ท่าเรือทิศใต้ของเกาะเทพั! วันนี้ปราศจากเวรยามมารตนใดทั้งสิ้น
บุรุษชุดดำกลุ่มหนึ่งค่อยๆ
ขึ้นเรือลำใหญ่อย่างช้าๆ!
บนดาดฟ้าเรือ กลุ่มคนชุดดำยกหมวก
เผยให้เห็นใบหน้าผอมแห้งขึ้นกระดูก พวกมันคือเหล่านักโทษของเกาะเทพั
ผู้นำขบวนของพวกมันก็คือศิษย์พี่รองแห่งพรรคเทพหมาป่า์
ศิษย์พี่รองพรรคเทพหมาป่า์กุมมือหวังเค่อน้ำตาคลอ
“ศิษย์น้อง
เ้าต้องลำบากแล้ว!” ศิษย์พี่รองตื้นตันใจสุดจะกล่าว
“ศิษย์พี่หวัง
โปรดรับการคารวะจากพวกเราด้วย!” ศิษย์คนอื่นๆ จากพรรคอื่นปาดเช็ดน้ำตา
โค้งคารวะต่อหวังเค่อด้วยความสำนึกขอบคุณ
หลายปีที่ผ่านมา
พวกมันคิดว่าต้องมาทิ้งชีวิตไว้บนเกาะแห่งนี้
คำวิงวอนขอร้องต่อฟ้าดินของมันล้วนว่างเปล่า ไม่มีใครมาช่วยพวกมันทั้งสิ้น ที่เผชิญหน้าอยู่มีเพียงความสิ้นหวัง
ถูกกักขังขุนไว้ไม่ต่างจากฝูงสุกร รอจนอ้วนพีจึงถูกต้อนไปเชือด
ไหนเลยจะยังมีสภาพความเป็คนเหลืออยู่ พวกมันหลายคนแหลกสลาย
อดอาหารเพื่อร้องขอความตาย
พวกมันหมดสิ้นความหวังที่จะได้รับการช่วยเหลือ
ไม่คาดว่าวันนี้จะมาถึง
“ทุกท่าน ถึงที่นี่แล้ว
ไม่ต้องพูดอีกแล้ว!” หวังเค่อสั่นศีรษะ
“ไม่ ข้ายังอยากพูด
ก่อนหน้านี้ บางคนบอกว่าท่านเล่นไพ่นกกระจอกกับพวกศิษย์พรรคมาร? ทั้งยังบอกว่าท่านหลอกลวง? ใครกัน?” ศิษย์พี่รองด่าทอไปทางกลุ่มคนด้านหลัง
หลายคนทางด้านหลังของมันก้มศีรษะต่ำลง
“พวกเ้าล้วนเห็นแล้วหรือไม่?
ศิษย์น้องของข้า ระมัดระวังทุกย่างก้าว คาดคำนวณทุกการเคลื่อนไหว
ทำไมพวกเราถึงออกมาได้ครั้งนี้? มิใช่เพราะศิษย์น้องจัดงานแข่งไพ่กระจอกให้พวกมันได้เล่นกันหรอกหรือ?
มีแต่ต้องทำอย่างนั้นศิษย์น้องถึงจะช่วยเหลือพวกเ้าออกมาได้!
หรือมโนสำนึกของพวกเ้าล้วนถูกสุนัขรับประทานไปหมดแล้ว!”
ศิษย์พี่รองเอ่ยอย่างขุ่นเคือง
“พี่หวัง
พวกเราขออภัยต่อท่าน! พวกเราไม่ควรสงสัยท่าน!” ทันใดนั้น
หลายคนในกลุ่มร่ำร้องออกมา น้ำตาไหลด้วยความสำนึกผิด
หวังเค่อค่อยๆ
พยุงพวกมันลุกขึ้นทีละคน
“ทุกท่าน อย่าทำอย่างนี้เลย
ข้าไม่โทษว่าพวกท่าน ข้าหวังเค่อกระทำการมักผิดแผกแตกต่างจากคนทั่วไป
ไม่อาจโทษว่าพวกท่านเข้าใจผิดได้! งานแข่งไพ่นกกระจอกครั้งนี้
เพื่อดึงดูดความสนใจของศิษย์ลัทธิมาร
ข้าถึงกับทุ่มเงินที่ข้าชนะสะสมมาหลายวันออกไปจนหมดสิ้น!”
