“รู้ไหมว่าทำไมตีหมาต้องดูเ้าของด้วย? เพราะว่าหมาโดนตีแล้ว จะต้องกลับไปเห่าหอนข้างๆ เ้าของมันแน่ เพื่อฟ้องเ้าของมัน ลิงก็เหมือนกัน มันจะต้องกลับไปข้างกายเ้านายมันแน่นอน ส่วนกระเป๋าเอกสารที่พวกเรา้านี้ อยู่ในมือของเ้าของลิง” ฉินหลางอธิบายอย่างมีเหตุมีผล
“ถ้าหากเป็อย่างนั้น แล้วยังจะยืนบื้ออยู่ทำไม ลิงตัวนั้นหนีหายไปแล้ว ตอนนี้จะรู้ได้ยังไงว่ามันไปไหนแล้ว?” ฮานเซียนพูดอย่างอดไม่ได้ น้ำเสียงเหมือนไม่พอใจเล็กน้อย
“จะรีบไปไหน” ฉินหลางพูดอย่างเฉยเมย “ถ้ารีบมากจริงๆ ก็ควรจะส่งเอกสารนั้นเข้าไปที่ฝ่ายความมั่นคงสาธารณะของจังหวัดแล้ว แต่คุณกลับมา…อยู่ที่นี่กับแฟนคุณก่อน”
“นาย—” เดิมทีฮานเซียนโมโหเล็กน้อย แต่เพราะคำนึงถึงตัวเองจำเป็ต้องพึ่งฉินหลางจึงจะทำสำเร็จได้ ดังนั้นจึงจำเป็ต้องอดทนอดกลั้น “ฉันรู้ว่านายเก่ง แล้วตอนนี้จะไปหาเ้าของลิงตัวนี้ที่ไหน?”
“อย่ารีบร้อน—ได้เวลานะ ไปกันเถอะ พวกเราลงรถกัน” ฉินหลางมองเห็นแสงสีแดงที่อยู่ท่ามกลางความมืดมิด ั้แ่ตอนที่เ้าลิงได้รับาเ็หนีไป ฉินหลางก็ปล่อยเ้าตั๊กแตนสีเืออกไป ให้มันตามเ้าลิงตัวนั้นไปแล้ว ดังนั้นฉินหลางถึงมั่นใจว่าจะสามารถใช้ลิงตัวนี้ตามหาเ้าของของมันเจอ
เถารั่วเซียงกับฮานเซียนตามหลังฉินหลางอย่างงงๆ หลังจากฉินหลางเลี้ยวเข้าไปในซอยแล้ว ก็มุดเข้าไปในตรอกเล็กๆ แม้ตอนนี้เมืองเซี่ยหยางจะเต็มไปด้วยตึกสูง แต่ในตรอกนี้กลับมีสิ่งปลูกสร้างเตี้ยๆ อยู่ด้วย มีแม้กระทั่งบ้านที่ล้อมด้วยสังกะสี บ้านเล็กๆ ผุๆ พังๆ พวกนี้ถูกรายล้อมด้วยตึกสูงรอบๆ ปิดบังมุมที่มืดมิดของเมืองนี้เอาไว้
ยังไงซะเถารั่วเซียงกับฮานเซียนก็จบรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์มา อย่างน้อยก็สามารถป้องกันตัวได้ ดังนั้นเดินเข้าในตรอกมืดๆ นี้ ทั้งคู่จึงไม่กลัว
ในที่สุดฉินหลางก็เดินมาหยุดอยู่หน้าบ้านอิฐสีแดงเล็กๆ หลังหนึ่ง พร้อมทั้งหันมาส่งสัญญาณให้เถารั่วเซียงกับฮานเซียนเงียบ
ฉินหลางเอาหูแนบประตู ข้างในบ้านมีเสียงร้องโอดโอยด้วยความเ็ปจริงๆ ด้วย—
เรามาถูกที่แล้ว!
ปึงๆๆ!
