“เรียนท่านเ้าบ้าน คนของจวนเจิ้งอ๋องกับหลิ่วโหว และคนอื่นๆ พากันออกจากเมืองไปแล้วขอรับ! พาคนจากทั้งหกตระกูลไปที่ทะเลสาบเถี่ยซีทั้งหมดเลยขอรับ!” พ่อบ้านคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานเซียวว่านจุนด้วยอาการหอบเหนื่อย!
พากันออกจากเมืองอวิ๋นเซียวไปกันหมดเลยหรือ?
เดี๋ยวนะ ไปที่ทะเลสาบเถี่ยซี!
ดวงตาของเซียวว่านจุนเบิกกว้างในทันที ที่ทะเลสาบเถี่ยซี ไม่ใช่ว่าเป็ที่ที่หลิงอวิ่นและหลี่เฉวียนพาแขกผู้มีเกียรติสองคนจากสำนักิญญาเมฆาไปที่นั่นหรอกหรือ?
หรือว่า...
“พ่อบ้าน จงไปเตรียมม้า แจ้งเ้าสามกับคุณหนูห้า รวมถึงนักยุทธ์ระดับสูงทั้งหมดในจวนเซียว ให้ไปรวมตัวกันที่ประตูใหญ่ภายในเวลาครึ่งถ้วยชา!” เซียวว่านจุนออกคำสั่ง!
หลังจากนั้นไม่นานนัก กลุ่มคนเกือบยี่สิบคนก็พากันวิ่งออกจากประตูเมืองอวิ๋นเซียวไปอย่างเร่งรีบ มุ่งหน้าไปยังทะเลสาบเถี่ยซี หรือที่ปัจจุบันถูกเรียกว่าูเาจิงหั่วหลิงซาน!
...
เจิ้งอวิ๋นเผิงและเจี่ยงอิงต่างก็อ้าปากค้างเมื่อมองไปบนมือของชิวเทียนฉี่ ที่ถือแมลงปอไม้ไผ่ซึ่งทำขึ้นมาอย่างง่ายๆ และกำลังเปล่งแสงอ่อนๆ ก่อนจะกระพือปีกของมันบินหายเข้าไปในหมอกหนา
ทั้งอาและหลานชายต่างก็พากันใกับภาพนี้ เจี่ยงอิงไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับเซียวหลิงอวิ๋นอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายเองก็หลับตาไม่สนใจเขา เต้นแร้งเต้นกาตามลำพังไปก็ไม่มีความหมาย อีกทั้งชิวเทียนฉี่ก็แสดงทักษะที่น่าทึ่งนี้เข้าพอดีอีก! “ท่านลุงชิว น่ะ... นั่นคือนกจักรกลหรือ?”
“ยันต์สัตว์ส่งสารหรือ?” เจิ้งอวิ๋นเผิงเบิกตากว้าง
“ฮ่าๆ ข้าก็ไม่รู้หรอกว่าเ้านี่จะใช่ยันต์สัตว์ส่งสารที่เ้าพูดถึงหรือไม่ มันก็แค่สิ่งประดิษฐ์เล็กๆ ที่หลิงอวิ๋นสอนข้าและผู้าุโจ้าว” ชิวเทียนฉี่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย แต่กลับแฝงความภูมิใจปรากฏในดวงตา ซึ่งแสดงให้เห็นความรู้สึกที่แท้จริงของเขา
“จะ... เ้าหมอนั่นเป็คนสอนท่านลุงหรือ?” เจี่ยงอิงอ้าปากค้าง ชี้ไปที่เซียวหลิงอวิ๋นซึ่งเร้นกายอยู่ในหมอกด้วยใบหน้าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง!
“นายน้อยหลิงอวิ๋นช่างเป็นักปราชญ์จริงๆ สุดยอด สุดยอด!” เจิ้งอวิ๋นเผิงไม่ได้เป็เหมือนหลานชายของเขา แสดงออกถึงความเชื่ออย่างเต็มที่ น้ำเสียงสั่นสะท้านด้วยความชื่นชม!
“ทะ... ท่านอาเจ็ดก็เชื่อด้วยหรือ?” เจี่ยงอิงหันกลับมามองเจิ้งอวิ๋นเผิงและเอ่ยถาม!
