สวี่ต้าซานโกรธจัด “ลูกไม่ได้ให้เงินพันหยวนกับแม่สักหน่อย ทำไมต้องโกหกด้วย?”
สวี่ฮุ่ยตีหน้านิ่ง พูดอย่างหนักแน่น “หนูให้ไปแล้ว แต่มีคนไม่ยอมรับเอง!”
กู่ซิ่วเห็นสวี่ฮุ่ยสาดโคลนเธอจนตอนนี้ก็โกรธจนแทบคลั่ง “แกใจคอโเี้เกินไปแล้ว! ฉันน่าจะบีบคอแกให้ตายั้แ่แกเกิดมาซะ!”
สวี่ฮุ่ยมองเห็นเงาคนแวบหนึ่งนอกบ้าน รู้ว่านั่นคือเพื่อนบ้านที่อยากมาใส่ใจเื่ของเธอ
เธอหัวเราะเหอะ ๆ สองครั้งแล้วพูด “ตอนนี้อยากให้หนูตายก็ยังทันนะ พวกคุณมีตั้งหลายคน กำจัดหนูก็ไม่ใช่เื่ยากอะไรเลย คนตายเพราะเงิน นกตายเพราะอาหาร[1] พวกคุณทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งเงินและคะแนนสอบของฉันให้สวี่เยว่ แถมยังเอาเงินพันหยวนของฉันไปแล้วยังไม่ยอมรับอีก!”
สวี่ต้าซานก็เห็นเงาคนข้างนอก
อากาศร้อนอบอ้าว เขาจึงเดินไปปิดประตูแล้วดุเบา ๆ “ทั้งที่พวกเรา กำลังพูดถึงเื่ลูกไปร้องเรียนแม่อยู่แท้ ๆ ลูกกลับพูดเื่อื่น ลูกอยากให้คนนอกเข้าใจพวกเราผิดหรือไง?”
กู่ซิ่วยุยงทันที “มันอยากให้คนนอกเข้าใจพวกเราผิดอยู่แล้ว ฉันบอกแล้วว่ามันร้ายกาจ!”
สวี่ฮุ่ยเยาะเย้ย “ส่วนแม่ก็ใจดีจริง ๆ อยากให้ฉันตายเพื่อเอาเงินและคะแนนสอบของฉันไป! ”
สวี่ต้าซานเห็นว่าพวกเขาพูดทีสวี่ฮุ่ยก็เถียงที จึงเอ่ยอย่างปวดหัว “หยุดทะเลาะกันได้แล้ว แล้วมากินข้าว!”
แต่สวี่ฮุ่ยกลับเปิดประตูแล้ววิ่งออกไปในยามโพล้เพล้โดยไม่เหลียวกลับมามอง
ระหว่างวิ่งก็ร้องไห้เสียใจ เพื่อนบ้านถามว่าเกิดอะไรขึ้นเธอก็ไม่ยอมพูด
สวี่ต้าซานเห็นว่าฟ้าเริ่มมืดแล้ว สวี่ฮุ่ยออกไปข้างนอกคงไม่ปลอดภัย ตั้งท่าจะวิ่งตามเธอไป
กู่ซิ่วรั้งสวี่ต้าซานไว้ “ไม่ต้องไปตามมัน! มันอยากเดินเตร่ก็ปล่อยมันไป!”
สวี่รั่วเฉินก็พูด “พ่อยิ่งกลัวฮุ่ยฮุ่ยเกิดเื่ เธอก็ยิ่งวิ่งหนีออกไป เธอเอาความเป็ห่วงของพ่อมาขู่พ่อ”
สวี่ต้าซานโดนภรรยากับลูกชายเกลี้ยกล่อม เลยยอมนั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารต่อ
กู่ซิ่วคีบหมูแดงใส่จานลูกสองคนที่เธอรัก แน่นอนว่าเธอก็คีบให้สวี่ต้าซานชิ้นสองชิ้นด้วย
สวี่ต้าซานนึกถึงความอยุติธรรมที่ภรรยาได้รับที่ทำงานเพราะลูกสาวอกตัญญูอย่างสวี่ฮุ่ย จึงคีบหมูแดงให้ภรรยาหลายชิ้น
แต่สวี่เยว่กลับคีบหมูแดงในชามตัวเองกลับไปวางในจาน
กู่ซิ่วถามด้วยความเป็ห่วง “เยว่เยว่ ลูกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
แม้แต่หมูแดงยังไม่ยอมกิน นอกจากไม่สบายแล้วจะมีเหตุผลอะไรอีก?
