อันที่จริงหลินรั่วซีรู้ั้แ่หยางเฉินเดินเข้ามาในห้องแล้วจากการโหมงานหนักั้แ่เด็ก ทำให้หลินรั่วซีรู้สึกตัวได้ง่ายและไม่เคยหลับลึกมาก่อน
การที่หยางเฉินดูแลเธออย่างอ่อนโยนซึ่งไม่เคยมีชายคนใดทำแบบนี้กับเธอมาก่อนแต่เธอก็รู้สึกว่าไม่ควรแกล้งหลับแบบนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็วยังไงเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับหยางเฉินอยู่ดี
"อืม...ผมทำให้คุณตื่นหรือเปล่า?"
หยางเฉินคิดว่าเขากระทำด้วยเสียงอันเบาที่สุดแล้วและไม่คิดว่าเธอจะตื่นขึ้นมา หลินรั่วซีมองหยางเฉินเงียบๆเธอกะพริบตาถามเสียงแ่เบา
"เชี่ยนนีไม่ได้ชวนนายไปข้างนอกเหรอเธอเป็ยังไงบ้าง?"
"คุณหมายความว่าอย่างไร"หยางเฉินสงสัยที่เธอถามเกี่ยวกับโม่เชี่ยนนี
"วันนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะ"หลินรั่วซีตอบ
"แน่นอน"หยางเฉินนั่งลงข้างเตียงพูดยิ้มๆ ว่า
"คนถูกลักพาตัวจะอารมณ์ดีได้ยังไงล่ะจริงไหม?"
"ไม่ใช่เื่ที่ถูกลักพาตัวหรอก"หลินรั่วซีตอบกลับอย่างมั่นใจ
หยางเฉินขมวดคิ้วนึกถึงตอนที่เธอรับโทรศัพท์ "มันเกี่ยวกับครอบครัวใช่ไหม?"
"เท่าที่ฉันรู้คือสมาชิกในครอบครัวของเธอกำลังมาที่นี่ และเธอก็อารมณ์ไม่ดี"
"ตอนแรกเธอก็อารมณ์ไม่ดีนักหรอกแต่ตอนนี้ไม่แล้ว"
หยางเฉินไม่ได้พูดถึงการกอดต่อหน้าภรรยาแม้ว่าเธอจะสนใจหรือไม่ก็ตาม
หลังจากหลินรั่วซีทำเสียง"เอ่อ"เธอก็หลับตาลงบอกเป็นัยให้หยางเฉินรับรู้ว่าเธอ้าที่จะนอน เขาควรออกไปได้แล้ว
หยางเฉินยิ้มอย่างขมขื่นเขายังมีเื่ที่อยากพูดคุยกับหลินรั่วซีอยู่
"ผมมีเื่สำคัญจะบอกมันเป็เหตุผลที่ผมมาหาคุณที่นี่ ทำใจให้ดีๆ ล่ะ เกี่ยวกับหลินคุน"
หลินรั่วซีลืมตาขึ้นอีกครั้งเธอไม่ได้พูดอะไรเพียงรอฟังหยางเฉินเงียบๆ
"เขากลายเป็บ้าอาจเพราะไม่อาจทนรับความสูญเสียได้ ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวช"หยางเฉินพูดออกไปตรงๆ
ร่างของหลินรั่วซีสั่นสะท้านเธอรีบหันหน้าหนีหยางเฉิน พร้อมกล่าวว่า "ฉันรู้แล้วนายออกไปได้"
หยางเฉินรู้ว่าเวลานี้เธอ้าอยู่คนเดียวเขาจึงออกจากห้องไปทันที
ไม่กี่วันต่อมาหยางเฉินใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ และสะดวกสบายเขายังคงส่งอาหารให้หญิงสาวในแผนกอยู่ทุกวี่วันตอนนี้หยางเฉินสนิทกับจ้าวหงเยี่ยน หลิวิอวี้และจางไช่ที่สุด เขาหยอกล้อพวกเธอจนถูกทุบตีเป็ประจำนั้นเป็ความบันเทิงอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการเล่นเกม
