เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวัน แต่ความประทับใจของเ้าเมืองเริ่มต้นหมายเลข 60001 ที่มีต่อเย่เทียนเซี่ยกลับไปไกลถึงระดับน้ำใสใจจริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็สถานะอันยอดเยี่ยมในการใช้ชีวิต่เริ่มแรกในเมืองเริ่มต้นของเขา เย่เทียนเซี่ยบอกลาท่านเ้าเมืองและเข้าไปในร้านช่างตีเหล็กหวังต่อไป
“สวัสดีท่านลุงช่างตีเหล็ก ทั้งหมดนี้คือเขี้ยวหมาป่า 500 ซี่ น่าจะพอให้ท่านใช้หลอมไปได้สักระยะหนึ่งเลยล่ะ” เย่เทียนเซี่ยยิ้มออกมาน้อยๆ เขานำเขี้ยวหมาป่าที่รวบรวมมาได้ในวันนี้ทั้งหมดวางไว้ตรงหน้าช่างตีเหล็กหวัง ช่างตีเหล็กหวังวางมือจากการหลอมเหล็กพร้อมเปล่งเสียงออกมาด้วยความแปลกใจ “นักผจญภัยจากต่างแดน เ้าทำให้ข้ารับรู้ถึงความกล้าหาญและความกระตือรือร้นของเ้าอีกครั้งแล้ว ด้วยวัสดุในการหลอมระดับนี้ ทำให้ข้ารู้สึกขอบคุณเ้าจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดีจริงๆ ”
“ติ๊ง! ท่านประสบความสำเร็จในการทำภารกิจ “คำขอของช่างตีเหล็กหวัง” ได้รับค่าประสบการณ์ 1,200, เกราะขานักฆ่าฝึกหัดเลเวล 5 หนึ่งชิ้น เนื่องจากท่านทำภารกิจได้มากกว่าจำนวนที่ช่างตีเหล็กหวังร้องขอ ่ตีเหล็กหวังจึงมีความประทันใจต่อท่าน +15”
“ติ๊ง! ความประทับใจของช่างตีเหล็กหวังที่มีต่อท่านเพิ่มขึ้นเป็ระดับน้ำใสใจจริง”
จำนวนไอเทมที่เกินมาหลายเท่าจากคำขอร้องของช่างตีเหล็กแม้ว่าจะไม่ได้ทำให้รางวัลมีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่ระดับความประทับใจที่เพิ่มขึ้นมา 15 หน่วย ก็ทำให้เย่เทียนเซี่ยพอใจแล้ว
เย่เทียนเซี่ยกำลังจะหมุนตัวเดินจากไป แต่เสียงของช่างตีเหล็กหวังก็ดังขึ้นจากด้านหลังอีกครั้ง “ผู้กล้าที่มีความกระตือรือร้นเอ๋ย ข้าขอดูแหวนบนมือของเ้าหน่อยได้หรือไม่ ข้าััได้ถึงการไหลเวียนของพลังงานลึกลับบางอย่างจากแหวนวงนั้น”
เย่เทียนเซี่ยหมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว นำแหวนโบราณแห่งชีวิตที่ได้รับมาวางไว้ตรงหน้าของช่างตีเหล็กหวัง ช่างตีเหล็กหยิบแหวนวงนั้นขึ้นมามองอย่างละเอียด สักพักก็พยักหน้าแล้วเอ่ยออกมา “แท้จริงแล้วนี่คือแหวนที่มีพลังงานลึกลับบางอย่างอยู่ภายใน แต่เนื่องจากระยะเวลาที่มันคงอยู่นั้นผ่านมายาวนานเหลือเกิน จึงไม่สามารถแสดงพลังทั้งหมดของมันออกมาได้ ผู้กล้าที่มีความกระตือรือร้นเอ๋ย หากผ่านขั้นตอนการหลอมของข้าเสียใหม่ ข้ามั่นใจว่าจะสามารถทำให้พลังของมันแข็งแกร่งขึ้นได้แน่ นี่ถือเป็การตอบแทนที่เ้าช่วยปลุกภรรยาของข้าและช่วยข้ารวบรวมวัตถุดิบในครั้งนี้”
“ได้แน่นอนครับ” เย่เทียนเซี่ยยิ้มอย่างสงบแต่ภายในใจของเขากลับตื่นเต้นจนแทบอดใจไม่ไหว อยากวิ่งเข้าไปกอดช่างตีเหล็กหวังแล้วจุ๊บเบาๆ สักทีสองที...ค่าความประทับใจ สิ่งนี้เป็เครื่องหมายการค้าที่น่ารักจริงๆ
“ขอบใจที่เ้าเชื่อใจข้า ข้า้าเวลาครึ่งวันในการขุดพลังงานของมันออกมา หลังจากนี้ครึ่งวันเ้าค่อยกลับมาเอาก็แล้วกัน บางทีมันอาจจะทำให้เ้าประหลาดใจไปเลยก็เป็ได้” ช่างตีเหล็กหวังหัวเราะพร้อมพูดออกมา
“ได้ครับ”
