหตุที่ทำร้ายมันมาั้แ่ต้นมีหรือจะยอมหยุดเพียงเท่านี้
“ข้าจะต้องฆ่ามันให้ได้ ใครก็อย่าหวังว่าจะหยุดข้าได้ ฟ่อ~~~~~~~~~~~~!” าาอสรพิษแผดเสียง
ขณะกำลังแผดเสียง ไอพิษบนิัพวยพุ่งออกไปรอบทิศทาง
จูหงอีเปลี่ยนสีหน้าวาดมือเรียกโซ่ตรวนสิบเส้นออกมารอบตัวตรงเข้าหาาาอสรพิษ
“ตูมมม!”
นอกเขตตำหนักชั่วคราวของจูหงอีฝุ่นควันลอยโขมงไปทั่วหย่อมหญ้า เสียงการต่อสู้ดังครึกโครม
“หงอี ก่อนนี้เ้าโดนข้าแทงถูกทารกแกนิญญายังไม่หายดีนะ? ระวังตัวด้วย!” เนี่ยชิงชิงเอ่ยอย่างร้อนใจ
เนี่ยชิงชิงสะกดาแกุมกระบี่ยาวพุ่งตัวเข้าสู่ม่านฝุ่นควัน
“ตูมม!”
แม้ว่าดวงธาตุของาาอสรพิษจะถูกทำลายแต่ตัวมันไม่ได้รับาเ็อะไร ทว่าเนี่ยชิงชิงและจูหงอียังคงพักฟื้นจากาแฉกรรจ์ เมื่อได้ปะทะกันขึ้นมาจึงขับเคี่ยวสูสี
“าา!”
ฝูงงูตามมาจากด้านหลังช่วยาาของพวกมันรับมือกับสองทารกแกนิญญาที่ยังคงเจ็บหนักท่ามกลางฝุ่นควันรายล้อม
“มัวมองอะไรกันอยู่ ยังไม่รีบช่วยอีก!” หวังเค่อะโไปทางกลุ่มศิษย์ลัทธิมารที่กรูกันเข้ามา
แต่ศิษย์ลัทธิมารเมื่อเห็นความโกลาหลภายในกลับมีคนอึกอักลังเลไม่กล้าเข้าช่วยอยู่เป็จำนวนมาก มีเพียงส่วนน้อยที่เข้าไปช่วยจูหงอีแบ่งเบาความกดดัน
หวังเค่อกอดองค์หญิงโยวเยว่ไว้ ทั้งคู่ปลอดภัยดี แต่การศึกตรงหน้าไม่รู้ว่าผลลัพธ์ในตอนท้ายจะออกมาเป็เช่นไร
“หวังเค่อ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไม่ใช่ว่าเ้ากำลังมุ่งหน้าไปรับประกาศิตเทพัหรือไง? แล้วทำไมถึงล่อาาอสรพิษมาแทน?” เซิ่งจื่อที่เข้ามาทักทายถามอย่างใคร่รู้
“ประกาศิตเทพันั้นข้าได้มาแล้ว แต่าาอสรพิษตัวนี้แพ้ไม่เป็ บัดซบ หน้าไม่อายเหลือเกิน กัดไม่ยอมปล่อยจริงๆ!” หวังเค่อสบถอย่างหัวเสีย
“อะไรนะ? ได้มาแล้ว?” เซิ่งจื่ออุทาน
“ได้มาแล้ว ทำไมรึ?” หวังเค่องุนงง
“หวังเค่อ เ้านี่แน่จริงๆ!” เซิ่งจื่อถอนใจอย่างชื่นชม
“ย่อมแน่อยู่แล้ว!” หวังเค่อพยักหน้าหงึกหงัก
“คนที่เ้ากอดอยู่นั่นคือ...?” เซิ่งจื่อถามอย่างสงสัย
องค์หญิงโยวเยว่ที่อยู่ในอ้อมอกหวังเค่อยังคงาเ็ สีหน้าจึงเผือดซีด แต่เมื่อได้ยินคำถามของเซิ่งจื่อนางก็หน้าแดงเรื่อทันที อย่างไรเสียการถูกกอดรัดต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้ก็ออกจะดูน่าอายไม่น้อยเลยจริงๆ
“นาง? นางก็คือคนรักของข้าเอง!” หวังเค่อเอ่ยอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
“คนรัก?” เซิ่งจื่อเผยสีหน้างุนงง
“ก็คือคู่บำเพ็ญเพียร! เ้าเป็เด็กเป็เล็กจะเข้าใจอะไร!” หวังเค่อกลอกตามองบน
“แค่กแค่ก คนรักของเ้าได้รับาเ็? แถมยังเจ็บหนักเสียด้วย นางควรจะต้องใช้ยารักษานะ? ข้ามีอยู่พอดี!” เซิ่งจื่อโพล่งออกมา
“ข้า แค่กๆๆ ข้าไม่เป็ไร!” องค์หญิงโยวเยว่กระอักไอ เอ่ยเสียงอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
“ยังจะทำเป็เข้มแข็งอยู่อีก? เซิ่งจื่อใช่ใครอื่นที่ไหน! มา ทานยาก่อน!” หวังเค่อนำยารักษาออกมาจากอกเสื้อ
เซิ่งจื่อพอได้ยินหวังเค่อบอกว่าตนเองไม่ใช่ใครอื่นก็รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ จากนั้นก็เอายารักษาของตัวเองออกมาให้องค์หญิงโยวเยว่บ้าง แต่ในระหว่างที่พวกมันทั้งสามกำลังเสวนากันอยู่นั้นเอง
จู่ๆ ก็มีเงาดำแปดสายพุ่งปรี่เข้ามา แต่ละสายมีดาบยาวอย่างละเล่มพุ่งเข้าหาพวกหวังเค่อทั้งสาม
“อะไร?”
