Chapter 17
การเดินทางสู่ทริปแรกของทั้งคู่ก็เริ่มขึ้น กรีนเคลื่อนรถออกจากบ้าน พอพ้นประตูรั้วแล้วก็กดรีโมทเพื่อปิดประตู พอรอจนแน่ใจว่าประตูปิดสนิทก็เหยียบคันเร่งทันที
“อยากกินอะไรหรือเปล่า?” พอออกมาถึงปากทางก่อนเข้าถนนใหญ่กรีนก็ถามป๋ายขึ้น
“ไม่นะเ้านายพี่กรีน แต่เค้าง่วงมากกว่า”
“เธอเป็สี่ขาแล้วนอนไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวถึงแล้วพี่ปลุก”
“ไม่เอา หลับเค้าก็ไม่ได้เห็นข้างทางสิ” กรีนระบายยิ้มออกด้วยความเอ็นดูที่คนตัวเล็กข้าง ๆ เขาไม่ได้เพียงแค่อยากเห็นน้ำตกเท่านั้น แต่ยังตื่นเต้นกับสิ่งที่จะได้เห็นตลอดสองข้างทางอีกด้วย
“งั้นก็ไม่ต้องหลับครับ แต่ว่าเป็แมวไปก่อนนะ ถึงแล้วเธออาจจะต้องใช้แรงเยอะ ค่อยกลายร่างใหม่ แบบนี้โอเคไหมครับ?”
“อันนี้โอเค!”
ป๋ายตอบรับข้อเสนอของกรีนก่อนจะกลายร่างกลับไปเป็เ้าสี่ขาแสนน่ารัก ขาหน้าทั้งสองข้างยกขึ้นและทำท่าจะปีนขอบหน้าต่างเพื่อมองวิวด้านนอกรถ พอเห็นแบบนั้นกรีนก็เทียบรถที่ข้างทางก่อนจะค่อย ๆ เหยียบเบรก ผู้โดยสารตัวน้อยก็หันมามองด้วยความสงสัย กรีนยิ้มให้ก่อนเอี้ยวตัวไปหยิบกล่องลังที่เตรียมมา จัดการพับให้มันกลับไปเป็รูปร่างของกล่อง จากนั้นก็อุ้มเ้าแร็กดอลล์ตัวน้อยขึ้น วางกล่องลงไปที่เบาะประจำของอีกคน ทับด้วยเบาะนอนที่เตรียมมา แล้วก็ค่อยวางเ้าตัวเล็กลงไป
“จะได้ไม่ต้องคอยปีนหน้าต่างตลอดทาง สูงพอไหมครับ? เห็นวิวใช่ไหม?”
“เมี๊ยว~”
‘เห็น ๆ ขอบคุณน้า เ้านายพี่กรีนดีที่สุดในโลก!’
ในขณะที่มองวิวจากสองข้างทางไปเรื่อย ๆ ป๋ายก็คิดกับตัวเองครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ว่าตัวเขาเป็คนที่โชคดีขนาดนี้ได้ยังไง โชคดีที่ได้มาเจอกับเ้านายที่แสนดีแบบกรีน กรีนใส่ใจเขาเป็อย่างดี ทุกอย่างที่ทำมันออกมาโดยอัตโนมัติ ตัวป๋ายเองที่ปีนขึ้นขอบหน้าต่าง ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าถ้าปีนไปนาน ๆ จะเมื่อยหรือเปล่า แต่ทันทีที่เห็นว่าป๋ายพยายามมองไปที่นอกหน้าต่าง กรีนก็จอดรถแล้วจัดการให้แทบจะทันที
‘ไม่ดีเลยนะที่คนที่รักเหมียวขนาดนี้ต้องมาแพ้ขนแมว!’
ในขณะที่เ้าตัวเล็กเพลิดเพลินไปกับวิวรอบ ๆ ที่เริ่มใกล้ธรรมชาติมากขึ้น เพราะขยับออกห่างจากใจกลางเมืองเรื่อย ๆ กรีนขับรถไปและคอยมองเ้าเหมียวอยู่เป็ระยะ จนมาถึงจุดพักรถ กรีนเปิดไฟเลี้ยวและเลี้ยวเข้าไป ชะโงกหาที่ว่างสำหรับรถของเขา พอเจอก็ตรงไปจอดทันที
“อยากเข้าห้องน้ำหรือหิวอะไรไหมครับ?”
