ขณะเดียวกัน นอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ กลุ่มเรือบินจำนวนมากกำลังบินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับอสูรระดับกึ่งจักรพรรดิที่ส่งเสียงคำรามดังก้อง ในนั้นมีกองกำลังจากตระกูลหง นิกายเหอฮวน ที่โจมตีหานิก่อนหน้านี้ สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียด หลายคนแสดงออกถึงความลังเลและความไม่เต็มใจ
พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพราะ้า แต่มาเพราะถูกบังคับโดยนายน้อยของตระกูลอู๋ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราเื และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนนกะ หน้าที่ของพวกเขาคือมากดดันดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะ และหากทุกอย่างบานปลาย แทนที่จะเป็การเจรจาข่มขู่ พวกเขาอาจจะต้องต่อสู้กันจริงๆ
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่หวาดกลัว เพราะว่าพวกเขารู้เื่ที่บางคนไม่รู้นั้นคือกองกำลังของพวกเขาทั้งหมดจะถูกใช้เป็เหยื่อล่อคนที่แข็งแกร่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกกองกำลังดังนั้นก็ยังมีบางคนที่แววตาเปล่งประกายด้วยความโลภ เพราะหากสามารถทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะล่มสลายได้ ของล้ำค่ามากมายคงตกอยู่ในมือของพวกเขา
ทว่าก่อนที่พวกเขาจะได้ลงมือ แสงสว่างแห่งวาร์ปพลันปรากฏขึ้นขวางหน้า จากภายในนั้น หานิ หลัวหยุนไห่ จ้าวหงหลง และไป๋จิงเซิน ปรมาจารย์แห่งยอดเขาทั้งสี่ก้าวออกมาพร้อมกัน
กองกำลังทั้งหมดหยุดการเคลื่อนไหวทันที
ผู้าุโตระกูลอู๋ที่ยืนอยู่บนหลังอสูรระดับกึ่งจักรพรรดิต้องรีบประสานมือแล้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“สวัสดี ปรมาจารย์ยอดเขาทั้งสี่ท่าน”
แต่หานิกลับไม่ได้สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย นิ้วของเขายกขึ้น แสงสว่างอันเจิดจ้าปกคลุมท้องฟ้า ทุกคนที่อยู่รอบๆ ถูกแสงนั้นแยงตาจนวิสัยทัศน์ขาดหายไปชั่วขณะ และคนที่มีการบ่มเพาะต่ำกว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดตาบอดในทันที แม้ว่าในกองทัพนี้จะไม่มีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เพราะจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดไปรวมตัวกันที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะแล้ว
ไป๋จิงเซินไม่รอช้า เขารวบรวมพลังิญญาก่อนจะเปิดรูปแบบกักขังและรูปแบบลดพลังการเคลื่อนไหวขนาดมหึมาที่ถูกสร้างเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว มันแผ่พลังออกมาจนปิดกั้นอากาศโดยรอบ ไม่เพียงแค่พวกศัตรูจะขยับตัวลำบากและอ่อนแอลงเท่านั้น แต่พวกเขายังไม่สามารถเปิดแหวนมิติได้อีกด้วยเมื่ออยู่ในรูปแบบนี้
เมื่อทุกอย่างพร้อม กองกำลังทั้งหมดถูกขังอยู่ภายในรูปแบบอย่างสมบูรณ์ จ้าวหงหลงแสยะยิ้ม เขาเปิดแหวนมิติ ก่อนที่อาวุธนักบุญจำนวนมากจะถูกดึงออกมาและลอยอยู่กลางอากาศ
“เก็บสมองของพวกเ้า….ไปใช้ในชีวิตหน้าด้วยละ…เพื่อจะได้หายโง่”
เขาโยนอาวุธเ่าั้เข้าไปในรูปแบบของไป๋จิงเซิน พร้อมกับกล่าวเพียงสั้นๆ
“ะเิซะ”
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
เสียงะเิดังสนั่นหวั่นไหว พลังทำลายล้างแผ่กระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้า แรงอัดกระแทกทำให้พื้นนอกรูปแบบสั่นะเือย่างรุนแรง
อาวุธระดับนักบุญเพียงชิ้นเดียวหากะเิออกมาก็สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้ยอดฝีมือระดับกึ่งจักรพรรดิได้อยู่แล้ว แต่นี่คืออาวุธนักบุญนับหมื่นชิ้น!
