สิ่งประดิษฐ์แห่งเทียนกงเป็ตำราอัศจรรย์
ความอัศจรรย์ของตำราเล่มนี้มิใช่วิชาลับและมิใช่วิชาบำเพ็ญเซียน แต่เป็ศาสตร์โบราณเื่หลักการประดิษฐ์สิ่งของ อธิบายถึงความหมายเดิมของทุกสรรพสิ่ง หลังจากผ่านการสืบทอดและพัฒนามารุ่นสู่รุ่น จึงค่อยๆ เป็ตำราที่มหัศจรรย์
การมีอยู่ของสำนักเทียนกง มี ‘สิ่งประดิษฐ์แห่งเทียนกง’ เป็พื้นฐาน โดยใช้ศาสตร์อักขระ ค่ายกล กลไก หลอมอาวุธหลอมรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็ศาสตร์แขนงใหม่ มีนามว่า ‘เซียนยุทธ์’ มีความหมายว่ายุทธภัณฑ์แห่งวิถีเซียน
อย่างเช่นอุปกรณ์อย่างะเิเพลิงอัสนี ลูกปัดเพลิงอัสนี ปืนใหญ่พลังปราณ เรือบินเมฆา ล้วนอยู่ในศาสตร์แห่งเซียนยุทธ์ ใช้ได้ทั้งการาหรือทำลายล้าง...แม้กระทั่งพู่กันสลักิญญา กำไลสื่อิญญา ล้อเหินเวหาหรืออุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ล้วนเป็ส่วนหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์แห่งเทียนกง
แน่นอนว่าหลังจากสำนักเทียนกงหายไป ศาสตร์วิชาอัศจรรย์มากมายล้วนหายไปด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะสถานะของลุงเยี่ยนถูกเปิดเผย จั๋วอวิ๋นเซียนคงไม่เคยนึกถึงเื่สำนักเทียนกง
……
“ลุงเยี่ยน ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
จั๋วอวิ๋นเซียนมองลุงเยี่ยนอย่างตกตะลึง ในใจเกิดความสับสนไม่น้อย
ถ้าเป็ก่อนที่สถานะของลุงเยี่ยนจะถูกเปิดโปง มรดกสืบทอดสำนักเทียนกงต้องทำให้จั๋วอวิ๋นเซียนยินดีมาก แต่หลังจากที่สถานะของลุงเยี่ยนถูกเปิดโปงแล้ว นิกายเซียนโม่เหมินไม่มีทางปล่อยไปแน่ มรดกสืบทอดของสำนักเทียนกงมิใช่โชควาสนา แต่เป็หายนะ
จั๋วอวิ๋นเซียนเป็คนฉลาด ต้องคิดถึงเื่เหล่านี้ได้อยู่แล้ว
ตอนนี้ซีโหลวเหวินอวี่กับตระกูลสีคอยกดดันพวกเขาจนหายใจไม่ออกแล้ว ถ้าเพิ่มเื่ของนิกายเซียนโม่เหมินเข้าไปด้วย พวกเขาคงไม่มีวันพลิกสถานการณ์ได้อีก
เพียงแต่มรดกสืบทอดของสำนักเทียนกง ถึงแม้จะเป็หายนะ แต่ก็เป็โชคด้วยเช่นกัน หากใช้ได้ถูกต้อง เป็ไปได้มากว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของขั้วอำนาจต่างๆ ได้
“นายน้อยอาจจะไม่รู้...”
ลุงเยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “เดิมทีข้าคิดจะถ่ายทอดวิชาทั้งหมดของตัวเองให้ท่านนานแล้ว แต่ท่านผู้นำไม่เห็นด้วย สำนักเทียนกงเกี่ยวพันกับหลายฝ่าย เขาไม่อยากให้ท่านเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย หวังเพียงว่าท่านจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข...”
ลุงเยี่ยนเว้นจังหวะเล็กน้อย จากนั้นกล่าวต่อ “ต่อมาท่านก้าวสู่วิถีบำเพ็ญเซียน ท่านผู้นำหวังว่าท่านจะตั้งใจฝึกฝน ดังนั้นจึงไม่ให้ข้าสอนท่าน แต่ตอนนี้...”
จั๋วอวิ๋นเซียนกล่าวต่อ “ตอนนี้พลังของข้าสูญสิ้น ทั้งยังมีศัตรูรายล้อม เทียบกับการเป็หุ่นเชิดให้คนอื่น ไม่สู้สืบทอดศาสตร์วิชาของสำนักเทียนกง กลายเป็คนที่มีประโยชน์ในอนาคต”
ลุงเยี่ยนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “นายน้อยกล่าวมิผิด ท่านผู้นำ้าเช่นนี้ ท่านผู้นำรู้ว่าท่านมีนิสัยแข็งกร้าว ต้องไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่...ตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่านายน้อยตัดสินใจเช่นไร หากนายน้อยไม่้า ข้าก็จะทำลายสิ่งนี้ จะได้ไม่ถูกพวกโม่เหมินเอาไปสร้างหายนะให้กับโลก”
“สร้างหายนะให้โลกหรือ ลุงเยี่ยนคำพูดนี้หมายความเช่นไร?”
