ร่างกายของพญาอสรพิษลายดำยาวถึงหกเจ็ดสิบเมตรเืสดในร่างไม่รู้มีมากเท่าไรเสวียนเทียนดื่มเข้าไปครึ่งชั่วยาม เกรงว่าเพิ่งจะดื่มไปได้หนึ่งในสิบเท่านั้นแต่ร่างเนื้อของเสวียนเทียนแข็งแกร่งขึ้นมาจนสุดขีดขั้นพลังวัตรแล้วไม่อาจดื่มต่อได้อีก
เสวียนเทียนมองไปที่ศพของพญาอสรพิษลายดำเกล็ดงูนี้ก็เป็ของล้ำค่า ถ้าหากใช้เกล็ดงูมาทำเสื้อผ้าอาวุธต่ำกว่าอาวุธวิเศษชั้นนิลล้วนทะลุผ่านการป้องกันไม่ได้
หากช่างหลอมศาสตราได้เกล็ดงูไปอาจถึงขั้นหลอมเครื่องป้องกันวิเศษชั้นนิลออกมาได้เกรงว่าแม้กระทั่งศาสตราวิเศษสายโจมตีชั้นนิลก็คงยากทะลุการป้องกันมาได้
หากพญาอสรพิษลายดำยังมีชีวิตอยู่ต่อให้เสวียนเทียนใช้กระบี่หิมะเหมันต์ฟันก็คงยากจะฟันทะลุเกล็ดงูได้แต่พญาอสรพิษลายดำตายแล้ว ไม่มี ‘ปราณแท้’ คอยเสริมอีกการป้องกันของเกล็ดงูจึงอ่อนลงมามาก เสวียนเทียนใช้กระบี่หิมะเหมันต์ ออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถเลาะเกล็ดงูของพญาอสรพิษลายดำออกมาได้
หลังใช้เรี่ยวแรงมากมาย ผ่านไปครึ่งชั่วยาม เสวียนเทียนก็เลาะเกล็ดงูมาได้ประมาณสิบเกล็ดเรียงซ้อนกันอยู่ เกล็ดไม่ใช่เล็กๆ เลาะมากกว่านี้ก็ไม่สามารถแบกไปได้ได้แต่ทิ้งแล้ว
เสวียนเทียนแบกเกล็ดงูที่เลาะออกมามุ่งไปตามทิศทางที่ลายแทงสมบัติบอก ไปยังสถานที่เก็บซ่อนสมบัติ
เดินไปได้ราวสี่สิบกว่าลี้เสวียนเทียนก็มาถึงยอดเขาที่ลายแทงสมบัติชี้บอกไว้ด้านหน้ามีม่านน้ำตกทอดตัวลงมาจาก่กลางูเาด้านล่างน้ำตกมีบึงน้ำ รอบบึงกว้างราวสามสี่สิบเมตรอยู่ ด้านตะวันออกของบึงน้ำมีแม่น้ำสายน้อยกว้างหกเจ็ดเมตรอยู่สายหนึ่ง
ดูสถานที่ที่ลายแทงสมบัติชี้บอกทางเข้าคงอยู่ในบึงน้ำใต้น้ำตกแห่งนี้
เสวียนเทียนยืนอยู่ข้างบึงน้ำมองอยู่พักหนึ่งก็หันสายตาขึ้นมามองน้ำตก พูดให้ชัดคือข้างหลังน้ำตกเพียงแต่ว่า สายตาของเสวียนเทียนมองทะลุไม่ได้ จึงมองไม่เห็นภาพเื้ัม่านน้ำตก
เมื่อมองจากตีนเขา เหมือนว่าเื้ัน้ำตกล้วนเป็ก้อนหินแต่เสวียนเทียนที่เป็หนึ่งในบรรดาผู้ข้ามภพทั้งหลาย ชาติก่อนอ่านนิยายมาไม่น้อยรู้ว่าเื้ัน้ำตกมักจะเป็ถ้ำูเาเป็ที่ซึ่งง่ายจะซ่อนสมบัติอีกที่หนึ่งนอกจากใต้หน้าผา
น้ำตกทอดไหลมาจาก่กลางูเาสูงราวสี่ร้อยเมตรร่างของเสวียนเทียนะโโดยใช้ก้าวย่างัพยัคฆ์ร่างลอยข้ามบึงน้ำ กระโจนตรงไปถึงด้านหลังของม่านน้ำตก
แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เสวียนเทียนผิดหวังก็คือ ด้านหลังน้ำตกกลับไม่มีถ้ำ มีแต่ก้อนหินเท่านั้น
ทำอะไรไม่ได้ เสวียนเทียนก็ะโลงมา ะโลงบึงไปกับน้ำตก ในเมื่อหลังม่านน้ำตกไม่มีทางเข้าถ้าอย่างนั้นทางเข้าที่ซ่อนสมบัติก็ต้องอยู่ในบึงแล้ว
เสวียนเทียนคิดในใจ ข้าคงมีวาสนากับบึงน้ำกระมัง? ในบึงซ่อนกระบี่ข้าก็ประสบโชคลาภประเสริฐ ที่หว่างคิ้วได้กระบี่หยกขาวเล่มน้อยมา ครั้งนี้ตามหาสมบัติก็เริ่มต้นจากบึงน้ำเหมือนกัน?