หวังเค่อพลันเอ่ยออกมาอย่างน่าเชื่อถือ
เหล่านักโทษไหนเลยจะรู้ว่าหวังเค่อไม่ได้แม้แต่แตะไพ่นกกระจอกแม้แต่น้อย
ยิ่งไม่มีทางเสียเงินพนันได้
“พี่หวัง ขออภัยด้วย
ขออภัยยิ่ง พวกข้ายังมีหน้าไประแวงท่านอีก สมควรตาย!”
นักโทษท่านหนึ่งเ็ปเสียใจจนตีใส่ตนเอง
“อย่าทำเช่นนั้น
ทุกท่านล้วนเป็ศิษย์สำนักฝ่ายธรรมะ พวกเราฝ่ายธรรมะล้วนจิตใจเดียวกัน
ต่างต้องช่วยเหลือกันและกัน นี่คือสิ่งที่ข้าหวังเค่อสมควรกระทำ!” หวังเค่อรีบห้าม
“พี่หวัง
ข้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว จากนี้ในภายหน้า ขอเพียงพี่หวังออกปาก
ข้าไม่มีวันหลบเลี่ยง!”
“ข้าด้วย!”
“ข้าด้วย!”
.........
.........
......
......
...
...
ทุกผู้คนแสดงความสำนึกขอบคุณออกมา
“ขอบคุณทุกท่าน
ข้าย่อมต้องได้รบกวนพวกท่านในอนาคตแน่นอน เพียงแค่เพราะต้องปะปนเข้าสู่ลัทธิมาร
อาจยังมีข่าวลือไร้สาระแพร่กระจายออกไปอยู่
บอกว่าข้ามีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฝ่ายพรรคมาร
หรือบอกว่าข้าทรยศต่อพรรคฝ่ายธรรมะอันใด รบกวนพวกท่านหากถึงเวลานั้น
จะช่วยข้าล้างมลทินด้วย!” หวังเค่อเน้นย้ำ
“พี่หวัง อย่าห่วงไปเลย
ข้าไม่เชื่อใครที่ใส่ร้ายท่านหรอก!”
“ใช่แล้ว
หากคนดีมีคุณธรรมอย่างพี่หวังยังถูกให้ร้าย
อย่างนั้นฝ่ายธรรมะเรายังมีหน้าอยู่อีกหรือ?”
“พี่หวังอย่าห่วง
ใครที่กล้าปากพล่อย ข้าไม่เอามันไว้แน่!”
.........
.........
......
......
...
...
แต่ละคนต่างให้สัตย์สาบานคาดโทษกันไปรอบหนึ่ง
“นี่มิใช่ผู้อื่นใส่ร้ายป้ายสีข้า
แต่เป็เพราะข้าเพื่อช่วยเหลือนักโทษฝ่ายธรรมะ จำเป็ต้องเข้าปะปนกับพวกมาร
ยากยิ่งนักที่จะไม่มีคนเข้าใจผิดไป…!” หวังเค่อเอ่ยพลางยิ้ม
“พวกเราเชื่อท่าน!
ไม่ว่าเป็ข่าวลืออันใด พวกเราไม่มีทางเชื่อ!” กลุ่มชนกำหมัดแน่น
“ตกลง ขอเพียงพวกท่านเชื่อถือ
ก็คุ้มค่าแล้วที่ข้าเสี่ยงตายเข้ามาในรังมาร ทุกท่านกลับไปครานี้
ขออย่าได้เล่าเื่ของข้าให้ใครฟัง! ทางที่ดีให้ทำเหมือนไม่เคยเจอข้ามาก่อน!”
หวังเค่อเอ่ยอย่างคาดหวัง
“ทำไมกัน? พี่หวัง ท่านทำเื่มากมายปานนี้ สมควรได้รับการยกย่องจากฝ่ายธรรมะแท้ๆ!”
