สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนั้นเปลี่ยนไปทันทีเพราะการลงมืออย่างกะทันหันของเสิ่นเสวียน
ทำให้ชัยชนะพลิกผันไปทางาามารทิศเหนือในทันที
เหลยป้าเทียนที่เดิมทีคิดว่าจะทำสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ในความเป็จริงเขาเฉิดฉายได้ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยามเลยด้วยซ้ำ กลับต้องมาทิ้งชีวิตไว้ที่นี่
เื่ราวของเหลยป้าเทียนได้บอกให้ทุกคนรู้ว่า ก่อนจะอวดเก่งต้องมีพลังปกป้องตนเองก่อน
ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็ตัวตลกไปทันที
“เยี่ยมมาก เ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังเลย”
เสียงนี้คุ้นเคยมาก มันดังขึ้นพร้อมกับพลังมิติที่รุนแรง เป็เสียงที่ทั้งห่างไกลและล้ำลึก
นี่คือเสียงของผู้สูงส่ง ให้ความรู้สึกถึงการเหยียดหยามสรรพชีวิต
เสิ่นเสวียนปัดมือ พลังโจมตีเมื่อครู่เป็พลังโจมตีเกือบถึงขั้นสูงสุดของเขาแล้ว ทว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่เลวเลยทีเดียว สามารถสังหารเหลยป้าเทียนได้สำเร็จ ความคิดกดดันที่รบกวนจิตใจมาตลอดพลันปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน พลังยุทธ์คล้ายจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยโดยที่ไม่แสดงออกมาให้เห็น
เขาไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใดที่ได้ยินเสียงนั้น กลับยิ้มออกมาน้อยๆ
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่ท่านอยากเห็นมาตลอดหรอกหรือ”
แม้ต้องเผชิญหน้ากับเสียงของผู้สูงส่ง เสียงของเสิ่นเสวียนยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งยังทรงพลังอีกด้วย
หากเทียบความสูงส่งกันแล้ว ในที่นี้ไม่มีใครเทียบเสิ่นเสวียนได้เลย
“เ้ายอดเยี่ยมเช่นนี้ ข้าไม่อยากสังหารเ้าเลยจริงๆ”
คนผู้นั้นเหมือนกำลังครุ่นคิดอยู่ ลังเลว่าจะสังหารเสิ่นเสวียนดีไหม
ในตอนนี้ทั่วทั้งบริเวณเงียบสนิทราวกับอยู่ในที่รกร้าง
ทุกคนต่างหันมองหน้ากันไปมา ผู้แข็งแกร่งอย่างพวกเขายังไม่เห็นเลยว่าใครที่กำลังพูดอยู่ พลังยุทธ์ของคนผู้นั้นต้องแข็งแกร่งถึงขั้นไหนกัน
จี๋เล่อน้อยเพิ่งเรียกสติกลับมาจากความใได้ จึงเดินไปตรงหน้าร่างของเหลยป้าเทียน
ตอนนี้อีกฝ่ายหมดลมหายใจไปแล้ว
“ดูเหมือนว่าเ้าจะยั้งมือเอาไว้แล้ว ข้าทำไม่ได้หรอก”
จี๋เล่อน้อยสังเกตาแบนร่างของเหลยป้าเทียน เข้าใจได้ทันทีว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสิ่นเสวียนเลย
“เ้าเองก็แข็งแกร่งมากเหมือนกัน”
เสิ่นเสวียนยิ้มให้จี๋เล่อน้อย จากนั้นก็หันมองการต่อสู้บนท้องฟ้า
าามารตะวันตกกำลังต่อสู้กับสี่เซี่ยงและเสอฮวาฮวาอย่างดุเดือด กระทั่งเมินเฉยต่อเสียงของคนผู้นั้นไป
“เลิกสู้กันได้แล้ว”
เสียงจากลำคอของเสิ่นเสวียนดังเข้าในหูของคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่
เดิมทีคนเ่าั้คิดจะเมินเฉยต่อเสียงของเสิ่นเสวียน แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเสียงนี้มีคลื่นพลังะเิออกมา สลายพลังของพวกเขาไปในพริบตา และมิอาจรวบรวมพลังได้อีก
าามารตะวันตกคว้าโอกาสนี้ซัดพลังหมัดออกไปอีกหลายครั้ง มีเพียงเสอฮวาฮวาคนเดียวที่เอาตัวรอดได้ แต่ก็ถอยหลังไปหลายก้าว
และแม้าามารตะวันตกจะได้เปรียบ แต่เขาก็รู้ดีว่าหากสู้กันต่อไปจะเป็ภัยต่อตนเอง เขาจึงถอยหลังไปยืนข้างๆ เสิ่นเสวียน
เวลาผ่านไปไม่นาน ฐานะของเสิ่นเสวียนได้เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็ผู้ที่อยู่เหนือกว่าเกือบทุกคนในที่นี้
“พวกข้าประเมินเ้าต่ำเกินไปจริงๆ!”
