เสียงกีบเท้าม้าดังมาแต่ไกล ขณะนั้นลูกศรยังมิได้ยิงออกไป ทว่าพวกเขากลับลดคันธนูลงช้าๆ ทุกคนล้วนจ้องมองไปยังร่างเงาที่มาใหม่
“ผู้บัญชาการเริ่น”
หลินเฟิงะโ จากนั้นเขาก็ลงจากม้าและมองไปยังเหล่าทหาร
“ทุกคนอย่าเพิ่งโจมตี”
หลินเฟิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง เขารู้ดีว่าถ้าทหารทุกนายยิงธนูออกไปแล้ว จะไม่สามารถย้อนกลับมาทางเดิมได้อีก ซึ่งการโจมตีเมืองหลวงก็คือการก่อฏและจะต้องถูกกำจัด
เหล่าผู้ที่อยู่เื้ันั้น ไม่ได้สนใจความเป็ตายของผู้อื่น พวกเขาสนใจเพียงผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น
“หลินเฟิงเร็วเข้า! ท่านแม่ทัพเหลือเวลาไม่มากแล้ว”
เริ่นชิงขวังส่งเสียงเร่งอย่างเป็กังวล ส่วนหลินเฟิงก็พยักหน้าตอบเล็กน้อย หลายวันที่ผ่านมานั้นหลินเฟิงเดินทางอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อรีบเดินทางมาที่เมืองหลวง
หลินเฟิงมองไปยังหอคอยแล้วกล่าวว่า “หลินเฟิงอยู่นี่แล้ว รีบเปิดประตูเดี๋ยวนี้”
หลินเฟิงรู้ดีว่าอาณาจักรเสวี่ยเยว่ได้แต่งตั้งให้เขาเป็วีรบุรุษ ในขณะเดียวกันก็้าสังหารเขาด้วย ถึงขนาดส่งกำลังคนไปดักซุ่มโจมตีอยู่ที่ชายแดนเสวี่ยเยว่ ซึ่งด้านนอกเมืองหลวงในตอนนี้ ผู้คนต่างจับจ้องมาที่พวกเขาและแน่นอนว่าหากทหารของเสวี่ยเยว่ลงมือสังหารหลินเฟิงล่ะก็ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครอยู่เื้ั
เป็ไปตามคาด เมื่อได้ยินชื่อหลินเฟิงแล้ว เหล่าทหารที่อยู่เหนือกำแพงเมืองก็ลังเลใจขึ้นมาและค่อยๆ ลดคันธนูลง ซึ่งฉากนี้ทำให้เิชงต้องเยือกเย็นขณะจดจ้องไปยังร่างเงาที่อยู่ด้านล่าง
“หลินเฟิง!”
เิชงเผยรอยยิ้มเ็าขึ้นที่มุมปาก จากนั้นก็กล่าวเสียงเย็นว่า “หลิงเฟิง เ้าได้ถูกทหารโม่เยว่จับตัวไป แต่ตอนนี้เ้ากลับมาปรากฏตัวที่นี่ ตอนนี้เ้าจึงกลายเป็คนทรยศและไม่อาจย่างกรายเข้าสู่เมืองได้ อีกอย่างฏพวกนี้ ช่างกล้านักที่มาล้อมเมืองหลวงและยังเล็งธนูมาที่พวกข้าอีก พวกเ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน ทุกคนเตรียมยิง!”
“หืม?”
หลินเฟิงขมวดคิ้ว ยิงธนู? ฏ?
เหตุผลช่างไร้สาระเสียจริง ไม่ได้มีแต่หลินเฟิงเท่านั้น แม้แต่ทหารที่อยู่บนกำแพงยังต้องใ รวมไปถึงเิกู่เฟิง ทว่าคำสั่งนี้ทหารไม่อาจขัดได้ พวกเขาจึงยกคันธนูเล็งไปทางฝูงชนด้านล่าง
“พวกเ้ากล้า?”
ขณะนั้นต้วนซินเยี่ยได้เอ่ยขึ้นมา จึงทำให้ผู้คนต่างประหลาดใจ
องค์หญิงหรือ!