นักโทษฝ่ายธรรมะคนหนึ่งกล่าวอย่างเป็ห่วง
“ศิษย์น้องของข้ายังคงต้องแฝงตัวอยู่ในหมู่มาร
หากพวกเ้ากลับไปก็คุยโวโอ้อวด งั้นศิษย์น้องข้าไม่ถูกเปิดโปงหมดหรือ? พวกเ้าอยากให้ศิษย์น้องข้าถูกพวกมารทำร้ายจนตายหรือไง?” ศิษย์พี่รองทางด้านข้างพลัน “เข้าใจ” ขึ้นมา
“อ้อๆ เข้าใจแล้ว
พวกเราต้องเย็บปากให้สนิท!” ทุกคนลั่นวาจาให้คำมั่น
“เช่นนั้นก็ขอขอบคุณทุกท่านแล้ว
ทุกท่าน บนนาวานี้มีแผนที่เดินทะเล น่าเสียดายที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว
พวกท่านสามารถไปจากที่นี่ได้ทันทีและกลับสู่พรรคสำนักของท่านเพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด
ข้าไม่ส่งแล้ว!” หวังเค่อคารวะทุกคนคราหนึ่ง เดินลงจากเรือ
“พี่หวัง ไม่ไปกับพวกเราหรือ?”
ทุกคนท้วงถามอย่างกังวล
“ศิษย์น้องหวัง เ้าไม่ไปหรือ?”
ศิษย์พี่รองเองก็วิตกห่วงใย
“ข้า
ข้ายังต้องสะสางเื่หลังของพวกท่าน ไม่นานพวกมารย่อมพบว่ามีเรือหายไปลำหนึ่ง
เช่นนั้นไม่ว่าใครก็ไปไม่ได้แล้ว ข้าจะช่วยพวกท่านถ่วงเวลาพวกมันไว้เอง! ไปเถอะ!”
หวังเค่ออธิบาย
“พี่หวัง!” ทุกคนั์ตารื้น
นี่เรียกว่าใช้ชีวิตเพื่อสกัดภัยตามหลังแก่พวกเราชัดๆ
หวังเค่อคุณธรรมค้ำฟ้า
ผู้ที่ก่อนหน้านี้เคยเข้าใจผิดต่อหวังเค่อล้วนกลายเป็ละอายใจขึ้นมา
“ศิษย์น้อง
เช่นนี้อันตรายกับเ้าเกินไป!” ศิษย์พี่รองเอ่ยอย่างกังวล
“ศิษย์พี่รอง สายไปแล้ว
เชื่อข้า ไป ไป!” หวังเค่อะโลงจากเรือ ะโเร่ง
บนดาดฟ้า ศิษย์พี่รองเกลียดชัง
เกลียดชังตนเองที่ไร้สามารถ
กลายเป็ต้องสละชีวิตของศิษย์น้องเพื่อแลกกับให้มันหนีไปได้สำเร็จ
“ออกเรือ!”
ศิษย์พี่รองะโทั้งน้ำตา
นาวาทะเลพิษค่อยๆ เคลื่อนออกจากฝั่ง
หวังเค่อมองดูกลุ่มนักโทษฝ่ายธรรมะหายลับไปในหมอกควัน
บนดาดฟ้าของเรือใหญ่
ดวงตาของทุกคนยังคงเปียกชุ่ม ทั้งหมดล้วนสะท้านใจต่อหวังเค่อ
“ฟังให้ดี! ต่อไป
ข้าไม่้าให้มีใครให้ร้ายพี่หวังอีก ไม่ว่าจะมีใครบอกว่าหวังเค่อเป็มารร้าย
หวังเค่อเป็นายท้ายลัทธิมารอะไรนั่น ทั้งหมดห้ามเชื่อเด็ดขาด!”
“ใช่
พี่หวังเสี่ยงเข้าสู่รังมารเพื่อช่วยพวกเราเหล่าธรรมะ หากใครกล้าใส่ร้ายพี่หวัง
ข้าคือคนแรกที่จะจัดการมัน!”
“ต่อไปหากพี่หวังมีเื่ไหว้วานอันใด
ขอให้บอกข้า ข้าจะทุ่มเทสุดความสามารถ!”
.........
.........
......
......
...
...
กลุ่มนักโทษฝ่ายธรรมะหายลับไปในทะเลพิษท่ามกลางเสียงระงมเซ็งแซ่
ส่วนหวังเค่อ
กลับรีบเผ่นแผล็วไปยังท่าเรือไม่ไกลจากกระท่อมหลังหนึ่ง
ในห้องนั้น ยืนไว้ด้วยเนี่ยชิงชิง
รวมทั้งองค์หญิงโยวเยว่ที่สิ้นสติไปด้วยความอ่อนล้า
“หวังเค่อ
เ้าคิดทำอะไรกันแน่? “ เนี่ยชิงชิงส่งสายตาประหลาดมองดูหวังเค่อ
“เ้าตำหนักเนี่ย
อย่าเพิ่งถาม ไม่ทันแล้ว ถ้าข้ายังกลับไม่ถึงพรรคเทพหมาป่า์ล่ะก็ ซวยแน่!”
