บทที่ 5
ในจักรวาลแห่งนี้จะมีสักกี่คนที่ทำให้เราใจเต้น
“…”
ถ้าให้นับตอนนี้ก็มีหนึ่งคน…
“แก้มหายแดงแล้ว…”
และหนึ่งคนในจักรวาลนี้ก็คือ หมื่นฟ้า
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ที่รักจะไม่ยอมดื่มเหล้าแก้วนั้นเด็ดขาด ต่อให้โดนพี่โอ้ต่อยก็ยอม เพราะเหล้าแก้วนั้นส่งผลให้ที่รักใจสั่นจนถึงตอนนี้
แต่ไม่ว่าหัวใจจะเต้นแรงแค่ไหน ที่รักก็ต้องฝืนตัวเองเพื่อจัดการทุกอย่างให้จบ
“รักอยากจะขอบคุณพี่ฟ้าน่ะครับ ที่วันนั้นพี่ฟ้าช่วยรักไว้”
“…”
“…แล้วก็อยากจะขอโทษที่เกือบทำให้พี่ฟ้าเดือดร้อน ถ้าพี่โอ้แจ้งความเอาเื่ขึ้นมา คนที่ทำให้พี่ฟ้าเดือดร้อนก็คือรักนี่แหละ”
“มีอะไรอยากพูดอีกไหม?”
“พี่ฟ้ารีบเหรอครับ? ...”
“…”
“ระ รักไม่ได้กวนพี่ฟ้านะครับ ที่ถามออกไปแบบนั้นเพราะคำถามของพี่ฟ้าทำให้รักรู้สึกว่าพี่ฟ้าต้องรีบไปทำอย่างอื่นต่อ” ที่รักยกมือทั้งสองข้างขึ้นโบกไปมา และพยายามอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจถึงเจตนาที่แท้จริงของตัวเอง
ในตอนแรกเขาถามไปโดยไม่ทันคิด แต่พอมานึกย้อนอีกทีก็แทบอยากจะตบปากตัวเองเพราะประโยคคำถามนั้นไม่น่ารักเอาเสียเลย คล้ายเป็การถามเพื่อยั่วอารมณ์หมื่นฟ้ามากกว่า
ที่รักเดาใจอีกฝ่ายไม่ถูก เพราะหมื่นฟ้าไม่ค่อยแสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้าสักเท่าไหร่ ใบหน้าหล่อเหลามักจะเรียบนิ่งไร้ชีวิตชีวา ยิ้มบ้างในบางครั้ง แต่รอยยิ้มนั้นก็แสนจะบางเบา หากไม่สังเกตดี ๆ คงไม่รู้ว่าเ้าตัวกำลังยิ้มอยู่ ที่รักคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะหมื่นฟ้ามีเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบเช่นนี้ สาว ๆ หลายคนคงเลิกปลื้มหมื่นฟ้าแล้วหันไปหาคนที่มีลูกเล่นแพรวพราวที่พร้อมจะทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยมากกว่า
หมื่นฟ้าไม่ตอบอะไร ทำเพียงแค่ดูนาฬิกาที่ข้อมือเท่านั้น ก่อนที่เ้าตัวจะเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง ตอนนั้นที่รักรู้ตัวว่าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว เขาเตรียมจะเอ่ยชวนหมื่นฟ้าไปทานข้าวที่บ้านตามความ้าของพ่อ ทว่าหมื่นฟ้าดันพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“พี่ฟ้าเหลือเวลาส่วนตัวอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ร้านจะเปิด…”
“รักรู้ครับว่าพี่ฟ้ามีงานต้องไปทำ…”
“หนึ่งชั่วโมงที่เหลือ…รักอยากได้ทั้งหมดเลยไหมครับ? ”
“…”
หมื่นฟ้าคงไม่รู้ว่าประโยคคำถามของตัวเองได้ฉุดกระชากิญญาเขาออกจากร่างอย่างไม่ปรานี ในตอนนี้ที่รักเหลือเพียงกายหยาบเท่านั้น ถ้าจะตอบช้าหรือไม่ตอบเลยคงไม่แปลก
“ว่าไงครับ…ถ้าไม่อยากอยู่คุยถึงชั่วโมง เดี๋ยวพี่ฟ้าไปส่งที่บ้าน แบบนั้นดีไหม?”
“เอ่อ…” อยากจะตอบหมื่นฟ้ามากนะ แต่สมองไม่สั่งการอะไรเลย
“…”
“จริง ๆ อยู่ที่นี่สักชั่วโมงก็ได้ครับ เพราะรักต้องรอพี่เบบมารับอยู่ดี”
หมื่นฟ้าพยักหน้ารับ เ้าตัวล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมาวางบนโต๊ะคู่กับโทรศัพท์ ทำให้ที่รักเข้าใจได้ในทันทีว่าหมื่นฟ้าพร้อมใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงที่เหลือไปกับเขา
“ที่พี่ฟ้าถามว่ามีอะไรจะพูดอีกไหม ก็เพราะว่าพี่ฟ้าก็มีเื่ที่อยากจะพูดเหมือนกัน อยากให้พูดจบไปทีละคน จะได้เคลียร์กันให้เข้าใจเป็เื่ ๆ ”
“แบบนี้นี่เอง…”
“แล้วรักมีอะไรอยากจะพูดอีกหรือเปล่าครับ?”
“จริง ๆ ก็มีครับ…พ่อของรักอยากจะชวนพี่ฟ้าไปกินข้าวที่บ้าน เขาบอกว่าอยากจะขอบคุณพี่ฟ้าด้วยตัวเองครับ”
“เื่แค่นี้เอง ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ แต่ท่านชวนขนาดนี้แล้ว พี่ฟ้าคงไม่ปฏิเสธ อีกอย่างพี่ฟ้าก็คิดจะเข้าไปขอบคุณท่านอยู่เหมือนกันที่ยอมไม่เอาเื่พี่โอ้เพราะกลัวพี่ฟ้าจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย…”
“…”
“วันไหนครับ?”
“พรุ่งนี้ครับ เพราะพ่อลาหยุดได้ถึงแค่พรุ่งนี้ ส่วนเวลาน่าจะเป็่บ่าย พี่ฟ้าสะดวกไหมครับ?”
“ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ฟ้าเข้าไป”
“…” ที่รักพยักหน้าหงึกหงัก จ้องมองหมื่นฟ้าที่ใครหลายคนบอกว่าดุนักหนา แท้จริงแล้วหมื่นฟ้าของใคร ๆ ใจดีและสุภาพมากจนเขาไม่กล้าดื้อใส่อีก
“เด็กดื้อคนเมื่อกี้หายไปไหนแล้ว?”
