"คุณหนู คุณหนู..."จื่อเยียนพุ่งพรวดเข้ามา กอดกู้ซินเยว่ที่กำลังอยู่ในอารมณ์เสียใจสิ้นหวังพร้อมรีบอธิบาย"คุณชาย ท่านอย่าถือโทษคุณหนูเลยเ้าค่ะ คุณหนูเพียงแค่คิดมากเกินไป ั้แ่นางมาท่านก็ไม่ยอมกลับบ้านเลย ฮูหยินเฒ่าคิดถึงท่าน พูดถึงท่านทุกวัน นางจึงคิดฟุ้งซ่านว่าเป็เพราะนางจึงทำให้ท่านไม่กลับบ้านหรือไม่ คุณหนูไม่อาจทนเห็นฮูหยินเฒ่าคิดถึงบุตรชายของนางทุกวันเ้าค่ะ!"
กู้ซินเยว่กล่าวอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ"จื่อเยียน เ้าจะพูดเื่พวกนี้เพื่ออะไร ญาติผู้พี่เขารังเกียจข้า ไปกัน จื่อเยียนพวกเรากลับไปเก็บข้าวของ กลับไปประเดี๋ยวนี้เลย! กลับไปแล้วต่อให้โดนผู้อื่นข่มเหงรังแกก็ยังดีกว่าอยู่ที่นี่แล้วโดนรังเกียจ! "
"คุณชาย ท่านเกลี้ยกล่อมคุณหนูด้วยเถอะเ้าค่ะ!" จื่อเยียนกอดกู้ซินเยว่ไว้ กล่าวด้วยความเ็ปใจ "หากท่านไม่ยอมกลับไปอีกไม่เพียงแค่ฮูหยินเฒ่าจะเสียใจ คุณหนูก็จะเสียใจเช่นกันนะเ้าคะ! "
สีหน้าซ่งฉางชิงไม่มีความเปลี่ยนแปลงสะบัดแขนเสื้อออกจากห้องไป ก่อนเดินออกไป เพียงทิ้งคำพูดไว้หนึ่งประโยค
"พาคุณหนูของเ้ากลับไปดีๆไปบอกฮูหยินเฒ่า ว่าคืนนี้ข้าจะกลับไปกินข้าว"
กล่าวจบ เขาก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ
กู้ซินเยว่ยังคงร้องไห้จื่อเยียนกอดกู้ซินเยว่ หัวเราะพร้อมกล่าว "คุณหนู ท่านได้ยินหรือไม่เ้าคะ? คุณชายบอกว่าคืนนี้จะกลับไป ท่านอย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้เ้าค่ะ"
เสียงร่ำไห้พลันหยุดชะงักกู้ซินเยว่ที่ยังมีหยาดน้ำตาติดบนขนตาเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้นยินดี "ญาติผู้พี่กล่าวเช่นนั้นจริงหรือ? "
จื่อเยียนพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น"คุณหนู ท่านดูสิเ้าคะ พอท่านร้องไห้ คุณชายก็ไม่อาจทนใจแข็ง แสดงว่าในใจเขาท่านมีความสำคัญมากทีเดียว ที่เขากล่าวเช่นนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ท่านกลับบ้านเดิมมิใช่หรอกหรือเ้าคะ? "
กู้ซินเยว่รีบเช็ดคราบน้ำตาของตัวเองจนแห้งไม่เหลือความเศร้าเสียใจแม้แต่น้อย รีบเอ่ยถาม "เป็อย่างไรบ้าง? เมื่อครู่ข้าร้องไห้จนน่าเกลียดเกินไปหรือไม่? "
"ไม่เลยเ้าค่ะ คุณหนูของข้าเป็คนที่งดงามที่สุดบนโลกใบนี้ไม่มีใครเทียบท่านได้ คุณชายตอบตกลงว่าคืนนี้จะกลับไปกินข้าวแล้ว ท่านว่าเราควรรีบกลับไปบอกข่าวดีเื่นี้กับฮูหยินเฒ่า จากนั้นจึงเตรียมอาหารที่คุณชายชอบทานดีหรือไม่เ้าคะ? "
กู้ซินเยว่หยุดร้องไห้และแย้มรอยยิ้มทันทีรู้สึกยินดีเสียยิ่งกว่ากระไร "แน่นอน ไปกัน เรารีบกลับไป ข้าจะตระเตรียมอาหารอย่างดีให้เต็มโต๊ะทำให้ญาติผู้พี่ต้องประหลาดใจ! "
