“เนี่ยเทียน! ข้าอยากให้เ้าตายไปซะ!”
เมื่อลำแสงของเส้นเืสดที่ลอยอยู่เต็มฟากฟ้าพุ่งเข้ามาหาเนี่ยเทียนอย่างบ้าคลั่ง ห่างออกไปไกลพลันมีเสียงกรีดร้องคำรามคลุ้มคลั่งของนางมารอวี๋ถงดังลอยมา
อวี๋ถงที่รู้ว่าตำแหน่งของตัวเองถูกเปิดเผยจึงไม่คิดอำพรางตนอีกต่อไป ใช้เสียงกรีดแหลมระบายความชิงชังลึกล้ำที่มีต่อเนี่ยเทียนออกมา
นางและพวกเนี่ยเทียน ตอนนี้อยู่ห่างกันแค่ไม่กี่ร้อยเมตร คลื่นเสียงแผดร้องของนางที่แฝงไว้ด้วยความเดือดดาลจึงดังะเืฟ้าะเืดิน
ทุกคนที่ไม่ได้ถูกเส้นเืโจมตีล้วนปวดเยื่อแก้วหู ราวกับถูกเสียงกรีดร้องอันดุดันของอวี๋ถงแทงทะลุ ต่างพากันหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ มองไปเนี่ยเทียนด้วยสายตาแปลกประหลาดถึงขีดสุด
“เ้าหมอนี่ไปล่วงเกินอะไรอวี๋ถงกันแน่ ถึงได้ทำให้นางมารนั่นยอมปล่อยทุกคนไป แต่ต้องฆ่าเขาให้ได้?” เจียงหลิงจูตะลึง
และเวลานี้เอง ผู้ประลองของอารามเสวียนอู้ที่ขอบเขตไม่ถึงหลอมลมปราณขั้นเก้าซึ่งได้รับอิทธิพลจากพันธนาการโลหิต พลันหลุดพ้นจากพันธนาการได้อย่างสมบูรณ์แบบ
กระแสเืในร่างกายของเจียงเหมียวก็กลับคืนมาเป็ปกติเช่นกัน
“แม่งเอ๊ย! นางผู้หญิงคนนี้เป็บ้าไปแล้ว!”
เนี่ยเทียนแอบด่าอยู่ในใจ มองเห็นเส้นเืจำนวนนับไม่ถ้วนที่บางครั้งตัดสลับ บางครั้งแยกกระจายออก พุ่งตรงมาที่เขาคนเดียว จนเขาทำได้เพียงหลบหลีกอย่างว่องไว
เส้นเืที่ลอยเต็มฟ้าคล้ายปลาฉลามที่มีกลิ่นเหม็นคาว ล่องลอยอยู่กลางอากาศ ตามติดประชิดเขาผู้เดียว
ผู้ประลองของสามสำนักเห็นเนี่ยเทียนเอาแต่หลบเลี่ยงอย่างต่อเนื่อง แถมเส้นเืแดงก่ำพวกนั้นยังกัดไม่ปล่อย ต่างก็พากันสติหลุด
ไม่นาน เจียงหลิงจูเป็คนแรกที่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาก่อน กล่าว “ทุกคนมัวยืนอึ้งอะไรกันอยู่? รีบช่วยเร็วเข้าสิ!”
เมื่อนางพูดอย่างนี้ ผู้ประลองทุกคนล้วนพุ่งเข้าหาเนี่ยเทียน พยายามช่วยเขาฟาดฟันเส้นเืเ่าั้
ทว่าเส้นเืที่อยู่กลางอากาศมีมากเกินไป อีกทั้งแต่ละเส้นยังเหนียวทนทานผิดปกติ ต่อให้พวกเขาใช้อาวุธวิเศษ คิดจะฟันเส้นเืนั่นให้ขาดสักเส้นก็ยังเป็เื่ที่เปลืองแรง
“อวี๋ถง เ้ากำลังทำอะไร?” อีกฝั่งหนึ่ง โม่ซีของสำนักภูตผีพลันพูดขึ้นด้วยสีหน้ามืดทะมึน
“ศิษย์พี่หญิง เ้าเป็อะไรไป? ข้า ข้าไม่เคยเห็นเ้าเกลียดใครขนาดนี้มาก่อนเลย!” ลูกศิษย์คนหนึ่งของสำนักโลหิตใช้สายตาราวกับเห็นผีจ้องอวี๋ถงที่กำลังร่ายเวทด้วยความประหลาดใจ “ไม่ใช่ว่าถูกเ้าพลังตาข่ายปฐีโจมตีกลับ ไม่ทันระวังเลยธาตุไฟแตกซ่านมารเข้าแทรกหรอกนะ? ใช้แสงโลหิตที่สร้างขึ้นมาทั้งหมดไปจัดการกับคนคนเดียว แบบนี้ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่หรือไม่?”