“เด็กดื้อจะแพ้อากาศเย็น ๆ น่ะครับ พอได้ตากแอร์เด็กดื้อก็จะหายไป”
คำตอบของที่รักทำให้เ้าของใบหน้าเรียบนิ่งมีปฏิกิริยาตอบสนอง มุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นเล็กน้อยจนเกิดเป็รอยยิ้มบางเบา หมื่นฟ้าจะรู้ไหมนะว่ารอยยิ้มของตัวเองที่คนอื่นแทบมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำเรียกรอยยิ้มจากเขาได้เช่นกัน
รักทำให้พี่ฟ้ายิ้มได้แหละ :)
“รักพูดในส่วนของรักหมดแล้ว ถึงตาพี่ฟ้าแล้วครับ”
หมื่นฟ้าพยักหน้ารับ ก่อนเอ่ย “เื่ขอบคุณพี่ฟ้าคงจะไปขอบคุณพ่อของรักด้วยตัวเอง เพราะได้โอกาสพอดี แต่เื่ที่พี่ฟ้าจะพูดกับรักมีอีกสองเื่”
“…”
“เื่แรก…ไม่รู้ว่าดอมเล่าเื่นี้ให้รักฟังก่อนมาหรือเปล่า แต่เดาว่ายังไม่ได้เล่าหรอก เพราะมันบอกให้พี่ฟ้าเคลียร์กับรักเองดีกว่า…หุ้นส่วนของพี่ฟ้าโกหกกับลูกค้าที่อยู่ในร้านวันนั้นว่าเราเป็แฟนกัน และหนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนในกลุ่มพี่ฟ้าด้วยที่เข้าใจผิดไป เพื่อนพี่ฟ้าจะต้องถามหรือไม่ก็แซวแน่ ๆ เวลาเจอรักที่มหาลัย พี่ฟ้าเลยอยากจะขอโทษเพราะมันคงสร้างความลำบากใจให้รัก”
“…”
“แต่ไม่ต้องกังวลหรอก ลูกค้าที่รู้เื่วันนั้นส่วนมากไม่ใช่เด็กในมหาลัยที่เรารู้จัก เป็คนวัยทำงานทั้งนั้น ส่วนพวกเพื่อนพี่โอ้เรียวบอกว่าไม่ได้ยิน มีก็แต่ทิมเพื่อนในกลุ่มพี่ฟ้าที่เชื่อว่าเราแอบคบกัน และก็คงมีเพื่อนคนอื่น ๆ อีกไม่กี่คนเพราะทิมไปเล่าให้ฟัง แต่พี่ฟ้าปฏิเสธไปแล้วว่าไม่จริง ไม่นานเดี๋ยวพวกมันก็เลิกให้ความสนใจ”
“ครับ”
“พี่ฟ้าขอโทษนะครับ ขอโทษแทนเรียวด้วย ที่มันพูดไปแบบนั้นเพราะอยากให้คนอื่นเข้าใจว่าพี่ฟ้าทำเพื่อปกป้องแฟน จะได้ไม่ดูแย่จนเกินไป แต่ไม่ว่าจะพูดแก้ตัวยังไงวันนั้นพี่ฟ้าก็เกเรจริง ๆ พี่ฟ้ายอมรับ”
คุณหมื่นฟ้าจะรู้ไหมว่าตัวเองพูดจาได้น่ารักมาก ที่รักเชื่อแล้วว่าคนที่ดูดีมาก ๆ อยู่แล้วจนไม่คิดว่าจะดูดีไปได้มากกว่านี้ จะทำให้ตัวเองดูดีเพิ่มเป็เท่าทวีคูณเพราะถ้อยคำแสนน่ารักที่เ้าตัวเลือกใช้ให้เข้ากับแต่ละคนที่สนทนาด้วย
ที่รักไม่รู้ว่าในสายตาหมื่นฟ้านั้นตัวเองดูเด็กน้อยและไร้เดียงสาขนาดไหน อีกฝ่ายถึงได้เลือกใช้คำพูดที่อ่อนโยนจนเหมือนคุยกับเด็กวัยสามขวบอยู่
แต่ในความเป็จริงหมื่นฟ้าทำร้ายพี่โอ้สาหัสจนฟันหัก ตอนที่เขาเห็นพี่โอ้ครั้งแรกที่บ้านยังใเลย และคิดว่าการที่พ่อพี่โอ้โกรธเป็ฟืนเป็ไฟคงไม่แปลก ก่อนมาที่นี่ที่รักยังแอบคิดว่าหมื่นฟ้าเป็พวกหัวรุนแรง แต่จากที่ได้ััในวันนี้
ประโยคที่ว่า วันนั้นพี่ฟ้าเกเรจริง ๆ พี่ฟ้ายอมรับ
มันทำให้คุณเขากลายเป็คนเกเรที่ควรจะให้อภัยมาก ๆ
“รักเข้าใจเื่ทั้งหมดแล้วครับ เข้าใจพี่เรียวแล้วด้วย ในตอนแรกที่รักรู้เื่นี้จากพี่ทิม รักแอบไม่พอใจพี่เรียวอยู่บ้างที่บอกคนอื่นไปแบบนั้น แต่ตอนนี้รักไม่โกรธใครแล้วครับ…รักเข้าใจพี่ฟ้าด้วยนะครับ”
“รู้จากทิม?”
ที่รักพยักหน้าตอบรับ ก่อนเอ่ย “ใช่ครับ เื่นี้รักรู้จากพี่ทิม ไม่ได้รู้จากพี่ดอม เพราะพี่ทิมเข้าใจผิดว่าเราคบกันนั่นแหละ พี่ทิมถึงได้มาขอร้องให้รักช่วย…”
“ช่วยถือเค้กในงานวันเกิดใช่ไหม?”
