ตอนที่ 21 สถาบันอัคคี
“หึ! ถ้าเ้าอยากตายก็แค่มา!” โจวเฟิวะโด้วยความโกรธ เขาปลดปล่อยพลังชีวิตออกมา
"หยุด!"
เมื่อเห็นว่า โจวเฟิงกำลังจะต่อสู้กับ ซ่งหลานหลางทันใดนั้นก็มีเสียงะโดังขึ้น และก็มีรัศมีที่ทรงพลังได้แพร่กระจายออกมา
เมื่อพิจารณาจากออร่าที่ปลดปล่อยออกมานี่คือฐานการบ่มเพระระดับที่สองของอาณาจักรมหาคุรุยุทธ์ !
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนปรากฏตัวขึ้น
“อาจารย์ซูเซียง" โจวเฟิง รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นผู้มาเยือน
“อาจารย์ซูเซียง ทำไมท่านถึงมาที่นี่?” ซ่งหลานหลางถามขึ้น
อาจารย์ซูเซียง เป็อาจารย์ผู้สอนของสถาบันอัคคี เขามีอายุสี่สิบปีต้นๆ
“ผู้าุโเต้า รับสั่งขอให้ข้ามาพาโจวเย่ไปที่สถาบันอัคคี ข้ามาได้ทันเวลาและได้ดูสำหรับการดวลที่ยอดเยี่ยม และหากข้ามาช้ากว่านี้และผู้นำตระกูลซ่งทำอะไรบ้าๆไป เกรงว่าตระกูลซ่งของท่านอาจจะหายไปจากเมืองไป๋หนานแห่งนี้ ” อาจารย์ซูเซียงพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงสงบ
"ฮึ!" ซ่งหลานหลาง ไม่มีอะไรจะพูดและตะคอกอย่างไม่เต็มใจอย่างยิ่ง ตระกูลซ่ง ไม่มีความกล้าพอที่จะรุกราน สถาบันอัคคี
ไม่มีใครในตระกูลซ่ง กล้าพูด ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจ
“เย่เอ๋อ ไปที่สถาบันอัคคีกับอาจารย์ซูเซียงเถอะ เ้าต้องกำจัดพิษเหมันต์ให้กับผู้าุโเต้า” โจวเฟิง มองไปที่โจวเย่และกล่าวขึ้น
“น่าทึ่งมาก! โจวเย่เป็ผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้! พร์ของเขาน่ากลัวยิ่งกว่ากู่หยิงมาก! ข้าไม่รู้ว่ากู่หยิงจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเธอรับรู้เื่นี้”
"ซ่งเทียนพ่ายแพ้ต่อโจวเย่ด้วยหมัดเดียว ถ้าข้าไม่ได้เห็นด้วยตาของข้าเอง ข้าคงไม่เชื่อ”
พร์ของโจวเย่ในตอนนี้เป็ที่หนึ่งในเมืองไป๋หนานแล้วอย่างแน่นอน!
ทุกคนในเมืองไป๋หนาน ต่างยอมรับความสามารถของโจวเย่
อาณาจักรปราณยุทธ์ระดับที่สี่ สามารถช่วยผู้าุโเต้า กำจัดพิษเหมันต์ได้ ซึ่งเป็เื่ยากสำหรับนักเล่นแร่แปรธาตุระดับห้าที่จะทำด้วยซ้ำ ต่อมาเขาเอาชนะซ่งจ้านอาณาจักรปราณยุทธ์ระดับที่หกได้อย่างง่ายดายด้วยอาณาจักรปราณยุทธ์ระดับที่สี่ และภายในไม่กี่วันเขาสามารถเอาชนะ ซ่งซวนผู้ที่มีความแข็งแกร่งระดับที่เจ็ดของอาณาจักรปราณยุทธ์อีกคน
ตอนนี้แม้แต่ ซ่งเทียน อัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลซ่ง ก็ยังพ่ายแพ้ให้แก่ โจวเย่
หากทุกคนทราบว่าโจวเย่ยังสามารถกำจัดพิษไฟของนักเล่นแร่แปรธาตุได้อีก ไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะทำให้ทุกคนในเมืองไป๋หนานใกลัวในความสามารถของโจวเย่หรือเปล่า ?
