บทที่ 36 ถุงน้ำดีงูหลามคราม
แสงระเรื่อของดวงอาทิตย์ตกที่ริมทะเลสาบ เรืองรอง สว่าง นุ่มนวล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น
บริเวณริมทะเลสาบรกร้าง พื้นดินเต็มไปด้วยหลุมลึกและรอยแตก ดูอึมครึม
ร่างกายของฉู่อวิ๋นเต็มไปด้วยเื แต่คิ้วของเขาขมวดแน่น ในมือถือกระบี่เศวตรรุ้ง และเดินไปหางูหลามครามอีกครั้ง
“ชี่! ชี่!”
บนพื้นกรวด งูหลามครามเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและกรีดร้อง ประกายดุร้ายในดวงตาของงูทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หางขนาดใหญ่ที่มีพละกำลังมหาศาลของมันดิ้นพล่านไปมา
ดวงตาของมู่หรงซินที่มองมาจากระยะไกลเต็มไปด้วยร่องรอยของความไม่สบายใจ นางะโว่า "ฉู่อวิ๋น! เ้ามีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เ้า...อย่าตายนะ! ไม่เช่นนั้น ข้า...คุณหนูเช่นข้าคงนอนไม่หลับ !”
ฉู่อวิ๋นไม่หันกลับมามอง เขาก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม "เ้าอายุเท่าไหร่แล้ว? ยังต้องมีคนมากล่อมให้นอนอีกหรือ? ถ้าข้าตายไปเ้าควรจะมีความสุขสิถึงจะถูก"
“เชอะ! เอา เอาเป็ว่าระวังตัวด้วย!” มู่หรงซินหน้าแดงเถือก แต่ก็ยังเป็กังวล เ้าฉู่อวิ๋นนี่ยังคงล้อเล่นจนถึงตอนนี้
ถ้าแผนล้มเหลว เขาจะตายเอานะ
"พร้อมแล้ว!"
เสียงของฉู่อวิ๋นดังขึ้นในระยะไกล ทำให้มู่หรงซินตั้งอกตั้งใจขึ้นในทันทีและมุ่งความสนใจไปที่ธนู
ในเวลานี้ งูหลามครามเห็นฉู่อวิ๋นยั่วยุมันอีกครั้ง เืในกายของมันก็พลุ่งพล่าน และพ่นเสียงงูออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
"ตาย!"
หลังจากะโอย่างเ็า ฉู่อวิ๋นก็รีบวิ่งออกไปโดยถือกระบี่ไว้ในมือทั้งสองข้าง และพุ่งไปที่ท้องของงูหลามคราม
"ควั่บ!"
พลังปราณฮุ่นหยวนไหลเวียนอยู่ในร่างของฉู่อวิ๋น และทันใดนั้นก็ถูกถ่ายเข้าสู่กระบี่เศวตรรุ้ง ทำให้แสงสีม่วงของกระบี่เปล่งประกายเจิดจ้าราวกับดวงดาวในคืนที่มืดมิด ความสุกใสส่องสว่างชัดเจน
"ย๊า!"
ฉู่อวิ๋นะโเสียงดัง เหยียบพื้นแล้วส่งตัวะโอย่างแรง กลายเป็ภาพติดตา ราวกับนกอินทรีที่โผโจมตีท้องนภา และะโเข้าหางูหลามครามที่อยู่ตรงหน้าด้วยแรงผลักดันราวัเหลือง[1]
"ชี่!"
ดวงตาของงูหลามครามเปล่งประกายเดือดดาล และใช้พละกำลังทำหางขนาดใหญ่ของมันให้แข็งแกร่งราวกับเหล็ก!
"ตึง!"
หางใหญ่เต็มไปด้วยแรงดุดัน ทันใดนั้นก็โจมตีฉู่อวิ๋นกลางอากาศ!
“ตอนนี้ยังไม่ได้! ต้องรอ...ต้องรอก่อน!” ฉู่อวิ๋นมองเห็นหางั์กำลังยกขึ้น ทั้งเขายังไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ฉู่อวิ๋นตัวสั่น เหงื่อเย็นไหลอาบ แต่ในมือกำกระบี่เศวตรรุ้งคอยถ่ายเทพลังปราณอยู่ตลอด ทำให้กระบี่แสงดาวส่องแสงเจิดจ้า สว่างไสวมากขึ้น
“เร็วหน่อย!” ฉู่อวิ๋นะโในใจ
ณ ตอนนี้นี่เอง!