หวังเค่อยิ้มขื่น
“แต่เ้าจะไปเฉยๆ ไม่ได้!
เ้าจะไม่ดูแลเกาะเทพันี่แล้ว?” เนี่ยชิงชิงขมวดคิ้ว
”ดูแลค้อนตะปูอะไรกัน!
นายท้ายเทพัอะไร ก็แค่ป้ายเรืองแสงอันหนึ่ง! ใช่แล้ว ยังมีท่านอีกคน!
ถ้าไม่ใช่ได้จูหงอีช่วยออกคำสั่งให้พวกมารไปแข่งไพ่นกกระจอก
ข้าจะมาอยู่ตรงนี้ทำอะไร? นึกว่าพวกมารจะเชื่อฟังคำสั่งข้างั้นเหรอ?
เ้าตำหนักเนี่ย ท่านก็รักษาอาการาเ็ให้ดีเถอะ
ข้าก็บอกจูหงอีไปแล้วนี่? ข้าตั้งท่านเป็ผู้ดูแลเกาะเทพั
เกาะเทพันี้ท่านก็ดูแลไป ถ้าสนใจก็ดูเองแล้วกัน!” หวังเค่อยิ้มขื่น
“ข้าดู?” เนี่ยชิงชิงขมวดคิ้ว
“ใช่ จะเอายังไงก็ตามใจ!
อยากทำอะไรก็ทำ ยังไงก็มีท่านคนเดียว แน่นอน ท่านจะรับศิษย์เพิ่มให้ข้าก็ได้!
ข้าไม่สนหรอก!” หวังเค่อส่ายหน้า
เนี่ยชิงชิง “…!”
“ข้าต้องไปแล้ว
ชักช้าไม่ทันการณ์แล้ว!” หวังเค่ออุ้มองค์หญิงโยวเยว่เตรียมจากไป
“เอาเถอะ ถึงไม่เข้าใจสถานการณ์ของเ้า!
แต่ข้าก็หวังว่าเ้าจะไม่ได้เข้าสู่วิถีมาร ห้ามกินคนเด็ดขาด!” เนี่ยชิงชิงมุ่นคิ้ว
“กินคนกับผีน่ะสิ!
ถ้าข้ากินจริงยังจะกล้ากลับไปพรรคเทพหมาป่า์รึไง? ไม่กลัวท่านอาจารย์เชือดทิ้งหรือ?
เอาเถอะ ท่านยุ่งเื่ของท่านไป จูหงอีมิใช่จะไปตามจับตัวถงอันอันกับพวกหรอกหรือ?
พวกท่านเองก็มีเื่ต้องทำมากมาย ไม่คุยแล้ว!” หวังเค่อสั่นหน้า
“จูหงอีกำลังกวาดต้อนพรรคพวกของถงอันอันบนเกาะจริง
ทั้งหมดถูกจับเกือบหมด แต่ถงอันอันยังจับไม่ได้!” เนี่ยชิงชิงสั่นศีรษะ
“ถงอันอันหนีไปได้? หนีไปก็หนีไป ข้าไม่มีเวลามาสนใจแล้ว ไม่ทันแล้ว ไว้เจอกัน!”
หวังเค่ออุ้มองค์หญิงโยวเยว่ก่อนออกวิ่ง
เนี่ยชิงชิงส่งหวังเค่อและองค์หญิงโยวเยว่ลงนาวาทะเลพิษ
เรือใหญ่ล่องลอยโยกเยก
ก็ออกพ้นเกาะเทพัไป
ตอนนี้เอง จูหงอีร่อนกายลงจากฟ้า
ทิ้งตัวลงเบื้องหน้าเนี่ยชิงชิง
“เด็กน้อยนี่ ไปแล้ว? เื่ที่มันหลอกข้าที่เมืองจูเซียนยังไม่ได้อธิบายเลย!”