“ครับ”
หมื่นฟ้าถอนหายใจ ปรายตามองโทรศัพท์ที่แจ้งเตือนข้อความเข้าตลอดเวลา และใครบางคนที่ส่งข้อความมาเป็คนที่ทำให้เขาไม่พอใจอยู่ในตอนนี้ ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับคนตรงหน้าอีกครั้ง “เื่สุดท้ายที่พี่ฟ้าอยากจะพูดกับรักก็คือ…พี่ฟ้าอยากให้รักดูแลตัวเองดี ๆ อย่าเชื่อใครง่าย ๆ อีก”
“คะ ครับ พี่ฟ้า”
“และต่อจากนี้ไปถ้ามีใครขอให้รักช่วยทำอะไรให้อีก คิดให้ดี ๆ ก่อน อย่าเพิ่งรับปาก โดยเฉพาะเื่ที่คนอื่นขอให้รักช่วยพูดกับพี่ฟ้าอีกทีแบบนี้”
“ถึงรักจะพยักหน้าตอบรับพี่ทิมไป แต่รักก็ไม่คิดจะมาขอร้องพี่ฟ้าหรอกครับ มันไม่ใช่เื่ที่รักควรจะทำ รักรู้ครับ…แล้วรักก็รู้ด้วยว่าพี่ฟ้าปฏิเสธพี่ทิมไปแล้ว รักยังจะขอในสิ่งที่พี่ฟ้าไม่อยากทำอีกได้ยังไง ถ้าทำแบบนั้นรักก็ใจร้ายเกินไปแล้ว”
หมื่นฟ้าถอนหายใจอีกครั้งพอเห็นคนตัวเล็กพูดอธิบายเป็ชุดโดยไม่เว้น่หายใจ ดวงตาเรียวรีที่เคยสู้สายตา ในเวลานี้หลุบมองที่โต๊ะสีน้ำตาลเข้มคล้ายหวาดกลัว “พี่ฟ้ากำลังทำให้เด็กดื้อกลัวอยู่ใช่ไหม?”
“ก็…กลัวนิดหน่อยครับ เพราะเมื่อกี้พี่ฟ้าทำเสียงดุ ๆ สายตาพี่ฟ้าก็เริ่มดุแล้วด้วย”
เ้าของแก้มย้อย ๆ ยอมรับ และการหลบสายตาก็ช่วยยืนยันว่าเ้าตัวเริ่มกลัวจริง ๆ
“พี่ฟ้าขอโทษครับ พี่ฟ้าไม่พอใจทิมที่มาใช้รัก…เลิกกลัวแล้วมองพี่ฟ้าหน่อยนะครับ”
หมื่นฟ้าอมยิ้มเมื่อดวงตาคู่นั้นยอมสบตากันอีกครั้ง
“ต่อไปรักจะระวังตัวดี ๆ จะคิดเยอะ ๆ และไม่รับปากใครง่าย ๆ พี่ฟ้าก็ห้ามดุรักแบบเมื่อกี้อีกนะ”
“ครับ ไม่ดุ”
“…” คำตอบของหมื่นฟ้าทำให้ที่รักยิ้มกว้างจนตาหยี
“อะไรที่รักอยากให้พี่ฟ้าทำ ถ้ามันเป็ความ้าของรักจริง ๆ พี่ฟ้าก็จะทำให้”
หมื่นฟ้ารู้ดีว่าตัวเองตามใจใครไม่ค่อยเก่ง โดยส่วนมากจะเลือกปฏิเสธมากกว่า แต่พอเป็เื่ของที่รักแล้ว เขากลายเป็พวกปฏิเสธไม่เก่งไปในทันที และถนัดจะตามใจมากกว่า
แต่แค่กับคนนี้เท่านั้น
“เวลาพี่ฟ้าดุก็น่ากลัว แต่เวลาใจดีก็น่ารัก”
หมื่นฟ้าเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย “คนแบบพี่ฟ้าน่ารักได้ด้วยเหรอ?”
“ได้สิ ในสายตารักนะ พี่ฟ้ามีมุมน่ารักนะครับ”
“พันลี้บอกว่าเพื่อนแก้มย้อย ๆ ของมันขี้ประจบ…น่าจะจริง”
“ลี้ขี้นินทา”
คนตัวเล็กพูดเสียงแ่เบาพร้อมย่นจมูกแสดงอาการไม่พอใจ หมื่นฟ้าอยากจะเอื้อมมือไปหยิกจมูกเล็ก ๆ ให้ขาด แต่ก็ทำได้เพียงแค่วางสองมือไว้ที่หน้าขาเหมือนเดิม แล้วปล่อยให้ความคิดของตัวเองไหลไปตามความรู้สึกที่แท้จริง
คนอะไรวะ…ตัวเล็กเท่าลูกหมา แต่น่ารักเท่าโลก
ที่รักรู้ว่าทั้งเขาและหมื่นฟ้าหมดเื่คุยกันแล้ว ทุกเื่เคลียร์จบและชัดเจนในเวลาไม่กี่นาที และเพราะความเงียบที่คืบคลานเข้ามาภายในห้องเรือนกระจกคอยสะกิดให้เขาคิดหาหัวข้อสนทนาอยู่ตลอดเวลา ที่รักจึงต้องหยิบยกคำถามง่าย ๆ ที่ผุดขึ้นในสมองโดยไม่ตั้งใจไปถามอีกฝ่าย
“เื่ที่พี่ฟ้าจะคุยกับรักมีแค่นี้เหรอครับ?”
