อูหลันฮวานำกล่องอาหารไปคืนที่ร้าน เซวียเสี่ยวหรั่นเอาชามกับตะเกียบของอาเหลยไปล้างแล้วเก็บเข้าที่
เหลียนเซวียนบอกกับนางเื่การเดินทาง
"เมิ่งเฉิงเจ๋อบอกว่าจะช่วยพวกเราถามหาสำนักคุ้มภัยที่จะไปแคว้นฉี" เซวียเสี่ยวหรั่นบอกเื่นี้กับเขา
กลับเป็เมิ่งเฉิงเจ๋อที่กระตือรือร้น เหลียนเซวียนมองสีหน้าแววตาที่เปิดเผยตรงไปตรงมาของนางอยู่เงียบๆ
"เ้าบอกกำหนดวันเดินทางกับเขาไปหรือยัง
"ยาของท่านยังเหลืออีกหนึ่งวัน ข้าคะเนไว้ว่าเป็่สองวันนี้ ดังนั้นจึงบอกไปว่าประมาณสองสามวัน ถูกต้องหรือไม่ หรือท่านอยากยืดเวลาออกไปอีกกี่วัน"
เซวียเสี่ยวหรั่งเบิกตากว้างมองเขา
ดวงตาของนางทั้งกลมโตและสุกใส เปลือกตาสองชั้นเป็เบ้าลึก ยามจดจ้องเขา ั์ตาดำขลับสุกสกาวมีเงาของเขาอยู่ในนั้น
หัวใจของเหลียนเซวียนพลันรู้สึกล่องลอย เบนสายตาหลบเลี่ยงอย่างไม่เป็ธรรมชาติ "ถูกต้องแล้ว สองวันนี้คือดีที่สุด"
"ได้ พวกเรารอฟังข่าวก่อน ข้าจะไปต้มยามาให้ท่าน" เซวียเสี่ยวหรั่นไปหยิบยาสองห่อที่เหลือ
"ยาประคบนั่นไม่ต้องต้มแล้ว" ดวงตาของเขาฟื้นฟูดีแล้ว ไม่ต้องประคบยาอีก
"หา? แต่ไม่ต้มยาก็สิ้นเปลืองแย่น่ะสิ ยาแพงมากเลยนะ ท่านประคบๆ ไปเถอะ อย่างไรเสียก็ห่อสุดท้ายแล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นลังเลอยู่บ้าง
"ไม่ต้องแล้ว ขึ้นชื่อว่ายาย่อมมีพิษสามส่วน จะเอามาใช้เพียงเพราะกลัวสิ้นเปลืองไม่ได้"
เหลียนเซวียนเอ่ยประโยคนี้ออกไปเพื่อดับความคิดเสียดายของของนาง
ขณะที่เซวียเสี่ยวหรั่นอยู่หน้าเตาต้มยา เซวียเสี่ยวเหล่ยก็วิ่งตึงตังเข้ามา
"พี่สาว คุณหนูเมิ่งผู้นั้นมาขอรับ"
เมิ่งว่านเหนียงมา เซวียเสี่ยวหรั่นลุกขึ้นจากหน้าเตา "เสี่ยวเหล่ยช่วยดูไฟ ข้าจะไปดูสักหน่อย"
"ขอรับ พี่สาว ท่านไปเถอะ" ่นี้เซวียเสี่ยวเหล่ยช่วยต้มยาอยู่บ่อยครั้ง เคยชินกับคำพูดนี้แล้ว
เมิ่งหว่านเหนียงพาสาวใช้นามจื่ออีมาด้วยรออยู่ที่ห้องรับแขก
"คุณหนูเมิ่ง ท่านมาแล้ว"
"ต้าเหนียงจื่อ ตกลงกันแล้วมิใช่หรือว่าจะเรียกข้าว่าหว่านเหนียง" เมิ่งหว่านเหนียงยิ้มพลางเดินเข้ามา
"เช่นนั้นเ้าก็เรียกข้าว่าเสี่ยวหรั่นด้วยล่ะ" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ชอบให้ใครเรียกตนเองว่าต้าเหนียงจื่อ รู้สึกเหมือนคนแก่อย่างไรก็ไม่รู้
เธอเพิ่งอายุสิบเก้า หากตีฝีปากแบบคนยุคปัจจุบัน ผู้อื่นยังเป็สาวเอ๊าะอยู่เลยนะ
เมิ่งหว่านเหนียงอมยิ้ม ดวงหน้างามลออราวกับบุปผาเบ่งบาน "ข้าเรียกท่านว่าพี่หญิงเซวียดีกว่า"
อย่างไรเสียนางก็โตกว่า จะให้เรียกชื่อโดยตรงได้อย่างไร
เอาเถอะ ดูเหมือนคนในยุคสมัยนี้จะให้ความสำคัญกับลำดับาุโมาก โตกว่าหรือเล็กกว่าหน่อยก็เรียกพี่สาวน้องสาว น้อยนักที่จะเอ่ยเรียกชื่อโดยตรง
"หว่านเหนียงมาหา เพราะมีตรงไหนเกี่ยวกับกระเป๋าที่ไม่เข้าใจหรือเปล่า"
