“ฮ่าๆ คิดไม่ถึงเลย หมู่บ้านในเขตูเายากจนนี่จะมีสาวงามตัวเล็กเช่นนี้ได้ ไม่แย่ไปกว่าแม่นางหงเยว่สาวงามอันดับหนึ่งในเมืองของเราเลย” ในน้ำเสียงของทหารเร็วหน้าดำมีความคิดต่ำช้าบางอย่าง
“ไม่กระมัง แม่นางน้อยผู้นั้นตัวผอมลีบ จะเทียบเท่ากับรูปร่างแม่นางหงเยว่ได้ที่ไหน ก็แค่หน้าตาดีนิดหน่อยเท่านั้นเอง” คนผอมสูงกลับไม่เห็นด้วย
“เ้ามันจะไปเข้าใจอะไร ความอ่อนเยาว์ที่ยังไม่สุกงอม [1] ดอกไม้ตูมรอวันผลิบาน [2] ถึงจะเป็่ที่งามที่สุดของสาวน้อยสิ บุคลิกของหงเยว่นั่นเป็การผ่านผู้ชายมามากมายท่าทางถึงออกมาเป็เช่นนั้นได้”
“หน้าตางดงามแล้วอย่างไร? เ้ากล้าคิดเพ้อฝัน? แม่เสือ [3] บ้านเ้าไม่ได้ทานมังสวิรัติ [4] นะ”
“เชอะ! นางจะกล้าอะไร? ตราบใดที่เหล่าจื่อมีเงิน ไม่ต้องให้นางผู้เป็แค่ฟู่เหรินหนึ่งคนมาชี้มือวาดเท้า [5] ใส่เหล่าจื่อหรอก”
“โอ้ ่นี้มีลู่ทางหาเงินอีกแล้วหรือ? ทำไมไม่สอนข้าน้อยบ้างล่ะ?”
“มีกับผีสิ! ไอ้สุนัขขี้เรื้อนตัวใดฆ่าเหลียงหู่ไปแล้ว เดิมทีชายโฉดผู้นี้สามารถนำเงินมาแสดงความเคารพนิดๆ หน่อยๆ ได้บ่อยๆ แต่ตอนนี้ตายแล้ว สักเหมา [6] ก็ไม่มี”
“เหล่าเจียงโถวกล่าวแล้ว เหลียงหู่ถูกหนึ่งมีดทะลุหน้าอก เห็นได้ชัดว่าเป็นักท่องยุทธฆ่าล้างแค้น ให้พวกเราทำงานอย่างขอไปทีก็พอ เ้าพลิกไปพลิกมาเช่นนี้ เขารู้เข้าจะไม่พอใจเอา”
“ข้าทำอะไร? ข้าแค่ช่วยขู่ขวัญคนบ้านนอกนั่นให้หวาดกลัว เขาจะทำอะไรข้าได้? สถานที่ทรุดโทรมเช่นนี้ ผู้คนล้วนโง่เง่าไม่รู้จักปรับตัวไปตามสถานการณ์ แววตาหามีไม่สักนิด ใกลัวกันจนเป็เช่นนั้น ไม่รู้จักยัดเงินให้สินบนสักนิดสักหน่อย ใตายกันไปเลยสมน้ำหน้า”
“ผู้คนในที่ห่างไกลความเจริญยากจน ไม่มีความรู้ จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างไร ก็ไม่ใช่ว่าเป็เช่นนี้หรอกหรือ มาเสียเปล่าหนึ่งรอบ กลับกันเถอะ”
“เหลียงหู่ชายโฉดผู้นั้นหาเื่เก่งจริงๆ พึงพอใจบุตรสาวของคนเขา กลับทุบตีบิดาของเขาจนกระอักเื ไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผา [7] เลยจริงๆ”
“ก็นั่นน่ะสิ ภรรยาเดิมผู้นั้นของเขาได้ยินว่าหน้าตาไม่เลว แต่เ้าดูสิ ไม่ใช่ถูกตบตีจนกลายเป็เช่นนั้นหรือ ลงมือโเี้เกินไปนัก”
“…”
เจินจูมองสองคนค่อยๆ เดินจากไปไกล หมุนกายกลับบ้านเก่าสกุลหูไปอย่างสีหน้าอึมครึม
มารดามันเถอะ ที่ไหนล้วนแล้วแต่มีพวกเดนมนุษย์น่าสะอิดสะเอียนเหล่านี้ทั้งนั้น ยุคสมัยนี้หากสตรีหน้าตาดีนิดหน่อยเหมือนกวักมือเรียกหายนะให้เข้ามาหาจริงๆ นางยื่นมือออกไปลูบใบหน้าเล็กนุ่มลื่นของตนเอง