“เหมียว~”
‘ไม่หิวน้า’
“ไม่หิวใช่ไหม? เดี๋ยวพี่กรีนจะไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง เธออยากเข้าไหมครับ?”
“เหมียว~”
‘เค้าไม่ปวด ๆ เลยพี่กรีน’
“ถ้างั้นรอพี่ในรถนะครับ เดี๋ยวพี่มา” กรีนยิ้มให้เ้าแมวตัวน้อยเล็ก ๆ ก่อนจะเอื้อมมือลูบหัวเบา ๆ แล้วลงจากรถไป
หลังจากออกมาจากจุดพักรถ กรีนก็ขับรถตรงไปยังโรงแรมที่ได้ทำการจองไว้ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็ถึงที่หมาย โรงแรมนี้ค่อนข้างห่างน้ำตกที่กรีนจะพาป๋ายไปพอสมควร แต่เขาพยายามหาโรงแรมในแบบที่ป๋ายอยากได้มากที่สุด ก็คือที่ที่มีพื้นที่กว้าง ๆ รอบข้างโล่ง ๆ เห็นท้องฟ้าเยอะ ๆ เขาจึงเลือกโรงแรมติดหาด ถึงจะไกลจากน้ำตกหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้ติดอะไรหากจะต้องขับรถไกลขึ้น แค่อยากจะพาอีกคนมาเจอบรรยากาศที่เขาจะจดจำมันไปนาน ๆ
“ถึงที่พักเราแล้วนะครับ เดี๋ยวไปเช็คอินก่อน พี่จะพาไปดูปลา”
“เหมียว~”
‘เหมียวรับทราบ’
กรีนเปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถ ระหว่างนั้นก็กดเปิดกระโปรงหลังไปด้วย จากนั้นก็มีบริกรของโรงแรมเข้ามาบริการช่วยขนของทันที พอเห็นแบบนั้นกรีนก็อ้อมไปอีกฝั่ง เปิดประตูรถตำแหน่งข้างคนขับเพื่อเอาเ้าแร็กดอลล์ตัวน้อยลงมาแล้วอุ้มไว้ระดับอก หลังจากที่บริกรขนของลงจากรถเรียบร้อยแล้ว กรีนก็ทำการกดรีโมทเพื่อล็อครถ พาเ้าแมวน้อยเดินตามบริกรที่นำหน้าไปที่จุดเช็คอินแล้ว
“สวัสดีค่ะ ลูกค้าจองไว้ไหมคะ?” พอมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ พนักงานหญิงก็เอ่ยต้อนรับทั้งคู่ทันที
“ครับ ผมจองไว้”
“รบกวนขอบัตรประจำตัวหน่อยนะคะ” กรีนยื่นบัตรประจำตัวที่เขาเตรียมไว้ให้พนักงานของโรงแรมทันที
“คุณกรีน โนเอล จองห้องสำหรับ 2 ท่าน ติดริมหน้าต่าง วิวทะเล ถูกต้องไหมคะ?”