เสวียนเทียนเพิ่งคิดจบทันใดนั้นเงาร่างสีเขียวสายหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาจากทางด้านข้างเป็งูใหญ่สีเขียวตัวหนึ่ง สัตว์อสูรขั้นสามชั้นล่าง...งูั์ธารมรกต
ในน้ำงูั์ธารมรกตรวดเร็วมากส่วนเสวียนเทียนนั้นเพราะว่ามีน้ำเป็อุปสรรค ความเร็วลดลงอย่างมากหางของงูั์ธารมรกตฟาดเข้ามา เสวียนเทียนเบี่ยงตัวหลบแต่หางของงูั์ธารมรกตกลับฟาดถูกกระบี่ที่สะพายอยู่บนหลังของเสวียนเทียน กระบี่หิมะเหมันต์ถูกฟาดกระเด็นออกไปด้านข้าง
ไม่มีกระบี่หิมะเหมันต์ เสวียนเทียนก็กลายเป็มือกระบี่ที่ไร้กระบี่
ความเร็วของงูั์ธารมรกตรวดเร็วนักร่างกายยาวถึงราวสามสิบเมตร โอบรัดเสวียนเทียนไว้แน่น
“แม่เ้าพ่อไม่ได้แค่มีวาสนากับบึงน้ำ ยังมีวาสนากับงูด้วย ฮึ่ม!”
เจอสัตว์อสูรจำพวกงูติดกันสองตัวในใจเสวียนเทียนอดไม่ได้ผรุสวาทขึ้นมายกใหญ่
จุดแข็งข้อใหญ่ข้อหนึ่งของงูก็คือการพันรัดเหยื่อเหยื่อที่ถูกรัดไว้ส่วนใหญ่ตายเก้ารอดหนึ่ง
งูั์ธารมรกตรัดร่างของเสวียนเทียนไว้แน่นปากอ้ากว้าง ปากงูอ้าออกกว้างยิ่งกว่าศีรษะของเสวียนเทียนงับลงมาทางศีรษะของเสวียนเทียน
“เสือไม่อวดฤทธิ์ก็มองข้าเป็แมวป่วย สัตว์อสูรขั้นสามชั้นล่างตัวหนึ่งยังกล้าโจมตีข้า”
เสวียนเทียนในวันนี้ไม่เหมือนก่อนหน้าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว พละกำลังมหาศาล ต่อให้ในมือไม่มีกระบี่ร่างกายของเสวียนเทียนก็เป็อาวุธอันน่าสะพรึง
เสวียนเทียนใช้เพียงหมัดเดียวชกไปที่หัวของงูั์ธารมรกตถึงมีน้ำเป็อุปสรรคก็ไม่อาจขัดขวางพลังของเสวียนเทียนที่ะเิออกมาได้หนึ่งหมัดต่อยงูั์ธารมรกตจนมึนงงไม่รู้เหนือใต้