"ฟิ้ว!"
ลูกศรขนนกบินมาอย่างรวดเร็วจากระยะไกลแต่ก็ช้าลงในไม่กี่นาทีต่อมา บังเอิญมาถึงตรงกลางระหว่างหางงูและฉู่อวิ๋นพอดี เป็การตัดตอนการโจมตีที่เสร็จสมบูรณ์
"ตอนนี้เลย!"
ดวงตาของฉู่อวิ๋นหรี่ลง เข้าสู่สภาพการณ์ของจิตไหวกระบี่ เขาพลิกร่างของตนเองในแนวนอนกลางอากาศแล้วใช้เท้าเตะลูกศรที่พุ่งมาโจมตีพอดี ด้วยแรงช่วยเหลือ ร่างกายของเขาก็เคลื่อนตัวลงและหลบเลี่ยงลูกศรได้ในเส้นยาแดงผ่าแปด
หางของงูกวาดผ่านไปต่อหน้าฉู่อวิ๋น ทำให้เขาเบิกตากว้างและใไปชั่วขณะ
ทันใดนั้น ใบหน้าของฉู่อวิ๋นก็ตั้งมั่นขึ้น เขาขยับกระบี่และฟาดฟันขึ้นไปในอากาศ!
"ควั่บ!"
กระบี่เศวตรรุ้งที่ผสมพลังปราณฮุ่นหยวนจำนวนนับไม่ถ้วน ฉายแสงเย็นวาบ ก่อนจะแทงทะลุาแบริเวณท้องของงู!
“ประกายทมิฬ!”
“ควั่บ! ควั่บ!”
ฉู่อวิ๋นควบคุมความสมดุลของร่างกายแล้วฟันกระบี่ต่อ รังสีของปราณกระบี่แสงดาวสามสิบหกมรรคาพุ่งฟาดฟันไปในทิศทางเดียวกัน รวดเร็วราวสายฟ้า!
“ชี่ชี่ชี่ชี่ชี่-”
มองเห็นาแเล็กๆ บนท้องของงูหลามครามเมื่อถูกฟันด้วยพลังกระบี่หลายระลอก เืสีดำไหลรินออกมา ความเ็ปทำให้มันบิดเบี้ยวไปทั้งตัว ก่อนจะถอยกลับและนอนดิ้นไปมาบนพื้น
ในเวลานี้ ฉู่อวิ๋นเพิ่งร่อนตัวลง โดยไม่คิดอะไรมาก เขาไล่ตามชัยชนะที่อยู่ด้านหน้าและโจมตีาแด้วยประกายทมิฬครั้งแล้วครั้งเล่า!
จนกระทั่งพลังปราณในร่างกายของเขาหมดลง เขาเห็นงูหลามครามปกคลุมไปด้วยเืสีดำและไร้การเคลื่อนไหว จึงหอบหายใจและนั่งลงบนพื้น
“ตายแล้ว? ข้า...ทำสำเร็จแล้ว?” เมื่อมองดูซากงูั์ที่ยาวกว่ายี่สิบหมี่ ฉู่อวิ๋นก็ตกตะลึงและรู้สึกเหลือเชื่อ
แผนของเขาสำเร็จ!
เขาเอาชนะาาสัตว์ปีศาจได้! เอาชนะสัตว์ปีศาจระดับแปดได้!
มู่หรงซินรีบวิ่งมาแต่ไกล เมื่อเห็นฉู่อวิ๋นแสดงรอยยิ้มโง่ๆ ออกมา ก็อดไม่ได้ที่จะหยิกแขนของเขาและพูดดุด้วยรอยยิ้ม "เ้า...เ้าคนบ้า! เ้าฆ่าาาสัตว์ปีศาจได้แล้วจริงๆ!"