ร่างกายใหญ่โตของเสอฮวาฮวาขดตัวอยู่กลางอากาศ กล่าวด้วยน้ำเสียงน่ากลัว
จริงๆ แล้วเสิ่นเสวียนต่างหากที่เป็ม้ามืดตัวใหญ่ที่สุดที่ซ่อนตัวอยู่
“ขอหารือกับพวกเ้าสักหน่อยได้ไหม มีคนคิดเข้ายึดครองหุบเขาสุขาวดี พวกเราร่วมมือกันรับมือเป็อย่างไร”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับเสอฮวาฮวาและสี่เซี่ยงด้วยเสียงดังก้อง
ก่อนหน้านี้ที่ร่วมมือกับาามารทิศเหนือก็เพื่อรับมือเหตุการณ์นี้ แม้จะบอกว่าตนเองสามารถเลื่อนไปถึงขั้นหยวนก่อกำเนิดได้สำเร็จแล้ว แต่มีคนเพิ่มขึ้นก็จะมีกำลังมากขึ้น อีกทั้งหากว่าคนผู้นั้นคือคนชุดดำที่เจอกันในสุสานจริงๆ และตอนนี้อยู่ด้านนอกสุสานแล้ว เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะรับมือได้
ผู้เฒ่าจี๋เล่อเคยบอกแล้วว่าคนชุดดำผู้นั้นเป็คนยุคเดียวกับเขา พลังยุทธ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าขั้นศักดิ์สิทธิ์เลย และคนชุดดำที่เจอในสุสานยังเป็เพียงร่างแยกที่เขาชิงร่างคนอื่นมาเท่านั้น เสิ่นเสวียนทำลายร่างแยกนั้นไปแล้ว หากร่างจริงของเขามาที่นี่จะต้องเกิดเื่ขึ้นอย่างแน่นอน
“เฮอะ คิดยึดครองหุบเขาสุขาวดี ช่างปากดียิ่งนัก ข้าว่าเ้าเองหรือเปล่าที่อยากยึดครอง!”