สวี่เยว่ส่ายหน้า “เปล่าค่ะ หนูนึกถึงคำพูดของพี่สาวเฉย ๆ ”
สวี่รั่วเฉินถามอย่างสงสัย “คำพูดอะไร?”
สวี่เยว่ลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูด “พี่อย่ารู้จะดีกว่าค่ะ”
เธอยิ่งทำท่าอ้ำอึ้ง สวี่รั่วเฉินก็ยิ่งอยากรู้
สุดท้ายสวี่เยว่ก็จำใจพูดภายใต้ “การบังคับ” ของสวี่รั่วเฉิน
“พี่สาวบอกว่าแม่ลำเอียง ของกินของใช้ดี ๆ ในบ้านไม่เคยตกถึงเธอเลย พี่สาวยังบอกอีกว่าหนูร่างกายไม่แข็งแรง กินดีอยู่ดี เธอไม่ถือสา แต่พี่ชายแข็งแรง ทำไมถึงได้กินดีอยู่ดีเหมือนหนูด้วย? ต่อไปนี้ของอร่อย ๆ ในบ้านหนูจะไม่กินแล้วค่ะ เก็บไว้ให้พี่สาวกิน พี่สาวจะได้ไม่มาเคืองพี่ชายอีก”
สวี่รั่วเฉินหน้าแดง
เขาเคยคิดว่าตัวเองเป็คนซื่อตรงมาตลอด แต่ทุกคำพูดของน้องสาวคนโตล้วนเป็ความจริง ทำให้เขาเสียภาพลักษณ์คนซื่อตรงไป
เขาพาลโกรธ เลยแกล้งกินหมูแดงคำโต “ใครใช้ให้เธอไม่เป็ที่รักของพ่อแม่ล่ะ แม่ลำเอียงก็เพราะเธอทำตัวเอง! เยว่เยว่ อย่าไปใส่ใจคำพูดของฮุ่ยฮุ่ย อะไรควรกินก็กิน อะไรควรดื่มก็ดื่ม ยิ่งเธอใส่ใจคำพูดของสวี่ฮุ่ยมากเท่าไหร่ สวี่ฮุ่ยจะยิ่งได้ใจมากเท่านั้น!”
สวี่เยว่ตอบรับอย่างว่าง่าย แล้วกินหมูแดง
ทั้งครอบครัวกินข้าวกันเอร็ดอร่อย จู่ ๆ เพื่อนบ้านสองคนก็วิ่งพรวดพราดเข้ามา เมื่อเห็นครอบครัวสวี่สี่คนกำลังกินหมูแดงอยู่ ร่องรอยดูถูกเหยียดหยามในแววตาก็แทบกลั่นออกมาเป็สสาร
“ผู้จัดการสวี่ ลูกสาวคนโตของนายะโน้ำฆ่าตัวตายแล้ว พวกนายยังกินลงอีกเหรอ!”
กู่ซิ่วกับสวี่เยว่ใกับข่าวที่ไม่คาดฝันจนควบคุมสีหน้าตัวเองไม่อยู่ เผลอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
เด็กเวรนั่นฆ่าตัวตายแล้วเหรอ? นี่มันข่าวดีชัด ๆ!
ตะเกียบในมือสวี่ต้าซานหล่นลงบนโต๊ะอาหารดังเคร้ง ถามหน้าซีดเผือดว่า “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? ฉันจะไปหาเธอ!”
เพื่อนบ้านสองคนที่แจ้งข่าวเห็นแบบนั้นก็รู้สึกสงสารเล็กน้อย บอกว่า “นายใจเย็น ๆ มีคนลงไปช่วยขึ้นมาแล้ว ตอนนี้อยู่ที่สถานีอนามัยตำบล รีบไปรับเธอกลับมาแล้วปลอบใจเธอดี ๆ เถอะ”
ดวงตาของกู่ซิ่วกับลูกสาวเต็มไปด้วยความผิดหวัง
แม้มันจะเป็เพียงแวบเดียว แต่เพื่อนบ้านสองคนก็ยังเห็น
สวี่ต้าซานรีบวิ่งโซซัดโซเซออกไป
สวี่รั่วเฉินก็วางตะเกียบลง “พ่อ ผมไปด้วย!”