“แย่แล้ว มีคนคิดฉวยโอกาสนี้ลอบสังหารเซิ่งจื่อ!”
………
“ระวัง!”
………
……
…
เสียงะโโหวกเหวกดังมาจากที่ไกลๆ
ใน่เวลาคับขันเป็ตาย กระบี่บินแปดเล่มก็พุ่งตัวออกมาจากชายเสื้อของหวังเค่อ
“ปง!”
กระบี่บินทั้งแปดปะทะหักล้างกับพยุหดาบ ส่งผลให้ดาบทั้งแปดชะงักงันไปโดยปริยาย
หวังเค่อทำไปตามสัญชาตญาณ ในเวลาเยี่ยงนี้หวังเค่อไม่อาจปกปิดซ่อนงำได้อีกต่อไป กระบี่บินทั้งแปดปรากฏสู่โลกหล้า แต่โชคร้ายที่ฝ่ายตรงข้ามต่างก็เป็ดวงธาตุทองคำกันหมด พวกมันตึงมือเกินไป แปดกระบี่บินเมื่ออยู่ในมือหวังเค่อจึงไม่อาจสำแดงฤทธิ์เดชออกมาได้มากเท่าที่้า
ขณะกำลังตื่นตระหนกขวัญเสีย หวังเค่อเพียงเห็นมือของกลุ่มคนชุดดำสวมหน้ากากทั้งแปดขยับ แววตาดุร้ายหมายขวัญนั้นราวกับ้าจะจับกุมคนทั้งสามในหนึ่งกระบวน
“เวรเอ๊ย ข้าเพิ่งจะกลับมาแล้วพวกเ้าโผล่มาจากไหนกัน! ะเิ!” หวังเค่อะโอย่างหดหู่ใจ
แปดกระบี่บินต้านไว้ไม่อยู่? งั้นข้าก็ไม่้าอีก! ะเิไปซะ!
บรึ้ม!
แปดกระบี่บินะเิออกในเสี้ยวพริบตา ขณะเดียวกันก็ะเิทำลายดาบยาวทั้งแปดของพวกสวมหน้ากากไปด้วย
ศิษย์ลัทธิมารคนอื่นรีบปรี่เข้ามาช่วย แต่พวกสวมหน้ากากทั้งแปดเองก็เหี้ยมหาญใช่ย่อย พอเห็นดาบยาวแหลกสลายไปกับแรงะเิพวกมันก็กำหมัดต่อยสวนทางกับเศษชิ้นส่วนดาบกระบี่ที่พุ่งเข้ามาโดยไม่ลังเล
“ตูม!”
หวังเค่อที่อยู่หน้าสุดเป็คนแรกที่รับแรงปะทะ
แปดดวงธาตุทองคำ! กำปั้นของพวกมันบรรลุถึงตัวหวังเค่ออย่างถนัดถนี่
หวังเค่อยอมรับว่าตัวเองมีสาเหตุที่ต้องปกป้ององค์หญิงโยวเยว่อยู่ แต่พวกเ้าจำเป็ต้องอำมหิตถึงขนาดนี้เชียวรึ! ข้างๆ ก็ยังมีเซิ่งจื่ออยู่ไม่ใช่รึไง ทำไมพวกเ้าไม่ไปต่อยมัน ทำไมต้องเหวี่ยงหมัดทั้งแปดมาทางข้าคนเดียวด้วยเล่า!?
หวังเค่อไม่เจ็บเลยสักกระติ๊ดเดียว! แต่สีหน้าของมันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าต้องเจ็บตัว
สัจปราณขุ่นภายในร่างของหวังเค่อดูดซับพลังปราณที่แฝงมากับหมัดทั้งแปดในชั่วพริบตา
เพียงได้ยินเสียง ‘ปง’ ทึบทึมคราหนึ่ง จากนั้นตลอดร่างของหวังเค่อก็แผ่กำจายด้วยกระแสอากาศบางอย่าง
“ขอบเขตเซียนเทียน ขั้นห้า?” หวังเค่อเผยสีหน้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความหวัง
ขอบเขตเซียนเทียนขั้นห้า สัจปราณขุ่นเปลี่ยนเป็สีดำสนิทโดยสมบูรณ์
หวังเค่อยังจดจำคำกล่าวของเคล็ดเทพมหาสุริยันมิดับสูญได้เป็อย่างดี
“สัจปราณขุ่นมีอานุภาพกลืนกินพลังทุกชนิดพร้อมกับเปลี่ยนสี สีทองคืออ่อนสุด สีดำคือแกร่งสุด! เมื่อเป็สีดำสนิทแล้วก็จะลุกไหม้ขึ้นมาเอง! อาศัยกุศลจรรโลง เปลี่ยนดำเป็ทอง!”
ไหม้แล้ว ไหม้แล้ว!
หวังเค่อััได้เลยว่าสัจปราณขุ่นภายในร่างกำลังลุกไหม้ จะติดไฟแล้ว จะติดไฟแล้วว!
“ม่ายยยย~~~~~~~~~!” หวังเค่อกรีดร้องอย่างขื่นขมระทมใจ
[1] หลักปรัชญาของขงจื่อ หมายถึงเอาใจเขามาใส่ใจเรา
[2] เปรียบเปรยว่าถวายชีวิตอุทิศตนเพื่อใครคนหนึ่ง
