ภายในหุบเขาอสรพิษเวหาที่ถูกต้นไม้ั์บดบังแสงอาทิตย์จนมืดมิดนั้น อันตรายกำลังย่างกรายเข้ามาหาหลงอวี้
หลงอวี้ที่รัดคอฉินหยงเอ๋อร์คอยเปลี่ยนตำแหน่งยืนให้เป็เส้นตรงระหว่างซากศพของราชันอสรพิษเวหากับฉินเทียนเชวี่ยตลอดเวลา ซากศพขนาดมหึมาบดบังการมองเห็นของฉินเทียนเชวี่ยทั้งหมด ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถมองเห็นหลงอวี้ได้
ทำให้ฉินเทียนเชวี่ยหงุดหงิดเป็อย่างมาก
เขาเป็ถึงยอดฝีมือวิถีวรยุทธ์ขั้นเจ็ด กลับถูกไอ้เวรแค่ขั้นห้าปั่นหัวเล่น ทำให้เขาอารมณ์เสียไม่น้อย
“คิดจะปิดการมองเห็นของข้าแล้วหนีอย่างนั้นหรือ?”
ฉินเทียนเชวี่ยพบว่าหลงอวี้ไปแอบอยู่ด้านหลังศพราชันอสรพิษ จึงอดกระแทกเสียงเ็าไม่ได้ ตอนนี้ไม่ว่าหลงอวี้จะใช้ลูกไม้อะไรก็ไม่มีทางหนีการตามล่าของเขาพ้น
เขาเป็นักล่า ส่วนหลงอวี้เป็แค่เหยื่อเท่านั้น!
แน่นอนว่านี่เป็เพียงความคิดของฉินเทียนเชวี่ยผู้เดียว
ในพริบตานั้น ฉินหยงเอ๋อร์ก็ส่งเสียงร้องด้วยความเ็ป ฉินเทียนเชวี่ยถึงกับเครียด ไม่ได้ เขาต้องรีบลงมือเดี๋ยวนี้!
ฟึ่บๆ!
เงาร่างของฉินเทียนเชวี่ยพลันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ะโเพียงสองสามครั้งก็ขึ้นไปอยู่บนซากของราชันอสรพิษ พอมองจาก้าก็เห็นทุกอย่างกว้างขึ้น
“ยังไม่รีบปล่อยน้องสาวข้าอีก! หากนางเป็อะไรไป เ้าไม่มีทางรอดชีวิตแน่!”
ฉินเทียนเชวี่ยมองจากที่ไกลๆ เมื่อครู่นี้หลงอวี้ออกแรงรัดคอฉินหยงเอ๋อร์จนนางร้องด้วยความเ็ป
พอฉินเทียนเชวี่ยะโขึ้นไปอยู่บนร่างของราชันอสรพิษ หลงอวี้ก็พลันแสยะยิ้ม
“ติดกับแล้ว”
หลงอวี้ออกแรงสะบัดมือ ก้อนหินั์หนักนับหมื่นชั่งที่เขาเตรียมไว้ลอยไปทางซากศพราชันอสรพิษทันที
ฉินเทียนเชวี่ยหน้าถอดสี ยังไม่ทันได้ตอบโต้ หินั์ก้อนนั้นก็กระแทกท้องน้อยของราชันอสรพิษที่ถูกแหวกออก พละกำลังมหาศาลทำให้อวัยวะภายในและเืพุ่งทะลัก
ฉินเทียนเชวี่ยที่ยืนอยู่พลันจมลงไปในซากศพ จนเลอะเทอะเปรอะเปื้อน กลิ่นเหม็นร้ายฟุ้งตลบไปทั้งร่าง
“เรียบร้อย ไป!”
หลงอวี้เห็นเช่นนั้นก็ทิ้งฉินหยงเอ๋อร์ และหนีไปอีกทางทันที
“ไอ้สวะ ข้าจะฆ่าเ้า!”