ลูกศิษย์คนอื่นๆ ของสำนักภูตผีและสำนักโลหิตมองอวี๋ถงที่ตอนนี้กำลังคลุ้มคลั่ง ต่างก็รู้สึกประหลาดใจ
พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเนี่ยเทียนคนเดียวที่ไม่มีชื่อเสียงเด่นดังอะไร แท้จริงแล้วเคยไปล่วงเกินตรงไหนของอวี๋ถงกันแน่ ถึงได้ทำให้อวี๋ถงที่แต่ไหนแต่ไรมาสุขุมเยือกเย็น กลายมาเป็ฉุนเฉียวบ้าคลั่งแบบนี้ได้
“เื่ของข้า! ไม่จำเป็ต้องรายงานพวกเ้า!” อวี๋ถงกัดฟัน แสงสีเืในดวงตาเปล่งประกายวาววับ
ระหว่างที่พูดนางยังเอายาโลหิตทรงพลังอีกสองเม็ดออกมาจากกำไลมิติเก็บของแล้วกลืนลงไป กระตุ้นพละกำลังทั้งหมดโดยไม่สนใจสิ่งใด
“เ้าบ้าไปแล้วจริงๆ!” โม่ซีแตกตื่นจนหน้าถอดสี
เขารู้แน่ชัดดีว่า ถึงแม้ยาโลหิตทรงพลังจะทำให้ปราณเืของลูกศิษย์สำนักโลหิตเพิ่มขึ้นพรวดพราดภายในระยะเวลาสั้นๆ ทว่ายาโลหิตทรงพลังนั้นส่งผลร้ายกับร่างกายมากเกินไป ทุกครั้งที่กลืนยาโลหิตทรงพลังลงไปหนึ่งเม็ด แท้จริงแล้วก็คือการทำร้ายร่างกายตัวเองหนึ่งครั้ง
เพื่อให้ตาข่ายปฐีก่อตัวได้สำเร็จ อวี๋ถงได้กลืนยาโลหิตทรงพลังลงไปแล้วถึงสามเม็ด ด้วยตบะท้าย์ของนาง ยาโลหิตทรงพลังสามเม็ดถือว่าเป็ขีดจำกัดสูงสุดแล้ว
เมื่อกลืนยาโลหิตทรงพลังลงไปอีกสองเม็ด อีกไม่นานเท่าไหร่นัก อวี๋ถงจะาเ็อย่างหนัก ไม่เหลือพลังในการสู้รบใดๆ อีก
แม้ว่ายาโลหิตทรงพลังจะทำให้ปราณเืของนาง รวมไปถึงพลังแฝงในร่างเพิ่มขึ้นสูงจนน่าใภายในชั่วระยะเวลาสั้นๆ ทว่าสิ่งตอบแทน... อาจทำให้นางต้องปิดด่านนานถึงครึ่งปี!
ถึงเวลานี้ โม่ซีเองก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว รู้แล้วว่าทั้งๆ ที่อวี๋ถงเองก็รู้ดีว่าจำนวนคนของอีกฝ่ายมีมาก ไม่เพียงแต่ไม่ยอมถอย ทั้งยังคิดกระตุ้นตาข่ายปฐีโดยไม่สนใจสิ่งใดนั้น นางไม่ได้แค่ทำเพื่อภารกิจการประลองของสำนักโลหิตเท่านั้นอย่างแน่นอน
เป้าหมายที่แท้จริงของนางก็คือสังหารคนผู้นั้นที่ชื่อว่าเนี่ยเทียน!
การประลองอะไร ภารกิจอะไร สำหรับนางล้วนไม่สำคัญอีกแล้ว นาง้าแค่ให้เนี่ยเทียนตาย!
“เนี่ยเทียน!” โม่ซีคำรามด้วยความเดือดดาล พลันพุ่งออกไปจากข้างกายอวี๋ถง “พวกเ้าอยู่ที่เดิมกันให้หมด ดูแลอวี๋ถงให้ดี!”
“สวบๆ! สวบๆ!”