ซ่งฉางชิงอยู่ในห้องครัวดูพ่อครัวหั่นผักผักตี้เอ่อที่ล้างเสร็จแล้วมีสองถาดใหญ่ วางอยู่ข้างๆ ซ่งฉางชิงมองดูผักตี้เอ่อในถาดใหญ่ก็รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาช่างตามติดไปได้ทุกที่ประหนึ่งเงาตามตัว
ครอบครัวตระกูลซ่งถือเป็ครอบครัวมีฐานะในเมืองโยวหลันตัวเรือนตั้งอยู่บนถนนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในเมืองโยวหลัน
ที่ประตูมีโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่สองอันพลิ้วไหวตามสายลมยามค่ำคืน ประตูใหญ่สีชาดปิดสนิท เขาเพียงยกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆ ประตูใหญ่ก็เปิดจากด้านในเผยให้เห็นใบหน้าของคนเฝ้าประตูที่ยิ้มแย้มประหนึ่งดอกเบญจมาศ "คุณชาย ท่านกลับมาแล้วหรือขอรับฮูหยินเฒ่ากับคุณหนูเยว่รอท่านอยู่ตลอดเลยขอรับ! "
ซ่งฉางชิงขานตอบ ร่างสูงโปร่งสง่างามเดินอยู่ท่ามกลางม่านราตรีและสายลมอ่อนที่พัดโชยมา
ชุดยาวสีฟ้าครามโบกพลิ้วตามสายลมยามค่ำคืนขับให้ร่างสูงดูเด่นสง่า สูงโปร่งประหนึ่งต้นไผ่
กู้ซินเยว่วางอาหารจานสุดท้ายลงบนโต๊ะฮูหยินเฒ่ากู้เห็นนางยุ่งมาทั้งวัน เพื่อตระเตรียมอาหารรสเลิศโต๊ะนี้ จึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ"ลำบากเ้าแล้ว ยุ่งมาแทบทั้งวัน"
อาหารส่วนใหญ่บนโต๊ะล้วนเป็ของที่ฉางชิงและนางชอบกินลำบากเด็กคนนี้แล้ว ภายในใจคิดถึงแต่ความชอบของพวกเขา
กู้ซินเยว่ซับเหงื่อบนหน้าผากยิ้มพร้อมกล่าว "ยากนักที่ญาติผู้พี่จะได้กลับมากินข้าวสักหน ไม่ง่ายเลยที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าต่อให้ยุ่งกว่านี้ ก็เป็สิ่งที่ข้าสมควรทำเ้าค่ะ เพียงแต่ไม่รู้ว่า ญาติผู้พี่จะชอบรสชาติอาหารหรือไม่"
นางวางตัวอย่างเหมาะสมและดูใจกว้างน้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยก็อ่อนโยนดูเอาใจใส่ ไม่เหลือเค้าร่ำไห้โวยวายอย่างสิ้นหวังที่ภัตตาคารใน่เช้าแม้แต่น้อย
ขณะซ่งฉางชิงเข้าไป เพียงเอ่ยเรียก"ท่านแม่" ด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ
กู้ซินเยว่เห็นซ่งฉางชิงเข้ามาแววตาก็ลุกวาว
เมื่อฮูหยินเฒ่ากู้เห็นบุตรชายที่ไม่ได้พบมาระยะหนึ่งก็ดีใจจนออกนอกหน้า "เฝ้ารอคอยมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็เฝ้ารอจนเ้ากลับมา วันนี้ซินเยว่กลับมาจากภัตตาคารบอกว่าคืนนี้เ้าจะกลับมากินข้าวข้ายังนึกว่านางหลอกข้าเพื่อให้ยายแก่อย่างข้าดีใจเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็ความจริง!"