“ถูกต้องครับ”
“เรียบร้อยค่ะ คีย์การ์ดนะคะ เดี๋ยวจะมีบริกรนำสัมภาระขึ้นไปพร้อมกับคุณโนเอลเลยค่ะ สำหรับบัตรเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของทางโรงแรม ดิฉันใส่ไว้ในซองพร้อมกับคีย์การ์ดแล้วนะคะ วันที่ออกจากที่พักนำคีย์การ์ดมาคืนที่นี่พร้อมชำระค่าบริการต่าง ๆ ได้เลยค่ะ”
“ครับผม ขอบคุณมากครับ”
“ขอให้สนุกกับการพักผ่อนค่ะคุณโนเอล”
พนักงานโค้งให้กรีนเล็กน้อยพร้อมกับวาดยิ้มให้ จากนั้นก็มีบริกรเดินนำเพื่อไปส่งทั้งคู่และช่วยขนสัมภาระต่าง ๆ ขึ้นไปบนห้อง กรีนกระชับเ้าขนปุยบนอกให้แน่นขึ้นก่อนจะเดินตามบริกรไปที่ลิฟต์
ลิฟต์เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ส่งกรีนและป๋ายถึงชั้นของห้องพักในเวลาไม่นาน บริกรนำหน้ามาที่หมายเลขห้องพักที่พนักงานแจ้งมา เมื่อถึงหน้าห้องก็ผายมือให้กรีนสแกนคีย์การ์ด จากนั้นบริกรก็ยกกระเป๋าทั้งหมดลงและวางไว้ให้กรีนที่หน้าห้องก่อนจะกลับไปที่ลิฟต์
กรีนเปิดประตูห้องออกและปล่อยเ้าแมวน้อยที่อยู่บนอกลงพื้นทันที หันมาวุ่นวายกับการนำสัมภาระเข้าห้อง ส่วนแร็กดอลล์สีขาวขนปุยก็ย่ำอุ้งเท้าสำรวจไปทั่วห้องด้วยความตื่นเต้น
"กลายร่างไหมครับ? เดี๋ยวพี่หยิบเสื้อผ้าให้"
"เมี๊ยว~"
'เอา ๆ ๆ'
กรีนเปิดกระเป๋าเดินทางของคนตัวเล็กออก เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับกิจกรรมตอนบ่ายที่เขาได้วางแผนไว้ ถือมันไปวางไว้ที่ห้องน้ำ จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้เ้าเหมียวเดินเข้าไป
หลังจากที่ป๋ายเดินเข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว กรีนก็จัดการเอาของที่อยู่ในกระเป๋าออกมา จัดวางมันไว้ตามที่ทางที่ควรอยู่ ทั้งของตัวเองแล้วก็ของป๋าย
"พี่กรีนซื้อชุดใหม่ให้เค้าเหรอ?"
คนตัวเล็กที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เดินออกมาพร้อมมองชุดที่ตัวเองใส่อยู่และตั้งคำถามกับเ้านายของเขา เพราะว่าชุดที่กรีนเลือกให้ ป๋ายจำได้ว่าไม่เคยเห็นมัน
"ใช่ครับ พี่ซื้อให้ใหม่ สวยไหม?"
"สวยมาก ขอบคุณน้าเ้านายพี่กรีน"
พอเห็นคนตัวเล็กชอบมัน กรีนก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ เพราะตอนเลือกให้ เขากังวลพอสมควรว่าอีกคนจะชอบหรือเปล่า เพราะไม่รู้เลยว่ารสนิยมของเ้าตัวเล็กเป็แบบไหน เลยเลือกซื้ออะไรที่มันเอนไปทางน่ารัก โทนสีกรีนก็เลือกสีพาสเทล เพราะส่วนตัวเขาคิดว่ามันเหมาะกับแมวตัวสีขาวเอามาก ๆ
"เราจะไปไหนกันต่อนะพี่กรีน?"
"เดี๋ยวพี่เก็บของแป๊บนึงนะครับ เสร็จแล้วจะพาไปดูปลา"
"ดูปลา?"
"ครับ เธอรู้จักอควาเรียมไหม?" ป๋ายทำหน้าสงสัยก่อนจะตอบออกมา
"ไม่นะ เค้าไม่น่าจะรู้จัก"
"เอาเป็ว่าพี่จะพาเธอไปดูปลา ที่นั่นจะมีปลาเยอะมาก" พอได้ยินประโยคหลัง คนตัวเล็กก็ทำตาโตขึ้นมาทันที
"กินได้เหรอพี่กรีน?"
ชิบหายและ
กูก็ลืมไปว่านี่แมว
กรีนเอามือกุมหน้าผาก เขาวางแผนไว้อย่างดี แต่ลืมคิดไปว่าคนตรงหน้าเขาก็เป็แมว ไม่รู้ว่าจะตื่นเต้นที่จะได้เห็น หรืออยากจะกินพวกมันกันแน่
"คือแบบนี้นะตัวเล็ก ปลาในอควาเรียมกินไม่ได้"
"อ้าว" พอรู้ความจริงก็ถึงกับหน้างอออกมาชัดเจน
"เขามีไว้ให้ดูครับ บางสายพันธุ์อาจจะหายาก แล้วก็สวยมากด้วย เธออาจจะไม่อยากกินมันก็ได้นะ"
"เค้าจะไม่อยากกินเหรอ?"
