Chapter 18
"ตัวเล็กครับ ตื่นได้แล้ว ได้เวลาอาหารเย็นแล้วครับ"
เวลาล่วงเลยมาจนถึง่เย็น เป็่ที่กรีนจองร้านอาหารสำหรับมื้อเย็นของพวกเขาทั้งสองคนไว้ พอใกล้ถึงเวลา กรีนก็ตรงเข้าไปปลุกเ้าแมวน้อยขนปุยที่นอนเอาแรงอยู่ เขาค่อย ๆ ลูบหัวป๋ายเบา ๆ ส่วนทางคนโดนปลุก ก็ยืดแขนขาเต็มที่เพื่อบิดี้เี
"พี่เอาเสื้อผ้าไปวางไว้ในห้องน้ำแล้ว เดี๋ยวลุกไปอาบน้ำได้แล้วนะครับ พี่จองร้านอาหารไว้"
"เมี๊ยว~"
'เหมียวทราบ'
เ้าแมวตัวน้อยเดินสะลึมสะลือเข้าไปที่ห้องน้ำตามคำบอกของกรีน ส่วนกรีนเองอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วถึงมาปลุกเ้าตัวเล็ก เขากลัวว่าอีกคนตื่นแล้วจะหิว เลยรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อน เพราะอีกคนเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วจะได้ลงไปได้เลย
ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำประมาณ 20 นาที ป๋ายในร่างมนุษย์ก็เดินออกมาพร้อมกับสวมเสื้อผ้าที่กรีนเตรียมไว้ให้ และแน่นอนว่ามันเป็เสื้อผ้าที่เพิ่งถูกซื้อมาอีกเช่นเคย
"พี่กรีนซื้อชุดใหม่ให้เค้ากี่ชุดเนี่ย อันนี้ก็ใหม่อีกแล้ว"
"แล้วเธอชอบหรือไม่ชอบล่ะ?"
"เค้าก็ชอบของที่พี่กรีนให้ทุกอย่างนั่นแหละ"
"เอาตามความชอบเธอจริง ๆ สิครับ พี่รู้ว่าพี่ซื้ออะไรให้เธอก็คงดีใจหมด แต่มันก็คงมีแบบที่เธอชอบ เธออาจจะยังไม่รู้ แต่พี่พยายามเลือกมาหลาย ๆ แบบ จะได้รู้ว่าเธอชอบแบบไหน"
"อืมมม ตอนนี้ก็ยังไม่รู้นะ แต่เค้าชอบชุดนี้มากกว่าชุดเมื่อตอนบ่าย"
"โอเคครับ พี่จะจำไว้ ป่ะ ลงไปกินข้าวเย็นกัน"
กรีนหยิบกระเป๋าถือใบเล็กของเขามา แล้วเดินนำป๋ายออกมาจากห้อง ลงลิฟท์มาจนถึงชั้นล่างสุดของโรงแรม ร้านอาหารที่กรีนจองไว้เป็ร้านอาหารริมหาด รับบรรยากาศของทะเลแบบเต็ม ๆ
พอมาถึงร้าน กรีนส่งรายละเอียดการจองโต๊ะอาหารให้พนักงานดู จากนั้นพนักงานก็เดินนำไปที่โซนที่ถูกจอง พอถึงโต๊ะ พนักงานก็ผายมือเพื่อบอกว่าโต๊ะที่กรีนจองไว้คือโต๊ะไหน กรีนก้มหัวขอบคุณเล็กน้อยแล้วพนักงานก็เดินกลับไปประจำที่ของเธอ
"นั่งสิป๋าย" กรีนเรียกให้อีกคนนั่งลงที่เก้าอี้
"กว้าง ๆ แล้วก็เห็นท้องฟ้าเยอะ ๆ จริงด้วยพี่กรีน"
กรีนยิ้มกว้างที่เห็นน้องดูชอบร้านทีเขาเลือก คนตัวเล็กมองไปที่บรรยากาศรอบข้างอยู่เรื่อย ๆ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มตลอดเวลา
"ชอบใช่ไหมครับ?"