หัวหน้าหม่าไม่มากวนใจสาวๆในแผนกพีอาร์อีก ตามที่หลิวิอวี้บอกเขาได้ยื่นจดหมายลาออกไปเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
โม่เชี่ยนนีกลับมาทำงานตามปกติเธอควบตำแหน่งรองประธานกรรมการของบริษัท ซึ่งแต่เดิมไม่มีตำแหน่งนี้อยู่เพราะหลินรั่วซีมีอำนาจเด็ดขาด และไม่้ารองประธานหรือผู้ช่วยใดๆแต่เมื่อหลินรั่วซีป่วยหลายโครงการในบริษัทจึงหาข้อสรุปไม่ได้ดังนั้นหลินรั่วซีจึงแต่งตั้งให้โม่เชี่ยนนีเป็คนตัดสินใจแทนและให้เลขาอู๋เยวี่ยคอยสนับสนุน
โม่เชี่ยนนีนั้นถึงจะอายุน้อยแต่ผู้าุโในบริษัทต่างรู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับซีอีโอคนก่อนและคนปัจจุบันดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจคัดค้านการตัดสินใจของโม่เชี่ยนนี
สิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นหลังจากการพูดคุยกันคือทุกคนตัดสินใจไปเยี่ยมหลินรั่วซีโดยพร้อมเพรียง
สิ่งนี้ทำให้หยางเฉินประหลาดใจเพราะว่าหลินรั่วซีนั้น มักจะแสดงสีหน้าที่บ่งบอกว่า อย่าเข้ามาใกล้จึงไม่มีพนักงานคนใดกล้าพูดคุยกับเธอ แต่เมื่อทุกคนรู้ว่าเธอเข้าโรงพยาบาลทุกคนในบริษัทต่างกระตือรือร้นที่จะไปเยี่ยมเธอ
ภายในแผนกพีอาร์เหล่าสาวๆ ต่างเตรียมของขวัญอย่างพิถีพิถันพวกเธอเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและผิวพรรณต่างๆ ไปที่โรงพยาบาลและแม้กระทั่งสั่งช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ หนึ่งในนั้นถึงกับจะไปถ่ายรูปหลินรั่วซีถึงในโรงพยาบาล
ภาพนี้เป็ภาพที่หลินรั่วซีถือหนังสืออยู่ในมือและมองมายังเหล่าพนักงานด้วยดวงตาสดใส เป็ความงดงามที่ออกมาจากภายในนั้นทำให้พนักงานต่างกรีดร้องด้วยความอิจฉา ที่ใบหน้าซีอีโอของพวกเธอนั้นสมบูรณ์แบบโดยไม่จำเป็ต้องแต่งแต้มใดๆ
ใน่นี้หยางเฉินสังเกตเห็นผู้คนมากมายที่เข้าเยี่ยมเพื่อหวังผลประโยชน์ความสัมพันธ์ของหยางเฉินกับหลินรั่วซีนั้นเป็ความลับหยางเฉินใช้เวลาในโรงพยาบาลไม่มากนัก เขาเพียงส่งหนังสือให้หลินรั่วซีเป็บางครั้ง
คนคนหนึ่งเป็คนที่หยางเฉินเคยเจอถึงสองครั้งและทั้งสองครั้งก็ค่อนข้างเลวร้าย เธอคือสารวัตรไช่นั่นเอง
ในขณะนั้นเองไช่เอี๋ยนก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยชุดเสื้อผ้าลำลอง เธอสวมเสื้อรัดรูปแขนสั้นสีขาวขับเน้นเอวบาง และเกิดเทือกเขาอันสูงชัน เธอสวมกางเกงยีนขาสั้นสีฟ้า และรองเท้าไนกี้สีชมพูพร้อมผมสั้นเรียบร้อย และใบหน้าอันทรงเสน่ห์เข้ากันได้ดีกับร่างสูงเธอดูไม่เหมือนกับสารวัตร แต่เหมือนกับแม่บ้านผู้เซ็กซี่มากกว่า
