บทที่ 120 วันที่สองของปีใหม่
ลู่หวยเฟิงตื่นเต้นจนลุกพรวดจากเก้าอี้ ไม้คลึงแป้งในมือหล่นลงพื้น แต่เขาไม่สนใจอะไร รีบวิ่งไปพูดตะกุกตะกักด้วยความดีใจ “อิ๋งอิ๋ง จริง…จริงเหรอ?”
“ฉันยังไม่แน่ใจ” เริ่นอิ๋งอิ๋งวางมือบนท้อง มองลงด้วยความเขินอายแล้วพูดว่า “ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนถึงจะรู้”
“ใช่ ใช่” ลู่หวยเฟิงยิ้มกว้างด้วยความสุข “หลังปีใหม่รอโรงพยาบาลเปิด พวกเราจะไปกัน”
พูดจบเขาก็ยิ้มโง่ๆ เกาหลังคอตัวเอง
แน่นอนว่าเขาชอบเด็กมาก แต่ภรรยาของเขาไม่เคยตั้งท้อง พวกเขาไปตรวจก็ไม่พบปัญหาอะไร เขาจึงเก็บความชอบนี้ไว้ในใจ
“ยินดีด้วยนะคะ อาสาม” สวี่จือจือยิ้มแล้วพูด
“จือจือบ้านเราเป็ดาวนำโชคจริงๆ” คุณนายลู่ยิ้มแก้มปริแล้วพูด “เมื่อไหร่เธอจะมีให้ย่าสักคนล่ะ ย่าจะได้สมหวังในชาตินี้เสียที”
“คุณย่าคะ” สวี่จือจือหน้าแดงก่ำ เธอเขินจริงๆ ต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้เลย
เริ่นอิ๋งอิ๋งกลับรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เธอลูบท้องตัวเอง แล้วมองสวี่จือจือที่ยิ้มแวบหนึ่ง
“เป็เด็กดีกันทั้งนั้น” คุณนายลู่พูดอย่างมีความสุข “ดีมากเลย”
หญิงชราตื่นเต้นมาก แต่ในใจสวี่จือจือกลับกังวล เธอจำได้ว่าในหนังสืออาสามของตระกูลลู่กับภรรยาไม่มีลูกด้วยกันตลอดมา จนเกิดรอยร้าวระหว่างทั้งคู่
สิ่งที่สวี่จือจือรู้สึกประหลาดที่สุดคือสะใภ้สามลู่เพื่อที่จะมีลูก ถึงขั้นคิดจะยืมท้องคนอื่น
บอกว่าเริ่นอิ๋งอิ๋งเป็เด็กกำพร้า แต่จริงๆ เธอมีป้าที่แต่งงานไปอยู่บนูเา เริ่นอิ๋งอิ๋งให้ป้าคนนี้ไปหาเด็กสาวซื่อๆ บนูเามาวางยาลู่หวยเฟิง
เธออยากให้ลู่หวยเฟิงมีอะไรกับเด็กสาวคนนั้น แล้วให้เด็กสาวคลอดลูกมาให้พวกเขาเลี้ยง
ใครจะรู้ว่าลู่หวยเฟิงมีสติมาก พอรู้ว่ามีอะไรผิดปกติ เขายอมทำร้ายตัวเองดีกว่าแตะต้องเด็กสาวคนนั้น
ทั้งคู่มีปัญหากันเพราะเื่นี้ ต่อมาลู่หวยเฟิงบอกว่าถ้าอยากมีลูกขนาดนั้นก็รับเลี้ยงมาเถอะ เริ่นอิ๋งอิ๋งก็ยอม พวกเขาจึงรับเลี้ยงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมา
สวี่จือจือไม่เคยคิดว่าผู้หญิงที่ดูอ่อนแอแบบนี้ จะกลายเป็คนที่ทรมานคนอื่นได้น่ากลัวขนาดนี้
เริ่นอิ๋งอิ๋งรู้สึกว่าการมาของลูกบุญธรรมทำให้เธอท้องไม่ได้ เธอกลัวลู่หวยเฟิงจะจับได้จึงใช้กลวิธีสกปรกต่างๆ แต่สุดท้ายลู่หวยเฟิงก็รู้
เื่นี้กระทบลู่หวยเฟิงหนักมาก เขาซึมเศร้าอยู่นาน สุดท้ายลาออกจากงาน หย่ากับเริ่นอิ๋งอิ๋ง พาลูกบุญธรรมไปอยู่ทางใต้
ส่วนหลังจากนั้นสวี่จือจือยังอ่านนิยายไม่จบ ไม่รู้ว่าผลลัพธ์เป็ยังไง แต่คิดว่าการออกห่างจากผู้หญิงแบบนี้น่าจะเป็การปลดปล่อยให้ลู่หวยเฟิงและลูกบุญธรรม
ตอนนี้เห็นลู่หวยเฟิงดีใจ สวี่จือจือไม่รู้จะพูดอะไร ยิ่งหวังมากก็ยิ่งผิดหวังมาก นี่คือเหตุผลที่ั้แ่แรกเจอเริ่นอิ๋งอิ๋ง เธอจึงเลือกที่จะอยู่ห่าง
คนแบบนี้สู้ไม่ไหว หลบได้ก็หลบ
ฝั่งลู่ซือหยวนแอบถามอีกฝ่ายถึงรอบประจำเดือนครั้งล่าสุด “ฉันก็จำไม่ค่อยได้”
“เดือนนี้เหมือนจะยังไม่มา” ลู่หวยเฟิงพูดอย่างเขินอาย
“งั้นก็ใช่แล้วล่ะ” จ้าวลี่เจวียนตบมือพูด “เพิ่งท้อง ต้องระวังหน่อยนะ”
“ขอบคุณครับพี่สะใภ้” ลู่หวยเฟิงพูดด้วยความซาบซึ้ง แล้วยกเก้าอี้มาให้เริ่นอิ๋งอิ๋งนั่ง “เธอไม่ต้องทำ เดี๋ยวฉันจัดการ”
“เ้าสามของพวกเรานี่รักเมียจริงๆ” จ้าวลี่เจวียนพูดด้วยความอิจฉา
บรรยากาศดีๆ แบบนี้ดำเนินไปจนถึงวันที่สองของปีใหม่
วันนี้เป็วันที่ต้องกลับบ้านเดิมตามธรรมเนียม สวี่จือจือกับหวังซิ่วหลิงตัดขาดกันแล้ว แน่นอนว่าไม่กลับ เริ่นอิ๋งอิ๋งเป็กำพร้า ยิ่งไม่มีบ้านเดิมให้กลับ แต่สะใภ้คนอื่นต้องกลับบ้านเดิม และลูกสาวของคุณนายลู่ ลู่ไห่เสียก็ต้องกลับบ้านเดิมด้วย
หลังอาหารเช้า สวี่จือจือกับลู่ซือหยวนกำลีงยุ่งอยู่ในครัว
ไม่นาน สวี่จือจือก็ได้ยินเสียงลู่ไห่เสียที่ประตู “แม่คะ หนูกลับมาแล้ว”
โผงผางเหมือนเคย
“ทำไมเธอไม่กลับบ้านเดิมตัวเองล่ะ?” ตามด้วยน้ำเสียงรำคาญ “มีไก่ไหม? ครั้งก่อนในงานเลี้ยง ไก่ผัดที่หยวนหยวนทำ คนในบ้านฉันชอบมากเลย”
“หยวนหยวน วันนี้แกทำเยอะๆ นะ” พูดจบก็ไม่หยุด ยังเดินออกไปต่อ “ลานบ้านทำไมทิ้งรกแบบนี้ ไม่รู้ว่าพวกเธอทำอะไรกันก่อนปีใหม่?”