เมื่อออกมาจากร้านช่างตีเหล็กหวัง เย่เทียนเซี่ยก็ตรงไปยังร้านขายของเพื่อซื้อผลไม้กองเล็กๆ ที่น่าจะถูกปากมากพอให้กินเพื่อลดระดับความหิวได้ตลอดเวลา และด้วยสำนึกของเขา เขายังเก็บผลไม้ทุกชนิดเอาไว้ให้กั่วกัวอย่างละหนึ่งลูก จะว่าไปแล้วหลังจากกั่วกัวกลับเข้าไปในห้วงเวลาแห่งโชคชะตานิรันดร์จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมาเลย บางทีอาจจะนอนตื่นสายก็เป็ไปได้
เย่เทียนเซี่ยเหลือบมองเวลา ก่อนจะหลับตาและออกคำสั่งทางความคิด “ออกจากระบบ”
โลกตรงหน้าของเขาหมุนวนไม่หยุด เขารอให้สายตากลับคืนสู่สภาวะปกติก่อน จากนั้นเขาจึงมองเห็นผนังอันคุ้นเคย เวลาตอนนี้ก็ล่วงเลยมาถึงสองทุ่มแล้ว เย่เทียนเซี่ยไม่ได้กินอะไรมากว่าแปดชั่วโมง ตอนนี้จึงรู้สึกหิวขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เขาลุกขึ้นนั่งแล้วหยิบรีโมตมาเปิดทีวี หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นเตรียมจะไปหาอะไรที่สามารถมายัดลงท้องได้...แต่ข่าวที่กำลังรายงานอยู่บนหน้าจอทีวีนั้นทำให้เท้าของเขาชะงักลงทันที คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว
“...วันนี้เวลา 19.30 น. ผู่ลั่วซือ...ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม World of Fate ประธานกลุ่มการค้าเทียนเว่ยได้ฆ่าตัวตายที่บ้านพักของเขาเอง สาเหตุการเสียชีวิตไม่แน่ชัด ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์อย่างเร่งด่วนค่ะ จากท่าทางและสิ่งที่อยู่ข้างมือของคุณผู่ลั่วซือก่อนที่เขาจะเสียชีวิตได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็จดหมายลาตายที่เขียนด้วยลายมือของเขาค่ะ เบื้องต้นจึงสันนิษฐานว่าอาจจะเป็การฆ่าตัวตาย...”
ผู่ลั่วซือ...ตายแล้ว?!
สื่อั์ใหญ่แต่ละแห่งทั่วโลกเวลานี้ต่างพากันรายงานข่าวที่ทำให้ผู้คนใ ใครก็คิดไม่ถึงว่าเวลาไม่ถึงหนึ่งวันที่เปิดให้บริการ World of Fate จะสามารถพิชิตคนเกือบทั่วทั้งโลกได้ แต่ผู้ก่อตั้งมันกลับเสียชีวิตภายในวันเดียวกัน รายงานข่าวบอกว่าร่างกายของเขาทุกตำแหน่งไม่ว่าจะเป็ภายนอกหรือภายใน อวัยวะทุกส่วนล้วนปกติดี ไม่มีร่องรอยได้รับาเ็ที่ส่วนใดเลย ในร่างกายก็ไม่พบวัตถุแปลกปลอมใดๆ ที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต แต่ผู้ลั่วซือกลับเสียชีวิตไปอย่างแปลกประหลาด แพทย์แถวหน้าของโลกได้ทดลองใช้เครื่องปั๊มหัวใจที่เป็วิทยาการใหม่ล่าสุดมาปั๊มหัวใจของเขาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล
ข้างๆ มือของเขามีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ เนื้อความในจดหมายยาวมาก แต่มีประโยคที่เป็กุญแจสำคัญอยู่คือ “...ในประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน จำนวนผู้เล่นออนไลน์พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า World of Fate ประสบความสำเร็จท่ามกลางเกมเสมือนจริงอื่นๆ เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของผมได้สำเร็จลุล่วงแล้ว ตอนนี้ผมสามารถจบชีวิตอันเรียบง่ายนี้อย่างสบายใจได้สักที แม้ผมจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว แต่ World of Fate ก็จะยังคงอยู่ต่อไป อัลฟ่าก็เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของเขาแล้ว เขาสามารถควบคุม World of Fate ทั้งหมดได้จากระยะไกล...”