เมื่อครู่ ฉู่อวิ๋น้าใช้ลูกศรของมู่หรงซินค้นหาจุดอ่อนที่สองกลางอากาศ เพื่อหลบหางั์ของงูหลามคราม
ต้องหลบการโจมตีจากหางั์เท่านั้นถึงจะมีโอกาสแทงาแเล็กๆ ที่ท้องของงูได้ ทำให้งูหลามครามหมดโอกาสต่อสู้
แผนการนี้ทดสอบทักษะการยิงธนูของมู่หรงซินและพลังยุทธ์ของฉู่อวิ๋นได้เป็อย่างดี หากปล่อยธนูช้าหรือหากฝีเท้าของฉู่อวิ๋นพลาดลูกศร ผลลัพธ์ก็จะกลับกัน
แต่ฉู่อวิ๋นทำได้!
“แต้มศิลาหยกสีม่วง!”
ทันใดนั้นฉู่อวิ๋นก็ได้สติ เขาเดินไปที่หัวงูทันทีและหยิบหินที่ผสานเข้าด้วยกันออกจากแหวนหยก
ฉู่อวิ๋นถือหยกสีม่วงไว้ในมือแน่น หันกลับมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ถ้าไม่มีเ้า ข้าก็เอาชนะงูตัวนี้ไม่ได้ พวกเรามาแบ่งแต้มศิลาเท่าๆ กันเถอะ!"
มู่หรงซินสะดุ้งเล็กน้อย โบกมือแล้วพูดว่า "เ้า...เ้ากำลังพูดอะไรน่ะ? เชอะ ข้าไม่ได้อยากได้ศิลาหยกพวกนี้สักหน่อย เป็เ้าที่สังหารงูได้ เ้าเก็บมันไว้เถอะ"
แม้ว่ามู่หรงซินจะปฏิเสธ แต่นางก็ดีใจที่ในใจของชายผู้นี้ยังมีมโนธรรมอยู่
ทันใดนั้น มู่หรงซินก็นึกบางอย่างได้จึงเอ่ยว่า "ว่ากันว่าถุงน้ำดีของงูหลามครามสามารถปรับปรุงร่างกายของนักรบได้ ลองผ่ามันออกมาดูสิ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉู่อวิ๋นก็ดีใจอีกครั้ง รีบใช้กระบี่ผ่าร่างของงูออกทันที
หลังจากนั้นไม่นาน ถุงน้ำดีสีเขียวคล้ำก็ถูกควักออกมาจากตัวงู และมีไอสีเขียวลอยอยู่รอบๆ
เดิมที ฉู่อวิ๋นคิดจะกินเข้าไปโดยตรง แต่เขาก็ได้ยินมู่หรงซินพูดว่า "เ้าบ้าไปแล้ว! น้ำดีงูต้องย่างที่อุณหภูมิสูงหรือทำให้เป็ยาเม็ดก่อนถึงจะกินได้ กินเข้าไปทั้งอย่างนี้ เ้าอยากวางยาพิษตนเองหรืออย่างไร?"
หลังจากได้ยิน ฉู่อวิ๋นก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้
อาทิตย์อัสดงผ่านพ้นไปแล้ว พระจันทร์อันสุกสว่างค่อยๆ อวดโฉมบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
หลังจากการต่อสู้อันหนักหน่วง ทั้งฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินต่างก็เหนื่อยล้า พวกเขาจึงจุดไฟเล็กๆ ริมทะเลสาบและนั่งขัดสมาธิบนพื้นเพื่อพักผ่อน
แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสองอยู่ในสภาพน่าอายมาก ฉู่อวิ๋นสวมกางเกงขายาวเพียงตัวเดียว ส่วนมู่หรงซินที่อยู่ข้างๆ เขาสวมชุดเพียงครึ่งตัวเพราะเสื้อผ้าถูกกรดกัดกร่อน
“เ้า...อย่ามองนะ!” มู่หรงซินสังเกตเห็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ ใบหน้างามของนางก็เปลี่ยนเป็สีแดงเถือก และพูดดุด้วยเสียงต่ำ
ฉู่อวิ๋นไม่มีทางเลือกนอกจากหันไปอีกด้านหนึ่งแล้วตอบอย่างเชื่องช้า "จะมองเ้าไปทำไม? ไม่มองหรอก"
หลังจากนั้น ทั้งสองก็เผชิญหน้ากันและนั่งกอดเข่าโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ภายใต้ค่ำคืนในถิ่นทุรกันดาร มีชายและหญิงเพียงลำพัง ย่อมทำให้ทั้งคู่รู้สึกกระสับกระส่าย
"ซ่า!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงคลื่นน้ำดังมาจากทะเลสาบ
"ใคร?!"