ตอนนี้ยังเด็ก ไม่ได้สะดุดตาเพียงนั้น แต่ผ่านไปไม่กี่ปีหน้าตาคงเริ่มเป็ที่น่าสนใจแล้ว แม้แต่ประตูบ้านก็จะออกไปไม่ได้แล้วหรือ? มารดามันเถอะ น่าเกลียดชังเกินไปแล้ว หน้าตาดีก็มีความผิดแล้วใช่หรือไม่ สังคมคร่ำครึชั่วร้ายนี่
กลับมาถึงบ้านเก่าสกุลหู เป็หลี่ซื่อที่ช่วยเปิดประตูลานให้ บรรยากาศในบ้านหม่นหมองอย่างมาก มีเสียงะโหนักหน่วงของเหลียงซื่อกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นเบาๆ ของชุ่ยจูดังแว่วออกมาเป็ระยะๆ
“จะไม่ใช่ความผิดของนางได้อย่างไร หากไม่ใช่ตามเข้าเมืองไป บิดาของนางจะถูกเหลียงหู่ผู้นั้นตีจนกลายเป็เช่นนี้หรือ” คำพูดของเหลียงซื่อกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคือง
“อย่ากล่าวมั่วๆ เื่นี้เกี่ยวอะไรกับชุ่ยจู บุตรสาวของเ้าได้รับความอยุติธรรม เ้าไม่ปลอบใจก็ช่างเถอะ แต่กลับปัดความรับผิดชอบไปโทษที่นางแทน มีมารดาที่ไหนเป็เช่นเ้าบ้าง?” หวังซื่อพ่นเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจหนึ่งที “ชุ่ยจู อย่าสนใจแม่ของเ้าเลย นางแค่ไม่เข้าใจสถานการณ์”
“โทษข้า ล้วนโทษข้าทั้งหมด หากข้าอยู่เป็เพื่อนชุ่ยจูตลอด คงไม่มีทางเกิดเื่เช่นนี้ขึ้น” ในเสียงของหูฉางหลินเต็มไปด้วยความเสียใจที่ทำผิดพลาดไป
“เฮ้อ” ชายชราสกุลหูถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง “นี่เป็โชคไม่ดี โทษผู้ใดไม่ได้ ตอนนี้คิดว่าจะจัดการเื่นี้อย่างไรดีกว่าเถอะ”
เจินจูก้าวเข้ามาในห้องโถง สายตาจับจ้องไปบนตัวชุ่ยจูที่ยืนก้มศีรษะอยู่ข้างหลังหวังซื่อ ร่างเล็กร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็ระยะๆ ขณะที่เหลียงซื่อนั่งอยู่บนม้านั่งด้วยสีหน้าไม่เบิกบาน
“เจินจู เมื่อสักครู่เ้าตามหลังเ้าหน้าที่ทางการไป เ้าไปทำอะไร?” หวังซื่อเดินเข้าใกล้นางและถามด้วยความระมัดระวัง ตอนทหารเร็วสองคนจากไป นางคล้ายกับเห็นเจินจูตามไปอยู่ห่างๆ
เจินจูยิ้มอย่างใจเย็น นำเนื้อหาที่ได้ยินมากล่าวคร่าวๆ หนึ่งรอบ แต่เลี่ยงเนื้อหาของชุ่ยจูออกไป
“เอ๋ กล่าวเช่นนี้ เ้าหน้าที่ทางการสองคนนั้นเป็เพราะพวกเราไม่ยัดเงินสินบนเล็กๆ น้อยๆ ให้พวกเขา ก็เลยขู่ให้ครอบครัวเราใกลัวนี่?” สีหน้าหูฉางหลินเปลี่ยนไปฉับพลัน ใช่แล้ว ทำไมลืมปัญหาข้อนี้ไปได้นะ มิน่าท่าทีของพวกเขาถึงแย่เพียงนั้น
“…ทำไมยังต้องยัดเงินให้ด้วย?” เหลียงซื่อบิดแขนเสื้อบ่นพึมพำ
หวังซื่อฟังจบ สีหน้าดีขึ้นได้หน่อย “หากให้เงินสินบนเล็กน้อยก็หมดปัญหา เช่นนั้นก็ไม่เป็ไร แค่กลัวว่าพวกเขาสิงโตอ้าปากกว้าง [8] ถึงเวลาจะยิ่งยุ่งยากขึ้น เจินจู เ้าหน้าที่ทางการจะมาอีกหรือไม่?”
