“ไม่นะ! ปล่อยฉัน ปล่อยฉันไปเถอะ...ฉันอยากกลับบ้าน ให้ฉันกลับบ้านเถอะนะ!”หลินเป้ยเป้ยอ้อนวอนทั้งน้ำตา
ร่างของฉินเฟิงแข็งทื่อทันทีทำไมเสียงฟังดูคุ้นหูจัง?
ในมหาวิทยาลัยเว่ยเฉิงมีสาวงามอยู่ไม่กี่คนและเขารู้จักทุกคน ดังนั้นเขาต้องเคยพบเธอคนนี้แน่นอนเขาจึงรีบเปิดไฟตรงหัวเตียงเพื่อดูว่า ดาวมหา’ลัยคนไหนสิ้นคิดและมาสโมสรหวงเจียเพื่อ...
เมื่อเห็นใบหน้าของสาวสวยและดวงตาคู่งามที่มีน้ำตาคลอเบ้า มุมปากของฉินเฟิงก็กระตุกและเกือบจะตกเตียง!
“หลินเป้ยเป้ย?”
“ฉินเฟิง?”
ภายใต้แสงสลัวทั้งคู่จ้องตากันด้วยความสับสน เหมือนกับเวลาหยุดนิ่งและเกิดบรรยากาศประหลาดขึ้นมา
ฉินเฟิงไม่เคยคิดว่าดาวมหา’ลัยที่มาสโมสรหวงเจียในคืนนี้ จะกลายเป็เพื่อนร่วมโต๊ะคนสวยของเขา หลินเป้ยเป้ย
ในความเข้าใจของเขาหลินเป้ยเป้ยไม่ปรารถนาในเงินทองหรืออำนาจ แล้วเธอจะมาขายตัวได้อย่างไรแม้ฉินเฟิงจะเ้าชู้ แต่เขาจะซื้อขายก็ต่อเมื่อสมยอมเท่านั้น
ส่วนหลินเป้ยเป้ยเองก็ไม่คิดว่าคนที่จ่ายเงินหนึ่งแสนหยวนให้เธอในคืนนี้จะเป็ฉินเฟิงแต่เมื่อคิดถึงชื่อเสียงของคนคนนี้ หลินเป้ยเป้ยก็พบคำตอบ
“หลินเป้ยเป้ย เธอมาทำอะไรที่นี่?”
ฉินเฟิงรู้สึกหดหู่เขาขมวดคิ้วและจ้องไปที่หลินเป้ยเป้ยพร้อมกับถามอย่างเคร่งเครียดแม้ว่าเขาจะเ้าชู้แต่เขาก็ไม่อยากเห็นสาวบริสุทธิ์อย่างหลินเป้ยเป้ย มาในสถานที่แบบนี้
ปากของหลินเป้ยเป้ยอยากจะพูดบางอย่างแต่เธอก็พูดอะไรไม่ออก ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วไปหมด เธอยังไม่ทันได้เตรียมใจแล้วใบหน้าขาวผ่องก็แดงระเรื่อ
ฉินเฟิงเป็คนเ้าชู้เ้าสำราญแต่ลึกๆ แล้วเขาเป็คนดี แม้เขาจะชอบมัวเมากับเหล่าสาวสวยแต่ก็ไม่เคยใช้อำนาจของตัวเองบังคับขืนใจใคร เมื่อเทียบกับพวกผู้ชายวัยกลางคนหน้าอ้วน หูใหญ่ และบ้าตัณหาเธอมองคิ้วที่คมเหมือนกระบี่ของฉินเฟิงที่ในยามนี้มันขมวดเล็กน้อยใบหน้าที่ดูหล่อเหลา นอกจากนี้ ยังมีกลิ่นอายสูงศักดิ์แผ่ออกมา
ทันใดนั้นหลินเป้ยเป้ยก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกต่อต้านเขามากนัก
จะเป็ใครสำคัญด้วยเหรอ? อย่างน้อยให้เป็ฉินเฟิงก็ยังดีเสียกว่าถือว่าเป็ความโชคดีในความโชคร้าย!
เมื่อนึกถึงค่าผ่าตัดของแม่หลินเป้ยเป้ยก็กัดฟันและตัดสินใจแน่วแน่ เธอมองฉินเฟิงด้วยความเอียงอายและกล่าว“ฉินเฟิง ช่วยอ่อนโยนหน่อยได้ไหม? ฉันกลัวเจ็บ”
ก่อนที่ฉินเฟิงจะทันตั้งตัวข้อมือคู่งามก็ยื่นออกมาโอบรอบคอเขา...