ภายในรูปแบบที่กักขังเอาไว้ พลังทำลายล้างอันมหาศาลทำให้ศัตรูที่ติดอยู่ภายในไม่มีทางหนี บางคนยังคงสับสนจากการโจมตีก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาไม่ทันตั้งตัวต่อแรงะเิอันรุนแรง
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นทุกทิศทาง
“อ๊ากกกก ได้โปรดปล่อยข้าไป! ข้าถูกบังคับ!”
“ข้าไม่อยากตาย! ไม่!”
“ใครก็ได้ ช่วยข้าด้วย อ๊ากกกกก!”
ภายในรูปแบบกักขังนั้น ทุกอย่างกลายเป็ทะเลโลหิต เศษซากแขนขา อวัยวะภายใน และเืมากมายลอยกระจายไปทั่ว อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเื
“ทำไมข้าเปิดแหวนมิติไม่ได้!”
“ใครมียันต์เคลื่อนย้ายช่วยข้าด้วย! ได้โปรด!”
“เอาข้าออกไปด้วยได้โปรด!”
“อย่าทิ้งข้า!”
แต่ไม่ว่าใครจะร้องขอความช่วยเหลือสักแค่ไหน ก็ไม่มีสิ่งใดสามารถช่วยพวกเขาได้อีกแล้ว เสียงกรีดร้อง เสียงขอความเมตตา และเสียงโอดครวญ ทุกอย่างในตอนนี้เป็เพียงสิ่งที่สูญเปล่า แต่นี่เป็สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้
ผู้าุโตระกูลอู๋ที่พยายามป้องกันสุดชีวิตะโขึ้น
“พวกท่านทำอะไรกัน พวกเราแค่มาพูดคุยกันก็เท่านั้น ทำไมพวกท่านถึงได้กระทำการอันโหดร้ายแบบนี้กัน”
ตูม!!
และนั้นก็เป็เสียงสุดท้ายของเขาก่อนที่มันจะหายไปในที่สุด
หานิยืนมองเศษซากเืที่กระจัดกระจายเต็มพื้นด้วยสายตาเรียบเฉย ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ในขณะที่ไป๋จิงเซินเหลือบมองภาพอันน่าสยดสยองเบื้องหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มบาง "นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเ้าสินะ เ้าหนู"
หานิเพียงยิ้มรับ ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย "เอาล่ะ มาเริ่มกันเถอะ"
หานิยกมือขึ้นทันที เพื่อรูปแบบปกปิดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า แผ่ขยายออกจนคลุมพื้นที่ทั้งหมดรอบตัว ปิดกั้นสายตาของผู้ที่อยู่ภายนอกโดยสมบูรณ์ จากนั้นเขาหันไปมองอีก 3 ตน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็น
"มาเริ่มกลั่นให้พวกมันกลายเป็หุ่นเชิดกันเถอะ"
สิ้นสุดคำพูดของหานิ ทั้งสี่คนก็ลงมือทันที วัตถุดิบระดับจักรพรรดิถูกนำออกมาจากแหวนมิติ หลัวหยุนไห่และจ้าวหงหลงเป็คนที่ควบคุมเพลิงสำหรับกระบวนการหลอมหุ่นเชิด ขณะที่ไป๋จิงเซินกวาดมือเบาๆ เศษซากศพ เื และกระดูกจำนวนมหาศาลลอยขึ้นมารวมตัวกันกลางอากาศ ก่อนจะถูกส่งไปหาหานิ
หานิหยิบแม่พิมพ์หุ่นเชิดออกมา พลางใช้พลังควบคุมเศษซากเ่าั้หลอมรวมเข้าไปในแม่พิมพ์ เสียงไฟลุกไหม้ดังสะท้อนไปทั่วท้องฟ้า บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นของเถ้าธุลีและโลหะที่กำลังถูกหลอมละลาย
เสียงิญญาผู้าุโตระกูลอู๋กรีดร้องดังขึ้น
“พวกแกมันปีศาจ… ไอ้พวกปีศาจ… พวกแกกล้าใช้วิชาชั้นต่ำแบบนี้… ลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองเป็ดินแดนศักดิ์สิทธิ์…. อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา”
เสียงิญญาของกึ่งจักรพรรดิอีกคนดังขึ้น
“ไอ้พวกปีศาจ…พวกแกรอรับความโกรธของนายน้อยอู๋ได้เลย”
“ข้าจะไปรอพวกเ้าในนรก…”
ทั้ง 4 คนไม่ได้สนใจเสียงของเสียงิญญาเ่าั้แม้แต่น้อย พวกเขาทั้ง 4 คนต่างมีสีหน้าที่เรียบเฉย
ขณะที่กระบวนการหลอมยังคงดำเนินไป ไป๋จิงเซินเอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจนัก "เ้าไม่เป็ห่วงศิษย์ของเ้าหรือไง?"
หานิหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย "ท่านพูดราวกับว่าพวกเขาสามารถตายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะได้งั้นแหละ ฮ่าฮ่าฮ่า!"
หลัวหยุนไห่และจ้าวหงหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็พากันหัวเราะตามไปด้วยความขบขัน ขณะที่ไป๋จิงเซินเพียงส่ายหัวเบาๆ พร้อมคิดในใจว่าเขาไม่น่าถามอะไรที่ดูไร้สมองแบบนั้นเลยจริงๆ
ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะ
บนท้องฟ้า ออร่าทรงพลังของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 47 คนพุ่งทะยานขึ้นปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า 33 คนมาจากตระกูลอู๋และกองกำลังอื่นๆ ส่วนอีก 14 คนเป็ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะ แรงกดดันมหาศาลแผ่ซ่านออกไปทั่วทั้งดินแดน
ขณะที่ด้านหนึ่ง ภายในเรือบินของตระกูลอู๋ ชายคนหนึ่งนามว่า อู๋จ้าว กำลังเสพสุขกับหญิงสาวสองนางอย่างสำราญ เสียงหัวเราะคิกคักดังลอดออกมาจากห้องแห่งนั้นอย่างรื่นเริง
"พี่ชายอู๋ ข้าไม่ไหวแล้ว...อ๊า~" หญิงสาวคนหนึ่งครางเสียงแ่เบาออกมา
"สามี ข้าก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน... เอวของข้ามันไม่สามารถขยับได้อีกแล้ว" อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น
ขณะนั้นเอง สาวใช้ในชุดเรียบหรูเดินเข้ามาพร้อมกับค้อมตัวลงก่อนจะเอ่ยรายงานด้วยน้ำเสียงนอบน้อม "นายน้อย ทุกอย่างพร้อมแล้วขอรับ"
อู๋จ้าวที่ได้ยินดังนั้น หัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัวอย่างอ้อยอิ่งด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว "ไปกันเถอะ ข้าจะพาพวกเ้าไปพบทาสสาวคนใหม่ของข้าเองรวมถึงอดีตคู่หมั้นของเ้าด้วย"
หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงสีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ "ข้าไม่นับไอ้คนน่ารังเกียจนั่นเป็คู่หมั้นเด็ดขาด!"
อู๋จ้าวหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันไปมองหญิงสาวอีกคนที่กำลังสวมเสื้อผ้า "ถ้างั้นข้าจะพาพี่สาวจางไปพบศิษย์ของเขาก็แล้วกัน"
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าพี่สาวจาง พูดด้วยความเย้ยหยัน "ข้าไม่มีศิษย์ที่ทำตัวทุเรศแบบนั้น!"
อู๋จ้าวหัวเราะอย่างพอใจ "โอเคๆ เช่นนั้นก็ถือว่าข้าไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน"
เขาจับเอวหญิงสาวทั้งสองขณะเดินออกจากห้องพร้อมกัน รอยยิ้มเ้าเล่ห์แต่งแต้มบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา เมื่อออกมาด้านนอก ดวงตาของเขาก็เหลือบไปเห็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 33 ที่กำลังแผ่แรงกดดันมหาศาลใส่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะ
แต่ทันใดนั้นเอง...
เสียงแจ้งเตือนแปลกประหลาดก็ดังขึ้นในหัวของเขา
[ติ้ง!! ตรวจพบบุตรแห่งโชคชะตา]
[ติ้ง!! ตรวจพบบุตรแห่งโชคชะตา]
...
...
[ติ้ง!! ตรวจพบบุตรแห่งโชคชะตา]
[ติ้ง!! ตรวจพบธิดาแห่งโชคชะตา]
[ติ้ง!! ตรวจพบธิดาแห่งโชคชะตา]
[ติ้ง!! ตรวจพบธิดาแห่งโชคชะตา]
[ติ้ง!! ตรวจพบธิดาแห่งโชคชะตา]
...
...
...
