เมื่อคิดว่าสวี่จือจือจะต้องแต่งงานกับลู่จิ่งซาน สวี่เจวียนเจวียนก็แทบจะอกแตกตาย
ถึงแม้ว่าลู่จิ่งซานจะมีชื่อเสียงในด้านดวงกินภรรยา แต่เขาก็เป็คนที่เธอแอบชื่นชมมาั้แ่เด็ก แล้วทำไมนังเด็กแพศยาสวี่จือจือถึงได้เขาไป
เพียงแต่เธอถูกหวังซิ่วหลิงเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมั้แ่เด็ก ยิ่งตอนนี้สวี่จือจือก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ในตอนที่เธอพุ่งเข้ามา สวี่จือจือก็คว้าผมของสวี่เจวียนเจวียนเอาไว้ได้ แล้วตบหน้าไปหลายฉาด
“นังตัวซวย แกถึงกับกล้าตบฉัน” สวี่เจวียนเจวียนร้องกรีดร้องเสียงดัง
ยิ่งเธอโวยวาย สวี่จือจือก็ยิ่งตบแรงขึ้น
ไม่ว่ายังไงหวังซิ่วหลิงก็เป็แม่แท้ๆ ของเ้าของร่างเดิม และเป็ผู้ใหญ่ ถ้าเธอลงมือกับหวังซิ่วหลิง เื่ที่เธอมีเหตุผลก็จะกลายเป็ไม่มีเหตุผลไป
ส่วนสวี่เจวียนเจวียนก็เป็แค่ตัวยุยง ไม่เพียงแต่จะกลั่นแกล้งเ้าของร่างเดิม เธอยังยุยงให้หวังซิ่วหลิงกับสวี่จงโฮ่วทำร้ายเ้าของร่างเดิมอยู่เสมอ เ้าของร่างเดิมโดนทำร้ายสิบครั้ง แปดเก้าครั้งก็เป็เพราะสวี่เจวียนเจวียนยุยงทั้งนั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลลู่มาสู่ขอพอดี สวี่เจวียนเจวียนคงไม่ถึงกับลงมืออย่างรุนแรง ให้ชายคนรักของตัวเองอย่างหวงรุ่ยเซิง ซึ่งเป็บัณฑิตที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน ข่มขืนเ้าของร่างเดิมเพื่อให้อีกฝ่ายตั้งท้องลูกหรอก
โชคดีที่เ้าของร่างเดิมไม่ได้โง่เขลาจนเกินไป อีกฝ่ายไม่ยอมอย่างเด็ดขาด เมื่อจนมุมก็เลยวิ่งไปะโน้ำฆ่าตัวตาย ไม่อย่างนั้นชีวิตคงจะพังพินาศไปแล้ว
สวี่เจวียนเจวียนเพิ่งจะโดนสวี่จงโฮ่วตบหน้าไป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกแรงมาก แต่เขาก็เป็ผู้ชาย อีกทั้งยังทำงานใช้แรงมาตลอด ตบไปทีหนึ่งใบหน้าของสวี่เจวียนเจวียนก็บวมขึ้นมาครึ่งซีกแล้ว
สวี่จือจือคว้าผมของเธอแล้วตบซ้ายตบขวา ใบหน้าของเธอก็บวมเหมือนหมู แม้แต่ผมที่สวี่เจวียนเจวียนเคยภาคภูมิใจก็ยังถูกกระชากออกมาเป็กระจุก
“โอ๊ย...สวี่จงโฮ่ว แกตายแล้วหรือยังไง!” หวังซิ่วหลิงที่ทนเ็ปจากอาการเอวเคล็ดก็ตบสวี่จงโฮ่วไปหนึ่งฉาด “เห็นลูกสาวแกโดนนังเด็กเหลือขอนั่นตบ ยังยืนโง่อยู่ทำไม ไปทุบตีมันให้ตายซะ”
สวี่จงโฮ่วใกับความ ‘ดุดัน’ ของสวี่จือจือไปแล้ว
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในลานบ้านนั้นเกินกว่าความเข้าใจของสวี่จงโฮ่วไปนานแล้ว เขาทำได้เพียงทำตามคำสั่งของหวังซิ่วหลิงราวกับเครื่องจักร แข้งขาพันกันแล้วก็สะดุดขาล้มลงทับหวังซิ่วหลิง
“โอ๊ย ไอ้คนไม่ได้เื่!” หวังซิ่วหลิงถูกเขาทับอยู่บนพื้น ท้ายทอยกระแทกพื้น แถมข้อศอกของสวี่จงโฮ่วก็ยังไปโดนเอวที่เคล็ดของเธออีก ทำให้เธอร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือด “เอวฉัน!”
ในขณะที่พูดมือของเธอก็ไม่ได้หยุด ข่วนใบหน้าของสวี่จงโฮวจนเืซิบ
สวี่จงโฮ่วสติแตกไปแล้ว
วันนี้…เขาไม่เพียงแต่ตบหน้าลูกสาวสุดที่รักของตัวเอง แต่ยังทำให้เอวของภรรยาาเ็อีก เมื่อคิดถึงอนาคตแล้ว เขาก็รู้สึกกลัวเหลือเกิน!