เมื่อไช่เอี๋ยนปรากฏตัวขึ้นหยางเฉินก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่เมื่อมองไปยังใบหน้างดงามของเธอแล้วหยางเฉินจึงแน่ใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาดไป
"โอ้สารวัตรไช่มาด้วยเหรอครับ" หยางเฉินยิ้มให้การต้อนรับ
"ฉันรู้ว่านายไม่ต้อนรับฉันแต่ฉันมาที่นี่เพื่อพบรั่วซี" ไช่เอี๋ยนเหลือบมองหยางเฉินเล็กน้อยพลางเดินตรงไปยังหลินรั่วซี
"ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าหักโหมจนเกินไปให้ดูแลตัวเองให้ดี"
เห็นได้ชัดว่าหลินรั่วซีคุ้นเคยกับไช่เอี๋ยนเป็อย่างดีเธอชี้ไปยังกล่องในมือของไช่เอี๋ยนพลางกล่าวว่า
"นั่นสำหรับฉันเหรอคะ"
ในมือของเธอเป็ของขวัญแต่มันไม่ใช่ผลไม้ โสมพันปี หรือเห็ดหลินจือจากมณฑลยูนนานมันเป็กล่องขนมหยวนเซียว(บัวลอยจีนหรือข้าวปั้นจีน)
"ใช่ฉันเห็นเธอชอบกินั้แ่เด็กๆ" ไช่เอี๋ยนกล่าวพลางวางมันไว้บนโต๊ะ
"ขอบคุณค่ะ"หลินรั่วซีเอ่ยขึ้นอย่างแ่เบา
ไช่เอี๋ยนฮึดฮัดแกล้งทำเป็โกรธเคืองกล่าวว่า
"ไม่จำเป็ต้องขอบคุณหรอกฉันไม่มีความจำเป็ที่จะต้องมาที่นี่ เธอใจร้ายจริงๆไม่แม้แต่จะบอกพี่สักนิดว่าเธอแต่งงานแล้ว ความสัมพันธ์ของเราเป็แค่เื่ไร้สาระสินะ"
หลินรั่วซีก้มหน้าเงียบเธอเลือกที่จะไม่ตอบอะไร
ไช่เอี๋ยนเหมือนจะเข้าใจนิสัยของหลินรั่วซีดังนั้นเธอเลยถามเื่ที่ค้างคาใจ
"ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าชายที่เธอขอให้ทนายจางช่วยจะกลายมาเป็สามีของเธอได้พวกเธอคบกันั้แ่เมื่อไร ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อน"
หลินรั่วซียังคงก้มหน้าเงียบเธอไม่อาจสรรหาคำใดมากล่าวได้
ไช่เอี๋ยนรู้ว่าเธอไม่อาจทำอย่างไรได้อีก
"เธอเป็อย่างนี้เสมอเลยนะรั่วซียังคงเงียบเมื่อเจอคำถามที่ไม่อยากตอบ อันที่จริงยังมีอีกเื่หนึ่งคุณปู่ของเธอท่านบอกว่าคิดถึงเธอมาก และบอกให้เธอดูแลตัวเองดีๆ"
เมื่อได้ยินคำว่า"คุณปู่"หลินรั่วซีก็เงยหน้าขึ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็าว่า "ฉันไม่้าความห่วงใยจากเขาฉันไม่มีคุณปู่มานานมากแล้ว"
"อันที่จริงคุณปู่หลินมีความลำบากใจอย่างยิ่ง..."ไช่เอี๋ยนยิ้มอย่างขมขื่นพยายามกล่าวอธิบาย
"เอี๋ยนเอี๋ยนไม่ต้องพูดแล้วฉันไม่อยากได้ยิน" หลินรั่วซีหันหน้าหนี