การที่มีสาวสวยขนาดนี้รุกก่อนฉินเฟิงก็ตอบสนองทันที แต่ในใจของเขากลับรู้สึกอึดอัดแทบตายทำไมเวลาที่เขา้าน้องหลิน กลับไม่ได้ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ กลับไม่อยากทำ
ทันใดนั้นฉินเฟิงก็รู้สึกราวกับว่าถูก์กลั่นแกล้ง นี่มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
“หลินเป้ยเป้ย รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่?” ฉินเฟิงข่มไฟราคะที่กำลังเผาไหม้อยู่ภายในและพาเธอลุกออกจากเตียง
เขาย่อมชอบสาวสวยอยู่แล้วแต่กระทั่งคนบ้าก็ยังบอกได้ว่าหลินเป้ยเป้ยไม่เต็มใจที่จะทำแบบนี้เธออาจจะมีบางอย่างที่พูดไม่ได้ ซึ่งคงจะเป็อย่างนั้นแน่ๆ
เมื่อยืนอยู่ข้างเตียงฉินเฟิงก็หันหลังให้หลินเป้ยเป้ยและพูดด้วยน้ำเสียงเ็า “รีบใส่ชุดซะไม่งั้นฉันกลัวว่าตัวเองต้องมาจะเสียใจภายหลัง”
หลินเป้ยเป้ยตะลึงและมองแผ่นหลังของฉินเฟิงด้วยความสับสนอดคิดไม่ได้ว่าเพราะอะไร เพราะหน้าตาของตัวเองสวยไม่พอหรือเพราะว่าหุ่นยังเซ็กซี่ไม่พอ?
ทันใดนั้นน้ำตาเม็ดโตก็หยดลงบนผ้าปูที่นอนด้วยความผิดหวัง
ก่อนที่เธอจะมาที่นี่เธอจินตนาการต่างๆ นานาว่าร่างกายของเธอจะถูกปู้ยี่ปู้ยำอย่างไรแต่เธอไม่เคยคิดว่าตนเองจะถูกฉินเฟิงปฏิเสธโดยตรงอย่างนี้ “ฉินเฟิงที่วันนี้คุณประกาศว่าจะตามจีบฉัน นั่นยังนับอยู่หรือเปล่า?” หลินเป้ยเป้ยไม่รีบใส่เสื้อ ดวงตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ในยามนั้นเธอไม่เชื่อว่าคำสารภาพรักของฉินเฟิงนั้นจริงใจ
แต่ตอนนี้เธอขอเดิมพันกับมัน
หากฉินเฟิงจริงใจเธอก็เต็มใจยอมฉินเฟิงโดยไม่มีคำโต้แย้งมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่เธอจะสามารถยกโทษให้กับตัวเองได้ในคืนนี้
ฉินเฟิงไม่รู้ว่าจะตอบออกไปอย่างไรดีเขามองหลินเป้ยเป้ยและเกาหัวอย่างอึดอัด ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีพอแต่เขาเคยชินกับชีวิตคุณชายเ้าสำราญ จึงไม่เคยคิดเื่คบใครอย่างจริงใจ
“ฮะ? ฉ...ฉันล้อเล่นน่ะ อย่าใส่ใจเลยนายน้อยเ้าสำราญอย่างฉันไม่ดีพอสำหรับเธอหรอก”
ฉินเฟิงไม่อยากหลอกหลินเป้ยเป้ยผู้ไร้เดียงสาเขาจึงบอกความจริงไป
ผล็อย!
หยาดน้ำตาหยดลงบนผ้าปูที่นอนสีขาวหิมะทิ้งคราบรอยน้ำตาไว้หลายหยด หลินเป้ยเป้ยกัดริมฝีปากจนเืไหลเธอจิกเล็บเข้าไปในฝ่ามือจนมีรอยจ้ำเื
เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมฉินเฟิงถึงปฏิเสธเธอ? หรือว่าคำสารภาพรักของเขาที่มีต่อเธอมันเป็แค่เกมที่พวกลูกเศรษฐีชอบเล่นกัน
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงันและเสียงเ็าไร้ความรู้สึกก็ดังออกมา “นายน้อยฉินคะถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนค่ะ”
หลินเป้ยเป้ยลุกออกจากเตียงและเปิดเผยรูปร่างทุกส่วนต่อหน้าฉินเฟิง แต่เธอไม่คิดจะสนใจอะไรอีกแล้วั์ตาคู่งามของเธอหม่นหมองราวกับตุ๊กตาไร้ิญญา เธอค่อยๆสวมใส่เสื้อผ้าของตัวเอง
หลังจากแต่งตัวเสร็จหลินเป้ยเป้ยก็ยังคงก้มหน้า ผมของเธอยังไม่ทันแห้งดีเธอก็เดินออกจากห้องด้วยฝีเท้าหนักหน่วง ไม่คิดแม้แต่จะหันหลังกลับมามองฉินเฟิง
หลังจากเห็นอย่างนั้นฉินเฟิงก็รู้สึกอึดอัดใจ แต่สำหรับชายเ้าชู้อย่างเขาแล้วเขาตอบรับความรู้สึกนั้นจากหลินเป้ยเป้ยไม่ได้