กู่ซิ่วต้องแสร้งทำดีต่อหน้าเพื่อนบ้าน พูดว่า “ฉันก็จะไปรับฮุ่ยฮุ่ยด้วย!”
เพื่อนบ้านคนหนึ่งทนไม่ไหว มองเธอด้วยหางตา “พอแล้ว มีผู้จัดการสวี่กับลูกชายไปกันสองคนก็พอแล้ว เธอไม่ต้องไปหรอก อยู่บ้านดูแลเยว่เยว่ดีกว่า เธอก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมานี่”
ถึงแม้กู่ซิ่วกับลูกสาวจะเห็นท่าทีของเพื่อนบ้านที่มีต่อพวกเขา แต่ก็ต้องแสร้งทำต่อไป
เพื่อนบ้านคนหนึ่งพูดว่า “ถ้าฉันไม่ไปรับฮุ่ยฮุ่ย ฉันคงไม่สบายใจ”
อีกคนก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่เป็ไรหรอกค่ะ ขอแค่พี่สาวปลอดภัยก็พอ”
หลังพูดจบ สองแม่ลูกก็ล็อกประตูแล้วรีบไปที่สถานีอนามัยทันที
พวกเขาเพิ่งจะออกไป เพื่อนบ้านสองคนที่แจ้งข่าวก็เล่าเื่ที่ครอบครัวผู้จัดการสวี่นั่งกินหมูแดงให้เพื่อนบ้านคนอื่นฟังอย่างละเอียดยิบ
ทั้งยังเล่าอีกว่า ตอนที่กู่ซิ่วกับลูกสาวได้ยินว่าสวี่ฮุ่ยฆ่าตัวตาย พวกเธอยิ้มด้วยความดีใจ พอรู้ว่าไม่ตายก็ทำหน้าเหมือนแม่ตาย สีหน้าดูแย่มาก
ทุกคนต่างพูดว่า ดอกบัวขาวตัวเป้งอย่างกู่ซิ่วเลี้ยงสวี่เยว่ให้เป็ดอกบัวขาวตัวน้อย
แต่ก่อนพวกเธอแสร้งทำดีต่อหน้าพวกเขามาตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ลูกคู่นี้จะแย่งเงินและคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของสวี่ฮุ่ย ใครจะไปรู้ว่าพวกเธอใจคอโเี้ขนาดนี้!
กู่ซิ่วกับลูกสาวไม่ได้รู้เลยว่าชื่อเสียงของพวกเธอในบ้านพักพนักงานแย่ลงไปอีกระดับแล้ว
ตอนที่สองแม่ลูกตามสวี่ต้าซานกับลูกชายไปถึงสถานีอนามัย พวกเธอก็เห็นสวี่ฮุ่ยนั่งตัวเปียกโชกอยู่บนเก้าอี้ กำลังประคองแก้วน้ำร้อนขึ้นดื่ม
กู่ซิ่วจำได้ทันทีว่าตำรวจร่างสูงสง่างามราวเทพเซียนที่ยืนตัวเปียกโชกเหมือนกันอยู่ข้าง ๆ สวี่ฮุ่ยคือตำรวจที่เคยจับเธอทุ่มที่สถานีตำรวจอำเภอ
เธอหยุดเดินโดยไม่รู้ตัว และไม่กล้าเข้าไปใกล้
แม้ว่าสวี่เยว่จะเคยเจอลู่ฉี่เสียน แต่ตอนนั้นลู่ฉี่เสียนสวมหน้ากากคลุมหน้า เธอจึงไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของเขา
เมื่อเห็นลู่ฉี่เสียนมีหน้าตาที่หล่อกว่าลู่ฉี่โหย่วที่เพิ่งมาบ้านเธอเมื่อเช้า ใจก็พลันสั่นระรัว หุบขาแทบไม่อยู่
สวี่ฮุ่ยปรายตามองสวี่เยว่อย่างเ็า อ้าขากว้างขนาดนี้ อยากผสมพันธุ์ตรงนี้เลยหรือไง? น่าขยะแขยงสิ้นดี!
[1] คนตายเพราะเงิน นกตายเพราะอาหาร หมายถึง ความโลภนำพามนุษย์ไปสู่หายนะ