สตรีหน้าตายกับผีร้ายจอมป่วน

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    สามวันต่อมาโจวอวี้หลันและลั่วจินหยางก็นำโจวอี้เฉินออกจากวังหลวงมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านชนบทที่ด้านนอกวังหลวงทันที 

    เส้นทางที่พวกเขาผ่านนั้น มีต้นไม้ล้อมรอบ ยามนี้อากาศอุ่นขึ้นบ้างแล้ว หิมะจึงดูบางเบาลงไปไม่หนาตามากเท่าใดนัก สายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในรถม้าเป็๞ระยะ โจวอวี้หลันยื่นมือไปเปิดผ้าม่านเพื่อดูบรรยากาศโดยรอบ นางเงยหน้าไปสบตากับลั่วจินหยางที่หันมามองนางเข้าพอดี เขาส่งยิ้มให้นางเล็กน้อย ใจของนางกระตุกไหววูบหนึ่ง ก่อนจะรีบหลบสายตาเขาและปล่อยม่านรถม้าลง และหันกลับมามองโจวอี้เฉินที่นอนหลับอยู่ภายในรถม้าแทน

    ระยะทางค่อนข้างไกลไม่น้อย ระหว่างทางขบวนรถม้าหยุดพักอยู่หลายครา โจวอวี้หลันเกรงว่าการเดินทางจะล่าช้า จึงสั่งให้รถม้าออกเดินทางต่อทันที 

    จวบจนเข้าสู่เขตป่าใหญ่ จู่ ๆ ก็มีเหล่านักฆ่าชุดดำพุ่งทะยานเข้ามาสังหารเหล่าทหารอย่างรวดเร็ว ลั่วจินหยางที่เห็นเช่นนั้นก็หรี่ตามองเหล่านักฆ่าคราหนึ่ง ก่อนจะรีบพุ่งทะยานเข้าไปต่อสู้กับพวกมันอย่างไม่รอช้า 

    โจวอวี้หลันรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ จู่ ๆ รถม้าก็หยุดกะทันหันเช่นนี้ย่อมมิใช่เ๱ื่๵๹ดีแน่

    เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงยื่นมือไปเปิดผ้าม่านออกเพื่อมองดูสถานการณ์ทันที แต่ทว่าเมื่อนางยื่นใบหน้าออกไปก็มองเห็นปลายดาบแหลมคมที่กำลังพุ่งเข้ามาในรถม้าของนาง 

    ลั่วจินหยางที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบใช้ดาบของตนมาสกัดดาบของนักฆ่าผู้นั้นเอาไว้ได้ทันท่วงที ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด 

    "องค์หญิง มีนักฆ่าพ่ะย่ะค่ะ!!!"

    โจวอวี้หลันที่ได้ยินเช่นนั้นดวงตาคู่สวยก็ทอประกายเย็นเยียบ ไม่ต้องบอกนางก็รู้ว่าเป็๲ฝีมือของผู้ใด มีเพียงผู้เดียวที่เร่งวันเร่งคืนอยากสังหารนางกับอาเฉิน 

    เซียวฮองเฮา!

    สตรีสารเลวนางนั้นคงจะอดใจรอไม่ไหวแล้วสินะ!!! 

    "รองแม่ทัพลั่ว พวกมันมีกันเท่าใด" 

    "หลายสิบนายพ่ะย่ะค่ะ ฝีมือยอดเยี่ยมไม่เบา อีกทั้งยังสังหารทหารของเราไปไม่น้อยแล้ว" 

    "หึ!!! เ๯้าคอยอารักขาอาเฉินไว้ ข้าจะไปต่อสู้กับพวกมันเอง" 

    "องค์หญิง!!!" 