มืออีกข้างหนึ่งของเสวียนเทียนคว้าออกไปข้างหน้าบีบจุดเจ็ดนิ้วของงูั์ธารมรกตไว้ ออกแรงขยุ้ม บีบจนงูั์ธารมรกตอ้าปากกว้างทั้งร่างไม่มีแรง ร่างที่รัดเสวียนเทียนไว้พลันคลายออก
เสวียนเทียนต่อยหมัดเข้าไปที่หัวของงูั์ธารมรกตต่อเนื่องอีกหลายหมัดหลังจากนั้นก็บิด หักคอของงูั์ธารมรกต ร่างกายของงูั์ธารมรกตยังคงบิดดิ้นแต่ร่างกายกลับจมดิ่งลงไปยังก้นบึง ตายเสียแล้ว
เสวียนเทียนทิ้งงูั์ธารมรกตไว้เก็บกระบี่หิมะเหมันต์กลับมา ค้นหาบริเวณก้นบึง
แปลก ก้นบึงก็ไม่มีทางเข้าแต่อย่างใดปกติทุกอย่าง
ด้วยพลังวัตรของเสวียนเทียนกลั้นลมหายใจสิบกว่านาทีไม่ใช่เื่ยาก หลังค้นหาใต้ก้นบึงรอบหนึ่งตรงขอบบึงที่ติดกับยอดเขาส่วนที่เชื่อมต่อกับหินที่เป็ตัวูเาเสวียนเทียนพบความผิดปกติบางอย่างบนกำแพงหินเรียบลื่นแผ่นหนึ่ง
กำแพงหินแผ่นนี้มีก้อนหินหน้าตาคล้ายซาลาเปาอยู่ห้าก้อน วางไว้อย่างไม่เป็ระเบียบ
เสวียนเทียนพลันนึกขึ้นมาได้
หลังน้ำตก บนก้อนหินจุดหนึ่งที่สูงราวร้อยเมตรเสวียนเทียนพบช่องรางห้าสาย ตอนนั้นเขาคิดว่าพบกลไกเปิดปิดแล้วแต่ช่องรางเ่าั้ขยับไม่ได้สักนิด ราวกับว่าเป็สิ่งที่มีอยู่โดยธรรมชาติดังนั้นเสวียนเทียนจึงไม่คิดอะไรมากกว่านั้น ตอนนี้ดูแล้ว บางทีอาจจะมีความสัมพันธ์บางอย่าง
เสวียนเทียนขยับก้อนหินทั้งห้าบนกำแพงหิน จัดให้เหมือนกันทุกอย่างกับช่องรางทั้งห้าบนก้อนหินหลังน้ำตก
หลังจากนั้นเสวียนเทียนก็ทะยานขึ้นฟ้าฉับพลันที่ขึ้นจากบึงน้ำมายังเื้ัน้ำตก ใช้ ‘ก้าวเท้าัพยัคฆ์’ มายังจุดที่สูงร้อยเมตร
เสวียนเทียนคิดไว้ไม่ผิดก้อนหินทั้งห้าก้อนนั้นเกี่ยวข้องกับช่องรางทั้งห้า้าจริงๆตอนนี้ก้อนหินที่มีช่องรางทั้งห้าอยู่ขยับเคลื่อนไปด้านข้างเผยให้เห็นปากถ้ำมืดสนิทแห่งหนึ่ง
มาถึงปากทางเข้าสถานที่ซ่อนสมบัติแล้วย่อมไม่มีเหตุผลที่จะไม่เข้าไป
ครืน!