"ก็อาจจะครับ พี่ก็ไม่แน่ใจ หรือเธอไม่อยากไปหรือเปล่า? พี่พาไปที่อื่นก็ได้นะครับ"
"ไม่เอา ๆ ๆ เค้าไปอันที่พี่กรีนคิดไว้"
ทั้งคู่ได้แต่ตามใจกันไปกันมา ป๋ายตามใจกรีน เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าในเมืองหรือในโลกนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ส่วนกรีนก็ตามใจป๋าย ถ้าหากว่าป๋ายอยากจะเปลี่ยนหรือไม่ชอบสิ่งที่เค้าเสนอ เขาก็พร้อมจะไปในทางที่ป๋ายโอเค
เพราะต่างคนต่างก็รู้
ว่ากันและกันสำคัญแค่ไหน
ต่างคนต่างก็มีความสุข
ที่มีอีกคนอยู่ข้าง ๆ ตรงนี้
แค่อยากทำให้ในแต่ละวันมันดี
จะได้จดจำมันไปนาน ๆ
สุดท้ายทั้งคู่ก็ลงมาที่อควาเรียม กิจกรรมนี้เป็บริการของทางโรงแรม เหตุผลที่กรีนเลือกมาพักที่นี่ เพราะเขามีกิจกรรมให้ทำมากมาย รวมถึงกิจกรรมที่กรีนและป๋ายกำลังจะไปทำ อย่างการดูปลาด้วยเช่นกัน
อควาเรียมของโรงแรมจะอยู่ที่ชั้นล่างสุด ใช้เวลาลงลิฟท์อยู่พอสมควร เพราะห้องพักที่กรีนจองไว้ จะอยู่ชั้นที่ค่อนข้างสูง เพราะกรีนอยากให้ป๋ายได้เห็นบรรยากาศจากมุมกว้าง มองออกไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา และดูเหมือนว่าป๋ายเองก็ชอบมัน
"สวัสดีค่ะ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของโรงแรมยินดีต้อนรับค่ะ รบกวนขอดูบัตรเข้าชมด้วยนะคะ"
พอเดินมาถึงด้านหน้าตรงทางเข้า พนักงานในส่วนของอควาเรียมของทางโรงแรมก็ต้อนรับด้วยรอยยิ้มทันที กรีนแสดงบัตรทำกิจกรรมที่ได้มาจากพนักงานต้อนรับของทางโรงแรมให้
ซึ่งบัตรนี้จะเป็บัตรที่ใช้ผ่านประตูกิจกรรมทุกโซนของโรงแรม เพราะประเภทห้องพักที่กรีนจองมา คือประเภทที่รวมการทำกิจกรรมหรือบริการของโรงแรมไว้ทุกอย่างแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่เข้าใช้บริการกิจกรรมไหน ก็จะไม่ต้องมาคอยจ่ายเงินทุก ๆ กิจกรรม กรีนคิดว่ามันสะดวกและไม่เสียเวลา ก็เลยเลือกประเภทห้องพักแบบนี้มา แล้วมันก็เป็แบบนั้น พอพนักงานเห็นบัตรที่กรีนยื่นให้ ก็ติดริสแบนด์ที่ข้อมือของทั้งคู่ทันที
"ขอให้เพลิดเพลินกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของทางโรงแรมเรานะคะ" หลังจากพูดจบพนักงานก็ผายมือให้ทั้งคู่ผ่านประตูเข้าไปเพื่อเข้าชมสัตว์น้ำต่าง ๆ ในพิพิธภัณฑ์
กรีนเดินนำเข้ามาในโซนแรกของอควาเรียม จะเป็ปลาขนาดเล็ก ที่บางสายพันธุ์จะมีเห็นได้ทั่วไป และบางสายพันธุ์ก็จะเป็พันธุ์ที่หายาก ซึ่งจะถูกแยกโซนไว้