เส้นเืแดงสดจำนวนนับไม่ถ้วนลอยฉิวผ่านความว่างเปล่า ดุจดั่งดาวตกสีแดงที่พากันพุ่งเข้าหาเนี่ยเทียน
ปราณเืน่าหวาดกลัวระลอกหนึ่งเติมเต็มพื้นที่ว่างบริเวณใกล้เคียงเนี่ยเทียน ทำให้ทุกครั้งที่เนี่ยเทียนหายใจล้วนมีความรู้สึกอยากอาเจียนออกมา
เวลาเดียวกันนั้น สนามแม่เหล็กคาวเืที่ไม่ต่างไปจากก่อนหน้านี้ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
“พันธนาการโลหิตอีกแล้วรึ?”
เนี่ยเทียนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ตระหนักได้ว่านางมารอวี๋ถงละทิ้ง “ตาข่ายปฐี” ที่จะพันธนาการเืของคนอื่นๆ มารวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อเล่นงานเขาคนเดียว
เห็นได้ชัดว่าอวี๋ถงไม่สนใจความเป็ความตายของคนอื่นอีกแล้ว นางแค่้าสังหารเขาก่อนที่จะได้ออกไปนอกโลกมายามรกตเท่านั้น
“เนี่ยเทียน! เ้าระวังหน่อย! ตาข่ายปฐีของนางมารนั่น เนื่องจากไม่ได้ก่อตัวอย่างสมบูรณ์ พันธนาการแห่งโลหิตจึงไม่สามารถส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคนได้ ทว่า หากนางใช้พันธนาการโลหิตมาร่ายเวทลงบนตัวเ้าคนเดียว นางยังสามารถทำได้” เจียงหลิงจูโบกสะบัดกระบี่เรียวยาวสีทองเข้มตวัดฟันเส้นเืเ่าั้ให้ขาดออกจากกัน พยายามเข้าไปใกล้เนี่ยเทียน
ทว่าเส้นเืสีแดงเ่าั้ที่โจมตีเนี่ยเทีนมีมากมายยิ่งนัก ต่อให้รวมพวกอันอิ่งเข้าไปด้วย เส้นเืที่พวกเขาตัดขาดไปได้ก็ยังไม่ถึงหนึ่งในสิบ
“อู้!”
เส้นเืแดงสดที่กระจายตัวออกจากกัน เข้ามาร้อยเรียงตัดสลับกันอีกครั้ง พลันกลายมาเป็ตาข่ายขนาดั์สีแดงสด
จุดตัดของเส้นเืพลันปลดปล่อยแสงสีเืเปล่งประกายระยิบระยับ ตอนที่ตาข่ายั์แดงสดคลุมลงมาบนร่างเนี่ยเทียน ในตาข่ายคล้ายจะมีอักขระสีแดงสดมากมายหลายตัวลอยขึ้นมา
“พันธนาการแห่งโลหิต!”
และเวลานี้เอง อวี๋ถงที่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรตวาดเสียงกร้าวแฝงไว้ด้วยความเคียดแค้น
หยุดชะงักอยู่กับที่ ขยับเขยื้อนไม่ได้
เนี่ยเทียนที่พยายามหลบหนีออกจากการปกคลุมของตาข่ายเืแดงสดนั้นพลันััได้ถึงความปกติของเืในร่างกาย พริบตานั้นร่างของเขาหยุดชะงักอยู่กับที่ ขยับเขยื้อนไม่ได้
ตาข่ายแดงสดนั่นได้โอกาสร่วงลงมาห่อหุ้มเนี่ยเทียนเอาไว้ทันที
เนี่ยเทียนที่ถูก “พันธนาการโลหิต” กักขังเอาไว้ มองเห็นคาตาว่าตาข่ายเืแดงสดนั้นร่วงลงมาคลุมร่างของเขาเอาไว้แ่า แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
วินาทีถัดมา ความรู้สึกเ็ปราวปอดและหัวใจถูกฉีกกระชากก็ส่งออกมาจากเืเนื้อทุกก้อนของเขา
เขาพลันค้นพบว่าตาข่ายั์แดงฉานที่คลุมตัวเขาเอาไว้นั้นกำลังบีบรัดเข้าหากันอย่างต่อเนื่องแล้วก่อตัวขึ้นเป็เส้นเืแดงสดมากมายหลายเส้น พลางฉวยโอกาสแทงทะลุเข้ามาในิัของเขาไปด้วย
ความรู้สึกเ็ปนั้นราวโดนลูกธนูหมื่นดอกแทงทะลุหัวใจ เขาสามารถััได้อย่างชัดเจนว่าเส้นเืเ่าั้ที่แทงเข้ามาในิัล้วนแทงลงไปที่หลอดเืของเขาโดยตรง
เืสดในร่างเขาถูกพลังดึงดูดระลอกแล้วระลอกเล่าชักนำให้หลอมรวมไปในเส้นเืเ่าั้อย่างบ้าคลั่ง
เส้นเืสีแดงสดมากมายคล้ายกลายร่างมาเป็ปลิงดูดเื เริ่มดูดเอาเืตลอดทั้งร่างของเขาไป เรือนกายที่แข็งแกร่งบึกบึนของเขาเริ่มผอมแห่งลงไปทีละนิด
---นั่นคือผลจากการสูญเสียเืไปในปริมาณมาก
“เนี่ยเทียน!” พันเทาะโกร้าว
พวกอันอิ่ง เจียงหลิงจูต่างพุ่งถลาเข้ามา พยายามจะช่วยเหลือเขา แต่กลับถูกเส้นเืจำนวนมหาศาลที่ล่องลอยอยู่นอกร่างเขาโจมตีเข้าใส่อย่างดุดัน
“เขาถูกตาข่ายปฐีของอวี๋ถงกุมขังแล้ว อวี๋ถงกำลังใช้เวทหลอมเืของสำนักโลหิตมาหลอมเืสดของเขา!”
