จ้าวม่านเค่อมองหน้าหลานสาวด้วยความรักและรู้สึกผิดปนกันไปมา"หลานมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวย่าให้คนเอาน้ำหวานกับของหวานมาให้หลานกิน"คุณย่าบอกและกดกริ่งที่อยู่ข้างโซฟา เพื่อเรียกคนรับใช้ ก่อนจะสั่งให้ให้คนรับใช้เอากระเป๋าเดินทางของหลานสาวไปเก็บที่ห้องรับแขก และสั่งให้เอาน้ำและของหวานมาด้วย
หลังจากที่คนรับใช้ นำน้ำและของหวานมาเสิร์ฟแล้ว คุณย่าก็ทำมือไล่คนรับใช้ให้ออกไป เมื่อในห้องรับแขกไม่มีใครอยู่แล้ว มือเหี่ยวย่นแต่ทรงพลังของท่าน ก็จับมือของจ้าวเวยเวยหลานสาวเอาไว้แน่น ก่อนจะส่งสายตารู้สึกผิดและเสียใจไปให้หลานสาว
จ้าวเวยเวยมองคุณย่า และเอ่ยถามว่า"คุณย่ามีอะไรหรือคะ"
“เวยเอ๋อร์…ย่าไม่รู้ว่าที่หลานเดินทางมาเซี่ยงไฮ้ พ่อของหลานได้เล่าเื่เกี่ยวกับตระกูลของเรา ให้กับหลานฟังหรือเปล่า”จ้าวม่านเค่อถามหลานสาว นางจำเป็ต้องรู้ก่อนว่า หลานสาวของนางรับรู้เื่ราวมากแค่ไหน
จ้าวเวยเวยส่ายหัวและพูดว่า"คุณพ่อบอกแค่ว่า ทางคุณย่าทวดท่านจะไม่ไหวแล้ว คุณย่าเลยโทรศัพท์หาคุณพ่อให้ส่งฉันมาที่เซี่ยงไฮ้ เพื่อมาพบท่าน"
“พ่อของหลานไม่ได้บอกเื่คำสาปแช่งของตระกูลให้หลานรู้สินะ”จ้าวม่านเค่อกล่าวเสียงเบา แต่จ้าวเวยเวยก็ยังได้ยิน
จ้าวเวยเวยได้ยินคุณย่าบอกว่าคำสาป เธอเลยถามออกไปว่า“คำสาปหรือคะ มันคืออะไร?”
จ้าวม่านเค่อมองหลานสาว อย่างเสียใจและไม่มีทางเลือก"หลานสาวของย่า หลานสาวของย่า ย่าขอโทษนะ"
จ้าวเวยเวยใ ที่อยู่ๆคุณย่าก็ร้องไห้ออกมา"คุณย่ามาขอโทษฉันเื่อะไรคะ คุณย่าไม่ได้ทำอะไรผิดกับฉันนะคะ"จ้าวเวยเวยรู้สึกใจคอไม่ดีเลย
จ้าวม่านเค่อเช็ดน้ำตา และพูดว่า"ที่ย่าเรียกหลานมาในครั้งนี้ เป็เพราะคำสาปที่ครอบครัวของเราต้องเผชิญมาตลอด90กว่าปี"
จ้าวเวยเวยเงียบ และมองใบหน้าเคร่งเครียดของคุณย่าอย่างตั้งใจฟัง
“บรรพบุรุษคนหนึ่งคนหนึ่งของตระกูลเรา เมื่อ90กว่าปีก่อน ที่ทำผิดกับผู้หญิงคนนั้นที่เป็ภรรยา ด้วยความเ้าชู้ มักมากไม่รู้จักเพียงพอ และยังรวมไปถึงบรรพบุรุษคนอื่น ๆ ในตระกูลจ้าวของเรา ที่ร่วมมือกันขับไล่ภรรยาผู้อ่อนแอและลูกสาวที่ยังเล็กทั้งสองของเธอ ให้ออกออกไปจากตระกูลจ้าว ในข้อหาอกตัญญูไม่สามารถมีบุตรชายให้กับสามีได้ ทำให้เธอต้องหอบลูกสาวทั้งสองและลูกในท้อง เดินทางท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บและหิมะ พาลูกสาวทั้งสองเดินทางขึ้นรถไฟไปเซี่ยงไฮ้ แต่ใครจะรู้ว่าการขึ้นรถไฟไปเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ จะทำให้เธอสูญเสียลูกสาวคนโตไป และยังต้องมาสูญเสียลูกในท้องไปอีกคน ก่อนที่เธอจะส่งมอบลูกสาวคนเล็ก ที่เหลืออยู่คนเดียวของเธอ ให้กับคนรู้จักในเซี่ยงไฮ้ และเธอได้ทำการ…"จ้าวม่านเค่อเล่ามาถึงตรงนี้ เธอถึงกับหยุดเล่าและมองใบหน้าสวยของหลานสาวด้วยความสงสาร
จ้าวเวยเวยเห็นคุณย่าหยุดเล่า และมองมาที่เธอ ทำให้เธอส่งยิ้มให้คุณย่า ถึงแม้ในใจของเธอจะรู้สึกเจ็บแปลกๆก็ตาม