"พี่กรีน ๆ ๆ น้องมองเค้า"
คนตัวเล็กแสดงความตื่นเต้นออกมาทันที ที่เหมือนว่าปลาในตู้จ้องมองเขา เหมือนที่เขากำลังจ้องมองมัน กรีนยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู แล้วก็โล่งใจที่เหมือนว่าคนตัวเล็กตรงหน้าเขาดูสนุก
"เดี๋ยวถ้าเดินไปตรงโน้น มันจะมีอุโมงค์ด้วยนะ เหมือนเราได้เข้าไปอยู่ใต้ทะเลเลย"
"งั้นไป ๆ เค้าขอบ๊ายบายน้องก่อนน้า"
สิ่งที่กรีนพูดเรียกความสนใจจากคนตัวเล็กได้เป็อย่างดี ป๋ายหันไปร่ำลากับเ้าปลาตัวน้อยในตู้เล็ก เรียบร้อยแล้วก็เดินมาหากรีนทันที
"ไป ๆ ไปใต้ทะเลกันพี่กรีน"
กรีนหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ไม่ว่ากี่ครั้งที่คนตัวเล็กแสดงพฤติกรรมที่แสนน่ารักออกมา ไม่มีสักครั้งเลยที่เขาไม่เอ็นดูมัน
แค่รู้สึกว่ามันน่ารักแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
กรีนพาป๋ายเดินเข้ามาในโซนอุโมงค์ของอความเรียม ส่วนแรกจะเป็ตู้กระจกใหญ่ ที่ข้างในจะมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่อาศัยอยู่ สิ่งที่กังวลในตอนแรก คือกรีนกังวลว่าป๋ายจะกลัวสัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่หรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็แบบที่เขากังวล เพราะพอเห็นตู้กระจกขนาดใหญ่ คนตัวเล็กก็วิ่งเข้าใส่ทันที
"พี่กรีน ๆ ๆ น้องน่ารักมาก ๆ เลย"
คนตัวเล็กพูดออกมาอย่างตื่นเต้น สายตาก็มองแค่สัตว์ในตู้กระจกขนาดใหญ่ตรงหน้าเท่านั้น ไม่หันมาสนใจคนที่พามาเลยแม้แต่น้อย
"น้องอะไร เขาตัวใหญ่กว่าเธออีก"
"ก็เค้าจะให้น้องเป็น้อง" จนป๋ายยอมหันมาสนใจพร้อมกับขมวดคิ้วให้คนพี่เล็ก ๆ ได้แกล้งอีกคนจนหงุดหงิดก็เป็อีกหนึ่งความสุขของกรีนเช่นกัน เพราะด้วยความนิสัยเอาแต่ใจของคนตรงหน้า พอโดนขัดใจนิดหน่อย ก็จะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งมันเป็อะไรที่น่ารักมาก
"เค้าสามารถเลี้ยงมันได้ไหมพี่กรีน?"
เวรและ
"ไม่ได้ครับ สัตว์พวกนี้ต้องให้คนที่เก่ง ๆ เฉพาะด้านนี้ดูแลเท่านั้นนะ"
"เค้าอยากเล่นกับน้อง"
"เล่นได้แค่ตรงนี้นะตัวเล็ก เธอเข้าไปในนั้นไม่ได้ ถ้าเข้าไปเธอจะหายใจไม่ออก"
"อ้าว เค้าก็เป็สัตว์นะพี่กรีน"
"เป็สัตว์เหมือนกันก็จริง แต่เธอเป็สัตว์คนละชนิดกัน เธอกับสัตว์ในตู้หายใจไม่เหมือนกันนะครับ ถ้าสัตว์พวกนี้ขึ้นมาจากน้ำ พวกเขาก็จะหายใจไม่ออกเหมือนกันนะ"
"งั้นให้น้องอยู่ที่นี่แหละ ๆ ดีแล้ว เดี๋ยวน้องจะเจ็บ"