เจิ้งปินแห่งอารามเสวียนอู้ หลังจากฟันเส้นเืขาดไปหลายเส้นก็พลันหยุดชะงักลง
เขาใช้สายตาสงสารมองเนี่ยเทียนอย่างลึกล้ำหนึ่งครั้ง แล้วอยู่ๆ ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสงบ “เขาตายแน่ ด้วยตบะและขอบเขตของพวกเรา ไม่สามารถขัดขวางการหลอมของเวทหลอมเืได้ จะมัวมาเสียเวลากับเขาก็สู้ไปหาตัวการของผู้ที่ร่ายเวท สังหารนางมารนั่นให้ได้ อย่าให้นางได้ทำร้ายคนอื่นอีก”
ไม่รอให้คนอื่นตอบรับ เจิ้งปินก็หันไปสั่งความผู้รอดชีวิตของอารามเสวียนอู้ กล่าวว่า “ตามข้ามา! ฉวยโอกาสตอนที่นางร่ายเวทหลอมเืสดบนร่างเนี่ยเทียน พวกเราไปฆ่านางมารคนนั้น ถือเป็การแก้แค้นให้เนี่ยเทียน!”
พูดจบเขาก็ทอดทิ้งเนี่ยเทียน พุ่งถลาออกไปทันที
ผู้ประลองของอารามเสวียนอู้ย่อมฟังคำสั่งจากเขา ได้ยินคำพูดเช่นนั้นจึงทำเพียงใช้สายตาเสียดายมองไกลๆ ไปยังเนี่ยเทียนหนึ่งครั้งแล้วก็ไล่ตามเขาไปทันที
“ช่วยเขา! เขาน่าจะยังมีชีวิตอยู่!” พันเทาตวาดเสียงดัง
น่าเสียดาย พวกคนของอารามเสวียนอู้ที่มีเจิ้งปินเป็ผู้นำกลับไม่ได้ให้ความสนใจเลยแม้แต่นิด
แม้แต่อันอิ่งเองก็ยังมองเนี่ยเทียนที่ค่อยๆ ซูบผอมลงด้วยสายตาลึกล้ำหนึ่งครั้งแล้วส่ายหน้า ถอนหายใจเสียงเบา “เจิ้งปินพูดถูก เนี่ยเทียน... ไม่รอดแล้ว พวกเราไม่ควรเอาพลังกายมาสูญเสียกับตัวของเนี่ยเทียนมากเกินไป นางมารอวี๋ถงต่างหากถึงจะเป็กุญแจสำคัญที่ตัดสินว่าพวกเราจะชนะหรือไม่”
พูดจบนางเองก็ไม่ฟันเส้นเืเ่าั้อีก แต่ไล่ตามอารามเสวียนอู้ไป
เธอและเจิ้งรุ่ยแห่งหอหลิงเป่าจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ผู้ที่ยังอยู่ข้างกายเนี่ยเทียน ช่วยเขาฟันเส้นเืแดงสดเ่าั้เพื่อพยายามช่วยชีวิตเขา มีเพียงเจียงหลิงจู เนี่ยเสียน เจียงเหมียว และพันเทาที่เหนื่อยกระหืดกระหอบแล้ว
-----