"นายน้อย ข้าจะไปกับท่าน” หงเยว่ คว้าแขนของโจวเย่ ทันทีแล้วพูด
“หากข้าไปคนเดียวมันน่าเบื่อ ไปกันเถอะ” โจวเย่ ไม่ได้คัดค้าน หากเขาไม่ได้สัญญากับผู้าุโเต้า เกรงว่าเขาอาจจะไม่ไป
แม้ว่าสถาบันอัคคีจะอยู่ไม่ไกลนัก แต่มันก็ทำให้การฝึกฝนของเขาล่าช้าขึ้น
“โจวเย่ ไปกันเถอะ” ซูเซียง มองไปทางโจวเย่ ด้วยรอยยิ้ม หลังจากได้เห็นการต่อสู้ระหว่างโจวเย่ และ ซ่งเทียน ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมผู้าุโเต้าจึงให้ความสำคัญกับโจวเย่ มากขนาดนี้
แม้ว่าโจวเย่จะมีจิติญญาการต่อสู้ระดับสอง แต่ ซูเซียงได้สอบถามเกี่ยวกับโจวเย่แล้วในตอนนี้ ซึ่งทำให้หัวใจของเขาใ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าพร์จิติญญาการต่อสู้ระดับสองนั้นมีความเร็วในการฝึกฝนที่น่ากลัวขนาดนี้
ซูเซียงตบกระเป๋าข้างเอาของเขา และทันใดนั้นนกกระเรียนสีขาวก็ปรากฏตัวออกมา
“สัตว์อสูรกระเรียนขาวเป็สัตว์พาหนะระดับที่สอง ของสถาอัคคี และกระเป๋าสัตว์ที่อยู่ข้างเอวของซูเซียง มีชื่อเรียกว่ากระเป๋าสัตว์อสูร มันมีไว้ใส่สัตว์เลี้ยงอสูรต่างๆ ”
คนในเมืองไป๋หนานในตอนนี้มองดูด้วยความตื่นเต้น
นกกระเรียนขาวมีขนาดใหญ่มาก และสามารถบรรทุกคนเจ็ดหรือแปดคนพร้อมกันบนหลังของมันได้
ไไปกันเถอะ." ซูเซียงหัวเราะแล้วะโขึ้นไปบนนกกระเรียนขาวเป็คนแรก และตามมาด้วยโจวเย่ และ หงเยว่
ทุกคนในเมืองไป๋หนานต่างอิจฉามาก
การนั่งบนนกกระเรียนขาวของสถาบันอัคคีเป็สิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน
ด้วยการมีพาหนะเป็นกกระเรียนขาว จะใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการเดินทางจากเมืองไป๋หนาน ไปยังสถาบัคคี นกกระเรียนขาวนั้นมีความเร็วที่น่าทึ่งมาก
ขณะนี้ นกกระเรียนขาวบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและบินออกไปอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากความเร็วที่รวดเร็วและการบินที่สูง หงเยว่จึงตื่นตระหนกเล็กน้อยและเธอได้กอดแขนของโจวเย่ไว้แน่น
“โจวเย่ เ้ามีจิติญญาการต่อสู้แค่ระดับสองจริงๆเหรอ?ไ ซูเซียง ถามอย่างสงสัยและมองไปที่โจวเย่
"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ โจวเย่ก็ยิ้มและพูดว่า "เป็ความจริง ทุกคนในเมืองไป๋หนานรู้ดี"
"ข้าไม่เชื่อข่าวลือพวกนั่น" ซูเซียงส่ายหัวแล้วพูดต่อว่า "ข้าได้ยินมาว่าเ้าเลื่อนระดับสี่ระดับภายในหนึ่งเดือน ไม่มีใครในสถาบันอัคคี ที่สามารถทำมันได้ แม้แต่ผู้ที่มาจากแผ่นดินอเวจี"