"เค้าชอบมาก ขอบคุณน้าพี่กรีน"
หลังจากได้ชมบรรยากาศไปสักพัก พนักงานก็เดินมาวางเมนูลงที่โต๊ะ และบอกไว้ว่าอีกสักพักจะมารับออเดอร์ กรีนและป๋ายค่อย ๆ เปิดเมนูดูไปทีละหน้า กรีนมีเมนูในใจที่เขาอยากกินอยู่แล้ว ส่วนทางด้านแมวน้อยก็กำลังงงอยู่กับแต่ละเมนูที่ได้เห็น เพราะเขาไม่รู้จักมัน
"ของเธออยู่หน้าสุดท้ายครับ" กรีนเห็นป๋ายกำลังนั่งมึนงง จึงชี้ทางให้ว่าเมนูสำหรับเ้าเหมียวอยู่หน้าสุดท้ายของสมุดรายการอาหาร
สำหรับร้านอาหารแทบจะทุกที่ในเมือง No Land จะมีอาหารรองรับสำหรับครึ่งทางหรือแมวอยู่ทั่วเมือง เป็เมนูที่แล้วแต่แต่ละร้านจะเลือกสรร แต่ถ้าจะวางขายเมนูไหน ก็จะต้องถูกตรวจสอบโดยทางการก่อน แต่ก็ยังคงมีบางร้านที่ไม่มีเมนูสำหรับครึ่งทางหรือแมวอยู่ เพราะต้องซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมสำหรับการทำ อาจจะทำให้เ้าของธุรกิจร้านอาหารบางรายไม่สะดวก แต่สำหรับโรงแรมใหญ่ ๆ ก็จะมีเมนูพวกนี้อยู่แล้ว เพื่อรองรับความหลากหลายของผู้เข้าพัก
"ได้รับอาหารครบแล้วนะคะ"
"ครับ ครบแล้ว ขอบคุณมากครับ"
หลังจากที่สั่งอาหารไปแล้ว ถ้าเทียบกับจำนวนคนในร้านอาหาร ระยะเวลาในการรอก็ไม่ได้นานอย่างที่คิด อาหารทุกอย่างที่สั่งมาเสิร์ฟที่โต๊ะภายในเวลาไม่นาน
"กินให้อร่อยนะตัวเล็ก"
"พี่กรีนก็ด้วยนะ"
ทั้งคู่ยิ้มให้กันก่อนจะลงมือกินอาหารในส่วนของตัวเอง แน่นอนว่าพวกเขากินร่วมกันไม่ได้ เนื่องจากความชอบในรสชาติอาหารแตกต่างกัน และทุกครั้งที่กินอะไร กรีนจะคอยสังเกตอีกคนอยู่เสมอ เพราะกลัวว่าน้องจะกลับมาซึม ที่รับรสอาหารได้ไม่เหมือนเดิม
"อร่อยใช่ไหมครับ?" กรีนเอ่ยถามขึ้น ทางเ้าแมวตัวน้อยพอได้ยินคำถามก็ยิ้มออกมาก่อนที่จะตอบ
"พี่กรีนไม่ต้องกังวลน้า เค้าสบายมาก"
ถึงจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ในใจกรีนก็ยังรู้สึกผิดที่ปล่อยให้อีกคนไปรับวัคซีนแทนเขา ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกขอบคุณมากเช่นกัน ที่ตัวแค่นั้นแต่มีความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เื่วัคซีน แต่หลาย ๆ เื่ในชีวิตที่คนตัวเล็กผ่านมันมา
ที่เรียกว่าคนเก่งอยู่บ่อย ๆ
ไม่ได้เรียกเพื่อปลอบประโลม
แต่มันคือความจริง
ว่าคน ๆ นี้เก่งมากแล้ว
"โอ๊ย พุงเค้าจะะเิออกมา"
กินอาหารจนอิ่ม คนตัวเล็กก็บ่นออกมาทันที มือก็ลูบท้องตัวเองไปพลาง เนื่องจากปริมาณอาหารที่กินไปมันเยอะพอสมควรจนทำให้อิ่มจนแน่นท้องเป็แบบนี้
"อิ่มขนาดนี้ตอนกลางคืนห้ามลุกมากินขนมแล้วนะ"
"ไหนว่าจะตามใจเค้าไง" เ้าแมวตัวน้อยพูดออกมาเสียงอ่อน
"พี่เตือนดี ๆ นะตัวเล็ก มันจะปวดท้องครับ"
"โอเค๊ เค้ารับทราบ ไม่กินแล้ว"
พอถึงจังหวะที่เหมาะสม กรีนก็หยิบกล่องของขวัญในกระเป๋าออกมาและยื่นให้คนตรงหน้าทันที
"หื้อ? อะไรอะพี่กรีน?"