"ไปครับ ไปดูในอุโมงค์กัน สวยกว่านี้อีก"
กรีนพาป๋ายเข้ามาในอุโมงค์ของอควาเรียม ซึ่งถือได้ว่าเป็จุดไฮไลท์ของทุกอควาเรียมแทบจะทุกที่เลยก็ว่าได้ ซึ่งโดยปกติคนจะเยอะ แต่ ณ เวลานี้ ที่เป็เวลาทานข้าวเที่ยง คนในอความเรียมของโรงแรมก็จะไม่เยอะเท่าไหร่ ซึ่งกรีนตั้งใจให้มันเป็แบบนั้น เพราะถ้าคนเยอะก็ต้องคอยมาเกรงใจกัน เขาอยากให้คนตัวเล็กดูได้อย่างเต็มที่
"พี่กรีน เราอยู่ใต้ทะเลแหละ"
ดวงตากลมโตลุกวาวเป็ประกายเมื่อก้าวเข้ามาในอุโมงค์ของอความเรียม ดวงตาสวยค่อย ๆ ไล่มอง เปลี่ยนจุดโฟกัสไปทีละจุด
"สวยไหมครับป๋ายป๋าย?" กรีนถามขึ้นในขณะที่สายตามองไปที่คนตัวเล็ก
"สวยมากพี่กรีน เค้าอยากอยู่ที่นี่"
และนี่ก็เป็อีกครั้งที่กรีนยิ้มและหัวเราะออกมาให้กับความน่าเอ็นดูของคนตรงหน้า เขาแทบจะไม่ได้สนใจบรรดาสัตว์น้ำที่สวยงามนั่นเลย โฟกัสแค่คนตัวเล็กเท่านั้น คอยสังเกตอยู่ตลอดเวลาว่าป๋ายกำลังสนุกอยู่กับกิจกรรมที่เขาพามาทำหรือเปล่า และมันก็ดูเหมือนจะเป็แบบนั้น กรีนก็เลยยิ้มออกมาได้ตลอดเวลาแบบนี้
"ถ่ายรูปไหมครับ?"
"ถ่าย ๆ ๆ"
"มา พี่กรีนถ่ายให้"
"ไม่เอา ถ่ายด้วยกันสิ" พอเห็นคนตัวเล็กอยากถ่ายด้วยกัน กรีนก็วานคนที่เดินผ่านไปผ่านมาในอความเรียมให้ช่วยถ่ายรูปให้
"ใกล้กันอีกนิดนึงนะคะ" คนที่มาช่วยถ่ายรูปให้ทั้งคู่เอ่ยขึ้น และพอได้ยินดังนั้น คนตัวเล็กก็เขยิบเข้าไปใกล้เ้านายของเขามากขึ้น พร้อมกับเอามือกอดแขนเบา ๆ แล้วซบหัวลงที่ไหล่ของคนพี่
ทำอะไรเนี่ยตัวเล็ก
กรีนใจเต้นทันทีที่คนตัวเล็กซบหัวลงมา งุนงงกับการกระทำของคนตัวเล็กเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ทั้งคู่แทบจะไม่เคยแตะตัวกันเลยถ้าไม่จำเป็ ยิ่งในร่างมนุษย์แล้ว ปกติจะมีแค่การลูบหัว เกาคาง นอกเหนือจากนั้นมันคือการปลอบเวลาที่อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี ไม่มีเลยสักครั้งที่อยู่ ๆ ทั้งคู่จะแตะเนื้อต้องตัวกันแบบนี้
โทรศัพท์ถูกยื่นกลับมาหาเ้าของหลังจากที่ถ่ายรูปจนเสร็จสิ้น กรีนก้มหัวและกล่าวขอบคุณคนที่มาช่วยถ่ายรูปให้ ส่วนป๋ายก็ทำได้แค่มองตามหลังคน ๆ นั้นไปจนสุดสายตา
"เป็อะไรครับ?" หลังจากที่แน่ใจว่าคน ๆ นั้นเดินออกไปแล้ว กรีนก็หันมาถามคนข้าง ๆ เขาทันที
"เหอะ เค้าไม่ได้เป็อะไรสักหน่อย" ป๋ายตอบกลับมาพร้อมกับเบะปากลงเล็กน้อย มือที่กอดแขนกรีนไว้ก็ไม่ได้ปล่อยลงแต่อย่างใด
"ป๋ายป๋าย พี่กรีนถามนะ หงุดหงิดอะไร?"