ฉินเทียนเชวี่ยไม่คิดว่าหลงอวี้จะมาไม้นี้ พลันตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความแค้น นับั้แ่ที่ก้าวเข้าสู่วิถีวรยุทธ์ เขาเป็ถึงอัจฉริยะแห่งตระกูลฉิน มีหรือจะเคยถูกปั่นหัวเช่นนี้?
ถูกทำให้ตกลงไปในซากสัตว์อสูรจนเหม็นคลุ้งไปทั้งตัว!
พอเขาเห็นหลงอวี้ทิ้งฉินหยงเอ๋อร์ไว้และเอาเน่ยตานของราชันอสรพิษเวหาหนีไปเท่านั้น ก็ปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง
“เ้าไม่รอดแน่!”
ฉินเทียนเชวี่ยสาบานในใจ จากนั้นก็ออกแรงปัดไล่สิ่งสกปรกบนตัวหลุดออกไปบางส่วน ก่อนจะดีดตัวะโไปอยู่ข้างฉินหยงเอ๋อร์
“หยงเอ๋อร์ ข้าจะพาเ้าไล่ตามไป”
ฉินเทียนเชวี่ยพูดจาหนักแน่น เขาไม่มีทางพลาดแบบเดิมแน่
ฉินหยงเอ๋อร์พยักหน้าเงียบๆ พอได้กลิ่นเหม็นคาวบนตัวของฉินเทียนเชวี่ยก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
เหม็น… นี่มันเหม็นเกินไปแล้ว!
ฉินเทียนเชวี่ยเห็นสีหน้าของน้องสาว ก็ยิ่งโกรธเกลียดหลงอวี้จนเืขึ้นหน้าไอ้สวะนี่บังอาจทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าน้องสาว!
เขาอุ้มฉินหยงเอ๋อร์ขึ้นมา จากนั้นก็ก้าวเท้าออกไปโดยใช้วิชาท่าร่างที่สำเร็จถึงขั้นสูงสุด ทะยานร่างไล่ตามทางที่หลงอวี้หนีไป
เพียงแต่การถ่วงเวลาเมื่อครู่ได้ทำให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันนับร้อยจ้าง
แม้ฉินเทียนเชวี่ยจะรวดเร็ว แต่การแบกฉินหยงเอ๋อร์ไปด้วยทำให้เขาช้าลง หากคิดจะตามหลงอวี้ให้ทันคงต้องใช้เวลา
หลงอวี้ย่อมไม่มีทางหนีไปทั้งอย่างนี้อยู่แล้ว
ไอ้สองพี่น้องนั่นบังอาจหักหลังเขาที่อุตส่าห์ช่วยชีวิต ทั้งยังคิดจะแย่งของของเขาไปและฆ่าปิดปากอีก มีหรือที่เขาจะไม่เอาคืน อย่างน้อยก็ต้องชิงยุทธภัณฑ์ของฉินเทียนเชวี่ยมาให้ได้!
ตอนนี้หลงอวี้มาถึงที่หมายแล้ว
“ศิษย์น้องผู้นี้ รีบช่วยพวกข้าหน่อย!”
“ศิษย์น้อง รีบช่วยหน่อย พวกข้าถูกเถาวัลย์พันเอาไว้แล้ว!”
เสียงพูดหลายเสียงดังอย่างต่อเนื่อง หลงอวี้เงยหน้ามอง ก็พบว่าตัวเองกลับมาเจอลูกศิษย์ระดับล่างสามคนที่ถูกเถาวัลย์พันไว้ก่อนหน้านี้อีกแล้ว
“อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาช่วยพวกเ้าแล้ว”
หลงอวี้แสยะยิ้มมุมปากตอบกลับ แล้วพุ่งผ่านพวกเขา ก่อนจะหายไปในเงามืดของต้นไม้อันหนาทึบ
ชายหนุ่มทั้งสามมองหน้ากันด้วยสีหน้าผิดหวัง
‘อีกเดี๋ยวจะมีคนมาช่วยหรือ?’
ผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็เข้าใจความหมายของหลงอวี้
ตอนที่พวกเขาเห็นฉินเทียนเชวี่ยอุ้มฉินหยงเอ๋อร์ไล่ตามหลังมา ราวกับพวกเขาได้เห็นความหวังก็ไม่ปาน พากันะโด้วยความดีใจ
“ศิษย์พี่ฉิน ศิษย์น้องฉิน มาช่วยพวกข้าเร็ว!”
ระหว่างลูกศิษย์ลัทธิเดียวกัน หากมีคนได้รับอันตรายก็ย่อมต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว
ยิ่งตอนที่ทั้งสามเห็นว่าผู้ที่วิ่งมาเป็ลูกศิษย์ระดับสูงอย่างฉินเทียนเชวี่ย ความหวังในใจของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ด้วยพลังของลูกศิษย์ระดับสูง การตัดเถาวัลย์เหล่านี้คงเป็เื่ง่ายน่าดู?
“เห็นศิษย์น้องที่ใส่ชุดดำคนหนึ่งผ่านทางนี้ไปบ้างหรือเปล่า”
ฉินเทียนเชวี่ยมาถึงพร้อมกับกลิ่นเหม็น เอ่ยถามด้วยเสียงดุดัน
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขา ชายหนุ่มสามคนนั้นก็ชะงักไป แต่พริบตาต่อมาพวกเขาก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น!
เถาวัลย์ที่พันรอบตัวพวกเขาอยู่นั้น ราวกับััได้ถึงอาหารอันโอชะ มันปล่อยตัวพวกเขา แล้วพุ่งใส่ฉินเทียนเชวี่ยอย่างรวดเร็ว!
ฉินเทียนเชวี่ยเห็นเช่นนั้นก็ตะลึงไปทันที
หรือสิ่งสกปรกจากราชันอสรพิษเวหาที่เปรอะเปื้อนบนตัวเขาจะดึงดูดเถาวัลย์เหล่านี้เข้ามาหา?
ไม่นานเขาก็รู้ตัวว่าเดาถูก ไม่เพียงแต่เถาวัลย์ที่พันรอบชายหนุ่มทั้งสามเท่านั้น เถาวัลย์ทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ใกล้ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหว เข้าล้อมเขาไว้ราวกับฝูงอสรพิษก็ไม่ปาน
“ดูแลน้องสาวข้าให้ดีด้วย!”
ฉินเทียนเชวี่ยผลักฉินหยงเอ๋อร์ออกไปให้ชายหนุ่มทั้งสาม จากนั้นก็เร่งลมปราณทั่วร่าง
“วายุปราณทะลวง!”
ลมปราณสีเขียวอัดแน่นเป็คมมีดวายุ พริบตาเดียวก็สะบั้นเถาวัลย์จนขาดไปหลายเส้น ทว่าเถาวัลย์เส้นอื่นที่เหลือมีความเร็วสูงยิ่งกว่า เข้ามารัดแขนขาทั้งสองข้างของเขาไว้
จากนั้น เถาวัลย์เ่าั้ได้แทงหนามแหลมจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่าพวกมันเห็นฉินเทียนเชวี่ยเป็อสรพิษเวหาตนหนึ่ง หมายจะกินเขาเป็อาหาร!
“ไสหัวไป!”
ฉินเทียนเชวี่ยแผดเสียงะโอย่างเกรี้ยวกราด ในที่สุดก็รวบรวมพลังทั่วร่างได้และะเิออกไป!
ข้อแตกต่างระหว่างผู้ฝึกวรยุทธ์กับสัตว์อสูรคือ ผู้ฝึกวรยุทธ์สามารถใช้ยุทธภัณฑ์ วิทยายุทธ์ได้ ในที่สุดฉินเทียนเชวี่ยก็ได้งัดเอายุทธภัณฑ์ที่เป็รางวัลจากการเลื่อนขั้นเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์ระดับสูงได้ออกมา
ฉินเทียนเชวี่ยถือตราประทับหยกชิ้นหนึ่งไว้ในมืออย่างแ่า เมื่อใช้ลมปราณกระตุ้น มันก็ได้ปล่อยคมมีดวายุอันแหลมคมออกมาหลายสาย ทรงพลังกว่าวิชาวายุปราณทะลวงของฉินเทียนเชวี่ยเองเสียอีก!
