ดวงตาเรียวยาวของฉินเย่เซิงเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากเขาััได้ถึงการถูกจับจ้อง สายตาคมกริบของเขาจับจ้องไปยังร่างที่ยืนอยู่ไม่ไกล ผมยาวดำขลับของหญิงสาวลู่ลงบนอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้างดงามราวกับภาพลวงตาในหิมะ ดวงตาสีเทาอ่อนเปล่งประกายลึกล้ำ มองตรงมาที่เขาอย่างนิ่งสงบ
ราวกับเวลาหยุดหมุน ฉินเย่เซิงเผลอกลั้นหายใจ ความงามของนางเหมือนไม่มีอยู่จริง ราวกับหากเอื้อมมือไปแตะก็จะจางหาย เขาจ้องมองนางด้วยความตะลึงครู่หนึ่ง ก่อนที่ความระมัดระวังจะกลับคืนมา
ร่างสูงขยับตัวอย่างรวดเร็ว มือเอื้อมไปหยิบอัญมณีสีฟ้าที่เหน็บไว้ในถุงหนังขึ้นมาช้าๆ สายตาไม่ละจากหญิงสาวแม้แต่น้อย
“เ้าเป็ใคร” เขาถาม น้ำเสียงแฝงแววระแวดระวัง
หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถามในทันที นางจ้องมองเขาด้วยสายตาที่นิ่งสงบแต่แฝงความลึกลับ ราวกับกำลังพิจารณาบางอย่างในตัวเขา
นางมองชายแปลกหน้าที่ลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าคมคายของเขาดูอ่อนล้าจากการเดินทางไกล แต่แววตาของเขายังคงฉายแสงเ้าเล่ห์และระแวดระวัง นางรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่ไม่คุ้นเคย แต่กลับดึงดูดสายตาของนางอย่างแปลกประหลาด
ดวงตาสีเทาอ่อนของนางเลื่อนลงไปที่มือของเขา ซึ่งกำลังถืออัญมณีสีฟ้าที่เปล่งแสงเรืองรอง
นางนิ่งไปครู่หนึ่ง ััได้ถึงกลิ่นอายพลังบางอย่างจากอัญมณีนั้น พลังที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาด แต่นางไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือทำไมมนุษย์ผู้นี้จึงสามารถใช้มันผ่านม่านพลังเข้ามาได้
“สิ่งนั้น…” นางคิดในใจ ดวงตาเปล่งแสงจาง ๆ ขณะพยายามตีความความเชื่อมโยงของมัน “เหตุใดจึงมีกลิ่นอายที่เหมือน…พลังของถ้ำนี้”
เ้ากิ้งก่าขาวบนไหล่ของนางส่งเสียงครืดคราดเบา ๆ ราวกับรู้สึกถึงอันตราย นางยกมือขึ้นลูบหัวมันเบา ๆ เพื่อปลอบ “สงบเถิด เสวี่ย”
เมื่อเสียงของชายแปลกหน้าดังขึ้นอีกครั้ง นางไม่ได้หวั่นไหว ทว่าถ้อยคำที่เขาเอ่ย ทำให้นางเลิกคิ้วเล็กน้อย
“เ้าเป็ใคร” เขาถามซ้ำ น้ำเสียงชัดเจนขึ้น
นางสูดลมหายใจช้า ๆ ดวงตาสีเทาของนางสบตากับเขานิ่งสงบ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ข้าต่างหากที่ควรถาม…ว่าเ้ามาทำอะไรในที่ของข้า”
คำพูดของนางทำให้ฉินเย่เซิงเลิกคิ้ว รอยยิ้มมุมปากเ้าเล่ห์ปรากฏขึ้น ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท “ที่ของเ้า? ข้าไม่เห็นมีชื่อเ้าติดอยู่ตรงไหน”
ดวงตาสีเทาของนางวาววับเล็กน้อย แต่ยังคงสงบเยือกเย็น นางไม่ตอบคำพูดนั้นทันที เพียงแต่เดินเข้าไปใกล้เขาอีกก้าว
“ที่แห่งนี้…” นางกล่าวเสียงเรียบ “คือสถานที่ที่ไม่มีผู้ใดควรย่างกรายเข้ามา”
ฉินเย่เซิงหัวเราะเบา ๆ ราวกับไม่ได้เกรงกลัวสิ่งใด “ก็น่าแปลก ข้าเข้ามาได้ตั้งไกลทีเดียว”
คำตอบนั้นทำให้นางนิ่งไปชั่วครู่ ดวงตาของนางมองอัญมณีสีฟ้าในมือของเขาอีกครั้ง ความสงสัยในใจเพิ่มขึ้น “เ้าใช้สิ่งนั้นฝ่าเข้ามาได้… แต่เ้ารู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร”
เขายกอัญมณีขึ้นเล็กน้อย พลิกมันไปมาราวกับของเล่นในมือ “รู้แค่พอมันอยู่กับข้า ข้าก็เข้ามาได้…แค่นั้น”
สายตาของนางจับจ้องอัญมณีนั้นนิ่ง รู้สึกถึงกลิ่นอายพลังที่เหมือนจะเชื่อมโยงกับถ้ำนี้ แต่กลับไม่อาจอธิบายได้
‘ข้าไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน’ นางคิดในใจ ‘แต่พลังที่แผ่ออกมานั้น…ข้ารู้สึกเหมือนเคยััมัน’
“แล้วเ้าล่ะ” ฉินเย่เซิงเอ่ยขึ้น ขัดความคิดของนาง “เ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งนี้คืออะไร” เขาเอ่ยถามเมื่อเห็นนางมองอัญมณีสีฟ้าใสอย่างสงสัย
นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างตรงไปตรงมา “ไม่”
คำตอบนั้นทำให้ฉินเย่เซิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เ้าปกป้องถ้ำนี้ แต่กลับไม่รู้จักสิ่งที่สามารถผ่านม่านพลังของเ้าได้?”
ดวงตาสีเทาของนางนิ่งสงบ แต่ในใจนางกลับเต็มไปด้วยคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ นางไม่เข้าใจว่ามนุษย์ผู้นี้เข้ามาได้อย่างไร และเหตุใดอัญมณีในมือเขาจึงทำให้พลังของนางไร้ผล
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้