จั๋วอวิ๋นเซียนมึนงงเล็กน้อย ััได้ถึงความในแฝงในคำพูดของลุงเยี่ยน
ลุงเยี่ยนโบกมือกล่าวพลางถอนหายใจ “นายน้อยไม่คิดหรือว่า คำว่า ‘โม่เหมิน’ ที่จริงแล้วเหมือนคำว่า ‘หมอเหมิน’ ที่แปลว่าปีศาจหรือ? โม่เหมินก็คือหมอเหมิน พวกเขาเป็หมาป่าทะเยอทะยานอย่างแท้จริง แย่งชิงปล้นสะดม แสร้งทำตัวเป็คนดี...ถ้านายน้อยได้เจอกับคนของโม่เหมิน ต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดี”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
สุดท้ายจั๋วอวิ๋นเซียนเก็บหยกสืบทอดเอาไว้ในอก ในเวลาเดียวกันก็แบกรับหน้าที่ฟื้นฟูสำนักเทียนกงอีกครั้ง ถึงแม้เขาเองก็ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปจะทำเช่นไร แต่เขายังคงตัดสินใจโดยไม่ลังเล
……
ตกดึกคืนนั้นบรรยากาศในจวนเงียบสงัด มีดวงตาหลายคู่จับจ้องทุกการกระทำของพวกจั๋วอวิ๋นเซียนอยู่ในที่มืด
จั๋วอวี้หวั่นกับลุงเยี่ยนกลับไปที่ห้องของตัวเอง ในมือถือกระดาษข้อความที่จั๋วอวิ๋นเซียนแอบให้พวกเขา เนื้อหาในนั้นเรียบง่ายมาก มันก็คือแผนการและการตัดสินใจขั้นต่อไปของจั๋วอวิ๋นเซียน
จั๋วอวิ๋นเซียนกับจั๋วอวี้หวั่นอยู่ในการควบคุมของพวกจั๋วไท่หยวน ยากจะเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นพวกเขาต้องคิดหาวิธีออกจากที่นี่ จากนั้นค่อยวางแผนหาทางออก ส่วนลุงเยี่ยนที่เป็ศิษย์สำนักเทียนกง เมื่อถูกเปิดโปงสถานะแล้วจึงจำเป็ต้องจากไป
เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกไล่ล่าหลังจากถูกเปิดเผยร่องรอย พวกเขาจึงจำเป็ต้องให้คนนอกช่วย และจั๋วอวิ๋นเซียนก็มีแผนสำหรับเื่นี้แล้ว
……
ณ ห้องโถงตระกูลจั๋ว สิ่งก่อสร้างสวยงามตระการตา
เมื่อก่อนที่นี่คือสถานที่ประชุมของจั๋วฟู่ไห่ แต่ตอนนี้กลับถูกพวกจั๋วไท่หยวนยึดครองเสียแล้ว
ตอนนี้ในห้องโถงหลักมีแค่จั๋วไท่หยวนกับจั๋วเหล่าเอ้อสองพ่อลูก คนอื่นๆ ล้วนกลับออกไปหมด
“เหล่าเอ้อ ได้ยินว่าเมื่อวานเ้าไปหาเื่แม่หนูจั๋วหรือ?”
“ก็มิใช่หาเื่หรอก เพียงไปบอกกับพวกเขาให้คืนกระบี่กระเรียนที่เป็สมบัติวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลจั๋ว ทั้งยังเป็สัญลักษณ์ของผู้นำตระกูลจั๋วอีกด้วย เดิมทีควรเป็ของท่านพ่อถึงจะถูก แต่แม่หนูจั๋วอวี้หวั่นนั่น...”
“เหลวไหล!”
ไม่รอจั๋วเหล่าเอ้อพูดจบ จั๋วไท่หยวนะโด่าออกมา “เ้าคิดว่าพวกซีโหลวเหวินอวี่โง่นักหรือ? กระบี่กระเรียนเป็ถึงสมบัติวิเศษระดับสูง พวกเขากลับไม่ได้แย่งชิง แต่ปล่อยให้สองพี่น้องจั๋วอวี้หวั่นเก็บไว้...มีของบางอย่างที่ไม่ควรโลภมาก จั๋วฟู่ไห่ก็คือตัวอย่างชั้นดี!”
กล่าวตามตรงถึงแม้จั๋วไท่หยวนจะเป็คนเห็นแก่ตัว แต่เขาต้องยอมรับว่าจั๋วฟู่ไห่เป็ผู้นำตระกูลที่ไม่เลวจริงๆ น่าเสียดายที่ไม่รู้จักกาลเทศะ สุดท้ายก็ลากตระกูลจั๋วไปเกี่ยวด้วย
เมื่อเทียบกันแล้วเขาไม่เพียงเป็พวกทำการใหญ่ไม่สำเร็จ อีกทั้งยังได้อำนาจมาอย่างง่ายดายทำให้อาจจะประมาทโดยไม่รู้ตัว ในอนาคตจะประสบความสำเร็จอะไรได้?