"ก็คนเมื่อกี้อ่ะ มองพี่กรีนอยู่นั่นแหละ เค้าไม่ชอบ"
"ก็เขาถ่ายรูปให้เรา ก็ต้องมองสิครับ"
กรีนพูดขึ้นเสียงอ่อนและลูบหัวคนตรงหน้าเบา ๆ และพยายามอธิบายให้คนตัวเล็กของเขาเข้าใจ
"ไม่รู้แหละ คนเมื่อกี้ก็เป็แมวเหมือนเค้านะพี่กรีน เค้ามองจิ๊ดนึงก็ดูออกแล้ว"
"เก่งขนาดนั้นเลยนะ"
"ตามประสาแมวไงพี่กรีน เค้าเห็นคนนั้นนะ มองพี่กรีนไม่หยุด ก็เลยต้องแสดงออกไปว่าพี่กรีนของเค้า"
"เลยกอดแขนพี่ไม่ปล่อยแบบนี้เหรอ?" สายตากรีนมองลงที่แขนเล็ก ๆ ที่ยังกอดเขาเอาไว้แน่น
"ใช่น่ะซี่"
"เขาก็ไปแล้วทำไมยังไม่ปล่อยพี่กรีนอีกล่ะครับ?"
"ก็เดี๋ยวมีคนมามองพี่กรีนอีก!"
กรีนยิ้มแล้วก็ส่ายหัวให้คนข้าง ๆ เบา ๆ กับความขี้หวงอีกหนึ่งระดับที่เขาเองก็เพิ่งจะเคยเห็นมัน ปล่อยให้คนน้องกอดแขนเขาไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ดูสัตว์น้ำในอุโมงค์ กรีนไม่ได้ขัดอะไรกับสิ่งที่คนตัวเล็กทำ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับมันเลยสักนิด กลับกัน รู้สึกชอบมากกว่าที่โดนหวงแบบนี้
หลังจากที่เพลิดเพลินกับสัตว์น้ำนานาชนิดเรียบร้อยแล้ว กรีนก็พาป๋ายขึ้นไปอาบน้ำและพักผ่อน นั่งเล่นนอนเล่นรอเวลาอาหารเย็นอยู่หลายชั่วโมงในห้องพัก หลังจากเล่นของเล่นจนเบื่อ ป๋ายก็กลายร่างกลับไปเป็เ้าสี่ขาและนอนหลับไป ส่วนกรีนก็อวดรูปที่ถ่ายกับป๋ายให้พี่ชายดู
Chat
บลู : ไปกันกี่วันวะ
มา 4 วันพี่บลู : กรีน
บลู : แฮปปี้เลยดิ
แฮปปี้มาก ตัวเล็กก็ดูสนุก ตอนนี้หลับไปแล้ว : กรีน
บลู : แล้วแกล่ะ เป็ไง พาน้องออกไปเที่ยวครั้งแรก
โคตรมีความสุขเลยพี่บลู เวลาที่เห็นตัวเล็กตื่นเต้นกับอะไรที่กรีนพาไปเห็นก็โคตรชื่นใจ : กรีน
บลู : ดีแล้ว เก็บเกี่ยวไว้ให้เยอะ ๆ
พออ่านข้อความล่าสุดของบลูจบ กรีนก็สะอึกทันที ใช่ คงต้องเก็บเกี่ยวมันไว้เยอะ ๆ เพราะไม่รู้จะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีกนานแค่ไหน ทุกวันนี้เขามีความสุขก็จริง แต่มันก็ยังกังวลอยู่ตลอดเวลาว่ามันถึงวันสุดท้ายตอนไหน เพราะยังไงมันก็ต้องมาถึงแน่ ๆ เขาอยู่ด้วยตามความสมัครใจ แต่สำหรับกฎของเมือง นี่มันคือสิ่งต้องห้าม
พี่บลู ถามอะไรหน่อยดิ : กรีน
บลู : ว่า
ตอนที่ตัวเล็กอยู่กับพี่ มีตอนที่อยู่ดีๆตัวเล็กก็มากอด หรืออะไรแบบนี้มั้ยครับ : กรีน
บลู : ไม่มีนะ จะไปอ้อนแค่กับดีน่า
บลู : ถามทำไมวะกรีน
กรีนชั่งใจอยู่สักพักว่าเขาจะเล่าหรือระบายความรู้สึกที่เกิดในใจเขาให้พี่ชายฟังดีหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ยอมเล่าออกไป เผื่อจะได้คำปรึกษาดี ๆ
วันนี้มีคนมามองกรีน ตัวเล็กบอกเค้าเป็ครึ่งทางเหมือนกัน : กรีน
แล้วตัวเล็กหวง ก็เลยมากอดแขนกรีน ซบไหล่กรีน อะไรประมาณนี้ มันเลยแบบ : กรีน
บลู : อะไรวะกรีน แกหวั่นไหว?