หลังจากหยุดชั่วคราว ซูเซียงก็พูดอีกครั้ง "ข้าได้ดูการต่อสู้ระหว่างเ้ากับซ่งเทียน มันน่าประทับใจมาก เ้ามีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย เ้าสามารถมองเห็นและคาดเดาการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ และเ้าสามารถเอาชนะศัตรูได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้าุโเต้า จะให้ความสำคัญกับเ้ามากขนาดนี้”
"ผู้าุโเต้าเห็นคุณค่าของข้าเพราะข้าสามารถกำจัดพิษเหมันต์ของเขาได้ก็เท่านั้น” โจวเย่ยิ้มอย่างเรียบๆ
ซูเซียงไม่ได้ถามอีกต่อไป จากนั้นดวงตาของเขาก็มองไปที่หงเยว่ ซึ่งกำลังกอดแขนของโจวเยว่ไว้แน่น
“สาวน้อยคนนี้คือใคร ทำไมผู้าุโเต้าไม่เคยพูดถึงเื่นี้ เธออายุเพียงสิบสามหรือสิบสีปี และเธอก็อยู่ในระดับที่เจ็ดของอาณาจักรปราณยุทธ์แล้ว พร์ของสาวน้อยคนนี้ไม่ต่างจากโจวเย่เลย" ซูเซียงแอบประหลาดใจ
เวลาได้สูญเสียไปกับการบิน และ นกกระเรียนขาว ก็พาพวกเขาข้ามูเาและแม่น้ำหลายร้อยลูก สี่ชั่วโมงต่อมา ในที่สุดพวกเขาก็มาถึง สถาบันอัคคี
สถาบันอัคคีมีขนาดใหญ่มาก และอาคารอันงดงามก็สวยงามมาก สถาบันอัคคีรวบรวมนักเรียนที่มีพร์ในอาณาจักรอัคคีทั้งหมด
หลังจากลงจากนกกระเรียนขาวแล้ว ซูเซียงก็นำโจวเย่และหงเยว่ เดินผ่านประตูของสถาบัน
“อาจารย์ซูเซียง!” นักเรียนทักทายซูเซียง ในขณะที่พวกเขามองดูโจวเย่ และหงเยว่ ด้วยความสงสัยและอิจฉา
“พวกเขาเป็นักเรียนใหม่เหรอ? ว้าว ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก! ข้าจะต้องได้เธอมา!”
“สวยจริงๆ เขานั้นโชคดีมาก ทำไมข้าถึงไม่เจอผู้หญิงสวยๆแบบนี้บ้าง”
“ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วไม่ใช่เหรอั้แ่่ลงทะเบียน? ทำไมพวกเขาสองคนถึงมาตอนนี้กัน?”
ในสถาบันอัคคี นักเรียนหลายคนสงสัย และนักเรียนชายหลายคนก็จ้องมองไปที่หงเยว่ และน้ำลายของพวกเขาก็แทบจะไหลออกมา
มีนักเรียนหลายคนอยู่รอบๆ ทุกคนมองมาที่โจวเย่ และหงเยว่ มีชายคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลาจองมองมาที่พวกเขาอย่างเ็า และคนคนนี้ก็คือ ฮั่นชิงหยาง ผู้ที่ชนะการแข่งขันการคัดเลือกเข้าสถาบันอัคคีของเมืองไป๋หนาน
โจวเย่ ด้วยสายตาเฉียบแหลม มองเห็นฮั่นชิงหยาง ที่อยู่ในฝูงชน แต่เขาเพียงมองอย่างไม่แยแสเท่านั้น ฮั่นชิงหยาง ไม่ใช่ภัยคุกคามของเขา ขณะนี้ฮั่นชิงหยางมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับที่เจ็ดของอาณาจักรปราณยุทธ์แล้ว ซึ่งเดิมทีก่อนเข้าสู่สถาบันอัคคีเขามีพลังยุทธ์อยู่ในระดับที่หกของอาณาจักรปราณยุทธ์เท่านั้น สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าทรัพยาการในการบ่มเพาะของสถาบันอัคคีมีมากเพียงใด
“มันเป็สถานที่สำหรับที่จะพาผู้หญิงสวยขนาดนี้มาเหรอ? หรือเ้า้าพิสูจน์ว่าเ้าสามารถหาผู้หญิงที่สวยกว่ากู่หยิงได้" ฮั่นชิงหยางแอบพูดด้วยความรังเกียจ เขาอิจฉาที่โจวเย่มีสาวสวยอยู่ข้างกาย