ในใจที่กำลังตระหนก มือเท้าของเขาก็ยิ่งสับสน อยากจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกหวังซิ่วหลิงเตะเข้าที่หน้าแข้ง
โครม! เขาก็ทับลงไปบนร่างของเธออีกครั้ง เป็อย่างนี้ติดต่อกันหลายครั้ง
ถ้าสวี่จือจือไม่รู้เื่ราวในอดีตของสวี่จงโฮ่ว เธอคงจะคิดว่าเขากำลังจงใจหาโอกาสแก้แค้นหวังซิ่วหลิงอยู่แน่ๆ
เธอสะบัดมือที่เริ่มชา เหวี่ยงสวี่เจวียนเจวียนออกไป แล้วเช็ดมืออย่างรังเกียจ
เจ็บ
แต่ก็สะใจ!
“ทำไมพี่ต้องกลั่นแกล้งฉันด้วย” สวี่จือจือพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคนถูกรังแก “ั้แ่เด็ก พี่ก็คอยยุยงพ่อแม่ให้ทำร้ายฉัน แม้แต่สินสอดของฉันพี่ก็ยังจะเอาไป”
“เป็ลูกสาวของบ้านตระกูลสวี่เหมือนกันแท้ๆ ทำไมฉันถึงเหมือนเป็ลูกที่ถูกเก็บมาเลี้ยงล่ะ?”
สวี่จือจือพูดพลางน้ำตาคลอเบ้า เธอรู้ว่าอารมณ์ความรู้สึกพวกนี้ส่วนใหญ่เป็ของเ้าของร่างเดิม เธอถามเสียงดัง “พี่ป้าน้าอาทุกท่าน ลองดูบนตัวของหนูสิ...”
เธอไม่รู้สึกเขินอายที่จะเลิกเสื้อขึ้น เผยให้เห็นแขนที่ขาวละเอียด และรอยแผลเป็ที่น่าเวทนา
รอยแผลเก่า รอยแผลใหม่ รอยสะเก็ดแผล...
“ทั้งตัว ทั้งขา ก็เป็แบบนี้ทั้งนั้น” สวี่จือจือพูดพลางร้องไห้
เห็นได้ชัดว่าเป็คนที่ลงมือทำร้ายคนอื่น แต่ตอนนี้กลับเหมือนคนถูกรังแก สวี่เจวียนเจวียนโมโหแทบตายแล้ว
“นังตัวซวย แกกล้าดียังไงมาทำร้ายเจวียนจื่อของฉัน” หวังซิ่วหลิงที่เริ่มได้สติแล้ว นอนอยู่บนพื้นชี้หน้าด่าสวี่จือจือ “ฉันเป็คนคลอดแกมา ฉันจะทุบตีแก แล้วจะทำไม?
ฉันว่าแล้วเชียว ว่าทำไมถึงเอาแต่โวยวาย ที่แท้ก็เก็บซ่อนแผนร้ายเอาไว้นี่เอง ฉันจะบอกแกให้รู้ไว้นะ ฉันจะทุบตีลูกสาวของฉัน ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาห้าม
จะสินสอด? สินเดิม? ไม่มีให้สักอีแปะนั่นแหละ!
ไอ้คนตาย ทำไมไม่รีบมาพยุงฉันขึ้นอีก” หวังซิ่วหลิงะโใส่สวี่จงโฮ่ว
“แม่เจวียนจื่อ เธอจะใจร้ายเกินไปแล้วนะ” มีคนทนไม่ไหวก็เลยเอ่ยปากออกมา
ถึงแม้จะไม่ชอบลูกสาวคนนี้แค่ไหนก็ไม่ควรที่จะทำร้ายลูกถึงขนาดนี้กระมัง ดูสิว่าทำร้ายลูกไปถึงขนาดไหนแล้ว
“ใช่แล้ว ลำเอียงก็ไม่ควรจะลำเอียงแบบนี้”
ลำเอียงจนแทบจะเข้ากระดูกดำแล้ว
“ถุ้ย ฉันตีมันแล้วจะทำไม?” หวังซิ่วหลิงเคยชินกับการอาละวาดไปแล้ว เธอจะทนให้ใครมาต่อว่าตัวเองได้ยังไง “ถ้าไม่เป็เพราะนังตัวซวยนี่ ฉันจะเสียเืจนเกือบตายอย่างนี้เหรอ? ทำให้ฉันมีลูกชายคนต่อไปไม่ได้เลยนะ!”
“ฉันว่านะหวังซิ่วหลิง” โจวกุ้ยอิงพูดพลางยิ้มหยัน “เมื่อก่อนถ้าไม่ใช่เพราะเธอทำตัวเอง เอาแต่กินๆ นอนๆ ไม่ยอมออกกำลังกาย แถมยังแบกท้องโตไปตีกับเ้ารอง กลับไม่ระวังจนกระทั่งไปกระแทกท้องเอง แกจะคลอดก่อนกำหนดได้ยังไง?”