“ไม่ทราบเ้าค่ะ ไม่ได้ยินพวกเขาเอ่ยขึ้นมาเลย” เจินจูแสดงออกว่าไม่ได้ยิน
“เช่นนั้นคาดว่าคงมา ครั้งนี้ฉวยผลประโยชน์ติดมือไปไม่ได้ ต้องกลับมาอีกแน่นอน” ชายชราหูขมวดคิ้วแน่น
เชอะ ยังจะมาอีก? คิดขูดรีดทรมานครอบครัวนางเหมือนแกะอ้วนพี ไปฝันเอาเถอะ
“ท่านพ่อเ้าคะ ไปกัน ไปใส่เกวียนล่อ พวกเราเข้าเมืองสักรอบ” เจินจูะโเรียกหูฉางกุ้ยที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างสงบเสงี่ยม
“เข้าไปในเมือง? เข้าไปในเมืองเวลานี้? เจินจู เ้าจะไปทำอะไร?” หวังซื่อประหลาดใจระคนสงสัยไม่แน่ใจเล็กน้อย
“ท่านย่าเ้าคะ ข้าจะไปคุยกับเ้าของร้านหลิว ให้เขาช่วยแจ้งนิดๆ หน่อยๆ จะได้ไม่เอาแต่ทำให้คนวิตกกังวลเพราะเื่นี้ คนแล้วคนเล่าล้วนคิดว่าครอบครัวเรารังแกง่ายมากนักหรือ” เจินจูใบหน้าเยือกเย็น คิดถึงตอนที่คนหน้าดำผู้นั้นกล่าวลวนลามชุ่ยจูขึ้นมา ความรู้สึกเ็าในดวงตายิ่งมากมายมหาศาลขึ้นไปอีก
ความเ็าบนใบหน้ากับการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวในน้ำเสียงของนาง ล้วนทำให้คนในบ้านใ นึกไม่ถึงเลยว่าเด็กสาวตัวน้อยจะมีความกล้าหาญปานนี้
หวังซื่อก็ชะงักงันเช่นกัน ไตร่ตรองเล็กน้อย “ดี เช่นนั้นย่าจะไปกับเ้าด้วยแล้วกัน”
“ไม่ต้องหรอกเ้าค่ะ ท่านย่า ที่บ้านมีเื่มากมาย จะขาดท่านไปได้อย่างไร ข้าตรงไปหาเ้าของร้านหลิวที่ฝูอันถัง กล่าวเื่ราวให้ชัดเจนก็พอแล้ว เขาต้องช่วยครอบครัวเราแน่ ไม่ต้องกังวล” เจินจูกล่าวโน้มน้าว
ไม่นาน หูฉางกุ้ยจึงใส่เกวียนล่อเสร็จ พาเจินจูมุ่งตรงเข้าเมือง
...ในฝูอันถัง เ้าของร้านหลิวกำลังตั้งใจให้คนลากเกวียนนำพันธุ์ไม้ที่เจินจู้าไปส่งมอบให้ เห็นสองคนเข้ามาก็ดีใจมาก ทักทายพวกเขาแล้วให้เข้ามาดื่มชาในร้านอย่างกระตือรือร้น
เจินจูไม่ได้เกรงใจเขาเช่นกัน พอดื่มชาไปอึกหนึ่ง แล้วจึงชี้แจงวัตถุประสงค์ในการมาตามตรง นำมูลเหตุของเื่ราวกล่าวหนึ่งรอบ สุดท้ายกล่าวด้วยความโมโหที่ยากจะสงบเล็กน้อย “เพราะเื่เหลียงหู่นี้ ท่านลุงข้าถูกทุบตีไม่ได้จัดการร้องทุกข์ขอความเป็ธรรม แล้วยังตกเป็ผู้ต้องสงสัยอย่างไม่มีสาเหตุ พี่รองของข้าร้องไห้จนเกือบจะตาบอดแล้ว เ้าของร้านหลิว ท่านว่าท่านลุงของข้าถูกใส่ความหรือไม่เ้าคะ?”