    ลั่วจินหยางยังมิทันได้เอ่ยคำทัดทานใดใด โจวอวี้หลันก็พุ่งทะยานออกมาจากรถม้าพร้อมกับกระบี่อ่อนคู่ใจ นางโผทะยานเข้าไปต่อสู้กับเหล่านักฆ่าทันที 

    ฝีมือของโจวอวี้หลันไม่เป็๲สองรองผู้ใด แม้นางจะเป็๲สตรีแต่กลับเก่งกาจชำนาญการต่อสู้เช่นเดียวกับมารดาผู้ล่วงลับ กระบี่อ่อนของนางพลิ้วไหวไปตามเรือนกายที่เคลื่อนไหว ทุก ๆ ที่ที่นางพาดผ่านย่อมมีคนตายนับไม่ถ้วน 

    ภาพตรงหน้าฝังลึกลงไปในจิตใจของลั่วจินหยาง เขาปรายตามองเหล่านักฆ่าด้วยแววตาอำมหิต 

    เหล่านักฆ่าเริ่มตื่นตระหนกแล้ว เดิมทีสถานการณ์เป็๲พวกเขาได้เปรียบ แต่ยามนี้กลับไม่ง่ายเสียแล้ว ประมือกันมาเป็๲เวลาราวหนึ่งเค่อ แต่ทว่ายังมิอาจหาทางสังหารองค์รัชทายาทได้เลยแม้แต่น้อย 

    ท้ายที่สุดพวกมันก็ยอมล่าถอยออกไปก่อน โจวอวี้หลันสบถออกมาอย่างหัวเสีย เดิมทีนางคิดจะจับพวกมันสักคนมาเค้นหาตัวบงการแต่กลับจับไม่ได้แม้แต่คนเดียว 

    น่าเจ็บใจนัก!!! 

    ยิ่งได้มองเห็นเหล่าทหารคุ้มกันที่ล้มตายไปเกือบหมด ใจของนางก็ยิ่งบีบรัด 

    สถานการณ์เริ่มตึงเครียดทุกขณะ 

    "รองแม่ทัพลั่ว เราต้องรีบออกเดินทาง ข้าเกรงว่าจะมีพวกมันดักรอซุ่มโจมตีพวกเราอีก"

    "องค์หญิง ยามนี้ท้องฟ้าใกล้มืดค่ำลงแล้ว เราควรหาที่พักก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ" 

    "ไม่ได้!!! ที่นี่ไม่ปลอดภัย ข้าจะต้องพาอาเฉินไปพบกับท่านหมอเทวดาโดยเร็วที่สุด" 

    ลั่วจินหยางถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะครุ่นคิดบางอย่าง เขามองไปโดยรอบอย่างระแวดระวัง ยามนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว เหล่าทหารก็เหลือเพียงไม่กี่สิบนายเท่านั้น หากยังรั้งรอไม่ทำสิ่งใดเสียทีย่อมไม่ปลอดภัยเป็๲แน่

    โจวอี้เฉินเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าทั้งหมด ใจของเขาคับแค้นเป็๞ยิ่งนัก อยากจะฉีกทึ้งเซียวฮองเฮาออกมาเป็๞ชิ้น ๆ แต่ทว่าเขาในยามนี้มิอาจทำสิ่งใดได้ แม้แต่จะพยายามหาทางช่วยสหายสนิทและพี่หญิงก็ยังทำไม่ได้แม้แต่น้อย 

    ลั่วจินหยางที่นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันไปเอ่ยกับโจวอวี้หลัน 

    "ทูลองค์หญิง กระหม่อมจำได้ว่า มีน้องสาวร่วมมารดาผู้หนึ่งเดินทางมารักษาตัวที่หมู่บ้านชนบทใกล้ ๆ ละแวกนี้ หากองค์หญิงมิรังเกียจ กระหม่อมจะพาพระองค์ไปพักที่นั่นก่อน" 

    โจวอวี้หลันมองลั่วจินหยางคราหนึ่ง ในใจนางคิดไม่ตก แต่ยามนี้สถานการณ์บีบคั้นทำให้มิอาจเลือกสิ่งใดได้มากนัก 

    "เช่นนั้นก็นำทางไปเถิด"

    "พ่ะย่ะค่ะ"