“ครับ หมดแล้ว…”
“…”
หมื่นฟ้าตอบด้วยถ้อยคำเรียบง่าย เ้าตัวเหมือนอยากจะพูดบางอย่าง แต่ก็เงียบไป จึงเป็สาเหตุที่ทำให้บทสนทนาของเราถูกแทนที่ด้วยความเงียบอีกครั้ง
มันน่าแปลกที่มีเพียงแค่ความเงียบเท่านั้นที่สามารถแทรกกลางระหว่างบทสนทนาของเราสองคนได้ แม้ว่ามันจะทำให้การพูดคุยดูไม่ค่อยปะติดปะต่อสักเท่าไหร่ แต่ที่รักยังรู้สึกว่าเขาสามารถไปต่อกับหมื่นฟ้าได้ ทว่าความอึดอัดที่ควรจะเกิดขึ้นสำหรับคนแปลกหน้าที่ได้คุยกันสองต่อสองครั้งแรกอย่างใกล้ชิดไม่สามารถแทรกซึมเข้ามาได้เลย
แต่ไม่ว่าจะเป็ความเงียบหรือความอึดอัด
ระหว่างนี้ก็ไม่มีใครต้อนรับ
“ปกติพี่ฟ้าพูดไม่ค่อยเก่ง”
แต่ที่รักจะต้อนรับความเงียบที่เกิดจากคนที่พูดไม่ค่อยเก่งเอง :)
แรกเริ่มที่รักต้อนรับคนพูดไม่ค่อยเก่งแต่อธิบายเื่ราวต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนและอ่อนโยนด้วยรอยยิ้ม ที่รักยิ้มกว้างจนตาหยีตามแบบฉบับของแก้มย้อยที่เพื่อน ๆ มักจะเอ็นดูเป็พิเศษ
ก่อนจะเอ่ยบางประโยคที่คิดว่าจะทำให้อีกคนรู้สึกดี
“รักจะชวนพี่ฟ้าคุยเอง…พี่ฟ้ายกเวลาทั้งหมดให้รักแล้วนี่”
“สี่สิบห้านาทีที่เหลือก็เป็ของรักไง”
ที่รักพยักหน้ารับ เอาเข้าจริงการเป็คนคอยตั้งคำถามตลอดเวลาไม่ใช่เื่ง่าย และด้วยความที่ไม่สนิทกัน บางคำถามอาจจะดูก้าวก่ายจนเกินไป ที่รักเลยต้องไตร่ตรองดี ๆ ก่อนจะถามออกไป แม้ว่ามันจะดูยากและต้องคิดเยอะไปสักหน่อย แต่เพื่อสี่สิบห้านาทีที่เหลืออยู่
ที่รักคิดว่าตัวเองทำได้
“เมื่อเช้าพี่ฟ้ากินข้าวกับอะไรครับ?” คำถามเบสิกแบบนี้แหละปลอดภัยที่สุดแล้ว
“พี่ฟ้าดื่มแค่กาแฟครับ”
“ไม่กินข้าวเหรอครับ?” คงเป็เพราะเขาทำหน้าสงสัยล่ะมั้ง หมื่นฟ้าถึงได้อมยิ้มน้อย ๆ
“ไม่ครับ ดื่มแค่กาแฟแล้วก็มาร้านเลย”
“อ้าว แล้วทำไมไม่กินล่ะครับ นี่ก็เย็นมากแล้ว พี่ฟ้าไม่หิวเหรอ?”
“มันแล้วแต่วันครับ บางวันดื่มแค่กาแฟก็ไม่รู้สึกหิวไปทั้งวัน แต่บางวันก็หิว”
“พี่ฟ้าจะกินข้าวตามอารมณ์ไม่ได้นะ ถ้าเป็โรคกระเพาะขึ้นมาจะทำยังไง?”
“ก็ถ้าเป็จริง ๆ พาพี่ฟ้าไปหาหมอได้ไหม?”
“…” เดี๋ยว…เขาต้องเป็คนถามไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงได้โดนหมื่นฟ้าย้อนถามล่ะ
แล้วคำถามของหมื่นฟ้าก็…ทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนในท้องเหมือนเป็โรคกระเพาะซะเอง
ที่รักหลุบตาลงต่ำเพราะความรู้สึกเขินอายที่หายเป็ปลิดทิ้งกลับมาทักทายกันอีกครั้ง เขาเดาว่าหมื่นฟ้าเป็คนพูดน้อยที่ขี้แกล้งมาก ๆ เพราะเ้าตัวชอบแกล้งเขาเหลือเกิน เหมือนในตอนนี้ที่ใบหน้าของเขาเห่อร้อนเพราะดันเหลือบไปเห็นบางคนที่อมยิ้มน้อย ๆ กำลังจ้องมองกันอยู่
เหมือนจงใจแกล้งให้เขินหนักกว่าเดิม…
“คำถามของพี่ฟ้าคงยากไป งั้นเปลี่ยนใหม่ได้ไหม?”
ที่รักช้อนสายตามองอีกฝ่าย ก่อนเอ่ย “รักยังไม่ได้อนุญาตให้พี่ฟ้าเป็ฝ่ายถามเลย”
“ลืมไปว่าสี่สิบห้านาทีที่เหลือนี้ที่รักเป็ใหญ่”
จงใจแกล้งกันจริง ๆ นั่นแหละ…
ที่รักไม่เข้าใจตัวเองเลย ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงทำให้รู้สึกวูบวาบ หัวใจเต้นแรง และเขินอายได้ แต่ทั้งหมดมันเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ และที่รักคงต้องยอมรับว่าหมื่นฟ้าโคตรจะเก่งเลยที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้
“พี่ฟ้าอยากเป็คนถามแล้วใช่ไหมครับ?” แข็งใจถามไปทั้งที่แก้มร้อนจนจะะเิแล้ว
“ไม่ได้อยากเป็ฝ่ายตั้งคำถามหรอก แต่สิ่งที่อยากรู้มันบังคับให้ต้องถาม?”
“เห็นแก่ความอยากรู้ รักอนุญาตให้พี่ฟ้าถามได้หนึ่งคำถาม”
“กินข้าวมาหรือยังครับ?”
แค่ถามว่ากินข้าวมาหรือยัง ยังทำให้เขินได้ หมื่นฟ้าเก่งจริง ๆ นั่นแหละ “กินมาั้แ่เช้าแล้วครับ”
“ถามอีกได้ไหม?”
“อะ ๆ ให้อีกคำถาม”
“กินข้าวกันปะ?”
โอ๊ยยยยยยยย ที่รักอยากจะร้องโอดครวญให้หมื่นฟ้าได้ยินจริง ๆ เ้าตัวจะได้รู้ว่ากำลังทรมานเขาด้วยคำถามอยู่ หมื่นฟ้าก็ถามเขาด้วยคำถามเบสิกเช่นกัน แต่ทำไมมันถึงดูพิเศษและแตกต่าง ที่รักไม่เข้าใจตัวเองอีกแล้ว ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ เขาแค่ชวนกินข้าวทำไมต้องเขิน ที่รักไม่ใช่คนเขินเก่งหรอกนะ ส่วนมากจะดื้อ ๆ ซน ๆ มากกว่า แต่พออยู่กับหมื่นฟ้าแล้วเขินเก่งเหลือเกิน
“…”
“ให้เวลาคิดก่อน…เดี๋ยวพี่ฟ้าจะออกไปสูบบุหรี่รอ”
“…”
ที่รักไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ทำแค่เพียงพยักหน้ารับเท่านั้น เสียงดังแกร๊กที่คล้ายกับการเปิดประตูทำให้ที่รักลอบถอนหายใจก่อนจะเงยหน้ามองเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่ว่างโล่งไม่มีคนตัวสูงนั่งอยู่ ทว่าโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลไหม้ยังคงวางอยู่ที่เดิม แล้วมีซองบุหรี่ที่ไม่รู้ว่าเ้าของเอามันมาวางไว้ั้แ่เมื่อไหร่อยู่ด้วย
เขาอยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครสักคนมาก ๆ อยากจะเล่าเื่ที่โดนหมื่นฟ้าแกล้งให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ฟัง แต่เสียงเคาะกระจกจากด้านนอกทำให้เขาสนใจจนต้องหันไปมอง
คนตัวสูง ๆ เ้าของใบหน้าเรียบนิ่งยืนมองเขาอยู่ด้านนอก มือข้างหนึ่งที่คีบบุหรี่ปล่อยทิ้งไว้ข้างกายทำให้เขาสังเกตเห็นรอยสักอักษรจีนที่รู้ความหมายของมันเป็อย่างดี หมื่นฟ้ายกมือข้างที่ว่างอยู่ลูบวนที่หน้าท้องของตัวเอง ก่อนจะพูดบางประโยคออกมา…
และแม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงของหมื่นฟ้าเลย
แต่ก็พอจะอ่านปากออก
หมื่นฟ้าพูดว่า….