จูหงอีจ้องทิศทางที่หวังเค่อจากไป
เนี่ยชิงชิงส่งสายตาเ็าแก่จูหงอี
จูหงอีกล่าว “เอาละ เอาละ
ข้าไม่ถามแล้ว มันช่วยชีวิตเ้าต่อหน้ามารอริยะ น้ำใจยิ่งใหญ่นี้
ข้ายังจะตามทวงเื่เล็กน้อยได้ยังไง? ไม่ว่าอะไรก็ไม่ถามแล้ว!”
“เฮอะ!”
เนี่ยชิงชิงแค่นเสียงเย็น ออกเดินไปยังใจกลางเกาะเทพั
“ชิงเอ๋อร์ รอข้าด้วย!
ข้าตามเ้ามาเพราะกังวลว่าเ้ายังาเ็อยู่ ไม่ได้แอบฟังพวกเ้าคุยกัน
ข้าจะไม่เชื่อเ้าได้ยังไง? ชิงเอ๋อร์ รอด้วย !”
จูหงอีรีบไล่ตามไป
นาวาทะเลพิษแล่นออกจากเกาะเทพัทีละลำ
หวังเค่อวางร่างองค์หญิงโยวเยว่ลงบนดาดฟ้าเรือ
ก่อนมองดูลูกปัดโหยหาบนข้อมือ
“แคร่กก!”
ลูกปัดสิบแปดลูกแตกไปแล้วสาม
เพลิงดำบนร่างของมันเองก็กำลังจะลุกโชติ่สู่์
องค์หญิงโยวเยว่บอกว่ามันอาจเพียงพอยันไว้ได้ประมาณครึ่งเดือน
“เร็ว เร็วเข้า
ข้าต้องกลับไปพรรคเทพหมาป่า์โดยเร็วที่สุด
ที่วังหลวงต้าชิงเนี่ยชิงชิงสังหารมารร้าย แต่นางผนึกกุศลปราบมารไว้ในกระจกสะกดแสง
บอกว่าทั้งหมดเป็ของข้า! เร็วเข้า ข้าต้องกลับไป ต้องใช้กุศลช่วยชีวิต!”
หวังเค่อเร่งเรือ
นาวาทะเลพิษล่องผ่านทะเลไปไม่นาน
หวังเค่อก็ได้ยินเสียงคำรามจากเหนือทะเล
“ตูมมมม ตูมมมม ตูมมมม~~~~~~~!”
เสียงสะท้านะเืราวอสนีบาต
หวังเค่อหน้าบิดเบี้ยว
“ทะเลพิษอันตรายร้ายกาจ
นี่มันเสียงต่อสู้นี่? น่ากลัวจริง ไป ไป!”
หวังเค่อเร่งเรือเพื่อหลีกเลี่ยงด้วยพลังทั้งหมด
ต้นเหตุของเสียงคำรามนี้อยู่สูงเหนือทะเลพิษ
คนสี่คนยืนอยู่เหนือฟ้า
สองในสี่กำลังประมือกันอย่างสูสี
หนึ่งขาวหนึ่งดำ
เฉินเทียนหยวนและมารอริยะกำลังต่อสู้พัวพัน
พลังลมพายุคลุ้มคลั่งป่วนปั่นทั่วร่างทั้งสอง
ชัดเจนว่าพวกมันกำลังประมือกันอย่างดุเดือด
เหนือเมฆดำด้านหลังของมารอริยะคือเซิ่งจื่อที่กำลังมองดูการต่อสู้พลางตัวสั่นผวา
ด้านหลังเฉินเทียนหยวนคือบุรุษหนุ่มรูปงาม
หว่างคิ้วแต้มชาดที่ดูลักษณะแปลกตา
บุรุษงามนั้นปราศจากความหวั่นกลัวต่อการศึกอันเดือดพล่านเบื้องหน้า
หากกลับดูเหมือนกำลังมองดูอย่างสนอกสนใจ
เมื่อทั้งสองปะทะ
บุรุษหนุ่มรูปงามพลันขมวดคิ้ว มองดูหมอกหนาด้านล่าง
“เฉินเทียนหยวน? ข้าเหมือนจะเจอแล้ว!” บุรุษรูปงามแสยะยิ้มร้าย
ขณะแย้มยิ้ม มันก้าวเท้าออก
ก่อนจะหายไปจากทะเลพิษในพริบตา
เหนือทะเลพิษ
หวังเค่อเร่งความเร็วของนาวา
ขณะกำลังทะยานออก มันทอดสายตามองดูองค์หญิงโยวเยว่ที่นอนสลบไสลห่างออกไปไม่ไกล
ความอบอุ่นฉายชัดในแววตา มันอยู่ร่วมกับนางมา่ระยะเวลาหนึ่ง
นับว่าอกสั่นขวัญผวาอยู่บ้าง แต่ก็ผลิดอกออกผล
องค์หญิงโยวเยว่ยอมตกลงปลงใจเป็แฟนกับมัน
“ไม่ง่ายเลยกว่าจะออกจากเกาะเทพัได้!”