บรรทัดสุดท้ายในจดหมายลาตายนั่น ตัวอักษรตรงนี้ถูกเขียนด้วยหมึกสีแดงราวกับเื “ได้โปรดรักษาโชคชะตาของตนเอง”
ประโยคแปลกๆ ที่สะดุดตาในตอนท้ายนั้น นำไปสู้การถกเถียงและคาดเดากันไปต่างๆ นานาทั่วโลก ผู้คนต่างโพสข้อความที่คาดเดากันไปทุกรูปแบบลงในโลกออนไลน์เต็มไปหมด
ใบหน้าสงบของผู่ลั่วซือก่อนจะเสียชีวิตปรากฏอยู่ในจอทีวี รอยยิ้มบางเบานั้นไม่มีความอาลัยต่อชีวิตเลยแม้แต่น้อย แต่มันคือรอยยิ้มแห่งความพอใจและปล่อยวาง ในหัวของเย่เทียนเซี่ยคิดย้อนไปถึงตอนเที่ยงที่ผู่ลั่วซือพูดเป็ปริศนาไว้ในงานแถลงข่าวครั้งสุดท้ายนั่น เขาคิดทบทวนอยู่นานก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงต่ำ “ผู่ลั่วซือ สิ่งที่คุณอยากจะพูดแต่กลับไม่กล้าพูดมันออกมาคืออะไรกันแน่?”
“วะฮ่าๆ ๆ ๆ นอนหลับสบายจริงๆ เลย นายท่านคิดถึงข้าไหมเ้าคะ เอ๋? ที่นี่ที่ไหนหรือเ้าคะ?”
เมื่อได้ยินเสียงอันไพเราะและคุ้นเคย เย่เทียนเซี่ยที่มีท่าที่สงบนิ่งอยู่นานก็รู้สึกราวกับได้ยินเสียงมนุษย์ต่างดาว สีหน้างุนงง ร่างกายแข็งค้างราวกับกลายสภาพเป็หินไปแล้ว
ภาพลวงตา...ภาพลวงตา...ภาพลวงตา! มันจะต้องเป็ภาพลวงตาแน่ๆ !
แต่แสงกลมๆ สีขาวที่ลอยออกมาทำให้เขายอมแพ้กับตัวเอง
ลูกบอลแสงสีขาวลอยขึ้นมา สูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ระดับเดียวกับดวงตาของเขา ทันใดนั้นแสงสีขาวก็หายไปแล้วแทนที่ด้วยเด็กสาวตัวน้อยที่กำลังหมุนตัวไปมากลางอากาศด้วยท่วงท่าสง่างาม เส้นผมสีดำและกระโปรงสีขาวราวหิมะพลิ้วไหวเบาๆ ใบหน้างดงามไร้ที่ติปรากฏสู่สายตามึนงงของเย่เทียนเซี่ย
“เอ๋? นายท่าน ท่านเป็อะไรหรือเ้าคะ? ทำไมท่านถึงมองข้าอย่างนั้นล่ะ? คิดถึงข้ามากใช่ไหมเ้าคะ?” กั่วกัวลอยไปข้างหน้าเล็กน้อย ใช้มือกุมใบหน้าของตัวเองเอาไว้ แสดงท่าทางเขินอายออกมาได้อย่างน่ารัก เมื่อเห็นเย่เทียนเซี่ยยังคงมีใบหน้าที่มึนงงอยู่เธอจึงตบแก้มของเขาเบาๆ แล้วทดลองใช้มือจิ้มหน้าผากของเขาไปมา “ไอ้หยา! นายท่าน...”