[ติ้ง!! ตรวจพบธิดาแห่งโชคชะตา]
อู๋จ้าวที่ยืนอยู่กับที่พลันชะงัก ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มชั่วร้ายจะปรากฏบนใบหน้า
"หึหึ... ช่างน่าสนใจจริง เล่ยเฉิน เอ๊ย.. เ้านำจ้ามาพบมหาสมบัติแล้ว"
อู๋จ้าวแลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น ั้แ่ที่เขามายังโลกใบนี้ ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ในชีวิตก่อน เขาเป็เพียงลูกจ้างธรรมดา ทำงานหนักแต่ค่าตอบแทนต่ำ ถูกกดขี่และใช้ชีวิตไปวันๆ จนสุดท้ายก็ต้องตายจากการตรากตรำทำงานเกินกำลัง แต่โชคชะตากลับไม่ทอดทิ้งเขา มันให้เขาได้เกิดใหม่ในโลกแห่งการบ่มเพาะ และไม่เพียงแค่นั้น เขายังเกิดมาในฐานะบุตรของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งตระกูลอู๋และมีแม่ที่มาจากโลกเบื้องบน
พ่อของเขาแข็งแกร่งราวกับเทพเ้า ส่วนแม่ของเขาก็เป็หญิงลึกลับที่มาจากสถานที่อันไม่อาจหยั่งถึง นอกจากนี้ เขายังได้รับ ระบบวายร้าย ระบบที่มีหน้าที่หลักคือปล้นโชคชะตาของเหล่าบุตรแห่งโชคชะตา
ด้วยพลังของระบบและอำนาจของตระกูล เขาใช้ชีวิตโดยไม่ต้องสนใจสิ่งใด เขามีทุกอย่าง ฆ่าทุกคนที่ขวางทางเขา และเดินทางไปทั่วโลกเพื่อทำลายอนาคตของเหล่าบุตรแห่งโชค พร้อมแย่งชิงหญิงงามของพวกมันมาเป็ของตัวเอง
จนกระทั่งไม่กี่อาทิตย์ก่อน ระบบแจ้งเตือนว่า ยังมีบุตรแห่งโชคคนหนึ่งที่ยังไม่ตาย และมันอยู่ที่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะ ความหยิ่งยโสและอำนาจที่เขามี ทำให้เขาไม่แม้แต่จะสนใจว่าอีกฝ่ายเป็สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุนับล้านล้านปีหรือว่าเป็กองกำลังที่มีพื้นฐานมาจากโลกเบื้องบน หากมันกล้าขัดขวางเขา มันก็สมควรพังพินาศไปเสีย
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นมากกว่านั้นคือ การที่ระบบแจ้งเตือนว่ามี บุตรแห่งโชคชะตาและธิดาแห่งโชคชะตา จำนวนมากกระจุกตัวอยู่ที่นี่
รอยยิ้มแห่งการเหยียดหยามปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ก่อนจะกวาดตามองรอบๆ และเห็นมู่หนานซือ รูปร่างหน้าตาของนางช่างงดงามจนเขาแทบจะห้ามใจตัวเองไว้ไม่ไหว และยังมีสาวงามอีกมากมายที่อยู่ทั้ง ฟู่เยว่ชาน หยุนเจินอิง หลิงหรูเหอ จี้อี้เหริน แต่เขาก็เก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้พร้ะโกนออกมา
"ไอ้หมาสกปรกเล่ยเฉิน เ้าอยู่ไหน ออกมานี่ซะ!"
สายตาของเขากวาดไปทั่ว ก่อนจะพบเป้าหมายของเขา เล่ยเฉิน ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ข้างกายเขามีหญิงสาวผู้เลอโฉมยืนอยู่ นั้นคือหรงหลี่เซียนและซูไป๋หนิง อู๋จ้าวเลียริมฝีปากอีกครั้งก่อนจะหัวเราะเย้ยหยัน
"เ้ายังคงมีสาวงามข้างกายเช่นเดิมสินะ"
เมื่อพูดจบ เขาก็ดึงหญิงสาวสองคนที่อยู่ข้างกายเข้ามาโอบ มันคือ อดีตคู่หมั้นของเล่ยเฉิน และอีกคนคือ อาจารย์ ของเล่ยเฉินเอง
ทุกสายตาจับจ้องมาที่เล่ยเฉิน ทว่าเขากลับยังคงนิ่งเฉย ไม่ได้ตอบโต้หรือแสดงอารมณ์ใดๆ ใบหน้าของเขายังคงประดับด้วยรอยยิ้มอันบางเบา ไร้ซึ่งความหวั่นไหว
อู๋จ้าวเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะเสียงดัง "ฮ่าฮ่าฮ่า! เ้าไม่คิดจะก้มหัวขอร้องข้าอีกครั้งแล้วงั้นหรือ?"
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เล่ยเฉินกลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"เ้าเลิกเห่าได้แล้ว…. ข้าฟังไม่รู้เื่!"