จ้าวม่านเค่อเห็นว่าหลานสาวไม่เป็อะไรที่ได้ฟังเลยนี้ นางก็เล่าต่อว่า"หลังจากที่เธอส่งลูกสาวคนเล็กให้กับคนรู้จักแล้ว ภรรยาผู้นั้นก็ตัดสินใจที่จะ…ฆ่าตัวตาย โดยเขียนจดหมายเืสาปแช่งทุกคนในตระกูลจ้าว ที่ทำผิดต่อเธอและลูกๆของเธออย่างโกรธแค้น ด้วยการสาปแช่งให้คนตระกูลจ้าวของเราจะไม่มีลูกชายเกิดมาสืบสกุลอีกต่อไป เว้นแต่…”จ้าวม่านเค่อได้หยุดพูดและมองไปที่หลานสาว
จ้าวเวยเวยที่กำลังฟังอย่างตั้งใจ เอ่ยถาม"เว้นแต่อะไรคะคุณย่า"
“หลายสิบปีที่ผ่านมา ทุกคนในตระกูลพยายามหาวิธีที่จะแก้ไขคำสาปของตระกูล จนเมื่อสิบกว่าปีก่อนพวกเขาก็หาวิธีแก้คำสาปได้แล้ว"จ้าวม่านเค่อกล่าว
“วิธีแก้คำสาปคืออะไรคะ”จ้าวเวยเวยถาม
"คือคนในตระกูลจะต้องได้รับการอภัยจากภรรยาผู้นั้น”จ้าวม่านเค่อกล่าวเสีงแหบแห้ง จนต้องยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม
จ้าวเวยเวยฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว"คุณย่าค่ะ ภรรยาคนนั้นที่สาปแช่งตระกูลของเรา เธอตายไปนานมากแล้วนะคะ เราจะให้เธออภัยให้ได้ยังไง แล้วเราจำเป็ต้องให้เธอยกโทษให้ด้วยหรือคะ ไหนเมื่อตระกูลจ้าวของเราก็ยังมีลูกชาย เกิดมาถึงสองคนอย่างคุณพ่อกับคุณลุง"
คุณย่าจ้าวม่านเค่อส่ายหน้า ก่อนจะพูดว่า"คุณลุงของหลานที่จริงแล้ว ไม่มีสายเืของตระกูลจ้าว คนที่มีสายเืของตระกูลจ้าว มีแค่พ่อของหลาน ซึ่งก็เป็ผู้ชายคนเดียวที่เกิดมาในรอบ90กว่าปีนี้ หลังจากที่พ่อของหลานเกิดมา ตระกูลของเรา ก็ไม่เคยให้กำเนิดลูกชายอีกเลย"
“สมัยนี้แล้ว การไม่มีลูกชายก็ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไรนี้ค่ะ จำเป็ด้วยหรือ…ที่จะต้องแก้คำสาป"จ้าวเวยเวยถาม ลูกสาวก็สามารถสืบสกุลได้แล้วในยุคสมัยนี้
“เป็เพราะผลของคำสาป นอกจากทำให้ตระกูลของเราไม่มีลูกชายแล้ว ยังทำให้ผู้หญิงที่เกิดมาในตระกูล เริ่มอ่อนแอลงและบางคนไม่สามารถมีลูกได้แล้ว สิ่งที่ย่ากลัวมากกว่าเดินก็คือ พ่อของหลานอาจจะได้รับผลกระทบจากคำสาปด้วย”
“แล้วเราต้องทำยังไง ถึงจะลบล้างคำสาปได้คะ”จ้าวเวยเวยถามคุณย่า เมื่อได้ยินว่ามีอาจจะมีผลกระทบกับพ่อของเธอ
“จากที่ค้นหามาอย่างยาวนาน ทำให้มีคนในตระกูลค้นพบวิธีที่จะแก้คำสาปได้ ซึ่งจะต้องให้คนในคำทำนายที่จะทำให้ตระกูลของเราหลุดพ้นจากคำสาป เดินทางไปแก้ไขและขอรับการอภัยจากภรรยาผู้นั้น"จ้าวม่านเค่อกล่าว
“แล้วใครคืนคนในคำทำนาย?แล้วจะไปขอให้คำที่สาปแช่งตระกูลยอมยกโทษให้ยังไง ต้องไปที่หลุมฝังศพของภรรยาผู้นั้นหรือคะ?”จ้าวเวยเวยถาม
“ไม่ต้องไปที่หลุมฝังศพที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน”จ้าวม่านเค่อส่ายหน้าให้หลานสาว
“แล้วต้องทำยังไงถึงจะแก้ไขได้ค่ะ ยิ่งฟังฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจ แล้วคนในคำทำนายอะไรนั้น คือใครคะ?เป็คนในตระกูลของเราหรือเปล่า”จ้าวเวยเวยถาม
“ใช่ เธอเป็คนในคำทำนาย เป็คนที่ทุกคนในตระกูลเฝ้ารอมาอย่างยาวนาน”จ้าวม่านเค่อกล่าวและจ้องไปที่หลานสาว"คนคนนั้น ก็คือคนที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าของย่าแล้วยังไงละ”จ้าวม่านเค่อกล่าวและจ้องไปที่หลานสาว ทำให้จ้าวเวยเวยรู้สึกขนลุกไปหมด อยู่ๆเสียงฟ้าก็ร้องเสียงดังจนทำให้จ้าวเวยเวยใ