ฉินหลางเคาะประตูอย่างเปิดเผยแล้ว
“ใคร?” ข้างในมีเสียงชายชราที่กำลังตื่นตัว
“มาเอาของกับนาย!” ฉินหลางพูดตรงๆ ยังไงซะก็มาถึงหน้าบ้านแล้ว เขาจึงพูดตรงๆ เลยดีกว่า “รีบเปิดประตู คุณคงไม่อยากให้ผมพังประตูเข้าไปหรอกใช่ไหม”
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ประตูไม้ก็เปิดออก
ไฟในห้องไม่ค่อยสว่างมากนัก แต่ฉินหลางสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ในห้องนี้โล่งมากๆ ตรงกลางมีเสาไม้ต้นหนึ่ง ข้างๆ มีเก้าอี้ที่ทำจากท่อนไม้สี่ท่อน ชายชราที่อยู่ในบ้านอายุประมาณห้าสิบกว่าปี ดูเหมือนจะเป็ชายหลังคร่อม แต่สายตากลับชัดเจนมาก ดูแล้วหูตาไม่ฝ้าฟางเหมือนคนแก่ทั่วๆ ไป ชายชราคนนี้มีวรยุทธ์!
บนบ่าของชายชรา มีลิงตัวหนึ่งเกาะอยู่ เ้าลิงตัวนั้นมองฉินหลาง ร้องเจี๊ยกๆ ไม่หยุด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เห็นได้ชัดว่าเ้าลิงตัวนี้จำได้ว่าฉินหลางเป็คนลงมือทำร้ายมัน ตอนนี้มันกำลังฟ้องเ้าของมันอยู่
“ทำไมเธอต้องทำร้ายลิงของฉัน?” ชายชรามองด้วยสายตาเชือดเฉือน
สำหรับชายชราคนนี้ ลิงไม่ได้เป็เพียงสัตว์เลี้ยงของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็เพื่อนคู่ชีวิตของเขาด้วย ดังนั้นฉินหลางทำร้ายลิงของเขา จึงทำให้เขาโมโหมาก
“ผมรักษาลิงของคุณให้หายได้ แต่ลิงของคุณไปขโมยของของพวกเรามา คุณต้องเอาของที่ลิงของคุณขโมยมาให้พวกเราก่อน” ฉินหลางตอบอย่างเฉยเมย
“มีคนไหว้วานมา ในเมื่อรับปากเขาแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ ของของพวกเธอ ฉันเอาให้พวกเธอไม่ได้หรอก” ชายชราพูดอย่างอำมหิต
“ดูแล้วเื่ในยุทธภพต้องจัดการด้วยวิธีของยุทธภพสินะ?” ฉินหลางสบถเย็นเยือก “งั้นพวกเรามา ‘*งัดข้อ’ กันไหม ถ้าผมแพ้ ผมจะรักษาลิงของคุณ แล้วจากไป แต่ถ้าคุณแพ้แล้ว เหมือนเดิมผมรักษาลิงให้คุณ แต่คุณต้องเอาของคืนให้พวกเรา และต้องบอกสาเหตุกับผมด้วย”
“ทำไม รังแกที่ฉันแก่เหรอ? ได้ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กหนุ่มสมัยนี้ มีฝีมือแค่ไหนกันแน่! เ้าหนู งั้นพวกเรามางัดข้อกัน!”
พูดจบ ชายชราก็เริ่มตั้งท่า จากนั้นใช้ฝ่ามือซ้ายฟันไปที่มือขวาของฉินหลาง
ฉินหลางให้เถารั่วเซียงกับฮานเซียนถอยออกไปห่างๆ แล้วยื่นฝ่ามือซ้ายออกมา จากนั้นฝ่ามือของเขากับชายชราประกบกัน ตอนที่ฝ่ามือของพวกเขาประกบกันนั้น ชายชราเปลี่ยนมืออย่างกะทันหัน ฝ่ามือของเขาเปลี่ยนเป็กรงเล็บ แล้วข่วนไปที่ฝ่ามือของฉินหลาง ฝ่ามือของฉินหลางก็เปลี่ยนเป็มีด ฟันไปที่กรงเล็บลิงของชายชรา
ปัง!
เสียงปะทะของทั้งคู่กังวานมาก เพราะแรงปะทะกับฉินหลาง ชายชรารู้สึกว่ามือของเขาเริ่มชา ในใจอดที่จะใไม่ได้ ต้องรู้ว่า แม้ตอนนี้ชายชราจะอายุห้าสิบกว่าแล้ว แต่พื้นฐานวรยุทธ์ของเขามั่นคงมาก ฝึกมาถึงขั้น ‘ฝึกจิตของกระบวนท่า’ ขั้นสูงสุด หมัดลิงของเขามีทั้งกระบวนท่า และจิตของกระบวนท่ารวมอยู่ในตัว เดิมทีเขาคิดว่าจะสามารถเอาชนะฉินหลางได้อย่างง่ายดาย คิดไม่ถึงว่าหลังจากเริ่มลงมือแล้ว ชายชราเพิ่งจะพบว่าพื้นฐานวรยุทธ์ของฉินหลางแข็งแกร่งกว่าเขามาก!