ถ้าไม่คลอดก่อนกำหนด ก็คงไม่เกิดภาวะที่ลูกอยู่ในท่าผิดปกติ!
เมื่อก่อนเธอก็เคยสงสารลูกสาวคนเล็กของบ้านเ้ารอง แต่เด็กคนนี้มันก็น่าหงุดหงิด ซื่อบื้อจนน่าชิงชัง ถึงกับเอาสิ่งที่เธอพูดไปบอกกับหวังซิ่วหลิง ทำให้หวังซิ่วหลิงมาอาละวาดกับเธอ
ั้แ่นั้นเป็ต้นมา โจวกุ้ยอิงก็ไม่สนใจอีกเลย
คนน่าสงสารมักจะมีสิ่งที่น่าชิงชัง ลูกสาวคนเล็กของบ้านเ้ารองก็เหมือนกับพ่อที่โง่เขลาของอีกฝ่ายไม่มีผิด แต่ไม่คิดว่ากระสอบทรายคนนี้จะกล้าลุกขึ้นมาต่อต้าน
แต่โจวกุ้ยอิงก็ยังไม่อยากเข้าไปยุ่งเื่โสมมเหล่านี้ พอเห็นหวังซิ่วหลิงนำเื่เก่าๆ ในอดีตกลับมาพูดอีกครั้ง เธอถึงกับทนไม่ได้จนต้องเอ่ยปากออกมา
คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เื่ในอดีต รู้เพียงแต่ว่าจากคำพูดของหวังซิ่วหลิง สวี่จือจือเป็คนดวงแข็ง เกิดมาโดยเอาเท้าลง ทำให้หวังซิ่วหลิงต้องผ่าตัดมดลูกออกไปครึ่งหนึ่ง แต่กลับไม่รู้ว่าเื่จริงเป็อย่างนี้
“แม่” สวี่จือจือมองหวังซิ่วหลิงอย่างสงสัย “แม่ชอบด่าหนูว่าเป็ตัวซวย แต่ปู่ของหนูก็ตายเพราะแม่เหมือนกันนี่นา จะว่าไป แม่ไม่ยิ่งกว่าตัวซวยเหรอคะ?”
ใครๆ ก็บอกว่าใช่
หวังซิ่วหลิงแต่งเข้าบ้านตระกูลสวี่ได้ไม่นาน ปู่สวี่ที่ยังแข็งแรงอยู่ดีๆ ก็พลันสิ้นใจไปเฉยๆ หลังจากนอนหลับไป
“พูดจาเหลวไหล” หวังซิ่วหลิงชี้หน้าด่าโจวกุ้ยอิง “แกมันตัวจุ้นจ้าน อย่ามายุ่งเื่บ้านคนอื่น”
“ทุกคนเอะอะโวยวายอะไรกัน” สวี่ฉางไห่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าดำคล้ำ “มันน่าดูตรงไหน”
เขาได้ยินเสียงทะเลาะกันดังมาจากในลานบ้านั้แ่ไกล
ช่างน่าขายหน้าจริงๆ!
“คุณลุง” สวี่จือจือทักทาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ “คุณลุงเป็หัวหน้าหน่วย มีความรู้มากมาย ประชาคมชีหลี่ของเรา มีบ้านไหนที่ให้ลูกสาวเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับไก่ตัวผู้บ้างเหรอคะ?”
เื่นี้…ในสังคมเก่าเคยมี แต่ในสังคมใหม่ไม่มีจริงๆ
เพียงแต่ว่าคุณนายเฒ่าแห่งตระกูลลู่มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา ไม่มีใครกล้ายุ่ง
“หนูไม่ได้ติดใจอะไรหรอกนะคะเื่ที่ต้องเข้าพิธีกับไก่ตัวผู้” สวี่จือจือพูดต่อ “แต่ถ้าเื่นี้แพร่งพรายออกไป คนอื่นจะว่าผู้หญิงของหมู่บ้านซ่างสุ่ยเป็คนอ่อนแอ ถูกรังแกได้ง่าย”
“ถ้ามีคนไปร้องเรียนกับทางประชาคมว่าเรายังทำตามขนบธรรมเนียมในสังคมเก่า คุณลุงที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วย...”
แถมยังเป็หลานสาวของตัวเองที่ต้องเข้าพิธีกับไก่ตัวผู้ คนในตระกูลลู่ก็ไม่เป็ไร แต่เขาสวี่ฉางไห่คงจะไม่รอดแน่ๆ!
“สินสอดสองร้อยหยวน ไม่ให้สินเดิมสักอีแปะเดียว ไม่ต่างอะไรกับการผูกเวรผูกกรรมกันเลย”
มันจะได้ที่ไหนกัน!
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้