หวังเค่อยิ้มเจื่อนๆ มองดูองค์หญิงที่นอนไม่ห่างออกไป
ทันทีที่กล่าวจบ
เงาร่างหนึ่งก็พลันะโออกมา
“หวังเค่อ ไอ้ตอแหล!”
เงาร่างนั้นกระโจนออกมาพลางด่าทออย่างเผ็ดร้อน
หวังเค่ออ้าปากค้างอย่างแตกตื่น
ไอ้หมอนี่โผล่มาจากไหน? ข้าไม่รู้ตัวเลย! ทำไมจู่ๆ มีคนโผล่มา? นี่มันเรือเปล่านี่?
“ถงอันอัน?” หวังเค่ออุทาน
ถงอันอันะโออกมายืนหน้าองค์หญิงโยวเยว่ที่ไม่ห่างออกไป
กระบี่ยาวจ่อจรดลำคอของหญิงสาว
“จะทำอะไร?” หวังเค่อเค้นเสียงอย่างโกรธแค้น
“อย่าเข้ามา
ไม่งั้นข้าจะฆ่านางซะ!” ถงอันอันะโลั่น
สองตาคั่งด้วยน้ำตาจากความแค้นเคืองโศกศัลย์
หวังเค่อ “...!”
เ้ามันดวงธาตุทองคำชั้นสูง
ข้าก็แค่เซียนเทียนกระจอก ทำไมต้องกลัวข้าขนาดนั้น?
“หวังเค่อ เ้าเกินไปแล้ว
ข้าอุตส่าห์ซ่อนตัวบนเรือใหญ่เตรียมหนี เ้ากลับมาเลือกเรือลำที่ข้าเตรียมไว้
เ้าจงใจ เ้าจงใจใช่มั้ย!” ถงอันอันรัวด้วยความโกรธ มันอัดแน่นด้วยอารมณ์
“อย่าวู่วาม ถงอันอัน
อย่าเพิ่งวู่วาม วางกระบี่ลงซะ พูดกันดีๆ พูดกันดีๆ!” หวังเค่อเอ่ยอย่างร้อนใจ
“พูดดีผายลมเ้าสิ หวังเค่อ
เ้าจงใจขับเรือออกมาในทะเลพิษ อยากจะจับข้าไปสอบสวนงั้นสิ ใช่มั้ย?” ถงอันอันะโด้วยอารมณ์แตกตื่น
“ข้าเปล่า!
ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเ้าอยู่บนเรือ?” หวังเค่อเอ่ยอย่างกังวล
“ผายลม เมื่อกี้เ้าพูดออกมาเองว่า
“หนีออกจากเกาะเทพัไม่ง่ายเลย!” ข้าได้ยินนะ เ้าถากถางข้า! ใช่
เ้าคงรู้ตัวนานแล้วสินะ ข้าก็ยังโง่เง่าซ่อนตัวอยู่ในห้องท้องเรือ
ที่จริงเ้ารู้อยู่แล้ว!” ถงอันอันเต็มไปด้วยอารมณ์
“ข้าไม่รู้!
เ้าวางกระบี่ลงก่อนเถอะ ได้ ไม่งั้นเ้ามาจับตัวข้าไปแทน อย่าพาดกระบี่ใส่แฟนข้า!”