‘หิวแล้วครับ’
ที่รักไม่ได้ตอบกลับ เขายังคงอึ้งในท่าทางน่ารัก ๆ ของอีกฝ่ายอยู่ หน้าตางอแงตามสไตล์หมื่นฟ้าน่ารักชะมัด T______T ที่รักใจเหลวเป็น้ำไปหมดแล้ว
ตอนที่เจอกันครั้งแรกที่รักคงประหม่าจนเกินไปถึงไม่ได้สังเกตว่าวันนี้หมื่นฟ้าแต่งตัวดูดีมาก จริงที่เ้าตัวดูดีตลอดเวลา แต่วันนี้มันดูดีขึ้นได้อีก คนตัวสูง ๆ เ้าของใบหน้าเรียบนิ่งที่ตอนนี้ติดจะงอแงเล็กน้อยสวมเสื้อฮาวายสีดำมีลายใบไม้สีขาวแต่งแต้มไปทั้งตัวกับกางเกงยีนส์สีดำขาดเข่า และรองเท้าผ้าใบยี่ห้อ Vans สีดำ ที่ขาดไม่ได้คงเป็นาฬิกาแบรนด์ดังราคาแพงเรือนนั้น
เขาอยากจะมอบฉายา น้อยชิ้นแต่ดูดีระดับล้าน ให้หมื่นฟ้าจัง
หล่อจนท้อ...ท้อเพราะรู้ว่าลูกหมาอ้วนหล่อไม่ได้ครึ่งของหมื่นฟ้าเลย
และเพราะว่าที่รักก้มหน้าคอตกมัวแต่คิดท้อใจเื่ความหล่อของตัวเองอยู่นั้น คนตัวสูงก็เรียกร้องความสนใจด้วยการเคาะกระจกอีกครั้ง ที่รักเงยหน้ามองหมื่นฟ้าที่กำลังปล่อยควันสีขาวลอยไปในอากาศ พอควันพวกนั้นจางหายไปก็ทำให้เขาเห็นใบหน้าของหมื่นฟ้าชัดขึ้น คนที่เรียกร้องความสนใจจากเขาไม่พูดอะไรสักคำ แต่จู่ ๆ ก็ยิ้มออกมา
ยิ้มแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
และเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะได้เห็น
ไม่ใช่การยิ้มกว้าง ๆ ไม่ใช่รอยยิ้มสดใส
แต่เป็รอยยิ้มที่เหมือนแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้า
และเพราะว่าประโยคต่อมาที่หมื่นฟ้าพยายามสื่อสารกับเขาผ่านกระจกกั้นนั้น
‘เป็อะไรครับ?’
มันทำให้แสงแดดอ่อน ๆ ในเช้าวันนั้นอบอุ่นมากกว่าทุกวัน
#กี่หมื่นฟ้า
ไม่รู้เป็เพราะทนเห็นหมื่นฟ้าทำหน้างอแงไม่ได้หรือเพราะตัวเองหิวกันแน่ ที่รักถึงได้ยอมตกลงกินข้าวด้วย ทั้งที่ใจไม่อยากจะกิน ถึงเขาจะมีมนุษย์สัมพันธ์ดีชั้นเยี่ยม ทว่าการกินข้าวกับคนที่ไม่สนิทไม่ใช่เื่ง่ายเลย ที่รักต้องระวังไปหมด ต้องสำรวมกิริยาระหว่างกินอาหารด้วยกัน มันทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไหร่
แต่ก็คงเป็เพราะรอยยิ้มนั้นล่ะมั้งที่ทำให้ท้องของเขาปั่นป่วนจนต้องตอบตกลง
“รักอยากกินอะไร?” หมื่นฟ้าถามขณะโบกมือเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ด้านนอก
“ร้านพี่ฟ้าอาหารแพงมากไหมเนี่ย…รักมีเงินมาแค่สามร้อยเอง” ไม่ได้คิดให้เลี้ยงหรอก ที่รักพร้อมจะจ่ายเอง แล้วร้านหมื่นฟ้าก็หรูจนต้องแหวกกระเป๋าดูงบของตัวเอง
“เดี๋ยวเลี้ยงเอง รักคงไม่กินจนพี่ฟ้าหมดตัวหรอก”
“ดูถูกกันมากไปแล้ว รักสามารถกินได้ทั้งร้านพี่ฟ้าเลยนะ”
“ถ้ากินได้ขนาดนั้นก็กินเ้าของร้านไปด้วยเลยดิ”
ที่รักชักจะสงสัยในตัวหมื่นฟ้าแล้ว สรุปหมื่นฟ้าพูดไม่เก่งจริง ๆ หรือแค่อยากเห็นเขากลายเป็เด็กพูดมากกันแน่ คนที่รับหน้าที่เขินอายควรจะเป็คนพูดน้อยอย่างหมื่นฟ้า แต่นี่หมื่นฟ้ากลับทำให้เขาเขินไม่หยุด จะโทษหมื่นฟ้าคนเดียวคงไม่ได้ เขาต้องโทษตัวเองด้วยที่ภูมิคุ้มกันน้อยเอง อีกฝ่ายพูดอะไรมาก็เอามาเขินไปหมด
“ไม่ รักไม่กินพี่ฟ้าหรอก เพราะไม่อร่อย”
“แต่คนที่เคยกินแล้วเขาบอกว่าอร่อย ระหว่างคนที่เคยกับไม่เคย เชื่อใครดี?”