เสวียนเทียนเพิ่งเดินเข้ามาในถ้ำก็มีเสียงดังขึ้นปากถ้ำปิดไปแล้ว
ทั้งถ้ำมืดสนิท ยกมือขึ้นมาก็ไม่เห็นนิ้วทั้งห้าผ่านไปครู่หนึ่งเสวียนเทียนถึงค่อยๆ คุ้นกับความมืดขึ้นมามองเห็นสภาพรอบด้านเลือนราง
เขาตรวจดูตรงทางเข้าอย่างละเอียดครั้งหนึ่งก็ไม่พบสิ่งใดที่คล้ายกลไกเปิดปากถ้ำ ไม่อาจออกไปผ่านทางเข้าได้
“ในเมื่อมีลายแทงสมบัติแผ่นนี้ทิ้งไว้ได้ย่อมไม่ได้มีแต่ทางตัน ในเมื่อไม่อาจออกไปจากตรงนี้ได้ เช่นนั้นย่อมต้องมีทางออกทางอื่น เข้าไปสำรวจข้างในก่อนค่อยว่ากัน”
เสวียนเทียนเพิ่มความระวัง เดินหน้าเข้าไปในถ้ำูเาที่มืดทึมมองไม่ชัด
ตลอดทาง ไม่พบอันตรายอะไร
ยิ่งเดินไปข้างหน้า ถ้ำยิ่งกว้างขึ้นเส้นแสงยิ่งสว่างขึ้น เสวียนเทียนยังััได้ถึงกระแสลมสายหนึ่ง ดูแล้ว มีทางออกทางอื่นอยู่แน่นอน
เมื่อแสงมากพอ การมองเห็นของเสวียนเทียนแจ่มชัดความเร็วในการเดินก็เร็วขึ้นไม่น้อย เมื่อเดินไปข้างหน้าราวห้าร้อยเมตรด้านหน้าก็มีประตูหินบานหนึ่งขวางทางไปต่อไว้ด้านข้างประตูหินมีกระบี่ั์เล่มหนึ่ง ข้างบนสนิมเกาะเป็ริ้วๆ ถึงครึ่งเล่มปักอยู่ในหินูเาบนพื้น
ข้างกำแพงมีถ้อยคำเขียนไว้ “กระบี่ขุนเขาหนัก หนักหนึ่งร้อยยี่สิบแปดชั่ง ลูกหลานรุ่นหลังเอ๋ย ดึงกระบี่ขุนเขาหนักออกมาได้ประตูหินก็จะเปิดเอง เ้าจะได้มรดกของข้า ผู้เฒ่าต้วนปิงช่างหลอมศาสตราชั้นปฐี”
ช่างหลอมศาสตราชั้นปฐี!
เสวียนเทียนเห็นห้าคำนี้ ถึงกับตาลุกวาว
ช่างหลอมศาสตรานี่เป็อาชีพที่มีน้อยนิดที่สุดบนแผ่นดินเสินโจวเทียบกับนักหลอมยาแล้วยังมีน้อยกว่า แม้ว่านักหลอมยาจะมีน้อยมากนักหลอมยาชั้นนภาตามคำเล่าลือมีอยู่ที่สำนัก ‘หอดารา์’ เพียงคนเดียวเท่านั้นแต่เสวียนเทียนรู้มาว่า บนแผ่นดินเสินโจวยังมีนักหลอมยาชั้นปฐีอยู่บ้าง
แต่ช่างหลอมศาสตราชั้นปฐีกลับราวกับขนหงส์เกล็ดกิเลนยกนิ้วขึ้นมานับได้ส่วนช่างหลอมศาสตราชั้นนภาการสืบทอดขาดสายไปั้แ่เมื่อหลายพันปีก่อนแล้ว
ช่างหลอมศาสตราสามารถหลอมอาวุธวิเศษได้มีอำนาจน่าตื่นตะลึง
ช่างหลอมศาสตราชั้นนิลสามารถหลอมศาสตราวิเศษชั้นนิลได้ชั้นปฐีคู่ชั้นปฐี ชั้นนภาก็คู่ชั้นนภา
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาระดับพลังวัตรเท่ากันในมือมีศาสตราวิเศษสายโจมตีชั้นนิลชิ้นหนึ่งก็สังหารผู้ฝึกยุทธ์อีกคนที่ในมือมีแค่อาวุธธรรมดาได้ง่ายๆ หากศาสตราวิเศษร้ายกาจพอก็สามารถทำได้กระทั่งสังหารผู้ฝึกยุทธ์ข้ามระดับชั้น
เห็นชัดว่าศาสตราวิเศษมีประโยชน์ต่อผู้ฝึกยุทธ์