หูฉางกุ้ยนั่งอยู่ด้านข้างพยักหน้าคล้อยตาม
บนหน้าผากของหลิวผิงมีเหงื่อผุดออกมาเล็กน้อย
ไม่กี่วันมานี้เขายุ่งอยู่กับเื่ขนส่งของเข้าเมืองหลวง ไม่ได้ใส่ใจสถานการณ์ของหมู่บ้านวั้งหลินไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงเลยสกุลหูจะพบเข้ากับเื่เช่นนี้ คิดขึ้นได้ว่าก่อนที่คุณชายจะเดินทางได้สั่งเสียเขาไว้ ไม่ว่าจะเป็เวลาใดก็ตามให้ใส่ใจการเคลื่อนไหวของสกุลหูอยู่ตลอด เมื่อมีเื่ก็ให้ช่วยเหลือมากหน่อย
“แม่นางหู โปรดวางใจ เื่นี้ไม่ใช่ความผิดของครอบครัวเ้า ท่านลุงของเ้าไม่มีทางเกิดเื่แน่ อีกเดี๋ยวข้าจะให้คนไปศาลาว่าการสอบถามรายละเอียดของคดีสักหน่อย ไม่มีทางให้คนยัดเยียดข้อหาใส่ท่านลุงเ้าอย่างไร้มูลเหตุเด็ดขาด” หลิวผิงจัดการสีหน้าให้กลับมาเป็ปกติแล้วกล่าวยืนยัน
“เช่นนั้นก็ขอรบกวนเ้าของร้านหลิวแล้ว พวกข้าคนชนบทไม่มีความรู้ หากจะสร้างความสัมพันธ์กับเ้าหน้าที่ทางการก็ไม่รู้ว่าต้องให้สินบนเล็กๆ น้อยๆ นี่ไม่ใช่กลัวว่าจะทำให้เ้าหน้าที่ทางการไม่พอใจ แล้วพวกข้าไม่มีผลไม้ดีทาน [9] หรอกหรือเ้าคะ” เจินจูทำปากยื่น ตำแหน่งหน้าที่ของฝ่ายทางการเหล่านี้มีแต่คนนับถือ แต่เ้าหน้าที่ทางการกลับประพฤติในทางมิชอบ นางไม่พอใจอย่างมาก
“วางใจเถอะ จะไม่มีทางเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นแล้ว ทหารเร็วในศาลาว่าการเหล่านี้เคยชินกับการรังแกประชาชนทั่วไปจนติดเป็นิสัย ข้าจะไปรายงานขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของพวกเขา ให้ลงโทษอย่างเฉียบขาดสักรอบ” หลิวผิงสนิทสนมกับสกุลหูมาเป็เวลานาน เข้าใจคนครอบครัวนี้ไม่น้อย ล้วนเป็คนครอบครัวเกษตรกรที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา คิดๆ ดูแล้วเื่ราวที่ผ่านมาพวกเขาก็วางตัวได้เสมอต้นเสมอปลาย เหลียงหู่อะไรผู้นั้น เป็พวกอิทธิพลท้องถิ่นบุรุษไม่ดูตาม้าตาเรือผู้หนึ่ง ตายไปแล้วก็แล้วไป ไม่เช่นนั้นหากไม่ขอโทษขอโพยต่อสกุลหู ก็อย่าได้คิดอยู่เอ้อระเหยในเมืองไท่ผิงต่อไปได้เลย
“ต้องขอบคุณเ้าของร้านหลิวก่อนเลยนะเ้าคะ ครั้งหน้าหากเจอพี่ชายกู้อู่ ต้องขอบคุณเขาอย่างแน่นอน” เจินจูเบาใจลง เ้าของร้านหลิวกล่าวออกมาเช่นนี้ได้ เช่นนั้นก็ไม่มีทางที่จะมีเื่อะไรเกิดขึ้นแล้ว