"ของขวัญครับ พี่ให้"
ทั้งกรีนและป๋ายต่างคนก็ต่างยิ้มออกมาให้กัน คนตัวเล็กยื่นมือมารับกล่องของขวัญจากคนพี่ จากนั้นก็คลายโบว์ที่หน้ากล่องออก เปิดกล่องช้า ๆ
"พี่กรีน"
ปลอกคอสีสวยปรากฏขึ้นต่อหน้าป๋ายทันที มันเป็ปลอกคอที่กรีนสั่งทำให้ป๋ายโดยเฉพาะ
"ชอบมันไหมป๋าย?"
"เราชอบมาก ๆ"
ปลอกคอหนังเส้นสีน้ำตาล ที่สลักไว้ชัดเจนว่า 'ป๋ายป๋าย' ส่วนด้านในก็สลักไว้ว่า 'เ้าของ : กรีน โนเอล' พร้อมกับช่องทางการติดต่อ
ปลอกคอเส้นก่อนหน้ามันมีความหมายสำหรับทั้งคู่มากก็จริง เพราะเส้นที่ป๋ายใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็เส้นที่กรีนทำไว้ เพื่อรอแมวในอนาคตที่เขาจะเลี้ยง แต่มันก็แปลว่ามันจะเป็ของแมวตัวไหนก็ได้ที่กรีนจะเลี้ยง
แต่เส้นนี้ มันถูกสลักไว้แล้วว่าเป็ของป๋ายเท่านั้น
และเ้าของก็คือ กรีน โนเอล
"มานี่สิครับ พี่ใส่ให้"
ป๋ายย้ายตัวเองไปนั่งที่ตำแหน่งข้างกรีนทันที ปลอกคอเส้นสวยถูกหยิบออกมาจากกล่อง กรีนยกข้อมือของอีกคนขึ้น และสวมมันเข้าไป ปรับสายให้พอดีกับขนาดข้อมือของอีกคน เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ลูบมันเบา ๆ
"ขอบคุณนะพี่กรีน ฮึก เค้าขอบคุณจริง ๆ"
"ร้องไห้ทำไมครับ หื้ม?" มือหนาค่อย ๆ ยกขึ้นไปเกลี่ยน้ำตาที่ไหลลงมาที่ข้างแก้มของเ้าแมวน้อยเบา ๆ และส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้
"ฮึก เค้าก็ไม่รู้ แต่เค้าขอบคุณมากจริง ๆ ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เค้ามาเจอพี่กรีนเลย"
กรีนได้แต่ยิ้มให้กับประโยคที่คนตรงหน้าพูดออกมา ไม่ใช่แค่เ้าแมวน้อยที่รู้สึกขอบคุณ คนดูแลอย่างเขาเองก็รู้สึกขอบคุณเช่นกัน ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้วันนั้นคนตัวเล็กเห็นเขาที่ศูนย์ดูแลและจำเขาได้จนถึงวันที่เราได้เจอกันอีกครั้ง ความรักและความห่วงใยที่ปกติเขาได้รับจากคนรอบข้างเพียงไม่กี่คน ทั้งบลู เวย์ แล้วก็เกรซ มาถึงวันนี้มีสิ่งน่ารักตรงหน้ามอบมันให้เขาเพิ่มขึ้นแล้ว
"เขาจะเป็แมวที่ดีของพี่กรีนตลอดไปเลย"
ถึงแม้จะดีใจกับสิ่งที่คนตัวเล็กพูด แต่มันก็มีบางอย่างในใจที่โผล่ขึ้นมาให้เขาได้คิด ก็คือถ้าความรู้สึกที่เขามีให้ป๋าย มันจะเป็ความรู้สึกที่ไม่ใช่ในสถานะเ้านายจริง ๆ แต่กับคนตัวเล็กข้าง ๆ ล่ะ
"เป็แมวที่ดีของพี่กรีนเหรอครับ?"