ฉู่อวิ๋นใ เขาหันกลับไปและเห็นเงาสีน้ำเงินพาดผ่านน้ำมา มันสง่างาม ว่องไว และสวยงามอย่างน่าทึ่ง
ท่ามกลางแสงจันทร์ ฉู่อวิ๋นจำได้ทันทีถึงตัวตนของเ้าของเงาและพูด "ฉู่เฟย!?"
หญิงสาวในชุดสีครามเหยียบลงบนผิวน้ำในทะเลสาบ เสื้อผ้าของนางพลิ้วไสวก่อนจะรีบขึ้นฝั่ง ท่าทีของฉู่เฟยยังคงเ็า ดวงตาของนางเย่อหยิ่ง มองเห็นฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินก่อไฟรับความอบอุ่นอยู่ จากนั้นก็เห็นร่างของงูหลามครามอยู่ไม่ไกล คิ้วของนางก็ขมวดมุ่นเล็กน้อย
ทันใดนั้น นางก็เดินเข้าไปและถามด้วยน้ำเสียงเ็า "พวกเ้าสังหารงูหลามครามตัวนี้หรือ?"
เมื่อมองไปที่ฉู่เฟยที่จู่ๆ ก็มาที่นี่ ฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินต่างก็มีท่าที ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืนด้วยสายตาระแวดระวัง
ในการประลองเซี่ยหยาง งูหลามครามเดิมทีเป็เหยื่อของฉู่เฟยโดยเฉพาะ แต่ตอนนี้ทั้งคู่กลับนำหน้านางไปหนึ่งก้าว สังหารมันและได้รับแต้มศิลาหยกสีม่วงไปแล้ว
หากฉู่เฟยเคลื่อนไหว พวกเขาทั้งสองคนในตอนนี้คงจะไม่อาจต้านทานได้
ไม่สิ ควรจะพูดว่า แม้ในสภาพร่างกายสมบูรณ์ก็ไม่มีความหวังเลยสักนิด
ในเวลานี้ มู่หรงซินเป็คนแรกที่พูดขึ้นมาอย่างเ็า "แล้วอย่างไร? จะฆ่าสัตว์ปีศาจสักตัว ข้าจำเป็ต้องถามความคิดเห็นของเ้าด้วยหรือ?"
ฉู่เฟยยิ้มอย่างเ็าและพูดว่า "ข้าแค่คิดว่าแปลกดี ที่ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเ้าสองคน กลับสามารถฆ่าสัตว์ปีศาจระดับแปดได้ มันเหนือความคาดหมายของข้าไปเยอะ"
“มีตัวอย่างมากมายที่ผู้อ่อนแอเอาชนะผู้แข็งแกร่งได้ บางคนคิดว่าพวกเขาอยู่ยงคงกระพันในที่สูง ตกพื้นไม่ตาย แต่ในความเป็จริงพวกเขาแค่หลอกตัวเอง” ฉู่อวิ๋นก้าวไปข้างหน้า กำหมัดแน่น เสียงของเขาเย็นเยียบ
“เชอะ เ้าคนสารเลว เ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดเช่นนี้?” ฉู่เฟยเลิกคิ้ว เหลือบมองไปด้านข้างที่ฉู่อวิ๋นและยิ้มอย่างเย้ยหยัน
นางไม่เคยเห็นเขาในสายตา
ในสายตาของนาง ฉู่อวิ๋นเป็เพียงมดปลวกที่เหยียบเบาๆ ก็ตาย
จากนั้น ฉู่เฟยก็กลอกตาและพูดด้วยรอยยิ้ม "พวกเ้าไม่มีทางสังหารสัตว์ปีศาจระดับแปดอย่างไร้เหตุผลหรอก หรือว่า...งูหลามครามคือแต้มสัตว์ปีศาจ? มันคือาาสัตว์ปีศาจที่เตรียมไว้สำหรับการประลองเซี่ยหยางในครั้งนี้?”