“เงียบ อยู่นิ่งเข้าไว้ อย่าพูดอะไรมาก มันจะส่งผลต่อการรักษาอาการาเ็ของนายน้อยหลิงอวิ๋น!” เจิ้งอวิ๋นเผิงพูดด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยังไม่อยากเปิดเผยอะไรในเวลานี้!
โชคของ ‘จ้าวพยัคฆ์’ นี่ช่างดีเหลือเกิน ไม่เพียงแต่จะได้เข้าร่วมกับสำนักิญญาเมฆาเท่านั้น ยังได้ผูกมิตรกับสัตว์ประหลาดหมื่นปีอย่างเซียวหลิงอวิ๋นด้วย! ด้วยความสำเร็จเช่นนี้... ในอนาคตตระกูลชิวคงจะรุ่งเรืองแล้ว!
เจิ้งอวิ๋นเผิงมองไปที่ชิวเทียนฉี่ด้วยความรู้สึกซับซ้อน ทั้งอิจฉาและชื่นชม!
หลังจากแมลงปอไม้ไผ่บินออกไปได้ประมาณครึ่งถ้วยชา หมอกที่ปกคลุมทั่วูเาจิงหั่วหลิงซานก็ค่อยๆ จางหายไป!
หลังจากนั้นไม่นาน หมอกหนาทีบรอบๆ ตัวพวกเซียวหลิงอวิ๋นทั้งสี่คนก็จางหายไปด้วย!
“พี่เทา!” เจี่ยงอิงมองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นมา หลังจากวิ่งออกไปไม่กี่ก้าวก็ไปถึงตัวชายวัยกลางคนที่แขนข้างหนึ่งขาด นอนหมดสติอยู่ห่างออกไปสิบกว่าหมี่!
หลิ่วอวิ๋นเทา!
สายตาของเจิ้งอวิ๋นเผิงเหลือบมองไปยังเซียวหลิงอวิ๋นที่ยังคงหลับตาเพื่อรักษาอาการาเ็อยู่เงียบๆ!
เจี่ยงอิงปล่อยพลังเข้าไปในร่างกายของหลิ่วอวิ๋นเทา แล้วใช้นิ้วจิ้มเข้าไปตามหลายจุดอย่างรวดเร็วหลายหนแต่ก็ไม่เป็ผล จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากอาเจ็ดของเขา “ท่านอาเจ็ด พี่เทาถูกปิดพลังปราณเอาไว้ น่าแปลกมากที่ข้าแก้ไขไม่ได้ ท่านอาช่วยข้าหน่อย!”
“ปล่อยเอาไว้ตรงนั้นแหละ อย่ายุ่งเื่ของคนอื่น!”
“ท่านอาเจ็ด?” เจี่ยงอิงรู้สึกประหลาดใจกับท่าทีของเจิ้งอวิ๋นเผิง ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นหลิ่วิที่นอนอยู่ข้างๆ ในสภาพเหมือนหมาตาย แล้วก็มองไปที่มือของหลิ่วอวิ๋นเทา ทันใดนั้นเด็กหนุ่มหัวช้าคนนี้ ในที่สุดก็ดูเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น!
สายตาของเขาก็หันกลับไปหาเซียวหลิงอวิ๋น ชิวเทียนฉี่ และเจิ้งอวิ๋นเผิง ก่อนจะกลับมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเจิ้งอวิ๋นเผิง และถามด้วยน้ำเสียงราวกับ้าคำยืนยัน “ท่านอาเจ็ด นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านแยกตัวออกจากตระกูลหลิ่ว แล้วไปจับมือกับพวกท่านลุงชิวอย่างนั้นหรือ?”
“ลูกของอวิ๋นเยี่ยนไม่ได้โง่เสียทีเดียว” ชิวเทียนฉี่พูดแทรกขึ้นมา “การเลือกพันธมิตร นอกเหนือจากความแข็งแกร่งแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการยืนอยู่บนหลักการและความชอบธรรม จะส่งกองทัพย่อมพกเหตุผล คุณธรรมย่อมพกติดตัว แม้ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ในฐานะนักยุทธ์ หรือผู้บำเพ็ญเพียรแล้ว ก็ควรจะต่อสู้อย่างสุดความสามารถ เพื่อไม่ให้จิติญญาของนักยุทธ์หรือและชื่อเสียงของผู้บำเพ็ญเพียรต้องมัวหมอง เ้าว่าข้าพูดถูกหรือไม่ เจี่ยงอิง?”