เทียนเซี่ยงได้ยินคำของเสิ่นเสวียนจึงกล่าวด้วยท่าทางหาเื่
เมื่อครู่ที่ต่อสู้กับาามารตะวันตก พวกเขากำลังได้เปรียบทำให้เชื่อมั่นในตนเองมากขึ้นกว่าเดิม เขาคิดว่าพวกเสิ่นเสวียนด้อยกว่าเขา และเขายังดูถูกทุกคนในที่นี้ด้วย
แน่นอนว่านี่คือเหตุผลที่พวกเขาโดนสั่งสอนอยู่บ่อยครั้ง
“ไม่ผิด ข้าว่าเ้าต่างหากที่คิดยึดครอง สหายเทียนเซี่ยง าามารทิศเหนือถูกหักหลัง าามารตะวันตกตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว หรือว่าพวกเราจะชำระล้างใหม่ทั้งหมดเลยดีไหม”
เสอฮวาฮวาขดตัวอยู่กลางอากาศ กล่าวกับเทียนเซี่ยงเสียงดัง
“ดีเหมือนกัน ข้าชอบที่เ้าบอกว่าจะชำระล้างเช่นนี้”
เทียนเซี่ยงหัวเราะเสียงดัง ช่างเป็ความคิดที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก
“าามารตะวันตก เ้ามีอะไรอยากบอกอีกไหม” จากนั้นเทียนเซี่ยงจึงหันไปถามาามารตะวันตกที่ยืนอยู่ตรงนั้น
าามารตะวันตกกลอกตามองฟ้าอย่างเหนื่อยใจ กล่าวกับเสิ่นเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ “ตอนนี้เ้าเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมข้าถึงต้องสั่งสอนพวกเขา”
“เข้าใจแล้ว ซื่อบื้อยิ่งนัก”
เสิ่นเสวียนยกมือขึ้นกุมหน้าผากพลางส่ายหัว ที่แท้ก็เป็เพียงสิ่งมีชีวิตที่มีแขนขาแต่ไม่มีสมอง หากไม่ใช่เพราะพลังที่แข็งแกร่งของพวกเขา สำนักจตุรเทพคงเลือนหายไปจากหุบเขาสุขาวดีนานแล้ว
“เ้าลองพูดอีกที!”
เสวียนเซี่ยงจากสำนักจตุรเทพได้ยินคำของเสิ่นเสวียน จึงคิดเข้าโจมตีเสิ่นเสวียนในทันที
สี่เซี่ยงแห่งสำนักจตุรเทพ แบ่งออกเป็ เทียน ตี้ เสวียน และหวง เทียนเซี่ยงหมายถึงพละกำลังแข็งแกร่ง ตี้เซี่ยงหมายถึงแผ่นดินยิ่งใหญ่ เสวียนเซี่ยงหมายถึงเปลวเพลิงโชติ่ และหวงเซี่ยงหมายถึงสายธารไหลเย็น ทั้งสี่คนอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แสดงค่ายกลสี่ธาตุออกมาได้อย่างกลมเกลียวเป็หนึ่งเดียวกัน และนี่คือสาเหตุที่ทำให้าามารตะวันตกปวดหัวอยู่เรื่อย
“ข้าบอกว่าพวกเ้าซื่อบื้อ ถึงขนาดนี้แล้วยังดูสถานการณ์ไม่ออกอีกหรือ”
เสิ่นเสวียนไม่ใช่คนประจบสอพลอ เขากล่าวสั่งสอนเสวียนเซี่ยงต่อหน้าทุกคนเสียงดังลั่น เมื่อครู่เสียงของคนผู้นั้นดังให้ได้ยินกันแล้ว เห็นได้ชัดว่ายังซ่อนตัวอยู่เื้ั ทว่าเ้านั่นไม่ได้ระวังตัวยังคิดหาเื่กันเองอีก ไม่เรียกว่าซื่อบื้อแล้วจะให้เรียกอะไร
“เ้าอยากตายหรือไร!”