ที่รักนิ่งอึ้ง และเลือกจะหลบสายตาอีกครั้ง เขาไม่พอใจนักหรอกที่ตัวเองเอาแต่หลบสายตากลายเป็คนขี้ขลาดแบบนี้ แต่ถ้าใครได้เห็นสายตาของหมื่นฟ้าที่เปลี่ยนไปจะต้องหลบตาเหมือนเขาแน่ ๆ แววตาของหมื่นฟ้าดูร้ายลึกและเ้าเล่ห์มาก ๆ ตอนที่พูดประโยคนั้น
และเพราะเสียงหัวเราะหึในลำคอเบา ๆ ของใครบางคนทำให้เขายิ่งไม่กล้าสู้สายตาไปใหญ่ แต่ลึก ๆ แล้วคนขี้ขลาดที่โดนแกล้งไม่หยุดั้แ่มาถึงร้านคิดอยากจะสู้ขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะแพ้หมื่นฟ้าทุกครั้งไป
“ตกลงพี่ฟ้าพูดไม่เก่งจริง ๆ ปะเนี่ย? รักไม่เห็นจะพูดไม่เก่งตรงไหนเลย แถมคำพูดยังเหมือนพวกคนเ้าชู้ด้วย” ที่รักรู้ว่าตัวเองพูดเสียงเบาจนเหมือนเป็การบ่นมากกว่าต่อว่า ก็เพราะใจสั่น ๆ นั่นแหละที่ทำให้ไม่กล้าพูดเต็มเสียงเพราะกลัวว่ามันจะสั่นเครือตามไปด้วย
“พูดไม่เก่งจริง ๆ แต่พี่ฟ้าพยายามจะพูดเยอะ ๆ เพราะถ้ารักต้องพูดต้องถามตลอดเวลาโดยที่พี่ฟ้าไม่คิดจะตอบสนองเลยเหมือนที่พี่ฟ้าเป็กับคนอื่น พี่ฟ้ารู้ว่าสุดท้ายแล้วพี่ฟ้าก็โดนเบื่อ”
ที่รักเงยหน้าสบตาหมื่นฟ้า รู้สึกผิดขึ้นมาเลยที่มองหมื่นฟ้าผิดไป
“แต่เื่เ้าชู้พี่ฟ้ายอมรับ…แต่แค่เคยนะ เลิกไปนานแล้ว”
“…”
งั้นมองไม่ผิดแหละ…สายตานั้นของหมื่นฟ้าคือเสือร้ายชัด ๆ -___-
แกร๊ก!
เสียงเปิดประตูของใครบางคนทำให้เราสองคนหันไปมอง พนักงานสาวเดินยิ้มแย้มเข้ามาในห้องเรือนกระจกก่อนจะยื่นเมนูอาหารให้ ที่รักเปิดดูไปเพียงหน้าเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่าตัวเองงบไม่พอแน่ ๆ คงต้องสั่งอะไรที่ง่ายที่สุด และเมนูนั้นเป็อาหารโปรดของเขาที่กินประจำเวลาอยู่ที่มหา’ ลัย
“มีข้าวกะเพราหมูกรอบไหมครับ?” ที่รักเอ่ยถาม
ยังไม่ทันที่พนักงานจะเอ่ยตอบ เ้าของร้านที่ก้มหน้าดูเมนูก็พูดแทรกขึ้นมา “อยากกินอะไรสั่งเลยครับ แม่ครัวเขาทำได้หมดแหละ”
“อะ อ๋อ…งั้นรักเอากะเพราหมูกรอบราดข้าวครับ”
“ได้ค่ะ”
ที่รักยื่นเมนูคืนให้พนักงาน เธอรับไว้แล้วส่งรอยยิ้มสวย ๆ มาให้เขา ที่รักจึงยิ้มตอบกลับไปตามมารยาท ทว่าใครบางคนที่เพิ่งเงยหน้าจากเมนูอาหารจ้องเขม็งใส่จนที่รักต้องรีบหุบปากฉับ ไม่คิดว่าหมื่นฟ้าจะหวงพนักงานในร้านขนาดนี้ แต่ก็น่าหวงอยู่หรอก เพราะพนักงานคนนี้น่ารักมาก ๆ หน้าตาคล้ายแฟนเก่าของเขาเลย
“เอาไข่เจียวด้วยไหมครับ?”
“อะ เอาก็ได้ครับ” เพราะเสียงที่เรียบนิ่งจนผิดปกติของหมื่นฟ้าทำให้ที่รักละล่ำละลักตอบ เหมือนเขากำลังโดนหมื่นฟ้าโกรธอยู่ และรังสีบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวของหมื่นฟ้าทำให้เขารู้สึกคอแห้งผาก ส่วนพนักงานสาวคนนั้นก็แสดงอาการเลิ่กลั่กคล้ายคนที่เพิ่งทำความผิดมา
“ผมเอาข้าวต้มปลา…”
“คะ ค่ะ”
“เอาน้ำเปล่าสองแก้ว…แล้วก็ขอซอสมะเขือเทศใส่ถ้วยเล็ก ๆ แยกมาให้คุณรักด้วย”
“ได้ค่ะ”
ทันทีที่พนักงานสาวออกไป ความเงียบก็ครอบคลุมไปทั่วทั้งห้องเรือนกระจก หมื่นฟ้าที่ชอบจ้องตาเขาในเวลานี้เลือกจะเป็ฝ่ายหลบสายตาและก้มหน้าเล่นแต่โทรศัพท์ ที่รักไม่รู้ว่าหมื่นฟ้าไม่พอใจเขาเื่ยิ้มให้พนักงานหรืออะไรกันแน่ แต่เขาไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย
ไม่รู้ว่าเวลาเหลืออยู่อีกกี่นาที
แต่จะไม่ให้มีสักวินาทีเลยที่ต้องเงียบใส่กันแบบนี้
“พี่ฟ้า…”
“ครับ” หมื่นฟ้าตอบเขา แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองเหมือนเดิม
“พี่ฟ้าเป็อะไร?”
“เปล่า…”
“เป็…รักดูออกนะ” ที่รักรู้ว่ามันดูแปลกที่เขาพูดเหมือนเดาใจหมื่นฟ้าได้ทั้งที่เราไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น การพูดคุยกันในระยะเวลาไม่ถึงชั่วโมงคงไม่สามารถทำให้เขารู้ใจหมื่นฟ้าได้มากขนาดนั้นหรอก แต่มันมีบางอย่างที่บอกเขาว่าหมื่นฟ้ากำลังไม่สบายใจ
“พี่ฟ้าหิวข้าว”
“พี่ฟ้า…มองรักเดี๋ยวนี้” รู้ว่าสั่งไม่ได้หรอก แต่ก็อยากให้หมื่นฟ้าฟังกันบ้าง และเพราะว่าดวงตาคู่คมที่ยอมละจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วกลับมาสบตากันอีกครั้ง ทำให้ที่รักรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างที่หมื่นฟ้ายอมฟังกัน “รักเผลอทำอะไรให้พี่ฟ้าไม่พอใจหรือเปล่า?”