เิชงเองก็ตกตะลึงพร้อมกับริมฝีปากที่กำลังสั่นระริก
ก่อนหน้านี้เขาหวังในตัวต้วนซินเยี่ยสูงมาก แต่ตอนนี้เขากลับถูกหลินเฟิงทำลายการบ่มเพาะไปและกลายเป็แค่เศษขยะคนหนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงเื่ต้วนซินเยี่ยเลย เพราะสำหรับเขาแล้วมันไม่มีทางเป็ไปได้อีกต่อไป
นอกจากนี้เมื่อได้เผชิญกับศึกในครั้งนี้ ทำให้เขาตระหนักได้ถึงบางอย่างและนึกถึงเื่ราวที่ผ่านมา แววตาของเิชงจึงดูน่ากลัวขึ้นมาทันที
“ยิง!”
เิชงให้สัญญาณมือ แววตาของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความมืดมิด
เมื่อสิ้นสุดเสียงของเิชง ทันใดนั้นสีหน้าของเิกู่เฟิงที่อยู่ข้างๆ เขาพลันซีดขาวลงทันที มันจบแล้ว...
“อย่ายิง!”
เิกู่เฟิงะโเสียงกร้าว ถึงแม้จะมีบางคนไม่้าให้ต้วนซินเยี่ยและหลินเฟิงกลับมาที่เมืองหลวง ทว่าตอนนี้หลินเฟิงได้ยืนอยู่นอกเมืองหลวงและต้วนซินเยี่ยก็กลับมาแล้ว แม้เขาจะ้าสังหารพวกเขาเพียงใดก็ต้องอดทนไว้ ไม่อาจลงมืออย่างผลีผลามได้ ไม่อย่างนั้นมันอาจเกิดเื่เลวร้ายในภายหลัง
อย่างไรก็ตามเิชงได้ทำเช่นนั้นอย่างไม่ลังเล หากสังหารหลินเฟิงและต้วนซินเยี่ยไปแล้ว ผู้ที่อยู่เื้ับางคนอาจพอใจกับมัน ทว่าบางคนอาจไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ซึ่งนับว่าโชคดีที่หลินเฟิงและต้วนซินเยี่ยยังไม่ตาย และหากเขาสังหารบุตรีของฮ่องเต้ไปล่ะก็ ความผิดนี้ใครเล่าจะรับผิดชอบ?
ในจิตสำนึกของทุกคนย่อมตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ได้ แต่เิชงกลับถูกความเกลียดชังและความริษยาบดบังจิตใจ เขาค่อยๆ ลดมือที่ให้สัญญาณโจมตีลง...
“ฟิ้ว... ฟิ้ว...”
ลูกศรจำนวนหนึ่งถูกยิงออกไป สีหน้าของหลินเฟิงกลายเป็เ็าแล้วะโขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับมือที่เปลี่ยนเป็ดาบเ้าฟาดฟันลูกศรที่พุ่งเข้ามาทันที
“บังอาจนัก แม้แต่องค์หญิงก็ยังกล้าลงมือ ตายซะเถอะ!”
หลินเฟิงคลี่ยิ้มอย่างเ็าขณะพุ่งไปที่ประตูเมืองด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ในเวลาเดียวกันเริ่นชิงขวังและเมิ่งฉิงก็ตามเขาไปติดๆ
“ฉึก!!!”
เมื่อฝ่ามือของหลินเฟิงทะลวงอากาศ ทันใดนั้นเหล่าพลธนูก็ถูกสังหารลงในทันที แม้แต่เวลาหลบหนีก็ไม่มี
ส่วนคนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงของเิกู่เฟิงนั้นก็ไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด ทำให้หลินเฟิงและคนอื่นๆ ผ่านขึ้นไปข้างบนได้อย่างง่ายดาย
“เมื่อครู่เ้าเป็คนสั่งให้ยิงและ้าสังหารองค์หญิงสินะ?”
หลินเฟิงจ้องเขม็งไปที่เิชงด้วยแววตาเยือกเย็น เป็เ้าหมอนี่อีกแล้วหรือ?!