ซ่งฉางชิง "ไม่ได้กลับมาเยี่ยมท่านแม่หลายวันลูกอกตัญญูนัก! "
"เด็กโง่ ใครโทษเ้ากันที่ภัตตาคารงานยุ่ง แม่รู้ดี นี่ก็เป็เครื่องพิสูจน์ว่าเ้าดูแลเซียนจวีโหลวได้เป็อย่างดีแม่เข้าใจเ้า แม่ไม่เคยโทษเ้าเลย แต่ต่อไป ไม่ว่าเ้าจะยุ่งเพียงใด ก็ต้องหาเวลาว่างกลับมาหากแม่คิดถึงเ้า ตามเ้ากลับมาไม่ได้ ข้าก็จะให้ซินเยว่ไปตามเ้ากลับมา" ฮูหยินเฒ่ากู้แสดงสีหน้าปลาบปลื้มยินดี
สายตามองกู้ซินเยว่ทีมองซ่งฉางชิงที ก่อนยิ้มจนแก้มปริอย่างมีลับลมคมใน
นางคิดว่าที่ซ่งฉางชิงยอมกลับมาเป็ความดีความชอบของกู้ซินเยว่
กู้ซินเยว่ไม่เข้าใจนักเพียงเอ่ยเรียก "ท่านป้า" ด้วยท่าทีขวยเขิน จากนั้นจึงก้มหน้าลงด้วยความเหนียมอาย
ซ่งฉางชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ทั้งสามคนนั่งลงตรงโต๊ะ
อาหารบนโต๊ะ ล้วนเป็อาหารที่ปกติซ่งฉางชิงชอบกินรวมถึงอาหารที่ฮูหยินเฒ่ากู้ชอบกิน
"อาหารบนโต๊ะนี้ ั้แ่ซินเยว่กลับมาก็เริ่มเตรียมอยู่ในห้องครัวตลอดเตรียมมาแทบจะทั้งวัน จึงได้อาหารมากมายขนาดนี้ เ้าดูสิ ที่อยู่ตรงหน้าเ้าล้วนเป็อาหารที่เ้าชอบกินส่วนตรงหน้าข้าล้วนเป็อาหารที่ข้าชอบ แม่หนูซินเยว่ช่างเอาใจใส่นัก ข้าขอบอกก่อน นางไม่ได้ถามข้าแม้แต่คำเดียวนางจดจำความชอบของเ้าจนขึ้นใจเชียว! "
ภายในใจฮูหยินเฒ่ากู้รู้สึกดีใจเป็ที่สุดมองดูบุตรชายของตนเองที่นั่งอยู่ซ้ายมือ และหลานสาวของตนที่นั่งอยู่ทางขวามือ ไม่แน่ว่าปีหน้าบนโต๊ะอาหารอาจมีเ้าตัวเล็กเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนก็เป็ได้
ซ่งฉางชิงเอาแต่ก้มหน้ากินข้าวฮูหยินเฒ่ากู้พูดคุยกับกู้ซินเยว่ กู้ซินเยว่เอาอกเอาใจฮูหยินเฒ่ากู้จนเบิกบานใจเสียยิ่งกว่ากระไร
"ฉางชิง เ้าก็อย่าเอาแต่ก้มหน้ากินข้าวลองวิจารณ์บ้าง ว่าอาหารเหล่านี้ของซินเยว่เป็อย่างไรบ้าง? " เมื่อฮูหยินเฒ่ากู้เห็นว่าบุตรชายของตนเอาแต่กินข้าวไม่พูดคุยอะไรจึงรีบสะกิดเขาทีหนึ่ง พร้อมบอกให้เขาออกความเห็นเกี่ยวกับอาหาร แต่ก็เหมือนให้บอกความรู้สึกที่มีต่อกู้ซินเยว่
กู้ซินเยว่จ้องมองซ่งฉางชิงด้วยความตื่นเต้นกัดริมฝีปาก แสดงสีหน้าเขินอายและเฝ้ารอคอย
เมื่อครู่ซ่งฉางชิงดื่มน้ำแกงไปหลายคำและกินอาหารไปหลายคำ
ไม่ได้อร่อยมาก และไม่ได้โดดเด่นอะไรรสชาติเหมือนอาหารที่ทำกินตามบ้านทั่วไป
ถึงอย่างไรเซียนจวีโหลวก็เป็ภัตตาคารอันดับต้นๆของเมืองโยวหลัน รสชาติอาหารย่อมดีเยี่ยม
และอาหารที่อยู่ตรงหน้า...
รสชาติไม่ต่างจากอาหารที่เขากินมาสิบกว่าปี
เห็นได้ชัดว่าแม่ครัวเป็คนทำ
ซ่งฉางชิงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปากที่ไม่มีคราบอาหารติดอยู่กล่าวอย่างเรียบสงบ "ไม่เลว"
ไม่เลวอย่างไร เขาไม่ได้พูด