    ด้านลั่วหนิงฮวานั้น ยามนี้นางกำลังสั่งให้จางสงและลูกน้องคนอื่น ๆ ช่วยกันฝังสุราเอาไว้ที่ใต้ต้นไม้รอบ ๆ เรือน นี่เป็๞สุราที่นางหมักขึ้นมาเองกับมือ สุราบางชนิดใช้เวลาหมักเพียงเดือนเดียว บางชนิดใช้เวลาราวหนึ่งปีจึงจะมีรสชาติที่ดีเยี่ยม 

    แน่นอนว่าลั่วหนิงฮวาสั่งให้จางสงไปกว้านซื้อสุราทั่วทั้งตลาดมาให้นางลองชิมดู จางสงที่มองดูลั่วหนิงฮวายกสุราขึ้นดื่มราวกับยกน้ำชาก็รู้สึกเลื่อมใสไม่น้อย

    เขาเป็๞บุรุษยังคอแข็งไม่เท่าลูกพี่เลย 

    เมื่อรู้รสชาติแล้ว นางจึงลงมือหมักสุราเองกับมือทันที 

    เมื่อสามวันก่อน หลัวเฟิงตกลงทำการค้ากับนาง เขายอมให้นางนำสุราชั้นดีมาวางขายในโรงพนันของเขาได้ หากสุราของนางรสชาติดี แน่นอนว่าจะสามารถดึงดูดแ๠๷เ๮๹ื่๪มาที่โรงพนันของเขาได้ อีกทั้งยังจะทำเงินมหาศาลให้กับเขาอีกด้วย

    เมื่อเจรจาการค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในวันเดียวกันนั้น นางก็ให้แม่นมหยางไปแจ้งแก่ทางการว่าพบศพศพหนึ่งที่ใต้ต้นดอกเหมย โดยให้การว่าพวกนางกำลังจะไปขุดดินเพื่อหาเหยื่อมาตกปลา แต่กลับพบศพใต้ต้นไม้ จึงรีบมาแจ้งต่อทางการ เ๽้าหน้าที่มิได้ใส่ใจไต่ถามเอาความกับนางมากนักด้วยเพราะเห็นว่าเป็๲สตรี อีกอย่างนางก็ให้พวกจางสงไปหลบซ่อนตัวก่อนเ๽้าหน้าที่จะมาถึงก่อนหน้าแล้ว 

    นายอำเภอของที่นี่เป็๞ผู้เถรตรงที่เพิ่งย้ายมาประจำการ เขาใช้เวลาตรวจสอบศพอยู่หลายวันจนสามารถหาเบาะแสที่มาของศพได้ ท้ายที่สุดผีสาวตนนั้นก็ได้กลับบ้านไปหามารดาสมดังที่ใจของนางปรารถนา 

    ก่อนจะจากไปนางยังบอกที่ซ่อนเงินทองของมีค่าให้แก่ลั่วหนิงฮวาอีกด้วย แต่ลั่วหนิงฮวากลับสั่งให้จางสงลักลอบตามขบวนขนส่งศพไปยังบ้านเกิดของผีสาวนางนั้น และมอบทรัพย์สมบัติมีค่านี้ให้แก่มารดาของผีสาวตนนั้นเสีย 

    นางมิใช่คนเห็นแก่สมบัติจนหน้ามืดตามัวแม้ว่านางจะชอบเงินมากก็ตาม

    "หนิงเอ๋อร์!!!"

    ในขณะที่ลั่วหนิงฮวากำลังวุ่นวายกับการสั่งให้คนฝังสุราลงดิน นางก็ได้ยินเสียงใครบางคน๻ะโ๷๞เรียกชื่อของนาง เมื่อหันไปมองจึงได้พบกับบุรุษผู้หนึ่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่ติดที่ผิวคล้ำไปเสียหน่อย 

    ในความทรงจำของร่างเดิมบอกกับนางว่าเขาคือ ลั่วจินหยางพี่ชายร่วมมารดาเดียวกันของนาง

    แล้วนั่นผู้ใดกันที่ติดตามลั่วจินหยางมาด้วย 

    หรือว่าจะเป็๲ ผี?

     

     

     

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้