เมื่อเห็นสายตาของหลินเฟิง เิชงจึงสั่นสะท้านเล็กน้อย เขาเคยคิดว่าหากได้เผชิญหน้ากับหลินเฟิงอีกครั้ง เขาอาจมีจิตใจฮึกเหิมเช่นเมื่อครู่นี้และสั่งสังหารหลินเฟิงเสีย แต่ในตอนนี้เมื่อหลินเฟิงได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาจริงๆ เพียงแวบเดียวก็ทำให้ความทะเยอทะยานของเขาพลันสลายหายไป คงเหลือไว้ซึ่งความหวาดกลัวเท่านั้น
เขาหวาดกลัวหลินเฟิงมากจริงๆ ครั้งก่อนที่ป่าเซียงซือก็เป็หลินเฟิงที่เล่นงานเขาโดยไม่ลังเล กระทั่งได้ทำลายการบ่มเพาะและไม่ปล่อยให้เขาได้หลบหนี
เิชงก้าวถอยหลังเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าแม้แต่สายตาของหลินเฟิงก็สามารถทำให้เขาเกรงกลัวได้ขนาดนี้
เิกู่เฟิงก้าวออกมาข้างหน้าและจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้านิ่งๆ นี่เป็ครั้งแรกที่เขาได้เห็นหลินเฟิง เขาเพียงได้ยินชื่อเสียงของหลินเฟิงมาเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถจดจำหลินเฟิงได้ และคนผู้นี้ก็เป็ผู้ทำลายการบ่มเพาะของบุตรชายเขา ทำให้บุตรชายของเขาต้องกลายเป็เศษขยะ
“เิชงเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้น เขาไม่รู้ว่าผู้นั้นเป็องค์หญิง ข้าจะให้เขาคุกเข่าขอโทษองค์หญิงด้วยตัวเอง”
เิกู่เฟิงกล่าวปกป้องบุตรชายของตน แม้ตอนนี้เขาจะเกลียดหลินเฟิงมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาจำเป็ต้องทำเช่นนี้ ทำให้เื่ใหญ่กลายเป็เื่เล็กและปล่อยให้จางหายไป
“ไม่ได้ตั้งใจ? ไม่รู้?” หลินเฟิงยิ้มอย่างเยือกเย็น “เมื่อครู่นี้องค์หญิงะโออกมาด้วยเสียงอันดัง กระทั่งผู้คนในเมืองก็ต่างเห็นด้วยตาของตัวเอง ทว่าเิชงก็ยังออกคำสั่งให้ยิงธนู ซึ่งการกระทำดังกล่าวนับว่าเป็การพยายามสังหารองค์หญิงอย่างแท้จริง เิชงสมควรตาย!”
“เิชงไม่เห็นองค์หญิง!” เิกู่เฟิงกล่าวอธิบาย
หลินเฟิงไม่อยากเสียเวลากับเื่ไร้สาระไปเปล่าๆ ทันใดนั้นเขาได้ก้าวเดินออกมาขณะปลดปล่อยเจตจำนงอันหนาวเหน็บ เขาตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าต้องสังหารเิชงให้ได้
เหล่าทหารต่างวิ่งมาด้านหน้าของเิชง แต่พวกเขากลับเห็นหลินเฟิงกำลังแสยะยิ้มพลางกล่าวว่า “เิชง้าสังหารองค์หญิง หากใครปกป้องเขาก็ถือว่าเป็ผู้สมรู้ร่วมคิด เพื่อความปลอดภัยขององค์หญิงแล้ว หากใครกล้าแตะต้องตัวองค์หญิงและขัดขวางล่ะก็ มันผู้นั้นต้องตาย!”
น้ำเสียงของหลินเฟิงในตอนนี้น่าเกรงขามเป็อย่างมาก ใครก็ตามที่ขัดขวาง มันผู้นั้นจะถูกเขาสังหาร
ผู้คนที่อยู่ห่างไกลต่างได้ยินเสียงของหลินเฟิงอย่างชัดเจน ชายหนุ่มที่หยิ่งผยองได้ลั่นวาจาว่า หากใครกล้าแตะต้ององค์หญิง เขาก็จะสังหารมันผู้นั้น
“กล้าหรือ!”