พอเห็นข้อความขึ้นสัญลักษณ์ว่าอ่านแล้ว แต่ไม่ได้รับคำตอบอะไรจากน้องชายกลับมา บลูก็เลยพิมพ์ข้อความส่งกลับมาอีกครั้ง
บลู : หรือกำลังสับสน
คงจะประมาณนั้นมั้งพี่บลู กรีนไม่ได้เคยเลี้ยงแมว แล้วพอมีอะไรน่ารัก ๆ มาอยู่ใกล้ ๆ : กรีน
บลู : ไม่เกี่ยวว่ะกรีน
บลู : แกเห็นแมวมาทั้งชีวิต ไม่ได้เข้าใกล้ก็จริง แต่แกก็เอ็นดูมาตลอด อีกอย่างแมวก็คือแมว นี่ครึ่งทางนะ แกทำงานบริการ เจอคนมาเยอะแยะ นอกจากแฟนเก่าแก แกเคยรู้สึกหวั่นไหวกับใครแบบนี้หรือเปล่าล่ะ
ไม่เหมือนกันดิพี่บลู กับคนอื่นกรีนเจอเฉย ๆ อันนี้อยู่ด้วยกัน จะไปเหมือนกันได้ไง : กรีน
บลู : ก็ใช่ไงกรีน แกหวั่นไหวเพราะได้รู้จักกับเค้าลึกขึ้น ได้เห็นเค้าตลอดเวลา มันเป็ไปได้ ไม่แปลกหรอก ครึ่งทางก็คนเหมือนเรานี่แหละ
กรีนคิดแล้วคิดอีกกับคำพูดของพี่ชาย ความสับสนในความรู้สึกยังคงตีตื้นขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา จากที่เคยมั่นใจว่าที่เอ็นดูก็เพราะว่าอีกคนเป็แมว แต่ก็อย่างที่บลูพูด ครึ่งทางก็คนเหมือนเรา การกระทำหลายอย่างที่เขาตกหลุมรักมัน ก็มาจากการกระทำที่ป๋ายแสดงออกมาในร่างมนุษย์ั้แ่ต้น
บลู : ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีความรักนะกรีน แกตอบตัวเองได้อยู่แล้วว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร
บลู : คิดง่าย ๆ นะ แกโอเคใช่มั้ย ถ้าเกิดว่าวันนึงตัวเล็กจะไปเป็แมวของคนอื่น มีเ้านายเป็คนอื่น
กรีนโอเคหมด ถ้ามันดีกับเค้า : กรีน
บลู : แล้วถ้าตัวเล็กจะไปมีความรักล่ะ มีใครสักคนมาดูแล แบบที่ไม่ใช่สถานะเ้านาย
โอเค
ชัดเจนแล้วล่ะ
บลู : ตอบตัวเองก็พอ ไม่ต้องตอบพี่หรอก
กรีนวางโทรศัพท์ลง พร้อมกับมองไปที่เ้าแมวเหมียวตัวน้อยที่นอนอยู่บนเบาะ เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะต้องมานั่งคิดมากกับความรู้สึกอะไรแบบนี้ ก่อนหน้านี้กรีนเข้าใจว่าเลี้ยงแมวก็คือเลี้ยงแมว ทั้งที่จริงครึ่งทางกับแมวไม่เหมือนกันเลยสักนิด แมวมันอยู่ด้วยสัญชาตญาณของมันเป็หลัก แต่กับครึ่งทาง เขาคืุ์คนหนึ่ง เขาอยู่ด้วยความคิดกับความรู้สึกทั้งนั้น เหมือนกับเขาตอนนี้ ถึงจะยังไม่รู้สึกมากขนาดนั้น แต่ก็พอจะตอบตัวเองได้ว่ามันคือความรู้สึกแบบไหน