คมมีดวายุราวกับดาบของเทพแห่งความตายก็ไม่ปาน ฟันเถาวัลย์หนามทั้งหลายขาดสะบั้น อานุภาพทรงพลัง หากหลงอวี้เผชิญหน้าคมมีดวายุเหล่านี้ เกรงว่าคงหลบไม่พ้น ถูกมันหั่นเป็ชิ้นๆ แน่
ทว่าจำนวนเถาวัลย์มันมีมากเกินไป
มันสามารถพันรัดราชันอสรพิษได้ทั้งตัว เช่นนั้น ไม่ต้องพูดถึงฉินเทียนเชวี่ยแค่คนเดียว
แม้ฉินเทียนเชวี่ยจะตัดเถาวัลย์ได้เร็วกว่าราชันอสรพิษหลายเท่า แต่ตัวเขาก็ถูกเถาวัลย์รัดไว้ทั้งตัวแล้ว ถูกหนามบนเถาวัลย์ทิ่มแทงทั่วร่าง!
เืสดๆ ไหลทะลัก เถาวัลย์เ่าั้ก็ราวกับเห็นของแสลง รีบหดหนามกลับไปทันที แต่สิ่งสกปรกของราชันอสรพิษที่เหม็นคาวบนตัวของฉินเทียนเชวี่ยกลับเป็ของโปรดของเถาวัลย์เหล่านี้
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันพัลวัน ชายหนุ่มทั้งสามได้แต่ดูจนอ้าปากค้าง แต่ข่าวดีก็คือ พวกเขารอดแล้ว
“พวกเ้าสามคน ยังไม่ไล่ตามไปอีก อย่าปล่อยให้ไอ้ชุดดำเมื่อกี้หนีไปได้ล่ะ ในตัวมันมีเน่ยตานของราชันอสรพิษเวหาอยู่!”
ฉินหยงเอ๋อร์ได้รับาเ็ที่ขา ยืนพิงต้นไม้ต้นหนึ่ง ไม่มีเวลาเป็ห่วงฉินเทียนเชวี่ย รีบะโสั่งทั้งสามคนนั้น!
“เน่ยตานของราชันอสรพิษเวหา?”
ทั้งสามคนได้ยินเช่นนั้น ก็ตื่นเต้นขึ้นมา
ต่อให้พวกเขาแย่งชิงเน่ยตานมาได้ ก็ต้องมอบให้ฉินเทียนเชวี่ยอยู่ดี แต่หากผูกมิตรกับฉินเทียนเชวี่ยและฉินหยงเอ๋อร์ได้ ก็อาจเป็ประโยชน์ต่อความก้าวหน้าในลัทธิหลังจากนี้อย่างมาก
พอคิดได้เช่นนั้น ทั้งสามคนก็สบตากัน พากันไล่ตามไปทางที่หลงอวี้หายไปทันที
......
หลงอวี้ที่แอบอยู่อีกฝั่งหนึ่งของป่า เห็นเหตุการณ์นั้นก็แสยะยิ้มขึ้น
เขารู้อยู่แล้วว่าไอ้สามคนนั้นต้องกลายเป็สุนัขรับใช้ของฉินเทียนเชวี่ย แต่เขาไม่ได้ใส่ใจ เพราะเ้าสามคนนั้นไล่ตามไปผิดทาง กว่าพวกมันจะหาตัวเขาเจอ คงเป็ตอนที่พวกมันได้เห็นภาพเหตุการณ์อันน่าสะพรึงแน่
เน่ยตานของราชันอสรพิษถูกเขาบดละเอียด และดูดกลืนพลังฟ้าดินทั้งหมดที่อยู่ในนั้นไปแล้ว
เน่ยตานของสัตว์อสูรอสรพิษเวหาทั่วไป มีฤทธิ์เทียบเท่ากับโอสถระดับกลางหนึ่งเม็ด ส่วนเน่ยตานของราชันอสรพิษเวหานั้น เทียบได้กับโอสถระดับสูงเลยทีเดียว!