สีหน้าของเิกู่เฟิงซีดเผือด ไม่ว่าเิชงจะทำอะไร ถึงอย่างไรเขาก็เป็บุตรชายของเขา ซึ่งเหนือประตูแห่งนี้เป็เขตพื้นที่ของเขา คาดไม่ถึงว่าเพื่อปกป้ององค์หญิงแล้วหลินเฟิงถึงกับทำเช่นนี้ ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก เขาจะหยุดความโกรธเกรี้ยวนี้ได้อย่างไรกัน
“ข้าบอกว่าสังหารก็คือสังหาร ใครก็ตามที่ขัดขวาง มันผู้นั้นต้องตาย”
หลินเฟิงกล่าววาจาน่าเกรงขามขณะก้าวออกมาพร้อมคลื่นพลังสีม่วงที่ดุเดือด ทันใดนั้นได้มีร่างเงาหนึ่งพุ่งโจมตีหลินเฟิง ทว่าหลินเฟิงก็ใช้ฝ่ามือฟาดฟันออกไปราวกับดาบ ซึ่งคนคนนั้นก็ถูกสังหารในทันที และเป็จริงอย่างที่เขาว่า หากใครขัดขวาง ผู้นั้นจักต้องตาย
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าทหารต้องสั่นระริก ของเหลวสีม่วงที่ปลดปล่อยออกมานั้น ทำให้ไม่มีใครกล้าวิ่งเข้าไปหาและทุกคนต่างก็ถอยหนี แม้แต่เิกู่เฟิงยังไม่อาจอยู่นิ่งได้ ของเหลวสีม่วงนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง หากเขาััมันล่ะก็ มือของเขาต้องละลายอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นร่างเงาพลันแวบหายไป จากนั้นผู้คนก็เห็นว่าเิชงได้ตกอยู่ในมือของหลินเฟิงแล้ว การเคลื่อนไหวของหลินเฟิงช่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าจนไม่มีใครตอบสนองได้ทัน
หลินเฟิงใช้มือบีบลำคอของเิชง ขณะเดียวกันเขาก็เดินเข้าไปชิดริมหอคอย ทำให้ร่างของเิชงลอยคว้างอยู่ในอากาศ หากหลินเฟิงปล่อยมือล่ะก็ เิชงก็จะตกลงไปข้างล่างและตายในทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย
ใบหน้าของเิชงกลับกลายเป็ขาวซีด ไม่มีแม้แต่สีเืบนใบหน้า มีเพียงความหวาดกลัวเท่านั้นที่แสดงออกมา
“หลินเฟิง เ้ากล้าหรือ!”
สีหน้าของเิกู่เฟิงซีดขาวราวกับกระดาษขณะะโออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว แต่เขากลับเห็นหลินเฟิงกำลังยิ้มเยาะเย้ย
“ทหารม้าโลหิตจงฟัง!”
สิ้นเสียงะโของหลินเฟิงแล้ว ทันใดนั้นเหล่าทหารที่อยู่นอกประตูก็ะโตอบรับด้วยน้ำเสียงดุดันโดยพร้อมเพรียง “ขอรับ!”
เสียงขานของเหล่าทหารทำให้ผืนดินต้องสั่นะเื หลินเฟิงในตอนนี้เหมือนกับเป็ผู้บัญชาการทั้งสามกองทัพ ทุกการกระทำล้วนน่าเกรงขาม ทำให้เหล่าทหารต่างต้องเืร้อน จิตใจของกองกำลังทหารด้านนอกเมืองหลวงพลันลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
“เตรียมธนู!”
หลินเฟิงะโอย่างโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง ทันใดนั้นทหารที่อยู่ด้านนอกเมืองต่างง้างธนูขึ้นมา
“เพราะเิชงสั่งให้สังหารองค์หญิง ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับความผิดนี้ มีแต่ความตายเท่านั้นที่ต้องเจอ!”
หลินเฟิงคำรามด้วยน้ำเสียงดุดัน มือของเขาก็ลดลงอย่างช้าๆ ทันใดนั้นร่างของเิชงก็ค่อยๆ ตกลงสู่พื้นด้านล่าง
“ฟิ้ว… ฟิ้ว...”
ลูกศรนับพันทะลวงผ่านอากาศ เิชงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาและหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง ขณะที่หลั่งเืออกมากลางอากาศอย่างต่อเนื่อง
ลูกศรนับไม่ถ้วนกระหน่ำแทงร่างของเิชงอย่างไม่ปรานี จนกระทั่งร่างของเขาถูกตรึงไว้บนกำแพงอย่างน่าสยดสยอง
ในตอนนี้ ทุกคนต่างตกตะลึงและไร้ซึ่งคำพูดใดๆ
หลินเฟิง! นี่สินะคือชื่อเสียงที่เล่าขานกันมา หลินเฟิงที่เป็ดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า!