ผู้ฝึกยุทธ์บนแผ่นดินเสินโจวมีจำนวนมากมายแต่ช่างหลอมศาสตรามีจำนวนน้อยนิด ศาสตราวิเศษที่หลอมออกมา ไม่พอกับความ้าดังนั้นราคาของศาสตราวิเศษจึงค่อนข้างสูง
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาที่ในมือมีศาสตราวิเศษชั้นนิลไม่ถึงครึ่ง
ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นปฐีที่ในมือมีศาสตราวิเศษชั้นปฐีสี่ในสิบส่วนก็ยังไม่ถึง
ช่างหลอมศาสตราชั้นปฐีผู้หนึ่งกลุ่มอำนาจชั้นสูงขั้นหนึ่ง ขั้นสอง ขั้นสาม ล้วนแต่แย่งกัน้าตัว
“ในถ้ำบนูเานี้กลับมีมรดกของช่างหลอมศาสตราชั้นปฐีคนหนึ่งอยู่ข้าได้ลายแทงสมบัติสามชิ้นนี้มา เป็ลาภมหาศาลยิ่งแล้ว”
เสวียนเทียนดีใจมากขอบคุณศิษย์พี่สำนักกระบี่์ผู้นั้นหัวหน้าใหญ่พรรคฝูเวยรวมไปถึงผู้นำตระกูลหนิวอย่างหนิวเจิ้นซานอยู่หลายรอบ
กระบี่ขุนเขาหนักน้ำหนักหนึ่งร้อยยี่สิบแปดชั่งทั้งยังเสียบอยู่ในก้อนหิน จะดึงออกมายากกว่าเดิมเกินสิบเท่าไม่มีพละกำลังถึงพันชั่งขึ้นไป อย่าได้หวังจะดึงกระบี่ขุนเขาหนักออกมาได้
สำหรับเสวียนเทียนก่อนหน้านี้ถ้าจะให้ดึงกระบี่ขุนเขาหนักออกมายังลำบากอยู่บ้างแต่ว่าหลังจากเสวียนเทียนกินดีงู เืงูของพญาอสรพิษลายดำเข้าไปร่างกายแข็งแกร่งขึ้น พละกำลังเพิ่มพูขึ้นหลายเท่า น้ำหนักพันชั่งมือเดียวก็ยกขึ้นมาได้
มือขวาของเสวียนเทียนจับด้ามกระบี่ขุนเขาหนักดึงขึ้นมาข้างบน กระบี่ขุนเขาหนักเพียงขยับไหวน้อยๆ ไม่ได้ถูกดึงออกมา
แรงที่เสวียนเทียนใช้ดึงเมื่อครู่อย่างน้อยก็เกินกว่าพันชั่ง ดูแล้วการดึงกระบี่ขุนเขาหนัก แรงพันชั่งยังไม่พอเกรงว่าคงต้องใช้แรงราวสองพันชั่งถึงจะได้
อยากได้มรดกของช่างหลอมศาสตราชั้นปฐีไม่ใช่เื่ง่ายดายจริงๆ พละกำลังสองพันชั่งถึงแม้จะเป็ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่ง ขั้นสองเข้ามาในนี้เกรงว่าก็ไม่อาจยกกระบี่ขุนเขาหนักขึ้นมาได้
ทางเข้าปิดตาย ไร้ทางออกข้างหน้าถูกประตูหินกั้นขวาง ถ้าไม่ดึงกระบี่ขุนเขาหนักขึ้นมาแล้วเข้าไปข้างในนี้ก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว
เสวียนเทียนสูดลมหายใจลึก ย่อตัวลงยังคงใช้มือเดียวเช่นเดิมจับด้านกระบี่ไว้ คำรามเสียงดัง ดึงขึ้นอย่างแรง
ครืน!
กระบี่ขุนเขาหนักถูกดึงขึ้นมาประตูหินส่งเสียงดังสนั่น ขยับเปิดออกไปด้านข้าง ทางเดินเปิดกว้างออก
เสวียนเทียนมองประตูหินทีหนึ่ง หนาสองเมตรได้ถ้าดึงกระบี่ขุนเขาหนักไม่ขึ้น เกรงว่าผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นห้าขั้นหกก็คงจนปัญญากับประตูหินบานนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้