“เปล่าครับ…”
“…”
“เป็เพราะรักยิ้มให้พนักงานคนนั้นใช่ไหม? รักไม่ได้จะทำเ้าชู้ใส่พนักงานในร้านพี่ฟ้านะครับ พี่ฟ้าอย่าเข้าใจผิดนะ”
“เขาหน้าตาน่ารักเหมือนมิว ถ้ารักจะมองก็คงไม่แปลกหรอก”
“หือ…พี่ฟ้ารู้จักมิวด้วยเหรอครับ?”
“แค่เคยเห็นหน้าบ้าง เพราะมิวเป็รุ่นน้องของแฟนเก่าพี่ฟ้า”
“…” โลกมันกลมดีจัง แฟนเก่าของเราสองคนรู้จักกันด้วย
“สเปกรักเป็แบบนี้เหรอ? ตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ”
“รักไม่มีสเปกนะ…ถ้ารู้สึกก็คือรู้สึก แต่ถ้าไม่…ทำยังไงมันก็ไม่รู้สึกอยู่ดี” ก็เหมือนที่มิวพยายามทำทุกอย่าง แต่เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
“ดูรักคนยาก”
“ไม่รู้เหมือนกัน รักเป็คนไม่ค่อยโหยหาความสัมพันธ์แบบคนรักสักเท่าไหร่ ประมาณว่ามีก็ดีไม่มีก็ได้ ก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองเป็คนรักคนยากแค่ไหน อย่างมิวก็เป็แฟนคนแรกของรัก แต่คบกันได้ไม่นานก็เลิก”
“ถ้าจะถามว่าเลิกกันเพราะอะไรมันก็คงไม่ควร…”
ที่รักยิ้ม แม้ใบหน้าของหมื่นฟ้าจะนิ่งไม่แสดงออกเช่นเคย แต่น่าแปลกที่ที่รักเดาได้ว่าหมื่นฟ้าอยากรู้เื่ของเขามาก ๆ “ถามได้ครับ ถึงแม้ว่ามันจะเป็เื่ที่เซนซิทีฟมากก็เถอะ ปกติรักไม่ค่อยพูดถึงมันสักเท่าไหร่เพราะจะรู้สึกผิดจนตัวเองกลับไปเศร้าอีก แต่มันก็ผ่านไปปีกว่าแล้ว รักรับมือกับมันได้แล้วแหละ”
“งั้นไม่ต้องพูดหรอก”
“แต่รักอยากเล่านะ เผื่อบางทีไอ้ก้อนความผิดมันอาจจะหลุดออกมาวันนี้ก็ได้” ที่รักยิ้มขำ ทั้งที่ภายในใจไม่ได้รู้สึกอย่างที่แสดงออกเลย “มิวเป็เพื่อนต่างสาขา เราเจอกันวันปฐมนิเทศ ตอนนั้นรักยังไม่สนิทกับพันลี้ จอยและก็ไทป์เลย เด็กปีหนึ่งก็มักจะอยู่รวมกันเป็กลุ่มใหญ่ ๆ แล้วก็มีวิชาเรียนรวมกันทั้งคณะซะเยอะ รักเลยสนิทกับมิวมากที่สุด แต่รักไม่รู้เลยว่ามิวแอบชอบรัก จนวันหนึ่งมิวมาสารภาพว่าชอบ มิวบอกว่าชอบที่รักเป็คนใจดี ช่วยเหลือมิวตลอด และอ่อนโยนเสมอ”
“…”
“แต่มันแย่ตรงที่รักไม่ได้รู้สึกกับมิวแบบนั้น และมันแย่ไปอีกที่มิวมาเลือกสารภาพในวันเกิดเพื่อนคนหนึ่ง มีคนได้ยินสิ่งที่มิวพูดมากกว่าสิบคนแน่นอน แล้วมิวก็ขอคบรัก ตอนนั้นมันทั้งอึ้งทั้งใ ถึงจะเคยโดนสารภาพรักบ่อย ๆ ตอนมัธยม แต่ก็ไม่เคยโดนขอคบในสถานที่ ๆ คนเยอะแบบนั้น และเพราะว่าคนมันเยอะมาก ๆ รักเลยไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธ สุดท้ายก็เลยตอบตกลงคบกับมิว”
“มันไม่ใช่ไม่กล้าพอ…แต่เป็เพราะรักให้เกียรติมิวต่างหาก”
“ก็อาจจะเป็อย่างนั้น รักกลัวว่ามิวจะเสียใจถ้ารักปฏิเสธ แต่รักก็ควรซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองที่มีกับมิวให้มากกว่านี้ มิวเป็ผู้หญิงที่ดีมาก ๆ พยายามทำให้รักยิ้มตลอด ใส่ใจรักเสมอ แต่เป็รักเองแหละที่ไม่สามารถรู้สึกกับมิวได้มากกว่าคำว่าเพื่อน”
“…”
“แล้วสุดท้ายรักก็ทำให้คนดี ๆ แบบมิวต้องเสียน้ำตา รักตัดสินใจบอกเลิกมิว แล้ววันนั้นดันเป็วันครบรอบที่เราคบกันได้สองเดือนพอดี รักลืม ถ้ารักจำได้สักนิด…รักจะไม่พูดประโยคนั้นออกไปเลย จะไม่ทำแบบนั้นเลยพี่ฟ้า…”
“…”
“่นั้นรักรู้สึกแย่มาก รักอยากให้มิวรู้ว่ารักไม่ได้รู้สึกเสียใจน้อยไปกว่ามิวเลย รักยังอยากเป็เพื่อนกับมิวเหมือนเดิม แต่ก็เข้าใจว่ามันยากสำหรับมิว รักก็เลยเลือกจะไปเรียนคนเดียว ให้มิวได้อยู่กับเพื่อน ๆ กลุ่มใหญ่นั้นไป จนมาสนิทกับพันลี้ตอนเทอมสอง แล้วก็มีจอยกับไทป์เข้ามา รักถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาก ๆ แล้วก็กลายเป็แก้มย้อยของเพื่อน ๆ นี่แหละ…” ที่รักจบประโยคด้วยเสียงสดใสที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหวังไม่ให้หมื่นฟ้ารู้สึกแย่ไปกับเื่ของเขา ที่รักแค่อยากแชร์เื่ราวของตัวเอง
