ที่ข้างนอกนั่น พ่อกับแม่เธอยังคงทะเลาะกันใหญ่โต แต่เธอกลับหูตามืดบอด ในสมองคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพียงประโยคเดียว——เธอกลับมาแล้ว เธอกลับมาแล้ว เธอกลับมาจริงๆ ! เธอกลับมาวันที่ตัดสินชะตาตัวเองกับพ่อแม่!
ในชาติที่แล้ว วันนี้นี่แหละที่เธอบอกกับคุณแม่โดยมิได้ไตร่ตรองให้ดีว่าตนหลับนอนกับหลินเสี่ยวหยางแล้ว ทั้งยังพูดอีกว่า หากไม่ยอมปล่อยเธอใช้ชีวิตกับหลินเสี่ยวหยาง เธอจะโวยวายให้ในกอง [1] รู้กันถ้วนหน้า ดูซิ ทีนี้สกุลเฝิงจะยังยินดีสู่ขอ ‘สตรีแพศยา’ อย่างเธอไหม ทันทีที่แม่ของเธอรู้เื่เข้าก็โกรธจนตัวสั่น เดิมทีหล่อนเป็โรคหัวใจอยู่แล้ว ไม่นานนักอาการก็กำเริบ เธอฉวยโอกาสแอบหนีตอนที่พ่อพาแม่ไปส่งที่โรงพยาบาล ต่อมาแม้คุณแม่จะรอดมาได้ ทว่าคุณพ่อก็ไม่ยอมรับผู้เป็ลูกอย่างเธออีกนับั้แ่วันนั้น ขนาดเธอแต่งออกก็ยังไม่คิดแม้แต่จะเหลียวแล เงินที่ฝากคนอื่นส่งกลับบ้านล้วนถูกตีกลับหลายครั้งต่อหลายครา เธอโกรธมาก นั่นจึงทำให้เธอไม่คิดที่จะติดต่อกับครอบครัวอีก ภายหลังเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอไปเรียนต่อที่เมืองนอกนานนับสิบปี อย่างไรก็ดี กลับมาอีกที เธอก็พบว่าทุกคนล้วนเปลี่ยนไปหมดแล้ว
หลังจากหาคนสอบถามอยู่นานถึงได้ความว่าเพราะเธอทำลายชื่อเสียงของสกุล คุณพ่อจึงถูกปลดออกจากตำแหน่งหัวหน้ากอง ครั้งนั้นคุณแม่โกรธเธอจนล้มป่วยและเพราะเธอหนีหายไปจึงไม่ทราบว่าทางบ้านกู้เงินจำนวนมากเพื่อรักษาคุณแม่ ส่วนพี่ใหญ่ที่พยายามจะใช้หนี้คืนจึงขึ้นเขาล่าสัตว์ แต่ทว่ากลับพลัดหกล้มจนขาหัก รักษาเท่าไรก็ไม่หายเสียที ทำให้ตอนนี้เขาไม่สามารถเดินเหินได้เหมือนปกติแล้ว
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด น้องสาวคนเล็กของเธอท้องก่อนแต่งไม่พอ ซ้ำยังโดนทิ้งอีก หล่อนทนคำซุบซิบนินทาไม่ไหว ท้ายที่สุดแล้วจึงะโแม่น้ำเพื่อจบชีวิตตัวเองทั้งที่อายุไม่ถึงยี่สิบปี ส่วนน้องชายก็กลายเป็อันธพาล คลับคล้ายคลับคลาว่าเพราะก่อเหตุปล้นสะดม เลยถูกยิงเป้า่ปราบปรามเข้มงวดในปี 1983 เท่านั้นยังไม่พอ ครั้งพี่สาวคนโตของเธอคลอดลูก แต่เพราะบ้านฝั่งสามีไม่อยากเสียเงินส่งเข้าโรงพยาบาล ผลสุดท้ายพี่สาวแท้ๆ ของเธอก็เืออกมากเกินไปจนตายทั้งกลม เมื่อคุณแม่ต้องฟังข่าวร้ายซ้ำๆ จึงไม่อาจรับเื่กระทบกระเทือนจิตใจได้อีกต่อไป สุดท้ายก็สิ้นใจตามไป แม้กระทั่งคุณพ่อของเธอที่เข้มแข็งมาตลอดก็ยังเลือกที่จะฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นพี่ใหญ่ที่เหลือเพียงลำพังก็ออกจากหมู่บ้านเงียบๆ ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายเขาหายไปที่ไหน
ครอบครัวกระจัดกระจายและเสียชีวิต แม้แต่โอกาสชดใช้เธอยังไม่มีด้วยซ้ำ
ต่อมา เธอคิดหลายครั้งหลายหน หากปีนั้นเธอไม่แต่งงานกับหลินเสี่ยวหยางตามใจตัวเอง
ชะตาชีวิตของครอบครัวเธอจะแตกต่างออกไปไหม? คาดไม่ถึงว่า์จะมอบโอกาสนี้ให้เธอจริงๆ
เื่ราวที่น่าหวาดหวั่นทั้งหมดจะกลับกลายเป็ไม่เคยเกิดขึ้น
เธอยังมีเวลาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง!