"ใช่ ๆ ๆ หรือจะเป็อะไรอีกนะพี่กรีน เป็เพื่อนได้ไหม แต่ว่าเราอายุไม่เท่ากันนะ งั้น ๆ ๆ เค้าเป็น้อง"
"โอเค ๆ เป็น้องก็เป็น้องครับ"
กรีนได้แต่ยิ้มเอ็นดูคนตรงหน้าที่สรรหาสถานะที่อยากจะเป็มาให้เขา กรีนรู้สึกขอบคุณมากที่คนตัวเล็กกระตือรือร้นสำหรับความสุขของตัวกรีนเองอยู่ตลอดเวลาเหมือนทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา
หลังจากอาหารมื้อเย็นจบลง ตารางกิจกรรมของวันนี้ก็สิ้นสุด กรีนพาป๋ายออกไปเดินเล่นที่ริมหาด บรรยากาศของวันนี้ราวกับเป็ใจ ลมเย็น ๆ พัดมาตลอดเวลาที่พวกเขาเดิน
"เล่นเกมไหมครับ?" เพราะเห็นว่าตลอดระยะเวลาที่พากันเดินมา เราทั้งคู่ก็ต่างเงียบใส่กัน กรีนจึงหากิจกรรมเพื่อหยุดความเงียบที่กำลังเกิดขึ้น
"เล่นยังไงพี่กรีน?"
"เดี๋ยวพี่จะพูดสองอย่างที่เป็ประเภทเดียวกันแต่คนละแบบขึ้นมา แล้วให้เธอเลือกว่าชอบอะไรมากกว่า"
"เค้าไม่ค่อยเข้าใจนะ"
"เดี๋ยวพี่กรีนจะยกตัวอย่างให้ฟัง อย่างเช่น ถ้าพี่พูดว่า กระต่ายกับเต่า เธอก็ต้องเลือกว่าเธอชอบกระต่ายหรือเต่ามากกว่ากัน แล้วก็ตอบพี่มา เข้าใจไหมครับ?"
"เราเข้าใจแล้ว ๆ"
"งั้นเริ่มที่ สีน้ำตาลกับสีครีม"
"เค้าเลือกสีน้ำตาล เหมือนอันนี้" คนตัวเล็กโชว์ปลอกคอที่สวมอยู่ที่ข้อมือขึ้นแล้วสั่นเบา ๆ
"เอาที่เธอชอบจริง ๆ สิ"
"ก็นี่ไง ก่อนหน้านี้เค้าไม่รู้ แต่ว่าจะเริ่มชอบั้แ่ตอนนี้แหละ"
เชื่อเถอะ ว่าตอนนี้กรีนอยากจะจับอีกคนมากอดไว้แน่น ๆ ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ในขณะที่กรีนแค่คิด แขนเล็ก ๆ ของอีกคนก็รวบเข้าที่แขนของกรีนทันที จังหวะการเดินของกรีนช้าลงอย่างเห็นได้ชัด สายตากรีนมองลงที่แขนของตัวเองที่ถูกกอดไว้
“หวงอะไรพี่อีกแล้วครับ? ไม่เห็นมีใครเดินมาเลย”
“ไม่ได้หวง เค้าแค่อยากกอด”
เอาล่ะ เหมียวเล่นกูแล้ว
“ไม่ได้เหรอ?” สายตาอ้อน ๆ ช้อนขึ้นมามองกรีนทันที
“ทำไมมองพี่แบบนั้น?”