“ถูกต้องแล้ว กองทัพย่อมพกเหตุผล คุณธรรมย่อมพกติดตัว เราไม่ควรทำให้จิติญญาของนักรบและชื่อเสียงของนักบำเพ็ญเพียรต้องมัวหมอง” เจี่ยงอิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น
ดวงตาของชิวเทียนฉี่มองมาด้วยความชื่นชม ริมฝีปากเผยรอยยิ้มออกมาและกล่าว “เ้าคิดว่าตระกูลเจิ้งอ๋องของเ้า ที่ร่วมมือกับตระกูลอื่นๆ บุกเข้ามาในมณฑลเชียนเจ๋อ แย่งชิงูเาจิงหั่วหลิงซานของตระกูลเซียวโหวไปเช่นนี้ ถือเป็การกระทำที่มีเหตุผลและมีคุณธรรมหรือไม่?”
ใบหน้าของเจี่ยงอิงแดงก่ำอีกครั้ง ก้มหน้าลงด้วยความละอายใจ “ขะ... ข้าได้พูดออกไปแล้วว่าเื่นี้ไม่เหมาะสม และอาจทำลายชื่อเสียงของตระกูลได้ ตะ... แต่ข้าเป็เพียงผู้เยาว์ ไฉนเลยจะมีสิทธิ์มีเสียงในเื่ใหญ่เช่นนี้ได้!”
“ฮ่าๆๆๆ เ้าเจ็ดเอ๋ย เ้าเจ็ด ดูสิ ดู แม้แต่คนรุ่นเยาว์ยังรู้เลยว่านี่เป็เื่อัปยศอดสูที่สามารถทำลายชื่อเสียงของตระกูลเจิ้งอ๋องของเ้า แล้วไยเ้าและตาเฒ่าเจิ้งถึงได้ลุ่มหลงในเงินทองเช่นนี้!” ชิวเทียนฉี่ใช้ปลายนิ้วจิ้มไปที่จมูกของเจิ้งอวิ๋นเผิงและกล่าวต่อ!
“ข้าว่าเื่นี้ เ้าควรจะบอกกล่าวให้เจี่ยงอิงรู้ เด็กคนนี้เข้าใจเหตุผลดี ข้าคิดว่าเขาน่าจะยอมรับอะไรได้ง่ายกว่าเ้า” ชิวเทียนฉี่พูดจบก็หลับตาลง ไม่สนใจอาหลานคู่นี้อีกต่อไป!
หลังจากพูดคุยกันอยู่สักพัก!
เจี่ยงอิงก็ทุบพื้นด้วยมือทั้งสองข้าง!
“พี่เทา!” จริงด้วย แขนของเขา มีท่านอาเจ็ดกับท่านลุงชิวอยู่ด้วย อาจจะต่อแขนกลับให้ได้!
ไม่นานนักเด็กหนุ่มจึงเดินไปหยิบแขนข้างที่ขาดกับดาบยาวกลับมา!
เจิ้งอวิ๋นเผิงทนการรบเร้าของหลานชายไม่ไหว ไม่เห็นว่าเซียวหลิงอวิ๋นกับชิวเทียนฉี่จะพูดอะไรด้วย เขาจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มรวบรวมพลังิญญาเพื่อต่อแขนที่ขาดให้กับหลิ่วอวิ๋นเทา!
...
แปลกจริง หมอกจางลงไปเยอะแล้ว? หลี่เฉวียนที่กำลังเบื่อๆ มองไปทีู่เาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทันใดนั้นดวงตาก็เบิกกว้าง!
หรือว่านายน้อยทำสำเร็จแล้ว? ไปหาผู้าุโจ้าวดีกว่า!
คิดแล้วก็ะโลงจากโขดหินอย่างตื่นเต้น ปลดเชือกผูกม้าออก แต่ในขณะที่กำลังจะขึ้นขี่ม้าเพื่อมุ่งหน้าไปยังปากทางเข้าูเานั้น!
เสียงกีบม้าดังก้องมาจากด้านหลังไกลๆ!
เขาจึงะโขึ้นหลังม้า และหันไปมองข้างหลัง!
ฝุ่นตลบคละคลุ้งไปหมด ม้าเกล็ดดำหลายสิบตัวกำลังวิ่งทะยานเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ภายในชั่วพริบตา เสียงกีบเท้ากระทบพื้นดังสนั่นปานฟ้าร้อง ม้าเกล็ดดำหลายสิบตัวแผ่ขยายพลังกดดันที่น่าเกรงขามของกองทหารม้าออกมา!