เื่ที่แชร์แค่กับใครบางคนเท่านั้น…และตอนนี้หนึ่งในนั้นก็มี หมื่นฟ้า อยู่ด้วย
ตลอดเวลาที่ที่รักเล่าเื่ หมื่นฟ้ารับรู้ได้ถึงความรู้สึกผิดที่อีกฝ่ายยังมีอย่างท่วมท้น แม้ว่าที่รักจะบอกว่ารับมือกับเื่นี้ได้แล้ว แต่หมื่นฟ้ารู้ว่าเ้าตัวยังรับมือกับมันได้ไม่ดีพอถึงปล่อยให้มีน้ำมาหล่อเลี้ยงที่ดวงตามากกว่าปกติ มีประโยคหนึ่งที่ทำให้หมื่นฟ้ารู้สึกจุกหน่วงเพราะเหมือนคนตัวเล็กกำลังขอให้เขาช่วยฉุดออกไปจากวังวนของความรู้สึกผิด
‘ถ้ารักจำได้สักนิด…รักจะไม่พูดประโยคนั้นออกไปเลย จะไม่ทำแบบนั้นเลยพี่ฟ้า…’
ระยะห่างระหว่างหมื่นฟ้ากับที่รักมีมากพอ แต่มันไม่มากพอจะขวางกั้นความพยายามของเขา หมื่นฟ้าเอื้อมจนสุดความยาวของแขนเพื่อจะได้ลูบที่หัวทุยเบา ๆ
“ทำดีแล้ว เก่งมากแล้วครับ…” พอเห็นอีกฝ่ายยิ้มได้แล้วเขาจึงถอนมือออก
“…” ที่รักได้รับคำปลอบโยนในเื่นี้จาก พี่เบบ พี่ดอม พันลี้ จอยและไทป์ และคิดว่าคงไม่มีใครที่จะมอบให้อีก แต่วันนี้ที่รักได้รับคำปลอบโยนจาก หมื่นฟ้า อีกคน
“รู้สึกผิดได้ เพราะพี่ฟ้ารู้ว่ามันห้ามไม่ได้หรอก แต่แค่รู้สึกให้น้อยลง”
“…”
“และสักวันรักจะให้อภัยตัวเองได้”
“ขอบคุณครับพี่ฟ้า”
“พี่ฟ้าต้องขอบคุณรักมากกว่าที่ไว้ใจและยอมเล่าเื่ส่วนตัวให้ฟัง”
“ไม่รู้สิ รักก็ยังแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่ยอมเล่าเื่นี้ให้พี่ฟ้าฟัง”
“คงเพราะรักถูกชะตาพี่ฟ้ามั้ง…”
ที่รักเพิ่งเห็นหมื่นฟ้ายิ้มมุมปากครั้งแรก…
“เห็นว่าพูดไม่ค่อยเก่งมากกว่า คงไม่เอาไปเล่าให้คนอื่นฟังหรอก”
หมื่นฟ้าอมยิ้มเพราะเห็นคนตัวเล็กย่นจมูกไม่พอใจอีกแล้ว
“ไม่เล่าให้ใครฟังหรอก พี่ฟ้าจะเก็บไว้คนเดียว”
หมื่นฟ้าจ้องมองคนตัวเล็กพลางคิดว่าที่รักไม่ต่างจากที่เขาคิดไว้ ที่รักเป็คนอ่อนโยน จิตใจดี ปฏิเสธคนไม่เก่ง และมักจะแคร์ความรู้สึกของผู้อื่นเสมอ กลัวคนอื่นจะเสียใจจนบ้างครั้งก็ทำให้ตัวเองทุกข์ใจเสียเอง ทุกอย่างนั้นทำให้ที่รักดูอ่อนต่อโลก ไม่ค่อยทันใคร และยอมคน แต่คนเราไม่ได้มีด้านเดียวเสมอไป หมื่นฟ้ามองเห็นความเด็ดเดี่ยวและซื่อสัตย์ของที่รัก และเขาคิดว่าสองสิ่งนี้เป็พื้นฐานของความเข้มแข็ง
หากที่รักเป็คนอ่อนแอและอ่อนไหวง่ายจริง ๆ เ้าตัวคงไม่บอกเลิกผู้หญิงคนนั้น คงไม่กล้าสู้เพื่อขออิสระของตัวเองที่โดนหยิบยืมไปชั่วคราวกลับคืนมา ที่รักยังเลือกที่จะซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง
คนอื่นจะมองที่รักเป็คนอ่อนแอยังไง สำหรับเขา…แค่นี้ที่รักก็เข้มแข็งมากแล้ว
เก่งมากแล้วอย่างที่เคยบอกเ้าตัวไป
หมื่นฟ้าไม่ได้แค่พูดให้รู้สึกดี แต่รู้สึกว่าที่รักเก่งแล้วจริง ๆ
เขารับรู้ว่าที่รักเติบโตมาเป็อย่างดีท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น ได้รับความรักที่เปี่ยมล้นจากทุกคน แม้กระทั่งจากเพื่อน ๆ มันจึงไม่แปลกที่ที่รักจะไม่คิดร้ายกับใคร และมองทุกอย่างในแง่ดี แต่บนโลกนี้มันโหดร้าย มีคนนับหมื่นแสนที่พร้อมจะเอาเปรียบและทำร้ายคนแบบที่รัก แต่หมื่นฟ้าเชื่อว่าที่รักจะต่อสู้กับทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตได้ด้วยตัวเอง ขอแค่ให้เวลาเขาได้เรียนรู้สักหน่อย บนโลกนี้ไม่มีใครเกิดมาแล้วเก่งเลย ไม่มีคนเข้มแข็งคนใดบนโลกไม่เคยเสียน้ำตา และที่รักก็เป็หนึ่งในคนที่ต้องเรียนรู้ คนตัวเล็กตรงหน้ายังต้องพบเจอกับเื่ราวอีกมากมาย
แต่เชื่อเถอะว่าที่รักจะเติบโตและเรียนรู้ทุกอย่างด้วยรอยยิ้ม
รอยยิ้มที่มั่นคงและแข็งแกร่ง
รอยยิ้มที่กี่หมื่นฟ้าก็จะต้องยอมแพ้
TBC
#กี่หมื่นฟ้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้