ในเวลาที่ชายชรากำลังตกตะลึงอยู่นั้น มีดตั๊กแตนของฉินหลางฟันออกไป ไม่ให้ชายชรามีโอกาสพักหายใจให้หายเหนื่อย
ชายชราจำเป็ต้องรวบรวมแรงที่มี รุกบ้างรับบ้าง อาศัยความว่องไวของหมัดลิงมาช่วยลดความรุนแรงของมีดตั๊กแตน
ในสายตาของเถารั่วเซียงกับฮานเซียน ชายชราคนนี้เปรียบเสมือนลิงแก่ที่เชี่ยวชาญวิชาการต่อสู้ ส่วนฉินหลางกลับเป็เหมือนตั๊กแตนตัวใหญ่ มือทั้งสองข้างของฉินหลางคือมีดสองเล่ม รุกและรับอย่างกล้าหาญ ดุดันดั่งเสือร้าย ไร้ผู้เทียมทาน ช่างมีเสน่ห์มากจริงๆ
วรยุทธ์ของทั้งคู่นั้นสูสีกันมาก ตอนแรกชายชราคิดว่าเขาสามารถใช้ประสบการณ์หลายสิบปีของตัวเองเอาชนะฉินหลางได้ กลับคิดไม่ถึงว่าฐานฝูหลงจู้ของฉินหลางจะแกร่งมากขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าวรยุทธ์ของฉินหลางจะเหนือกว่าเขาด้วยซ้ำ
แต่ถ้าฉินหลางอยากเอาชนะชายชรา ก็ไม่ใช่เื่ง่ายเหมือนกัน
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ชายชราก็ก้มหน้าลงไป ราวกับลิงตัวหนึ่ง คลานอยู่บนพื้นอย่างรวดเดียว จากนั้นกระโจนมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และรุนแรง พุ่งมาทางหน้าอกของฉินหลาง พุ่งมาพร้อมกับออกหมัดราวกับพายุ เร็วขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าชายชราจะใช้ท่าไม้ตายแล้ว ฉินหลางรออย่างใจจดใจจ่อ เตรียมจะรับมือด้วยมีดตั๊กแตน ทว่าในเวลานั้นเอง ในแววตาของชายชรามีความเ้าเล่ห์แวบผ่าน ภายใต้การจู่โจมที่เร็วจนตาลายนั้น ในที่สุดชายชราก็ใช้ท่าไม้ตายแล้ว
มือข้างหนึ่งของชายชรา หงายฝ่ามือขึ้นแล้วพุ่งขึ้นมาจากด้านล่าง ตรงกลางหว่างขาฉินหลาง รวดเร็วราวกับสายฟ้า!
ลิงขโมยลูกท้อ!
ท่านี้เป็ท่าที่ชั่วช้ามาก และที่สำคัญยังเป็ท่าที่แพร่หลายมาก ด้วยเหตุที่ผู้คนนิยมใช้ท่านี้กันแพร่หลาย ก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าท่านี้มีพลังทำลายสูงมาก โดยเฉพาะคนที่ใช้ท่านี้นั้นเป็ผู้เชี่ยวชาญในวิชาหมัดลิง นั่นถึงจะเรียกว่าท่าไม้ตายที่แท้จริง ไม่ว่าจะเทวดาหรือภูตผีต่างก็ไม่ทันตั้งตัว!
ลิงขโมยลูกท้อ เคล็ดลับอยู่ที่คำว่า ‘ขโมย’ ดังนั้นนอกจากจะลงมือเร็วแล้ว ที่สำคัญยังต้องพรางตา ให้คู่ต่อสู้ไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นถึงได้ใช้คำว่า ‘ขโมย’ ไม่อย่างนั้น ถ้าคู่ต่อสู้สังเกตเห็นแล้ว เขาจะไม่ปล่อยให้คุณมีโอกาสขโมยลูกท้อ
*ภาษายุทธภพ ‘งัดข้อ’ แปลว่าประลองฝีมือ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้