พี่จะตายเอานะตัวเล็ก
“อ้าว ทำไมมองไม่ได้ พี่กรีนไม่ชอบเหรอ?”
“ไม่ได้ไม่ชอบ”
“แล้วทำไมถึงมองไม่ได้เล่า”
“เป็เด็กเป็เล็ก ถามเยอะแยะนะป๋ายป๋าย”
“ทำเสียงดุอีกและ พี่กรีนไม่น่ารักเลย!”
คุยเล่นกันอีกสักพักทั้งคู่ก็ต้องขึ้นมาพักบนห้องเพราะว่าอากาศเริ่มเย็น เกมที่บอกว่าจะเล่นก็เล่นได้เพียงแค่ตาเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นก็เป็การเถียงกันล้วน ๆ ของเ้านายและเ้าแมวน้อย
บรรยากาศและสถานการณ์ของทั้งสองคนดีกว่าที่กรีนคิดไว้มาก คงด้วยเพราะเวลาที่จินตนาการมันไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอถึงสถานการณ์จริงแล้วมันไม่ได้ผิดจากที่คาดไว้ เลยรู้สึกดีกับมันขนาดนี้
ได้คุยกันเยอะขึ้น เห็นมุมใหม่ ๆ จากอีกคนมากขึ้น ใช้เวลาด้วยกันเยอะขึ้น มันเป็่เวลาที่ดีมาก ไม่ใช่แค่สำหรับกรีนเท่านั้น ป๋ายเองก็รู้สึกเช่นกัน
"วันนี้จะนอนแบบไหนป๋ายป๋าย?"
กรีนเอ่ยถามขึ้น เพราะตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องเข้านอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปน้ำตกั้แ่สาย ๆ กรีนจัดเวลาเอาไว้แบบนี้เพราะอยากให้คนตัวเล็กเล่นได้เต็มที่ เพราะ่ปลายปี น้ำตกแต่ละที่จะถูกปิดไม่ให้ใช้บริการเร็วกว่า่อื่น ๆ เพราะตกดึกน้ำจะเย็นมาก และอุณหภูมิจะยังลดลงจากตอนกลางวันอย่างรวดเร็วด้วย
"เค้านอนเป็คนได้ไหม?"
"ไหวหรือเปล่า? พรุ่งนี้ต้องใช้แรงเยอะนะ" คนตัวเล็กคิดตามสักพัก แล้วสุดท้ายก็เปลี่ยนการตัดสินใจออกมา
"งั้นเค้าเป็แมวได้"
"ถ้างั้นก็ไปนอนได้แล้วครับ เดี๋ยวพี่กรีนจะปิดไฟให้"
หลังจากที่เห็นอีกคนกลายร่างกลับไปเป็เ้าสัตว์สี่ขาแสนน่ารักเรียบร้อยแล้ว กรีนก็อุ้มอีกคนไปวางไว้บนเตียงขนาดคิงไซส์หลังที่อยู่ตรงข้ามเตียงของเขา ในห้องที่กรีนจองมาจะมีเตียงขนาดคิงไซส์ทั้งหมด 2 หลัง อาจจะต้องเสียเพิ่มมากกว่าเดิมสักหน่อย แต่เขาก็อยากให้อีกคนได้นอนสบายสบาย รวมถึงตัวเขาเองด้วย
แต่ดูเหมือนว่าเ้าตัวเล็กจะไม่อยากแยกกันนอนกับกรีน เพราะพอกรีนวางเขาลงที่เตียง เขากลับลุกขึ้นยืนสี่ขา แล้ววิ่งมาทางเตียงที่กรีนจะนอนทันที
"ไม่นอนเตียงตัวเองเหรอตัวเล็ก เดี๋ยวไม่สบายตัวเอานะ"
"เมี๊ยว~"
'ไม่เอา ๆ ๆ เตียงตั้งอันใหญ่'
"ดื้อนะ พอพี่ขยับตัวเดี๋ยวเธอก็ตื่นมากลางดึก"
"เมี๊ยว ๆ"
'ไม่เป็ไร ให้เค้านอนด้วยน้า'
เ้าตัวเล็กเดินมานั่งที่ปลายเตียงแล้วช้อนตามองกรีนช้า ๆ
"อยากได้อะไรก็อ้อนเอาจริง ๆ แมวตัวนี้ แล้วถามว่าพี่กรีนยอมไหม ครับ พี่ยอม"
"เมี๊ยว"
'เย่! เ้านายพี่กรีนดีที่สุด!'
กรีนยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว เป็สัญลักษณ์ว่าเขายอมแพ้ ร่างสูงเดินมาเปิดไฟที่หัวเตียงเอาไว้ จากนั้นก็ไปปิดไฟตรงกลางห้อง พอเรียบร้อยแล้วภายในห้องก็มีเพียงแค่แสงสลัว ๆ จากไฟหัวเตียงเท่านั้น กรีนเดินกลับมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนทันที แขนด้านซ้ายอ้าออก ส่วนเ้าแมวน้อยที่อยู่บนเตียงเดียวกันก็เดินมาใกล้ ๆ และล้มตัวลงนอนหนุนแขนคนพี่อย่างรู้งาน ตากลมโตยังไม่ได้หลับลงแต่อย่างใด จ้องมองไปยังเ้านายของเขาที่ก็จ้องกลับมาเช่นกัน
"มองอะไรเหมียว นอนได้แล้วครับ" กรีนวางมือลงบนหัวเล็ก ๆ ของเ้าแมวน้อยแล้วค่อย ๆ ลูบมันช้า ๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ถูกส่งออกไป
"เมี๊ยว ๆ"
'เกาคางให้เค้าหน่อยเ้านายพี่กรีน'
พอเห็นว่าเ้าตัวเล็กเอาคางมาถูกกับต้นแขนของตัวเอง กรีนก็ส่งนิ้วเรียวของตัวเองไปเกาคางให้ทันที ราวกับว่าฟังภาษาแมวออก
"ฝันดีนะครับ" กรีนพูดกับเ้าตัวเล็กที่หลับตาพริ้มไปแล้วในตอนนี้
มีหลายครั้งที่เขารับรู้ได้ด้วยตัวเองว่าคนตัวเล็ก้าอะไร ทั้งที่อีกฝ่ายร้องออกมาแค่เหมียว เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าเข้าใจสิ่งพวกนั้นได้อย่างไร แต่สมองมันรันไปโดยอัตโนมัติ เข้าใจเองว่าเ้าแมวน้อยของเขา้าให้ทำอะไรให้ แล้วมันก็ดันถูกทุกครั้งราวกับรู้ใจกันอยู่ตลอดเวลา
วันถัดมา
"ตัวเล็กครับ ตื่นได้แล้วนะ เดี๋ยวไปช้าแล้วที่น้ำตกคนจะเยอะ" คนถูกปลุกลืมตาตื่นมาก็เห็นเ้านายกับรอยยิ้มที่คุ้นเคยในยามเช้า
"เมี๊ยว~"
'เหมียวมอร์มิ่งเ้านายพี่กรีนน้า'
เสียงร้องเล็ก ๆ ถูกส่งออกมาพร้อมกับขาหน้าและขาหลังที่เหยียดออกจนลำตัวยืดยาว
"มอร์นิ่งครับคนเก่ง เธอไปอาบน้ำได้แล้ว"
เป็เหมือนกับเมื่อวาน ที่กรีนจะเตรียมตัวให้เรียบร้อยก่อนที่จะปลุกอีกคนขึ้นมา น้องจะได้พักผ่อนได้นานขึ้น และไม่เสียเวลากับการรอเขาด้วย
กรีนมองตามคนตัวเล็กจนอีกคนเข้าห้องน้ำไปเรียบร้อยและเดินไปปิดประตูให้ หลังจากนั้นก็มาจัดการเตรียมของเพิ่มเติมที่จะถูกนำไปเพื่ออำนวยความสะดวกในการไปเที่ยวน้ำตกของทั้งคู่ในวันนี้
ในขณะที่จัดของเข้ากระเป๋า ตาของกรีนเหลือบไปเห็นถังขยะใบเล็กที่วางอยู่ข้างเคาน์เตอร์ครัว ถุงขยะที่เขาคิดว่าเขาเพิ่งจะเปลี่ยนไปเมื่อคืนก่อนนอน ในตอนนี้กลับมีซองขนมแมวเลียที่ถูกกินไปแล้วทิ้งอยู่ คิ้วหนาขมวดขึ้นเล็กน้อย
"ป๋ายป๋าย เธอแอบมากินขนมแมวเลียตอนไหน?"