เซวียเสี่ยวหรั่นเชิญนางนั่ง
คำถามตรงไปตรงมาของเธอ ทำเอาเมิ่งหว่านเหนียงอึ้งไปชั่วขณะ
แต่พอรั้งสติกลับมาได้ ก็หันไปรับกล่องฉวนเหอแปดสมบัติลายค้างคาวห้าตัวล้อมตัวอักษรอายุยืน [1] มาจากสาวใช้ข้างกาย "นี่คือขนมฉวนเหอจากร้านของข้าเอง ส่งมาให้คุณชายน้อยลองชิม"
เซวียเสี่ยวเหล่ยรูปร่างเล็กดูเหมือนเด็กอายุแปดเก้าขวบ เมิ่งหว่านเหนียงคงคิดว่าเขาเป็แค่เด็กเล็กคนหนึ่งกระมัง
แต่เด็กชายอายุสิบเอ็ดสิบสองก็เป็เด็กโตแล้ว แต่ของจำพวกขนมหวานกับผลไม้แห้ง เขาต้องชอบแน่นอน เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มกล่าวขอบคุณ
เมิ่งหว่านเหนียงมาครานี้ไม่ใช่ว่ามีเื่มาสอบถาม แค่ได้ยินว่าพวกเขากำลังจะออกเดินทางในอีกสองวันข้างหน้า จึงฉวยโอกาสมาเยี่ยมเยือน
แน่นอนว่านางไม่เขลาถึงขั้นจะมาโดยไม่เตรียมตัว นางหาคำถามเกี่ยวกับเนื้อผ้า เส้นไหม แผนภาพ และสีเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ยามอูหลันฮวายกน้ำชาเข้ามา เห็นหญิงงามอย่างเมิ่งหว่านเหนียงก็ประหลาดใจมาก
หลางจวินให้นางมาจ่ายเงินที่ห้องโถงให้พวกเขาช่วยชงชานี้มาให้
แม้อูหลันฮวาจะยอมรับว่าตนเองเป็สาวใช้ของต้าเหนียงจื่อ แต่รายละเอียดว่าสาวใช้ควรทำอะไรบ้าง นางกลับไม่รู้แน่ชัด
รู้แต่ว่าต้าเหนียงจื่อกับหลางจวินสั่งให้ทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น หรือไม่เห็นว่ามีงานอะไรก็แย่งมาทำ
ส่วนจะปรนนิบัติคนอย่างไร นางกลับไม่เข้าใจสักนิด
แต่นางเห็นสาวใช้ที่อยู่ด้านหลังของเมิ่งหว่านเหนียงยืนประสานมือที่เอว ก้มศีรษะมองพื้น ดูเรียบร้อยมีมารยาท
นางก็เริ่มเลียนแบบในทันที หลังจากยกน้ำชามาแล้ว ก็ไปยืนด้านหลังต้าเหนียงจื่อ
เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นการกระทำเล็กๆ ของนางก็รู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
เมิ่งหว่านเหนียงลอบมองนายที่ดูเหมือนไม่ใช่นาย กับบ่าวที่ดูเหมือนไม่ใช่บ่าวตรงหน้า ในใจก็นึกสงสัยใคร่รู้ยิ่ง
แม้บอกว่ายามอยู่นอกบ้าน ไม่ควรแต่งกายหรูหราเกินไป
แต่ดูพวกนางสองคน ทั้งทรงผม ติ่งหู คอ ข้อมือล้วนว่างเปล่าไม่มีเครื่องประดับสักชิ้น
เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็เป็ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดกับเนื้อหยาบที่หาได้ทั่วไป
ทำตัวเรียบง่ายจนไม่อาจเรียบง่ายไปมากกว่านี้อีกแล้ว
หากไม่เพราะเห็นกับตา นางคงเชื่อมโยงระหว่างสตรีหน้าตาสะสวยแต่แสนจะธรรมดาผู้นี้กับเหลียนชีผู้ทรงอำนาจแข็งแกร่งทั่วร่างผู้นั้นไม่ได้
"แฮ่ม ถ้าพี่หญิงเซวียมีเวลาว่าง มิสู้ไปนั่งเล่นที่บ้านข้าดีหรือไม่"
เมิ่งหว่านเหนียงคิดว่าถ้าอีกฝ่ายไปเป็แขกที่บ้าน ตนเองกับนางรูปร่างใกล้เคียงกัน สามารถมอบอาภรณ์ที่ยังไม่เคยสวมใส่ให้สักสองสามชุด