หวังเค่อต่อรอง
“ยังจะกล้าโกหกข้า? ยังจะกล้าโกหกข้า?” ถงอันอันคล้ายรู้สึกเหมือนถูกเยาะเย้ย
“ข้าไปโกหกอะไรเ้า?” หวังเค่อเอ่ยเสียงทะมื่น
“เ้ามันั์ใหญ่ทารกแกนิญญา
ข้าจะจับเ้าเป็ตัวประกันได้ยังไง ทันทีที่ข้าวางกระบี่ลง เ้าก็จะจับข้าสินะ
ใช่มั้ยล่ะ?” ถงอันอันยังคงพูดเปี่ยมอารมณ์เช่นเดิม
“ตาข้างไหนของเ้ามองเห็นว่าข้าคือั์ใหญ่ทารกแกนิญญาน่ะ?”
หวังเค่อเอ่ยเสียงหม่น
“เ้าพูดออกมาเอง!
เ้าบอกเองว่าตัวเองเป็ทารกแกนิญญา บอกว่าเป็สายลับเหรียญทองของท่านมารอริยะ!”
ถงอันอันตะคอกอย่างดุดัน
“แล้วเ้าก็เชื่องั้นสิ?
ก็เ้าเองที่ส่งปราชญ์พนันทักษิณมาลอบโจมตีข้านี่? เ้าไม่เชื่อว่าข้าคือชั้นทารกแกนิญญา เลยส่งพวกมันมาลอบสังหาร? ลืมไปแล้วหรือไง?” หวังเค่อเอ่ยเสียงขรึม
“ข้าถูกจูเยี่ยนหลอก!”
ถงอันอันตวาดอย่างโกรธแค้น
“ห๊ะ?”
“จูเยี่ยนบอกว่าเ้ามันแค่ชั้นเซียนเทียนที่มีอาวุธวิเศษปกป้องอยู่
ข้าเลยคิดว่าเ้าเป็ชนชั้นทารกแกนิญญา ผายลม! จูเยี่ยนผายลมทั้งเพ! นับแต่ชั่ววินาทีที่มารอริยะโผล่มา
ข้าก็รู้แล้วว่าเ้าไม่ได้หลอก จูเยี่ยนต่างหาก! เ้าพูดความจริงทั้งหมด
จูเยี่ยนแหกตาข้า ทำให้ข้ากลายสภาพน่าอนาถาเยี่ยงนี้!” ถงอันอันคั่งแค้น
หวังเค่อ “...!”
“ถงอันอัน เ้าสงบใจลงก่อน
ฟังข้านะ มารอริยะโผล่มาแค่เื่บังเอิญ! เซิ่งจื่อส่งสัญญาณบอกมัน มันก็เลยมา
ข้าเป็แค่เซียนเทียน ไม่ใช่ทารกแกนิญญา เ้าปล่อยองค์หญิงก่อน
พวกเราจะได้คุยกัน ข้าไม่ทำอะไรเ้า เ้าไม่ทำไรข้า ว่ายังไง?” หวังเค่อพยายามโน้มน้าวสุดชีวิต
“คิดว่าข้ายังจะเชื่อเ้ารึไง?
ถ้าเ้าเป็ข้า ข้าก็จะพูดแบบเดียวกัน! หวังเค่อ
เ้าเป็ทารกแกนิญญา อย่ามาจองเวรกับคนกระจอกๆ อย่างข้าเลย ได้มั้ย?” ถงอันอันน้ำตาไหลแล้ว
หวังเค่อ “...!”
นี่ข้าทุ่มหินใส่เท้าตัวเองเข้าแล้วสินะ? ใครกันแน่ที่ตามจองเวรใครน่ะ?
“เ้าเข้าใจผิดแล้วจริงๆ!
ข้ากำลังพูดเื่จริงอยู่นะ!” หวังเค่อสืบเท้าไปเบื้องหน้าด้วยความร้อนรน
“อย่าเข้ามา
ข้าไม่ได้เข้าใจผิด! ที่เ้าพูดเมื่อกี้ข้าไม่มีทางเชื่อ
ข้าเชื่อว่าเ้าคือทารกแกนิญญา เ้าคือสายลับเหรียญทองของท่านมารอริยะ!” ถงอันอันเอ่ยอย่างหวาดผวา
หวังเค่อ “...!”
ทำไมตอนข้าพูดจาเลอะเทอะเ้าเชื่อ
แต่ดันไม่ยอมเชื่อเวลาข้าพูดเื่จริงกันเล่า? ทำไม? เ้าคือคนที่พลังฝีมือสูงที่สุดบนเรือตอนนี้นะ
ยังจะมากลัวเซียนเทียนที่อ่อนด๋อยที่สุดทำไมก่อน?