"เค้ายังไม่ได้กินเลยพี่กรีน" กรีนตั้งคำถามหลังจากที่เห็นคนน้องเดินออกมาจากห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ส่วนคำตอบจากคนน้องก็คือการปฏิเสธ
"แล้วทำไมในถังขยะถึงมีซองขนมล่ะครับ?"
"ก็ เค้ากินตอนจะออกไปดูปลาเมื่อวานไง" ป๋ายตอบคำถามออกมาพร้อมกับมือที่กำลังเช็ดผมไปด้วย
"พี่ว่าพี่เอาถุงขยะใบเมื่อวานไปทิ้งแล้วนะ"
"ที่ไหนพี่กรีน ตอนก่อนจะนอนเค้ายังเห็นอยู่เลย"
กรีนสังเกตเห็นท่าทางที่แปลกไปจากเดิมของคนตัวเล็ก แล้วก็รับรู้ทันทีว่าอีกคนโกหก รวมไปถึงตอนที่ป๋ายเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเอามือกุมท้องด้วย
"พี่ถามดี ๆ นะครับ แอบลุกมากินขนมตอนไหน?" กรีนเดินมาแล้วยืนด้านหน้าของคนตัวเล็กที่นั่งเช็ดผมอยู่ปลายเตียง มองตรงไปที่ตาของอีกคนแล้วถามขึ้น
"เค้า ไม่ได้กิน" ป๋ายหลบสายตาขณะตอบ นั่นก็ยิ่งทำให้กรีนแน่ใจว่าเ้าแมวน้อยของเขาโกหก
"ป๋าย ปวดท้องหรือเปล่า?"
พอกรีนถามคำถามออกไป คนตัวเล็กก็เอาแต่นั่งก้มหน้าไม่ยอมเงยขึ้นมา กรีนเลยนั่งลง เอาเข่าชันไว้ที่พื้น เพื่อให้ได้เห็นสีหน้าของคนน้อง
"ปวดท้องใช่ไหม? ตอนเดินออกมาจากห้องน้ำพี่เห็นเธอเอามือกุมท้อง"
"เห็นแล้วจะถามทำไมเล่า" ป๋ายพูดออกมาเสียงเบา แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้กรีนได้ยิน
"รู้หรือยังว่าทำไมพี่ถึงห้ามไม่ให้กินเยอะ? พี่ตามใจเธอให้เธอรู้เอง ว่าเวลากินไปเยอะ ๆ แล้วมันปวดท้องมันรู้สึกแบบไหน ตอนกินข้าวเย็นเธอบอกว่าอิ่มแล้วก็แน่น ตอนนั้นพี่ก็เตือนเธอไปแล้ว พี่ก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะลุกมากินขนมตอนดึกแบบนี้นะป๋าย ทำไมไม่ฟังกันเลย"
"พี่กรีนอย่าดุ"
"แล้วมันน่าดุไหมครับ? หื้ม?"