หลงอวี้ดูดกลืนพลังฟ้าดินภายในนั้นเข้าไป รู้สึกถึงความอบอุ่นอันทรงพลังสายหนึ่งที่อัดแน่นไหลเวียนอยู่ในชีพจร
ด้วยความสามารถอันร้ายกาจของสัญลักษณ์ัปรภพ ร่างกายและลมปราณภายในตัวเขาล้วนถูกเสริมสร้างความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว พละกำลังของเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากหนึ่งหมื่นหกพันชั่งเป็หนึ่งหมื่นแปดพันชั่ง
นี่คือขีดจำกัดสูงสุดของวิถีวรยุทธ์์ขั้นห้า หากคิดจะเพิ่มขึ้นอีก มีเพียงการทะลวงขีดจำกัดขึ้นไปเท่านั้น!
ตึก! ตึก! ตึก!
หัวใจของหลงอวี้เต้นเร็วขึ้น ลมปราณภายในชีพจรก็หนาขึ้นเรื่อยๆ เขาััได้ว่าตัวเองกำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน
เขากำลังแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า
เน่ยตานของราชันอสรพิษเวหาได้ถูกเขาดูดกลืนจนหมดอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงเศษซากที่ไร้ประโยชน์
ภายในร่างกายของเขานั้น เกิดเสียงกระดูกลั่น เป็สัญญาณว่าพลังกำลังยกระดับขึ้น วิถีวรยุทธ์์ขั้นหกอยู่ไม่ไกลแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ทำให้ฉินหยงเอ๋อร์รู้ตัว
เวลาผ่านมาราวครึ่งชั่วยามแล้วหลังจากที่ฉินเทียนเชวี่ยเริ่มต่อสู้กับเหล่าเถาวัลย์ ในที่สุดฉินเทียนเชวี่ยก็ใช้ยุทธภัณฑ์ตราวายุปราณกำจัดเถาวัลย์ทั้งหมดทิ้งได้
ขณะเดียวกัน สิ่งสกปรกจากและกลิ่นเหม็นบนตัวก็ได้ถูกเถาวัลย์ดูดออกไปจนหมดเช่นกัน
“พี่ชาย ตรงนั้นมีอะไรบางอย่าง!”
ฉินหยงเอ๋อร์ชี้ไปยังกลุ่มต้นไม้ใหญ่อันมืดมิดที่อยู่อีกฝั่ง ตรงจุดที่หลงอวี้กำลังแอบดูดกลืนพลังฟ้าดินจากเน่ยตาน
“หรือว่า ไอ้เวรนั่นจะแอบดูดพลังเน่ยตานอยู่ในนั้น?”
ฉินเทียนเชวี่ยััได้ถึงคลื่นพลังฟ้าดินจากกลุ่มต้นไม้นั้น มีร่องรอยการยกระดับของผู้ฝึกวรยุทธ์อยู่ สีหน้าของเขาพลันกลายเป็เ็า
เน่ยตานของราชันอสรพิษ ฉินหยงเอ๋อร์ควรได้ใช้เพื่อยกระดับพลัง จะยอมปล่อยให้คนอื่นใช้ไปได้อย่างไร?
“ต่อให้เ้ายกระดับพลังได้ ข้าก็จะฆ่าเ้าทิ้งได้อยู่ดี!”
ฉินเทียนเชวี่ยตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว จึงก้าวเท้ามุ่งหน้าไปยังกลุ่มต้นไม้ที่หลงอวี้ซ่อนตัวอยู่!