“โอ้... นี่ล้วนเป็เื่เล็ก ไม่ต้องบอกคุณชายเป็พิเศษ ฮ่าๆ” เ้าของร้านหลิวรีบกล่าว หากคุณชายทราบเข้า ว่าเขาไม่ได้ช่วยสกุลหูจัดการปัญหาในทันที ไม่แน่ว่าจะจัดการเขาอย่างไร “อีกอย่าง คุณชายกลับเมืองหลวงแล้ว ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมืองของเราอีกหรือไม่”
“เอ๋? พี่ชายกู้อู่กลับเมืองหลวงไปจะไม่กลับมาแล้วหรือเ้าคะ?” ร่างกายของกู้อู่ยังอ่อนแอมาก เป็การเดินทางไกลที่ยากลำบากสิ้นเปลืองจิตใจและกำลังจริงๆ
“เอ่อ ยังต้องดูความคิดเห็นของฮูหยิน คุณชายห่างจากเมืองหลวงมานานมาก ฮูหยินเป็ห่วงตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่แน่ว่าจะตัดใจให้คุณชายออกเดินทางไกลได้อีก” หลิวผิงไม่แน่ใจ หากดูความคิดเห็นของคุณชายแล้ว เขาน่าจะ้ากลับมา แต่การกลับจวนไปครั้งนี้ คุณชายอาจไม่สามารถตัดสินใจได้เอง
“อื้ม บิดามารดายังอยู่ ไม่ควรท่องเที่ยวไปที่ห่างไกล ก็ถูกเ้าค่ะ” ไม่มาก็ดี เขาจะได้ไม่ป่วยจนหวิดเอาชีวิตไม่รอด แล้วยังดื้อรั้นหัวแข็งเดินไปทั่วทุกสารทิศอีก
หลังคุยเรื่อยเปื่อยสองสามประโยค เจินจูหยิบเนื้อพะโล้หนึ่งโถออกมาจากตะกร้าที่แบกหลังของหูฉางกุ้ย ส่งไปให้เ้าของร้านหลิว
ที่บ้านไม่มีของดีๆ อะไรจะมอบให้ ดีที่ว่าเมื่อวานพะโล้เนื้อขึ้นมาไม่น้อย จึงนำมามอบให้หนึ่งโถได้พอดี
หลิวผิงยินดีอย่างยิ่ง หลายวันแล้วไม่ได้ทานเนื้อพะโล้ของสกุลหู แม้รสพะโล้ของสือหลี่เซียงก็ไม่แย่ แต่ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกว่าเนื้อพะโล้ของสกุลหูพิเศษกว่านิดหน่อย
อำลาเ้าของร้านหลิว เคลื่อนย้ายต้นกล้าขึ้นเต็มเกวียน หูฉางกุ้ยจูงล่อเดินอยู่บนถนนใหญ่อย่างเชื่องช้า
“เจินจู เื่เหลียงหู่นี่ นับว่าจัดการสมบูรณ์แล้วหรือ?” หูฉางกุ้ยกระวนกระวายเล็กน้อย พวกเขาชาวบ้านเล็กๆ ระดับนี้ มีความเคารพยำเกรงอย่างสุดซึ้งต่อทางการเสมอมา
“อื้ม ท่านพ่อ เ้าของร้านหลิวกล่าวแล้ว ไม่ต้องเป็กังวลก็ต้องไม่เป็กังวลอย่างแน่นอน ท่านไม่ต้องทุกข์ใจไปเ้าค่ะ” เจินจูนั่งอยู่ขอบข้างหน้าของเกวียน หันไปมองต้นกล้าที่กองอยู่เต็มเกวียน ต้นกล้าเหล่านี้ต้องรีบปลูก “ท่านพ่อ พวกเราไปซื้อของนิดหน่อยทางตลาดตะวันออกก่อนนะเ้าคะ อีกเดี๋ยวจะกลับไปปลูกต้นไม้”
“ได้เลย!” หูฉางกุ้ยมองท่าทีใจเย็นของเจินจู ในใจสงบมั่นคงตามไปด้วย