"เห้อ"
กรีนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบปลอกคอเส้นที่เขาเพิ่งให้ไปเมื่อคืนมาสวมเข้าที่ข้อมือน้อง จากนั้นก็แยกไปยกกระเป๋าที่จะเอาไปในวันนี้มากองรวมกันไว้ หลังจากที่กรีนไม่ได้พูดอะไรออกมา ป๋ายก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปวางไว้ตรงไหน
ผ่านไปสักพักกรีนก็ยกกระเป๋าออกไปไว้หน้าห้อง โดยที่ไม่ได้เรียกป๋ายให้ออกไปด้วย ป๋ายลุกขึ้นและเดินตามคนพี่ออกไปที่หน้าห้องทันที เท้าเล็กสวมรองเท้าแตะรัดส้นที่กรีนวางไว้ให้ ในขณะที่ป๋ายกำลังจะก้มตัวลงติดตีนตุ๊กแกที่รองเท้า กรีนก็ก้มลงไปจัดการให้ก่อน เ้าแมวน้อยมองลงไปที่เ้านายของเขาพร้อมกับปากที่เบะลง
"ต้องทำยังไงให้หายโกรธ? บอกเค้าหน่อยพี่กรีน เค้าไม่ชอบแบบนี้เลยนะ" ป๋ายไม่ได้รับคำตอบอะไรออกมาจากคนที่เขาถาม พอจัดการรองเท้าให้ป๋ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว กรีนก็ลุกขึ้นยกกระเป๋าเดินนำไปทันที
บริกรช่วยยกกระเป๋ามาส่งที่รถของกรีน จัดของเข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย พอทุกอย่างพร้อมแล้วกรีนก็ไปประจำที่นั่งคนขับ ป๋ายเองก็ไปประจำอยู่ที่ที่นั่งข้างคนขับเช่นกัน
เห็นว่าอีกคนนั่งเฉย ๆ กรีนก็เอื้อมมือไปดึงเข็มขัดนิรภัยมารัดให้น้องทันทีโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา หลังจากล็อคเข็มขัดเรียบร้อยแล้ว กรีนยื่นกระปุกยาเล็ก ๆ ให้น้องพร้อมกับน้ำเปล่า
"กินครับ แล้วก็นอนพัก เดี๋ยวถึงแล้วพี่ปลุก"
ป๋ายรับยามาไว้กับตัวเอง เปิดฝากระปุกออก เทเม็ดยาออกมาที่ฝ่ามือ เงยหน้าเล็กน้อยและส่งมันเข้าปาก ตามด้วยน้ำเปล่าจากขวดที่กรีนส่งมาให้
พอเห็นว่าน้องกินยาเรียบร้อยแล้ว กรีนก็ปลดเบรกมือและถอยรถออกจากที่จอดทันที ป๋ายทำอะไรไม่ถูก เพราะกรีนแทบจะไม่พูดอะไรกับเขาเลย จะให้นอนตอนนี้ก็คงนอนไม่หลับ
"พี่กรีน"
"ครับ?" กรีนขานรับคำเรียกของอีกคน
"ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็นอนพัก ตื่นมาเดี๋ยวก็หายปวดท้อง"
ป๋ายไม่รู้จะตอบอะไรออกมา ทำได้แค่มองข้างทางไปเรื่อย ๆ อาการปวดท้องที่เขารู้สึกก่อนหน้านี้แทบจะไม่มีผล เพราะเื่หนักใจมันมีมากกว่า
'จี๊ด ๆ ที่หัวใจ อึดอัดนะมนุษย์ ทำไมต้องเป็แบบนี้ด้วย'
ทั้งคู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการไปน้ำตกครั้งนี้จะถูกจดจำไปในรูปแบบไหน ในคราวแรกที่คิดว่ามันต้องสนุกมาก ๆ แน่นอน แต่ระหว่างการเดินทางก็ต้องพิจารณาใหม่แล้ว ว่ามันกำลังจะถูกจดจำมาในรูปแบบที่นึกถึงทีไรก็อึดอัดใจทุกที แบบที่กำลังเป็นี้หรือเปล่า