หยางเฉินผู้นั่งอยู่ข้างๆฟังการสนทนาอย่างงงๆ หลินรั่วซีมีคุณปู่? ทำไมเธอไม่เคยพูดถึงมาก่อนนอกจากนี้เธอ และไช่เอี๋ยนยังรู้จักกันมาั้แ่เด็กๆ ดังนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่''แน่นอนว่าควรจะดี''อีกทั้งไช่เอี๋ยนยังรู้เื่ปู่ของหลินรั่วซีอีกด้วยแน่นอนว่าไช่เอี๋ยนเป็คนที่รู้มากคนหนึ่ง
หลินรั่วซีเหมือนจะเกลียดคุณปู่ของเธอเป็อย่างมากเมื่อคุณย่าจากไป พ่อก็กลายเป็บ้า คุณปู่จึงเป็ญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
เมื่อเห็นหลินรั่วซีอารมณ์บูดไช่เอี๋ยนก็ถอนหายใจ เธอได้แต่หยุดไว้แค่นั้นและกล่าวอำลา ก่อนจะเดินออกไปไช่เอี๋ยนสังเกตเห็นหยางเฉินยืนอยู่ข้างประตูห้องพักเธอจึงกล่าวกับเขาว่า"สามีของรั่วซีช่วยไปส่งฉันหน่อยได้ไหมคะ"
"อืม..."
ไม่ใช่เื่ดีแน่ๆหยางเฉินพึมพำในใจ บนหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
"ได้เลยครับสารวัตร"
หลังจากไช่เอี๋ยนเดินไปที่ประตูหยางเฉินเห็นดังนั้นก็หาวิธีหลบเลี่ยงแต่ไช่เอี๋ยนก็ชี้มือไปที่มุมหนึ่งพลางกล่าวว่า "หยางเฉินฉันมีเื่อยากถาม"
"สารวัตรไช่กำลังสอบถามผู้ต้องสงสัยเหรอครับ?"หยางเฉินยิ้มอย่างขมขื่น
ไช่เอี๋ยนสวมบทบาทสารวัตรตำรวจผู้เคร่งขรึมเธอไม่มีท่าทีเล่นๆ แต่อย่างใด
"วันนั้นเหตุการณ์ที่เกิดกับเฉินเต๋อไห่เป็ฝีมือนายใช่ไหม"
"เฉินเต๋อไห่?บ้านตระกูลเฉิน? พวกนั้นคืออะไรเหรอครับ?"หยางเฉินรีบปฏิเสธทันที
"สารวัตรไช่เอี๋ยน ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเื่อะไร" หยางเฉินยกมือประท้วง
"ถ้าจะกล่าวหาผมต้องมีหลักฐานนะครับ ผมเป็พลเมืองดีที่ปฏิบัติตามกฎหมายนะ"
"อย่าโกหกฉันซะให้ยากเลยไม่ว่านายจะยอมรับหรือไม่ แต่วันหนึ่งฉันจะหาหลักฐานมามัดตัวนายให้ได้สำหรับเื่การแต่งงานของหลินรั่วซี ฉันจะหาสาเหตุเอง แต่ถ้านายทำร้ายรั่วซีล่ะก็ฉันจะทำให้นายตายโดยที่นายเองก็ไม่รู้ว่านายตายได้อย่างไร"
หยางเฉินกลืนน้ำลายยิ้มอย่างเชื่องช้ากล่าวว่า
"เื่ที่ผมแต่งงานกับภรรยานั้นน่าใก็จริงผมยอมรับว่าภรรยานั้นสวยน่ารักกว่าคนอื่นๆ เล็กน้อยแต่มันเป็ความผิดของผมเองที่หน้าตาดีเกินไป?"
"หน้าด้าน"ไช่เอี๋ยนจ้องมองหยางเฉินครู่หนึ่งจากนั้นจึงหันไปทางอื่น
หยางเฉินสูดหายใจลึกกว่าเขาจะจัดการสารวัตรก็ถึงกับหืดขึ้นคอแต่เมื่อหันกลับมาเขาก็พบกับฉากที่น่ารักเหลือใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้