หลังจากเงียบไปชั่วขณะ มุมปากของฉู่เฟยก็โค้งงออย่างภูมิใจ แล้วพูดว่า "าาสัตว์ปีศาจระดับแปดเป็เหยื่อของข้า เ้าทั้งสองชิงลงมือก่อนเช่นนี้ ้า...แต้มศิลาหยกหรือ?"
เมื่อได้ยินดังนั้น ท่าทีของทั้งฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินก็เปลี่ยนไป พวกเขาระดมพลังปราณอย่างลับๆ
ดูเหมือนว่าฉู่เฟยอยากจะชิงศิลาหยกไป ทั้งคู่ไม่กล้าประมาท แม้รู้ว่าเอาชนะฉู่เฟยไม่ได้ แต่ก็ต้องสู้!
หลังจากผ่านความยากลำบากและอันตรายมากมาย ทั้งสองก็สังหารงูหลามครามได้สำเร็จ ของที่ได้มาจะเอาคืนไปง่ายๆ ได้อย่างไร?
ทันใดนั้น บรรยากาศที่ทะเลสาบก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แววอาฆาตพุ่งออกมาจากทั้งสามคน
จากนั้น เสียงหัวเราะดังลั่นราวกับระฆังเงินก็ดังออกมา เป็ฉู่เฟยที่หัวเราะและพูดว่า "ข้าไม่สนใจศิลาหยกเล็กๆ นั่นหรอก ต้องแย่งมันมาจากมือคนอื่นงั้นหรือ? มันน่าอายเกินไป!"
“อย่างไรเสีย ข้าก็ต้องเป็ผู้ชนะคนแรกในรอบแรก พวกเ้าพลอดรักกันอยู่ที่นี่ต่อไปเถิด ชายหญิงคู่หนึ่งที่ชุดขาดรุ่งริ่งราวผ้าขี้ริ้ว น่าเกลียดน่าอายจริงๆ ทำข้าอยากหัวเราะแทบตาย! ฮ่าๆๆ !"
ทันทีที่พูดจบ ฉู่เฟยก็หันกลับไปและกลายเป็เงาสีน้ำเงิน ลอยเข้าไปในป่าและหายไป
นางดูิ่แต้มศิลาของฉู่อวิ๋นจริงๆ
เมื่อเห็นฉู่เฟยจากไป ทั้งสองก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ทั้งคู่รู้ว่าฉู่เฟยมีพลังมากกว่างูหลามครามแน่นอน
“สักวันหนึ่ง ข้าจะเหยียบเ้าให้จมดิน! เ้าจะได้ไม่ต้องแสดงท่าทางหยิ่งยโสโอหังเช่นนี้อีก!”
ดวงตาของฉู่อวิ๋นเต็มไปด้วยความโกรธ เขาเอื้อมมือออกไปหยิบถุงน้ำดีของงูที่อยู่ในแขนเสื้อออกมา ย่างมันบนไฟ ในขณะเดียวกันก็ใช้พลังปราณฮุ่นหยวนคอยปรับแต่งมัน
รอจนกระทั่งไอพิษบนถุงน้ำดีของงูระเหยไปจนหมด จากนั้นจึงกลืนเข้าไปทันที
"อึก!"
ภายใต้การห่อหุ้มของพลังปราณฮุ่นหยวน ถุงน้ำดีของงูหลามครามก็เข้าสู่ร่างกายของฉู่อวิ๋นสำเร็จ ร่องรอยพลังของน้ำดีงูหลามครามพลุ่งพล่านออกมา ทำให้อวัยวะภายในของเขาสงบลง ร่างกายค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น
ทว่า เมื่อสัญชาตญาณของงูครอบงำ ความกล้าหาญเ่าั้ยังไปกระตุ้นฉู่อวิ๋นอย่างไม่อาจมองเห็นอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาบังเอิญเห็นมู่หรงซิน ร่างกายของเขาก็ลุกเป็ไฟ
จากนั้นไม่นาน ดวงตาของฉู่อวิ๋นก็เปลี่ยนเป็สีแดง เขาก้าวไปหามู่หรงซินโดยไม่รู้ตัว
“เ้า...เ้าจะทำอะไร?!” มู่หรงซินอุทานด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
--------------------
[1] ัเหลือง เป็ัเ้าปัญญา ทำหน้าที่คอยหาข้อมูลให้กับจักรพรรดิฟูใฉ่ในตำนาน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้