ััที่ได้รับบนหน้าผากทำให้ร่างของเย่เทียนเซี่ยหนาววูบ อย่างน้อยิญญาก็กลับเข้าร่างแล้ว เขาส่ายหัวอย่างเหม่อลอย ดวงตาจ้องมองกั่วกัวเหมือนคนตาย หลังจากนั้นจึงใช้มือัับริเวณหน้าผากที่เพิ่งโดนกั่วกัวััไป แล้วก็เหม่อลอยอยู่อีกพักหนึ่ง ตรงหน้าก็ยังคงเป็กั่วกัวที่กำลังแสดงสีหน้าสงสัยใคร่รู้
ภาพลวงตา...
หรือว่าไม่ใช่ภาพลวงตากันแน่?...
แล้วมันคืออะไรกันล่ะเนี่ย?! โลกมันปั่นป่วนไปแล้วหรือไง?! ยัยเด็กตัวจิ๋วทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้...หรือว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น!
เย่เทียนเซี่ยเอื้อมมือออกไปคว้าร่างกั่วกัวเอาไว้ท่ามกลางเสียงร้องด้วยความใของเธอจากนั้นจึงประคองเธอไว้ในมือ ัันุ่มนิ่มในมือนี่ไม่ใช่ของปลอมอย่างแน่นอน บนโลกใบนี้จะมีภาพลวงตาที่เหมือนจริงขนาดนี้ได้ยังไง
กั่วกัวที่ถูกจับไว้ในฝ่ามือของเย่เทียนเซี่ยพยายามขยับตัวอยู่ในมือของเขาอย่างระมัดระวัง เธอเงยหน้าขึ้นพร้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทั้งตื่นเต้นและน่าสงสาร “นายท่าน...เพราะกั่วกัวนอนมากเกินไป...ทำให้ท่านโกรธมากใช่ไหมเ้าคะ?...”
“กั่วกัว” เย่เทียนเซี่ยจ้องมองเธอ แล้วพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง “เธอตั้งใจตอบคำถามฉันมาดีๆ สิ...จริงๆ แล้วเธอเป็ใคร ทำไมถึงออกจากโลกของเกมมาอยู่ที่นี่ได้?!”
“เอ๋?” กั่วกัวกระพริบตาจ้องมองเขาสักพักก่อนจะตอบกลับมาว่า “อ่า” จากปากเล็กๆ นั่นเพียงคำเดียว ดวงตาของเธอเบิกโต ใบหน้าแสดงออกถึงความตกตะลึง ปากเล็กๆ กระซิบเสียงเบา “ที่นี่...ที่นี่...ที่นี่คืออีกโลกหนึ่งงั้นเหรอเ้าคะ? ดูเหมือนข้าจะหลับนานเกินไปแล้ว ไม่ได้ระวังว่าจะออกมาเจอโลกไหน ว่าแล้วเชียวว่ามันดูแปลกๆ ฮือๆ ๆ ทำยังไงดี ทำยังไงดี ข้าไม่ควรออกมาเร็วขนาดนี้ ฮือๆ ๆ ๆ ทำยังไงดี? ทำยังไงดี?!”
เสียงฮือๆ อย่างน่าสงสารนั้นเหมือนเธอกำลังพูดอยู่กับตัวเองโดยไม่คิดว่าเย่เทียนเซี่ยเองก็ได้ยินเหมือนกัน แสดงว่าเธอมาที่นี่โดยไม่ตั้งใจสินะ...
ยัยเด็กนี่...
เย่เทียนเซี่ยทรุดนั่งลงบนโซฟา ความใที่มีอยู่ยังคงไม่หมดไป เขาพูดอย่างอับจนหนทาง “กั่วกัว ไหนๆ ตอนนี้เธอก็ชอบเรียกฉันว่าเ้านายแล้ว ก็ควรจะเชื่อฟังฉันสิ ถ้าหากมีอะไรปิดบังฉันอยู่ล่ะก็ ฉันอาจจะโกรธมากๆ ก็ได้นะ”
“ฮือๆ ๆ ...”กั่วกัวส่ายหัวอย่างรุนแรง เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างขลาดกลัว ใช้มือน้อยๆ ผิดริมฝีปากของตัวเองไว้ ดวงตากลมโตที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาจ้องมองมายังเย่เทียนเซี่ย “ข้าอยากกินอมยิ้ม”
ตุ๊บ! เย่เทียนเซี่ยหัวทิ่มพื้นทันที!