ในเมื่อมาถึงในเมืองแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรให้กลับไปมือเปล่า ตอนนี้ที่บ้านมีนักกินจุไม่น้อย ซื้อเนื้อไปพะโล้ให้มากจะได้ไม่ถึงตอนที่ไม่มีอาหารกิน แล้วตามมาก่อกวนนางทีละตัวๆ
ยังคงไปแผงเนื้อเถ้าแก่หลี่ซานเตาที่รู้จักกันดี เมื่อหารือราคาเหมาะสมได้แล้ว เจินจูจึงซื้อเนื้อมาห้าชั่ง กระดูกสองชั่ง ปอดหมู กระเพาะหมู หัวใจหมู หางหมู... แล้วก็ให้หลี่ซานเตาช่วยรวบรวมเนื้อทั้งหมดที่กล่าวมาของทุกแผงขึ้นด้วย นางซื้อกลับไปทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็เสบียงอาหารของพวกนักกินจุทั้งนั้น
นอกจากนี้ยังซื้อของว่างพวกผลไม้แห้งอีกเล็กน้อย หลังจากนั้นสองคนจึงกับหมู่บ้านไปอย่างเร่งรีบ
คดีเหลียงหู่ถูกฆ่า เ้าหน้าที่ทางการเพียงสอบสวนไม่กี่ครอบครัวที่มีกรณีพิพาทกับเหลียงหู่ ผลสุดท้ายยังคงไม่มีการตัดสินคดี ล้วนอยู่ที่ฆาตรกรเป็ชาวยุทธที่มีชื่อเสียง หลังจากฆ่าคนได้บินขึ้นสูงจากไปไกล [10] แล้ว เ้าหน้าที่ทางการจะไปจับกุมเขาได้ที่ไหนกัน
เมื่อเหลียงหู่ตายแล้วมารดากับน้องชายของเขาไม่ได้ให้ความสนใจความคืบหน้าต่อคดี ขณะเดียวกันสองแม่ลูกก็หวาดกลัว แต่ยิ่งไปกว่านั้นกลับรู้สึกหลุดพ้น สำหรับจะจับกุมฆาตรกรกลับมาลงโทษได้หรือไม่ ทั้งสองคนไม่ได้เป็ห่วงเลยสักนิด
แต่หลัวจิ่งไม่ได้เป็เช่นนั้น ในเมื่อเื่ของเหลียงหู่มีความเชื่อมโยงกับสกุลหู ย่อมต้องตรวจสอบให้ชัดเจนจะดีกว่า เขาส่งองครักษ์ลับไปตรวจสอบเป็การส่วนตัว
เวลารวดเร็วมากก็สามารถตรวจสอบฆาตรกรออกมาได้แล้ว
เชิงอรรถ
[1] ความอ่อนเยาว์ที่ยังไม่สุกงอม ใช้บรรยายถึง ความอ่อนวัยที่ยังไม่ถึง่บรรลุนิติภาวะ
[2] ดอกไม้ตูมรอวันผลิบาน หมายถึง ดอกไม้ที่กำลังจะผลิบาน อุปมาถึงเด็กสาวที่กำลังจะเป็ผู้ใหญ่
[3] แม่เสือ หมายถึง ผู้หญิงดุ
[4] ไม่ได้ทานมังสวิรัติ หมายถึง เป็คนดุ ไม่ได้รับมือด้วยง่ายๆ
[5] ชี้มือวาดเท้า หมายถึง ออกคำสั่งให้ผู้อื่นทำสิ่งที่ไม่เต็มใจ
[6] เหมา หรือ 毛 คือหน่วยเงินของจีน มีค่าเทียบกับเงินปัจจุบันคือ สตางค์ โดย 10 เหมา เท่ากับ 1 หยวน
[7] รักหยกถนอมบุปผา หมายถึง บุรุษควรทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรี
[8] สิงโตอ้าปากกว้าง อุปมาถึง เรียกราคา หรือเสนอเงื่อนไขสูง ใช้อธิบายคนที่มีจิตใจละโมบโลภมาก
[9] ไม่มีผลไม้ดีทาน เป็การอุปมาถึงการไม่มีผลลัพธ์ที่ดี
[10] บินขึ้นสูงจากไปไกล หมายความว่า หนีไปยังสถานที่ที่ไกลมากแล้ว