เสวียนเซี่ยงแสดงถึงเปลวเพลิงโชติ่บันดาลโทสะขึ้นมาทันที เขาอยากกระโจนใส่เสิ่นเสวียน แต่เทียนเซี่ยงที่อยู่ด้านหลังดึงเขาไว้
“พี่ใหญ่ ท่านดึงข้าไว้ทำไม”
“อย่าวู่วาม ที่เขากล่าวมามีเหตุผล”
เทียนเซี่ยงในตอนนี้มีสีหน้าครุ่นคิด
“เขาคิดอยากเป็ประมุขแห่งหุบเขาสุขาวดี พวกเ้าทนได้หรือ” เสอฮวาฮวากล่าวกับสี่เซี่ยง เห็นได้ชัดว่าเขากำลังยั่วยุ
ทว่าที่สำคัญที่สุดก็คือ สี่เซี่ยงไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าเขากำลังยั่วยุอยู่
“เสอฮวาฮวา ข้าจะให้โอกาสเ้าอีกเพียงครั้งเดียว ตอนนี้พวกเราร่วมมือกันยังพอเป็สหายกันได้ หากเ้ายังพูดพล่ามอยู่อีก เ้าจะกลายเป็เหมือนเขา”
เสิ่นเสวียนหันมองเสอฮวาฮวา จากนั้นจึงชี้ไปทางร่างไร้ิญญาของเหลยป้าเทียนที่อยู่บนพื้นพลางกล่าวเสียงดัง
แม้เสียงของเขาจะไม่ดังมาก ทว่าให้ความรู้สึกถึงการข่มขู่อย่างรุนแรง ทั้งยังมีรังสีของผู้เหนือกว่าแผ่ซ่านออกมาอีกด้วย ทำให้เสอฮวาฮวาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
เสอฮวาฮวาเฉลียวฉลาดมาก เขารู้ดีว่าพลังของเสิ่นเสวียนเป็อย่างไร แม้เขามั่นใจว่าจะเอาชนะเหลยป้าเทียนได้ แต่ไม่มั่นใจเลยว่าจะชนะเสิ่นเสวียนได้ และดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ยังมีคนซ่อนตัวอยู่เื้ัจริงๆ
เป้าหมายของเขาในตอนนี้เรียบง่ายมาก นั่นคือความวุ่นวาย ทำให้ที่นี่วุ่นวายก็พอ
ขอเพียงเกิดความวุ่นวาย เขาก็จะมีโอกาส
“เ้ามั่นใจหรือว่าที่นี่มีคนอื่น ไม่ใช่เ้า”
เสอฮวาฮวามองเสิ่นเสวียนด้วยแววตาสั่นรัว
“ไร้สาระ” เสิ่นเสวียนกล่าวออกมาเพียงเท่านี้
“ได้ ข้ายินยอมร่วมมือกับพวกเ้า แต่หลังจากเสร็จเื่นี้แล้วต้องรับรองว่าสำนักนาคาของข้าต้องได้รับผลประโยชน์”
เสอฮวาฮวาผงกหัวงูใหญ่โตของตนเองพลางกล่าวกับเสิ่นเสวียน
การยินยอมของเสอฮวาฮวาครั้งนี้ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง และสายตาของคนส่วนใหญ่ที่มองเสิ่นเสวียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน
คำเดียวสามารถเปลี่ยนเสอฮวาฮวาได้ เื่ที่แม้แต่าามารยังทำไม่ได้ เสิ่นเสวียนกลับทำได้
“แล้วพวกเ้าล่ะ”
เสิ่นเสวียนหันไปถามสำนักจตุรเทพอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน เขาเดินมาข้างๆ าามารทิศเหนือ ทาบฝ่ามือข้างหนึ่งลงไปที่าแด้านหลังของาามารทิศเหนือ
าามารทิศเหนือรู้สึกเพียงพิษในร่างกายกำลังโดนเสิ่นเสวียนดูดออกไปทีละน้อย
“พวกข้ายินยอมร่วมมือ”
เทียนเซี่ยงครุ่นคิดก่อนจะตอบรับเสิ่นเสวียน
“ดีมาก ยังไม่รีบลงมาเตรียมตัวต่อสู้อีก”
เสิ่นเสวียนถอนพิษให้าามารทิศเหนือพลางกล่าว หากไม่ใช่เพราะพลังของเขายังต่ำมากเกินไป คงไม่ต้องเสียเวลาพูดนานขนาดนี้
“เ้าร้ายกาจมาก!”
เริ่นเสี้ยวเทียนยกนิ้วหัวแม่มือให้เสิ่นเสวียน สำนักจตุรเทพและสำนักนาคาในตอนนี้ตั้งกองกำลังพร้อมแล้ว ส่วนเสอฮวาฮวาและสี่เซี่ยงต่างกลับไปยังฐานที่มั่นของตนเองเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม
อำนาจอื่นๆ หยุดต่อสู้กันนานแล้ว ต่างฝ่ายต่างเข้าไปในฐานที่มั่นของตนเองเพื่อสังเกตการณ์
“ยังไม่ออกมาอีกหรือ”
หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เสิ่นเสวียนจึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าทั้งสี่ทิศพลางกล่าวออกไปเบาๆ