……
เมื่อนึกถึงอนาคตของตระกูลจั๋ว จั๋วไท่หยวนก็กังวลมากเช่นกัน เขารู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถรักษากิจการของตระกูลไว้ได้ แต่ถ้าให้เขาเริ่มใหม่อีกครั้ง เขาก็ยังคงกลับไปเลือกทางเดิม ถึงอย่างไรมนุษย์ล้วนเห็นแก่ตัว เขาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“ใช่แล้ว ่นี้พวกเขาทำอะไรกันบ้าง?”
จั๋วไท่หยวนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา มิได้ไปคิดเื่ไม่เป็เื่พวกนั้นอีก ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดคือเื่ที่สำคัญที่สุด
จั๋วเหล่าเอ้อกล่าวพลางหัวเราะ “พวกเขาจะทำอะไรได้? วันๆ เอาแต่เฝ้ารอข่าวของจั๋วฟู่ไห่อยู่ในเรือน...พวกเขายังไม่ตายใจ แล้วก็่สองวันนี้พวกเขาอารมณ์ร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าทำอะไรก็ด่าทอทุบตีคนใช้ มีคนใช้ไม่น้อยที่ทนไม่ไหว ขอลาออกกันหมดแล้ว ถ้าเป็เช่นนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่คนรับใช้พวกเขาก็ไม่เหลือแล้ว”
“ปล่อยพวกเขาไปเถอะ!”
จั๋วไท่หยวนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ทำท่าทางราวกับตัวเองเป็คนโดน “ใครที่เจอเื่เช่นนี้แล้วไม่ระบายอารมณ์สิถึงจะแปลก!”
“ท่านพ่อหลังจากกำหนดโทษจั๋วฟู่ไห่ได้แล้ว จะจัดการกับจั๋วอวิ๋นเซียนกับจั๋วอวี้หวั่นอย่างไรดี? แล้วก็ไอ้แก่เยี่ยนชางเป่ยด้วย?”
“เยี่ยนชางเป่ยต้องโดนคนของนิกายเซียนโม่เหมินพาตัวไปอยู่แล้ว เื่นี้พวกเราห้ามยุ่งเด็ดขาด หลีกเลี่ยงลูกหลงไปด้วย พลังของจั๋วอวี้หวั่นถูกผนึกแล้ว คงสร้างเื่อะไรไม่ได้ ส่งไปตระกูลสีแล้วกัน ในอนาคตอาจจะถูกรังแกบ้าง แต่ก็ไม่ต้องกังวลเื่เสื้อผ้าอาหาร สำหรับจั๋วอวิ๋นเซียน...”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้จั๋วไท่หยวนรู้สึกลังเล
จั๋วเหล่าเอ้อทำท่าปาดคอ “จัดการเลยใช่หรือไม่?”
“ไม่ได้!”
จั๋วไท่หยวนถลึงตาใส่จั๋วเหล่าเอ้อ เค้นเสียงกล่าวว่า “ทำไมเ้าไม่ใช่สมองคิดให้ดีๆ เสียบ้าง ถึงอย่างไรคนคนนี้ก็มีป้ายพิเศษของสำนักเซียนเทียนซู หากเขามีภูมิหลังอะไรจริงๆ ต้องมิใช่สิ่งที่พวกเราสามารถต่อกรได้แน่ เื่นี้ทางที่ดีที่สุดคือส่งให้ตระกูลซีโหลวไปจัดการ...คนตระกูลซีโหลวล้วนเป็พวกโเี้อำมหิต ไม่มีทางเก็บตัวอันตรายไว้แน่ จั๋วอวิ๋นเซียนก็เป็คนฉลาด ต่อให้จะไม่มีพลังแล้ว ในอนาคตก็ยังเป็ตัวอันตราย”
จั๋วเหล่าเอ้อยักไหล่อย่างไม่สนใจ “ในเมื่อเขาฉลาดขนาดนี้ ทำให้กลายเป็คนเอ๋อก็พอแล้ว”
จั๋วไท่หยวนพยักหน้า “นี่เป็วิธีที่ไม่เลว ถือว่าเหลือเืเนื้อเชื้อไขให้จั๋วฟู่ไห่”
……
พ่อลูกสองคนพูดคุยกันสนุกสนาน เหมือนพวกเขาจัดแจงโชคชะตาให้พวกจั๋วอวิ๋นเซียนหมดแล้ว
ทว่าสองวันผ่านไป ก็มีข่าวแพร่กระจายไปทั่วเมืองตงหลิง
สองพี่น้องกับพ่อบ้านตระกูลจั๋วหลบหนีความผิด จนถึงตอนนี้ยังหาเบาะแสไม่พบ