"ขอบใจนะหว่านเหนียง แต่สองวันนี้ข้าอาจไม่มีเวลาว่าง" เซวียเสี่ยวหรั่นขอบคุณก่อนจะปฏิเสธ
เพื่อเตรียมการเดินทาง เื่ที่ต้องทำยังมีอีกมาก
นอกจากนี้ นางก็มิได้สนิทสนมกับเมิ่งหว่านเหนียงถึงขั้นจะไปเยี่ยมเยียนในฐานะแขก
เมิ่งหว่านเหนียงยิ้มอย่างประหม่า ทั้งสองเพิ่งพบกันเป็ครั้งที่สอง คำเชิญนี้ดูจะจาบจ้วงเกินไป
พวกนางคุยกันไม่กี่ประโยค เมิ่งหว่านเหนียงก็ลุกขึ้นอำลา
เซวียเสี่ยวหรั่นส่งแขกที่หน้าโรงเตี๊ยม
เห็นเมิ่งหว่านเหนียงขึ้นรถม้างามหรูไปแล้ว นางกับอูหลันฮวาถึงกลับห้องพัก
"ต้าเหนียงจื่อ คุณหนูเมิ่งผู้นั้นช่างงามนัก" อูหลันฮวาเลียนแบบท่าทางสาวใช้ที่ชื่อจื่ออีผู้นั้น ประสานสองมือไว้ที่เอว ก้าวเท้าเพียงสั้นๆ เดินตามหลังเซวียเสี่ยวหรั่น
เซวียเสี่ยวหรั่นหันมามอง ก่อนจะหัวเราะครืนใหญ่ "เ้าเนี่ยนะ อย่าเลียนแบบท่าทางของผู้อื่นเลย เห็นแล้วอึดอัดชอบกล ปรกติเคยทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้นเถอะ"
"ไม่ได้ เป็สาวใช้ก็ต้องมีระเบียบ ข้าจะศึกษาอย่างดี ไม่ให้ต้าเหนียงจื่อต้องอับอายขายหน้า" อูหลันฮวากลับดื้อรั้น
เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นนางสีหน้ามุ่งมั่น ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
เฮ่อ ตามใจนางก็แล้วกัน แค่นางมีความสุขก็พอ
ยาของเหลียนเซวียน เซวียเสี่ยวเหล่ยช่วยยกไปให้เขาดื่มเรียบร้อยแล้ว เพราะเมื่อครู่มีแขก เขาจึงเอายาไปวางในห้องของหลางจวิน
เซวียเสี่ยวหรั่นถือกล่องขนมแปดสมบัติเข้ามา "เสี่ยวเหล่ย มา มาชิมผลไม้แห้งพวกนี้สิ"
กล่องฉวนเหอลายค้างคาวห้าตัวล้อมอักษรอายุยืนงดงามมาก ยามเปิดออกดู ช่องเล็กๆ ทั้งแปดด้านในใส่ผลไม้แห้ง และขนมหวานแปดอย่าง
มีถั่วตัด งาตัด ฟักเขียวเชื่อม พุทราเชื่อม รากบัวเชื่อม เหอเถาอบสมุนไพร ผลซิ่งอบแห้งเป็ต้น
เซวียเสี่ยวเหล่ยไม่เคยเห็นกล่องใส่ผลไม้แห้งที่งดงามเป็ระเบียบเช่นนี้มาก่อน พยายามบังคับดวงตาทั้งสองให้เบือนไปทางอื่น ท่องในใจ ตนเองไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว แค่มีข้าวกินก็พอ ของเหล่านี้ไม่จำเป็
เซวียเสี่ยวหรั่นไหนเลยจะรู้ว่าเขาคิดมากมายเช่นนั้น เธอหยิบฟักเขียวเชื่อมชิ้นหนึ่งใส่ปากเซวียเสี่ยวเหล่ย
"ชิมอันนี้ดู ฟักเชื่อมหวานเจี๊ยบจนน้ำตาแทบไหล"
...
[1] ฉวนเหอ แท้จริงแล้วเป็กล่องที่แบ่งเป็ช่องๆ สำหรับใส่ขนมหวาน ผลไม้แห้ง หรือของกินเล่นชนิดต่างๆ อาจมีแปดหรือเก้าช่อง คำว่าฉวนเหอภาษาจีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า จั่งอั้บ ราชบัณทิตยสถานจึงใช้ยืมเสียงจากภาษาจีนแต้จิ๋วมาบัญญัติคำว่า จันอับ แทนชื่อขนมแห้งของจีนหลายชนิด จึงกลายเป็ที่มาของขนมจันอับ