มองจากไกลๆ จะพบว่ามีคนควบม้าวิ่งนำหน้ามาสองคน คนหนึ่งรูปร่างอ้วน สวมเสื้อผ้าหรูหรา ส่วนอีกคนเป็ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ ปราดเปรียวราวกับเหยี่ยว
ทันทีที่เห็นสองคนนี้ สีหน้าของหหลี่เฉวียนก็เปลี่ยนไปทันที ตบม้าเกล็ดดำที่อยู่ใต้ร่างเขาแรงๆ! “ไปเร็ว!” ม้าทั้งสี่ตัวมุ่งหน้าไปที่ปากทางเข้าูเาอย่างเร่งรีบ!
ม้าเกล็ดดำหลายสิบตัวที่อยู่ด้านหลังวิ่งไล่ตามมาอย่างรวดเร็วปานพายุฝน เข้าใกล้ปากทางเข้าูเาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน!
“ท่านผู้าุโ ท่านผู้าุโ!” ห่างจากปากทางเข้าูเาอีกหลายพันเมตร หลี่เฉวียนะโเสียงดังออกไป!
“ท่านสาม ข้างหน้าคือพ่อบ้านของตระกูลเซียวขอรับ!” นักยุทธ์คนหนึ่งของจวนหลิ่วโหวที่อยู่ด้านหลังก็ขี่ม้าขึ้นมาตีขนาบด้านข้างอย่างรวดเร็ว และะโบอกเื่นี้ให้หลิ่วอิงที่อยู่ข้างหน้าทราบ!
พ่อบ้านของตระกูลเซียว มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? แทนที่จะวิ่งหนีลงเขาไป กลับวิ่งขึ้นเขาแทน หรือว่า... หัวของหลิ่วอิงก็ทำงานอย่างรวดเร็ว ะโออกไปด้วยเสียงที่เย็นะเื “หลิ่วถัง เ้าจับคนที่อยู่ข้างหน้ามาให้ข้า!”
“ทราบแล้วขอรับ!” แล้วคนที่ขี่ม้าอยู่คนหนึ่งพุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไล่กวดตามหลี่เฉวียนที่กำลังหนีไปยังปากทางเข้าูเา!
ม้าเกล็ดดำที่ชายผู้นี้ขี่อยู่มีรูปร่างที่ดี ขาทั้งสี่ข้างขยับเร็วมาก สามารถทำความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม เห็นได้ชัดว่าเป็ม้าเกล็ดดำชั้นดี!
เมื่อเห็นว่ามีคนขี่ม้าคนหนึ่งขึ้นหน้าออกมาและเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วที่น่าใ หลี่เฉวียนรู้สึกกลัวจนหัวใจแทบจะหลุดออกมา มือซ้ายคลายออกแล้วปล่อยม้าเกล็ดดำอีกสามตัวที่จูงอยู่ทันที เร่งควบม้าที่ขี่อยู่ให้วิ่งไปยังปากทางเข้าูเาอย่างสุดชีวิต! และในขณะเดียวกันก็ร้องะโสุดเสียง “ท่านผู้าุโ ท่านผู้าุโช่วยข้าด้วย!”
หลิ่วถังไล่ตามไปอย่างกระชั้นชิด ทันใดนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นศพสองศพที่เืแห้งกรังแล้วอยู่ข้างหน้า ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็แดงก่ำ ะโออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว “เ้าโจรชั่ว กล้าดีอย่างไรถึงฆ่าคนของเรา ข้าจะเอาชีวิตเ้าเสีย!”
ในขณะที่กำลังควบม้าอย่างรวดเร็วอยู่นี้ มือซ้ายก็ล้วงไปข้างหลัง หยิบคันธนูยาวออกมา จากนั้นมือขวาก็ล้วงไปทางขวาของหลังม้า หยิบลูกธนูเหล็กออกมาหนึ่งดอก ก่อนจะสาวคันธนูและเล็งไปยังแผ่นหลังของหลี่เฉวียนที่อยู่ข้างหน้า ตาข้างหนึ่งหลับลง ก่อนจะปล่อยมืออีกข้างหนึ่งออกไป “ผึง” ลูกธนูเหล็กพุ่งแหวกผ่านอากาศ เกิดเป็เสียงราวกับปีศาจนรกที่แผดเสียงกรีดร้อง และพุ่งไปหาหลี่เฉวียน!