เจิ้งหยวนยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตา เป็เวลาเดียวกับที่ประตูถูกผลักออกเสียงดัง ‘ปัง’ เป็แม่ของเธอเอง เฉินชุ่ยอวิ๋นกำลังเดินตรงมา ทันทีที่เห็นสภาพเธอ ผู้เป็แม่ก็สาวเท้าเข้าประชิดตัว แล้วชี้นิ้วจิ้มกระหม่อมของเธอพลางเอ่ยเสียงจริงจัง “ร้องๆๆ แกยังมีหน้ามาร้องอีก ดูสิ่งที่แกทำลงไปสิ! เฝิงเจี้ยนเหวินเขาแสนจะดี
แถมยังเป็ทหาร ถึงเขาจะอายุมากกว่าแกหน่อย แต่คนอายุมากรู้จักดูแลทะนุถนอมคนนะ
สกุลหลินดีแค่ไหน แกก็ไม่มีดวงเป็คนเมืองกินข้าวที่ต้องซื้อ [2] หรอก รีบเลิกกับผู้ชายคนนั้นแล้วยอมแต่งงานดีๆ เถอะ! พ่อแกบอกว่าไม่ว่ายังไงก็จะปล่อยให้แกหิวตายในห้อง
ไม่ให้แกไปเสวยสุขกับคนแซ่หลินนั่นเด็ดขาด”
เจิ้งหยวนโดนจิ้มจนหัวสั่นหัวคลอน เธอมึนงงไปพักหนึ่ง ถูกต้อง ชาติก่อนแม่ของเธอก็กล่าวเช่นนี้ จำได้ว่าจากนั้นเธอจะเริ่มพูดจาสิ้นคิด ทำเอาแม่โมโหจนเข้าโรงพยาบาล
มาคิดดู ทำไมอดีตเธอเลวได้ขนาดนั้น? เหตุใดถึงทำลายชื่อเสียงของตนเองเพื่อผู้ชายคนเดียว
ทั้งยังทำแม่โกรธแทบตาย แถมแต่งกับผู้ชายคนนั้นไป ชีวิตก็ไม่ได้วิเศษอะไร
สุดท้ายทะเลาะกันบ้านแตกไม่ใช่หรือ? กรรมคงตามสนองกระมัง!
เมื่อคิดถึงตรงนั้น น้ำตาพลันพรั่งพรูราวสายฝน เธอกอดมารดา
หมับแล้วพูดเสียงสะอื้น “แม่——”
เชิงอรรถ
[1] กอง หมายถึง กองการผลิตตามหมู่บ้านชนบท หนึ่งในสามระดับของระบบคอมมูนประชาชน หรือระบบไร่นารวมหมู่ ซึ่งเป็โครงสร้างเศรษฐกิจสังคมจีนทั่วทั้งประเทศ่ปี 1958 - 1980 ประกอบไปด้วย ระดับกลุ่มการผลิต มีครัวเรือนในสังกัดประมาณ 20 - 30 หลังคาเรือน ระดับกองการผลิต มีกลุ่มการผลิตเป็สมาชิกในสังกัดประมาณ 7 - 10 กลุ่ม และระดับคอมมูนประชาชน จะมีกองการผลิตเป็หน่วยงานสังกัดประมาณ 13-15 กอง
[2] ข้าวที่ต้องซื้อ หมายถึง พืชพันธุ์ที่ซื้อขายกันทั่วไป ปกติคนยุค 70 หากเป็คนชนบท มักจะรับประทานข้าวที่ปลูกเอง เมื่อแต่งเข้ากลายเป็คนเมือง ก็จะซื้อข้าวรับประทานแทน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้