“ี้เีกันทุกคน บ้านไม่เก็บให้ดี เดี๋ยวคนอื่นหัวเราะเยาะเอา”
“ถ้าแกรังเกียจนักก็กลับไปเลย ไม่มีใครรั้ง” เสียงคุณนายลู่ดังขึ้น “คิดว่าที่นี่เป็ร้านอาหารเหรอ? มาถึงก็สั่งอาหาร”
“แม่คะ” ลู่ไห่เสียพูด “หนูกลับบ้านเดิม ไม่ใช่อยากกินอะไรที่แม่ทำหรอกเหรอ?”
“เหอะ” หญิงชรามองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง “มีอะไรก็กินไป”
ลู่ซือหยวนกับสวี่จือจือมองหน้ากัน แล้วยิ้มมุมปาก
“เมียจิ่งซานไม่กลับบ้านเดิมเหรอ?” ลู่ไห่เสียบ่น “ฉันว่าเธอเนรคุณจริงๆ แม้แต่บ้านเดิมก็ยังไม่กลับ”
“ถ้าไม่อยากกินก็ไสหัวไป” หญิงชราหน้าดำคล้ำ
“เมียเ้าสามล่ะ?” ลู่ไห่เสียพูด “ทำไมไม่เห็นเลย?”
เริ่นอิ๋งอิ๋งไม่มีบ้านเดิมนี่นา
“ต่อไปไม่ต้องกลับมาอีก” หญิงชราหน้าบึ้งตึง “บ้านตระกูลลู่ไม่ใช่ที่ให้แกมาชี้หน้าชี้ตา”
ลู่ไห่เสียเห็นหญิงชราโกรธจริงจังก็บ่นงึมงำ “ก็ได้ค่ะ หนูจะไปดูในครัว”
แต่เพิ่งก้าวออกมา เธอเจอเหอเสวี่ยฉินกลับมาก็อึ้ง “เธอกลับมาทำไม?”
“ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ” เหอเสวี่ยฉินพูด
“ทำไม? ไปสถานีอนามัยไหม?” ลู่ไห่เสียถาม
ในบ้านนี้ เธอสนิทกับเหอเสวี่ยฉินที่สุด
“ไม่ต้องหรอก” เหอเสวี่ยฉินพูดต่อ “เมียเ้าสามท้อง พี่รู้ไหม?”
“เริ่นอิ๋งอิ๋งท้อง?” ลู่ไห่เสียประหลาดใจ “แม่ไก่ตัวนี้ออกไข่เสียที”
“ดูสิพี่พูดอะไร?” เหอเสวี่ยฉินดึงเธอ “ถ้าคุณแม่ได้ยิน เดี๋ยวก็ด่าพี่อีก”
“ไป ไปดูเมียเ้าสามกัน” ลู่ไห่เสียพูดอย่างดีใจ “เ้าสามคงดีใจมาก”
ทั้งคู่ไปที่ห้องเริ่นอิ๋งอิ๋ง พอกลับออกมาก็ถึงเวลากินข้าวเที่ยง
ไก่ แน่นอนว่าไม่มี ตอนนี้บ้านเลี้ยงแม่ไก่ได้แค่สองตัวไว้ออกไข่ ไม่มีทางฆ่าเพื่อต้อนรับลูกสาวกลับบ้านเดิม
แต่มีปลาตัวหนึ่ง ลู่ไห่เสียบ่นสองสามคำ เห็นสายตาคมกริบของหญิงชราก็ต้องเงียบอย่างเสียหน้า
เริ่นอิ๋งอิ๋งไม่รู้คิดอะไร หญิงชราเรียกหลายครั้งก็ไม่ได้ยิน
“กลิ่นปลาทำให้คลื่นไส้เหรอ?” หญิงชราถามด้วยความเป็ห่วง
“เปล่าค่ะแม่” เริ่นอิ๋งอิ๋งรีบส่ายหน้า “อร่อยดีค่ะ”
ตอนก้มหน้า สวี่จือจือรู้สึกว่าอีกฝ่ายมองเธออีกครั้ง
สวี่จือจือรู้สึกงุนงง
.............................